เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับมือถือระดับกลาง (ค่อนไปทางสูง) อย่าง Galaxy A8 / A8+ (2018) ซึ่งในรุ่นนี้ถือเป็นมือถือรุ่นแรกจากค่าย Samsung ที่ให้กล้องหน้ามา 2 ตัว สำหรับการถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ แถมยังมีการใช้หน้าจอแบบ Infinity Display อัตราส่วน 18:5.9 เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง S8 / S8+ และ Note 8 อีกด้วย

ลองมาไล่ดู Galaxy A8 / A8+ กันทีละส่วนดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง เริ่มจาก Design ของตัวเครื่องด้านหน้าจะเห็นว่ามีการใช้หน้าจอยาวแบบ Infinity Display ที่มีขอบจอบนล่างหนากว่ารุ่นพี่นิดนึง แถมยังมีขอบจอโค้งเหมือนกับรุ่นเรือธงซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ แล้วแทบจะแยกไม่ออกกับรุ่นพี่ แต่ส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็คือกล้องหน้าอีก 1 ตัวนั่นเอง ด้านหลังเครื่องก็ใช้วัสดุที่เป็นกระจก แต่มีการเปลี่ยนตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ที่มีคนบ่นกันเยอะมากในรุ่น S8 / Note 8) มาไว้ที่ด้านล่างของกล้องแทน

สเปคของ Galaxy A8 / A8+

  • หน้าจอSuper AMOLED ความละเอียด Full HD+ ขนาด 5.6 / 6.0 นิ้ว
  • CPU : Exynos 7885 Octa Core (2.2GHz Dual + 1.6GHz Hexa)
  • RAM : 4GB / 6GB
  • ความจุ : 32GB / 64GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB
  • กล้องหลัง : 16MP PDAF, f/1.7, ระบบป้องกัน
  • กล้องหน้าคู่ : 16MP, f/1.9 + 8MP, f/1.9
  • การเชื่อมต่อ :  Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80, 256QAM, Bluetooth® v 5.0, ANT+, USB Type-C, NFC, Location (GPS, Glonass, BeiDou)
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor
  • รองรับ Samsung Pay
  • รองรับ GearVR
  • แบตเตอรี่ : 3,000 / 3,500 mAh รองรับ Fast Charge
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
  • ขนาดตัวเครื่อง A8 : 149.2 x 70.6 x 8.4 มม. / A8+ : 159.9 x 75.7 x 8.3 มม.
  • สีที่วางจำหน่าย : Black, Gold, Orchid Grey, Blue

Galaxy A8 / A8+ จะเริมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคม 2018 โดย A8 จะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 499 ยูโร (ประมาณ 19,288 บาท) ส่วน A8+ มีราคาอยู่ที่ราวๆ 599 ยูโร (ประมาณ 23,153 บาท) ซึ่งราคานี้จะเป็นราคาทางฝั่งยุโรปนะครับ ถ้าเข้ามาในบ้านเราราคาจะต่ำกว่านี้ประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ราคาก็น่าจะประมาณ Galaxy A7 (2017) นั่นเอง และถ้ามีข้อมูลของวันวางจำหน่ายและราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วเราจะเอามาอัพเดทให้อีกทีนะครับ

 

ที่มา : Phonearena, Samsung newsroom