พึ่งประกาศปรับราคาไปเมื่อเช้านี้ สำหรับ Samsung Galaxy S4 ที่ลดเหลือ 19,800 บาท ล่าสุดทีข่าวว่าทาง Samsung จะนำเอา Galaxy S4 เข้ามาจำหน่ายเพิ่มอีก 2 สี นั่นคือ สีฟ้า Blue Arctic และสีน้ำตาล Autumn Brown
ส่วนตัวไม่ทราบว่า 2 สีนี้จะพร้อมวางจำหน่ายเมื่อไหร่ แต่น่าจะได้เห็นกันตามร้านค้าในบ้านเราเร็วๆ นี้จ้า ^ ^
ตัวสีใหม่นี้ ได้ 4.3 เลยไหมครับ
สีทอง สีทอง สีทอง ๆๆๆ
+ อีก100 ได้G2 ~
ราคานี้ผมก็ว่าโดน LG ดึงแน่นอน
สงสัยจะปรับราคารับ LG G2 ด้วยล่ะมั้ง ไม่ใช่รับ Note3 อย่างเดียว
ยังไงความแรงก็แพ้ G2 จ้า 😛 แต่กระแสคนไทยนี่สิที่น่ากลัวกว่าสเป็ค -*-
ปล. บางคนอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า LG ทำโทรศัพท์ – – สักแต่ซื้อผลไม้กับแซมซวย
เห็นด้วยครับ บรรดาสาวๆรอบตัวเลือกซัมซุงทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่ามันใช้ระบบอะไร ชอบแค่จอใหญ่+เคสให้เลือกเยอะ แค่นั้นเธอก็พอใจและ
ปล.เคยนั่งอธิบายว่าข้างในมันเป็นระบบandroidซึ่งใช้เหมือนกันหลายยี่ห้อ แต่ดูเหมือนหัวจะไม่รับ รู้จักแค่ iphone กับ samsung 555+
เพื่อนผมบอกไม่เอา LG เพราะรู้สึกว่ามันเป็นยี่ห้อเครื่องซักผ้า ฮาาาาาาาาา
แล้ว SHARP ของผมล่ะ 555
สีฟ้าแบบเดียวกับ Docomo ญี่ปุ่น มาซักที!!!!
สีฟ้าสวยเนะ
ส่วนตัวที่เค้ารู้จักแค่แอปเปิ้ลกับซัมซุงนี่โทษใครไม่ได้ครับ ต่อให้คุณไส้ในดีแค่ไหนแต่การตลาดคุณตีไม่แตกทุกอย่างจบ เหมือนคนเราได้รู้สึกว่าคนใช้รุ่นนี้แบรนด์นี้เยอะก็เกิดความมั่นใจว่ามันดีบางคนไม่รู้จักแม้แต่ไอจูนแต่ทำไมยังอยากได้อยากใช้ Apple ตราบใดที่ตาคนเราScan แยกแยะไส้ในไม่ได้ด้วยตาเปล่าก็ไม่มีเหตุผลไหนไปฉุดให้เขาอยากใช้มือถือตามที่คนติดตามเรื่องไส้ในต้องการหรอกครับ ถ้าวันไหน LG ฉลาดในการทำการค้า รู้จักการตีตลาด วันนั้นก็จะเป็นวันของเขา แต่วันนี้มันยังไม่ใช่!
เห็นด้วยครับ ขนาดบอกเพื่อนว่าไส้ใน G2 ดีกว่า มันยังซื้อ S4 ในราคา 21900 เลย
ด้วยเหตุผลว่า "ใช้ของตลาดมีปัญหาก็เคลียง่ายกว่า LG มัน Indy เกินไป
แค่ตอบสนองการใช้งานได้ ไส้ในไม่ได้เทพกว่ากันแบบ 2 เท่า 3 เท่า ก็เล่นยี่ห้อตลาดดีกว่า"
ซัมซุงเก่งในการออกอะไรต่อมิอะไรมายืดอายุตัวเองมากอ่ะ กระแสเริ่มลดก็เอาสีใหม่สวยๆเข้ามาขายต่อ
สีน้ำตาลสวยครับ 🙂
เวรกรรม เพื่อนเพิ่งซื้อสัปดาห์ที่แล้ว – –
แฟนอยากได้สีฟ้า
ขายS3 ไปเอาS4 ตัวสีน้ำตาลดีมะเนี้ยยย อยากได้ >___<
ในหลักการบริหารที่เคยเรียนมา ภาพลักษณ์ของแบรนด์
เป็นปัญหาขององค์กร ไม่ใช่ปัญหาของลูกค้า การทำของออกมาดี๊ดี
แต่คนไม่นิยม ไม่ต้องโทษลูกค้า แต่ต้องตั้งคำถามที่ทีมบริหาร
และการที่ยังเป็นแบรนด์เจ้าตลาดก็ไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธด้านราคา
กับแบรนด์พระรองมากนัก(แต่ก็ทิ้งขาดไม่ได้) ซึ่งเห็นได้ชัดกับกลยุทธของโนเกีย
ในอดีต ปัญหาอยู่ที่แบรนด์พระรองต่างหาก ที่จะต้องทำราคาโปรดักส์ตัวใหม่ให้
ดึงดูดแบรนด์เจ้าตลาดที่คืนทุนไปนานแล้วให้ได้ ตัวอย่างที่ชัดก็คือตอนซัมซุง(หรือซัมซวย)
รุกคืบไล่ตีกินโนเกีย
สรุปสั้นๆ สีน้ำตาลสวยจุงเบย 😀