มือถือเรือธงซีรีส์ Galaxy S20 กำลังจะเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked 2020 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และแน่นอนว่าก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็จะต้องมีข้อมูลหลุด หรือข่าวลือเกี่ยวกับสเปค+ฟีเจอร์ของมือถือซีรีส์นี้ออกมาเต็มไปหมด ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เอาไว้ให้อ่านกันง่ายๆ ในนี้แล้วครับ ว่าจากข้อมูลที่หลุดออกมาทั้งหมดในตอนนี้มีอะไรบ้าง
Infographic ของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น
ชื่อซีรีส์ที่โดดจาก S10 มาเป็น S20
มือถือซีรีส์เรือธง Galaxy S รุ่นแรกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2010 และจากนั้นก็มีการเปิดตัวซีรีส์ใหม่ตามออกมาทุกปีๆ โดยชื่อรุ่นก็จะไล่มาตั้งแต่ Galaxy S, S2, S3, S4 มาจนถึงรุ่นปี 2019 คือ Galaxy S10 ซึ่งจริงๆ แล้วรุ่นต่อไปก็ควรจะเป็น Galaxy S11 นั่นแหละ แต่อยู่ๆ เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีข้อมูลหลุดออกมาจากแหล่งข่าวชื่อดังอย่าง @UniverseIce ว่ามือถือซีรีส์ Galaxy S11 จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Galaxy S20 แทน
Galaxy S20
— ICE UNIVERSE (@UniverseIce) December 24, 2019
และหลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวออกมาจากเจ้าเดิมอีกว่า Galaxy S20 (S11) จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น และจะมีการเรียงชื่อรุ่นใหม่ตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นท็อป โดยรุ่นเล็ก Galaxy S11e จะกลายเป็น S20, รุ่นกลาง S11 เป็น S20+ และรุ่นท็อป S11+ กลายเป็น S20 Ultra
S11e → S20 ✔
S11→ S20+ ✔
S11+ → S20 Ultra ⁇
“Ultra” is just one of the possibilities, there are other options, to be confirmed,and What word do you think is best?— ICE UNIVERSE (@UniverseIce) December 31, 2019
ส่วนรุ่นหลังจากนี้คาดว่าจะไม่ได้ข้ามไปเป็น Galaxy S30, S40, S50 เหมือนกับซีรีส์ Huawei P แต่จะแค่เปลี่ยนให้เข้ากับตัวเลขปี 2020 ที่จะเปิดตัวเท่านั้น โดยในปีต่อๆ ไปเราก็น่าจะได้เห็นมือถือซีรีส์ Galaxy S21, S22, S23 ฯลฯ นั่นเอง
ดีไซน์ตัวเครื่อง
เป็นปกติอยู่แล้วที่มือถือรุ่นใหม่ๆ ก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปจากเดิม ซึ่งแน่นอนว่า Galaxy S20 ก็มีการเปลี่ยนดีไซน์ด้วยเช่นกัน โดยภาพเรนเดอร์แบบ 360° ของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ได้หลุดออกมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพเรนเดอร์ดังกล่าวเผยให้เห็นถึงหน้าจอของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ที่หันมาใช้ดีไซน์ Infinity-O เจาะรูกล้องเซลฟี่ตรงกลางจอด้านบนแบบซีรีส์ Galaxy Note 10 แทน (ซีรีส์ S10 เจาะรูกล้องที่มุมจอด้านขวาบน)
ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังก็เปลี่ยนไปเยอะอยู่เหมือนกัน จากรุ่นที่แล้วจะเรียงกล้องเป็นแถวไม่แนวนอนก็แนวตั้ง แต่สำหรับ Galaxy S20 จะวางกล้องทั้งหมดเอาไว้บนโมดูลสี่เหลี่ยมที่มุมซ้ายบนแทน
และที่ยังคงเอาไว้เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์เรือธงของ Samsung ก็คือหน้าจอขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง หรือที่เรียกว่า Edge Screen นั่นเอง
ส่วนภาพเรนเดอร์ล่าสุดของรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S20 Ultra จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของโมดูลกล้องหลังใหม่ ให้ต่างไปจากรุ่น S20 และ S20+ โดยแบ่งโมดูลกล้องออกเป็น 2 ส่วน สีดำสำหรับวางเซ็นเซอร์กล้องทั่วไป ส่วนสีเทาด้านล่างสำหรับวางเลนส์ซูม 5x พร้อมระบุฟีเจอร์ Space Zoom 100x
นอกจากนี้ยังมีภาพตัวเครื่องจริงของ Galaxy S20 Ultra และ S20+ หลุดออกมาให้ได้เห็นแบบวับๆ แวมๆ คอนเฟิร์มดีไซน์กล้อง และฟีเจอร์ Space Zoom 100x
สีตัวเครื่อง
มีภาพเรนเดอร์ของ Galaxy S20 หลุดออกมาเผยโฉมตัวเครื่องสีต่างๆ ในแต่ละรุ่นออกมาบ้างแล้ว ตามนี้
- Galaxy S20 : สีฟ้า Cloud Blue, สีชมพู Cloud Pink, สีเทา Cosmic Grey
- Galaxy S20+ : สีดำ Cosmic Black, สีเทา Cosmic Grey, สีฟ้า Cloud Blue
- Galaxy S20 Ultra : สีดำ Cosmic Black, สีเทา Cosmic Grey
ขนาดตัวเครื่อง และหน้าจอ
มือถือซีรีส์ Galaxy S20 มีการแบ่งขนาดของหน้าจอเอาไว้แบบชัดเจนทั้ง 3 รุ่น เหมือนกับซีรีส์ที่ผ่านมา โดยรุ่นเล็กสุดก็จะมีหน้าจอเล็กสุด รุ่นกลางหน้าจอก็จะขยายขึ้นมาอีก และรุ่นท็อปก็จะมีขนาดจอที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีข้อมูล (อย่างไม่เป็นทางการ) ออกมาแล้วว่าทั้ง 3 รุ่น จะมีขนาดหน้าจอ + ตัวเครื่องอยู่ทีเท่าไหร่กันบ้าง ซึ่งคราวนี้ตัวท็อปอย่าง S20 Ultra จะมีหน้าจอใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว ใหญ่กว่า Galaxy Note 10+ ที่มีหน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว ซะอีก
- Galaxy S20 : ขนาดเครื่อง 151.7 x 69.1 x 7.9 มม. / ขนาดหน้าจอ 6.2 นิ้ว
- Galaxy S20+ : ขนาดเครื่อง 161.9 x 73.7 x 7.8 มม. / ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว
- Galaxy S20 Ultra : ขนาดเครื่อง 166.9 x 76 x 8.8 มม. / ขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว
ภาพตัวเครื่อง Mockup เปรียบเทียบขนาดของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น
ประเภทหน้าจอ, ความละเอียด และรีเฟรชเรท
Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ใช้หน้าจอแบบ Dynamic Infinity-O AMOLED เหมือนกับที่ใช้ใน Galaxy Note 10 ส่วนความละเอียดของแต่ละรุ่นจะเท่ากันที่ระดับ 2K
ค่ารีเฟรชเรทหน้าจอทั้ง 3 รุ่น จะสามารถปรับได้สูงสุดที่ 120Hz โดยข้อมูลล่าสุดบอกว่าการปรับใช้หน้าจอแบบ 120Hz จะใช้ได้กับความละเอียดที่ FHD+ เท่านั้น ถ้าจะใช้ความละเอียดระดับ 2K ก็จะต้องเปลี่ยนมาใช้รีเฟรชเรทที่ 60Hz แทน ก็คือไม่สามารถปรับการแสดงผลให้สุดที่ 2K 120Hz ได้นั่นเอง
สเปค Galaxy S20 Ultra / S20+ / S20 (ไม่เป็นทางการ)
สเปคภายในของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ตามที่มีข่าวหลุดออกมา ก็มีตามนี้ครับ
สเปค | Galaxy S20 Ultra | Galaxy S20+ | Galaxy S20 |
หน้าจอ | Dynamic AMOLED 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรท 120Hz | Dynamic AMOLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรท 120Hz | Dynamic AMOLED 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรท 120Hz |
CPU | Snapdragon 865 / Exynos 990 | Snapdragon 865 / Exynos 990 | Snapdragon 865 / Exynos 990 |
RAM (LPDDR5) | 12GB / 16GB | 12GB | 12GB |
ความจุ | 128GB / 256GB / 512GB รองรับ MicroSD 1TB | เริ่มต้น 128GB รองรับ MicroSD 1TB | เริ่มต้น 128GB รองรับ MicroSD 1TB |
กล้องหลัง | 108MP (Wide) + 48MP (Tele) + 12MP (Ultrawide) + ToF | 12MP (Main) + 64MP (Tele) + 12MP (Ultrawide) + ToF | 12MP (Wide) + 64MP (Tele) + 12MP (Ultrawide) |
กล้องหน้า | 40MP (Wide) | 10MP | 10MP |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh | 4500 mAh | 4000 mAh |
ระบบชาร์จไว | 45W | 25W | 25W |
มาตรฐานกันน้ำ / ฝุ่น | IP68 | IP68 | IP68 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 ครอบด้วย One UI 2.0 | Android 10 ครอบด้วย One UI 2.0 | Android 10 ครอบด้วย One UI 2.0 |
ขนาด / น้ำหนัก | 167 x 76 x 8.8 มม. / 221 กรัม | 162 x 74 x 7.8 มม. / 188 กรัม | 152 x 68 x 7.9 มม. / 164 กรัม |
***สเปคของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ยังเป็นข้อมูลหลุด ที่ไม่ได้มีการยืนยันจาก Samsung นะครับ เพราะฉะนั้นข้อมูลทั้งหลายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ***
กล้องหลัง / หน้า และฟีเจอร์ต่างๆ
กล้องหลังของ Galaxy S20 แต่ละรุ่นจะมีสเปคที่แตกต่างกันออกไป โดยรุ่นท็อปอย่าง S20 Ultra จะมีสเปคกล้องที่สูงที่สุด ความละเอียด 108MP และจะมีกล้อง Telephoto 5x ความละเอียดสูงถึง 48MP ที่แหล่งข่าวบอกว่าจะเป็นกล้องซูมออพติคอลที่ให้คุณภาพดีกว่ากล้อง Telephoto 10x ของคู่แข่ง เนื่องจากมันมีความละเอียดที่สูงถึง 48MP ทำให้มันเก็บรายละเอียดภาพได้ดีกว่า ส่วนสเปคกล้องของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ก็มีตามนี้ครับ
- Galaxy S20 : กล้องหลัก 12MP + กล้องซูม 64MP + กล้อง Ultrawide 12MP
- Galaxy S20+ : กล้องหลัก 12MP + กล้องซูม 64MP + กล้อง Ultrawide 12MP + เซ็นเซอร์ ToF
- Galaxy S20 Ultra : กล้องหลัก 108MP + กล้องซูม Periscope 48MP (5x Optical, 10x Hybrid, 100x Digital) + กล้อง Ultrawide 12MP + เซ็นเซอร์ ToF
Using a high-pixel sensor for telephoto is the most unique aspect of Samsung.
— ICE UNIVERSE (@UniverseIce) January 14, 2020
กล้องหน้า
สำหรับกล้องหน้ารุ่น Galaxy S20 และ S20+ มีความละเอียด 10MP ส่วนรุ่นท็อป S20 Ultra จะมีกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมาเกินหน้าเกินตาคนอื่นอยู่ที่ 40MP นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้ที่ระดับ 4K 60fps อีกต่างหาก
ถ่ายวิดีโอ 8K
Galaxy S20 ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึงระดับ 8K ที่ 24fps เลยทีเดียว
ฟีเจอร์ Space Zoom 100x
นอกจากนี้รุ่นท็อป S20 Ultra ยังจะใช้เทคโนโลยี Space Zoom ที่สามารถดันระยะซูมดิจิตอลออกไปได้ถึง 100x
ส่วนรุ่นที่ต่ำกว่าอย่าง Galaxy S20+ และ S20 ก็จะมีสเปคกล้องที่ลดหลั่นลงมา โดยกล้องหลักเหลือความละเอียด 12MP และกล้องซูมจะมีความละเอียดมากกว่าที่ 64MP แต่คาดว่าเซ็นเซอร์จะเป็นรุ่นที่ต่ำกว่า นอกจากนี้รุ่น S20 Ultra และ S20+ จะมีเซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF ให้มาด้วย ส่วนรุ่น S20 จะมีเฉพาะกล้อง 3 ตัวเท่านั้น
ฟีเจอร์ Quick Take และ Single Take Photo
ล่าสุดยังได้มีข้อมูลออกมาอีกว่ากล้องหลังของมือถือซีรีส์ Galaxy S20 จะมากับฟีเจอร์ Quick Take ที่สามารถเก็บภาพจากกล้องหลัก + กล้อง Ultrawide + กล้อง Telephoto ได้พร้อมกันในทีเดียว แล้วค่อยมาเลือกทีหลังว่าจะเอาภาพไหน รวมถึงฟีเจอร์ Single Take Photo ที่เปลี่ยนจากการเก็บภาพนิ่งเป็นการถ่ายวิดีโอ หรือภาพ Burst Shot จากกล้องทั้ง 3 ตัวแทน
also because you guys totally missed it in the S20 one, the S20 will take pics out of 2 or 3 of the lenses and will let you choose pictures after the fact. It's called Quick Take
— Max Weinbach (@MaxWinebach) February 2, 2020
ราคา
ราคาในอเมริกา
สำหรับราคาของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ล่าสุดได้มีข้อมูลหลุดออกมาบ้างแล้ว โดยเป็นราคาเครื่องจากตัวแทน Verizon ของอเมริกา ซึ่งหากเทียบกับตอนเปิดตัวซีรีส์ Galaxy S10 เมื่อปี 2019 จะเห็นว่าราคาสูงขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อยซะด้วย แต่สายข่าวต้นทางได้บอกเอาไว้ว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาของ Galaxy S20 ที่รองรับระบบ 5G ด้วย ก็เลยแพงกว่าปกติ
- Galaxy S20 : ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ ประมาณ 31,100 บาท
- Galaxy S20+ : ราคาเริ่มต้น 1,199 ดอลลาร์ ประมาณ 37,300 บาท
- Galaxy S20 Ultra : ราคาเริ่มต้น 1,399 ดอลลาร์ ประมาณ 43,550 บาท
Uh… 😬😬😬
A source within Verizon just confirmed these prices with me.
Official Galaxy S20 prices for Verizon US:
S20 – $999
S20+ – $1,199
S20 Ultra – $1,399You may riot now 😬
— jon prosser (@jon_prosser) February 4, 2020
และน่าแปลกที่จากแหล่งข่าวเดียวกันยังมีราคาของ Galaxy S20 ทั้ง 3 รุ่น ที่รองรับ 5G แต่ขายผ่าน AT&T ในอเมริกาเหมือนกัน แต่กลับมีราคาที่ถูกกว่าอีกรุ่นละ 100 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3,000 บาทเลยทีเดียว
- Galaxy S20 : ราคาเริ่มต้น 899 ดอลลาร์ ประมาณ 28,000 บาท
- Galaxy S20+ : ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ ประมาณ 34,200 บาท
- Galaxy S20 Ultra : ราคาเริ่มต้น 1,299 ดอลลาร์ ประมาณ 40,400 บาท
Official Galaxy S20 pricing for AT&T US:
S20 – $899
S20+ – $1,099
S20 Ultra – $1,299All 5G capable.
Not sure why it’s different than T-Mobile pricing, but this is good news 🤗
— jon prosser (@jon_prosser) February 3, 2020
ราคาในเกาหลีใต้
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือราคาของ Galaxy S20 ในประเทศบ้านเกิดอย่างเกาหลีใต้อีกด้วย
- Galaxy S20 : ราคาเริ่มต้น 1.25 ล้านวอน ประมาณ 32,700 บาท
- Galaxy S20+ : ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านวอน ประมาณ 35,340 บาท
- Galaxy S20 Ultra : ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านวอน ประมาณ 41,900 บาท
วันเปิดตัว
วันเปิดตัวของมือถือซีรีส์ Galaxy S20 ทาง Samsung ได้ยืนยันออกมาแล้วว่าจะจัดงาน Galaxy Unpacked ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2020 โดยในงานนอกจากจะมีการเปิดตัว S20 ก็คาดว่าอาจจะมีมือถือจอพับ Galaxy Z Flip มาเผยโฉมในงานด้วยเช่นกัน
สำหรับข้อมูลอื่นๆ ทั้งสเปค และฟีเจอร์ รวมถึงราคาของมือถือซีรีส์ Galaxy S20 ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเดทยังไงแล้ว เราก็จะคอยเอามาใส่เพิ่มให้เรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันเปิดตัวเลยครับ
ตามดูครับ 🙂 🙂
ราคาโหดเหี้ย มจริงๆ