แท็บเล็ตแบรนด์ Samsung เป็นที่นิยมกันอย่างมาก โดยมีการแบ่งซีรีส์เป็น Galaxy Tab S และ Galaxy Tab A เป็นหลัก และจะมีการแบ่งแยกรุ่นย่อยด้วยคำตามท้ายเช่น Ultra, +, Lite, FE ที่มีสเปคและราคาแตกต่างกัน เริ่มต้นถูกที่สุดตั้งแต่ 6,000 บาท จนไปถึงราว 50,000 บาท หากต้องการเลือกซื้อสักเครื่องควรเลือกรุ่นไหนให้เหมาะกับการใช้งาน มาทำความเข้าใจได้ในบทความนี้
ซีรีส์แท็บเล็ต Samsung
- Galaxy Tab S Series
- Galaxy Tab S Ultra
- Galaxy Tab S +
- Galaxy Tab S
- Galaxy Tab S FE+
- Galaxy Tab S FE
- Galaxy Tab S Lite
- Galaxy Tab A Series
- Galaxy Tab A +
- Galaxy Tab A
Samsung Galaxy Tab S – แท็บเล็ตตระกูลเรือธงของซัมซุง
Samsung Galaxy Tab S เป็นซีรีส์แท็บเล็ตระดับกลาง – สูงจากซัมซุง ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปใหม่ล่าสุดของปีนั้น กับสเปคหน้าจอ ระบบเสียง 4 ลำโพง และคุณภาพงานประกอบที่ดีที่สุด รองรับการใช้งานกับปากกา S Pen มีระบบสแกนนิ้วใต้หน้าจอ มาพร้อมกับโหมด Samsung DeX ปรับการใช้งานเหมือนเป็นคอมพิวเตอร์ เหมาะทั้งนำมาใช้ทำงานหรือใช้เพื่อความบันเทิงได้ดีทั้งคู่ โดยในรุ่น Galaxy Tab S จะมีการแบ่งรุ่นย่อยตามนี้
Galaxy Tab S Ultra
จุดเด่นอยู่ที่หน้าจอใหญ่มาก 14.6 นิ้ว ที่ทำให้เปลี่ยนลักษณะการใช้งานไปเลย เนื่องจากอาจพกพาไม่สะดวกจึงจะเน้นใช้เป็นแท็บเล็ตที่ใช้ทำงาน หรือใช้ตั้งไว้เพื่อรับชมเนื้อหา มากกว่าการย้ายไปใช้งานในที่อื่น ๆ ส่วนสเปคด้านอื่นก็เพิ่มขึ้นมาอย่างแบตเตอรี่ความจุเกิน 11,000 mAh หน่วยความจำ RAM 12GB ความจุสูงสุด 512GB
Galaxy Tab S +
Galaxy Tab S + ยังถือว่าเป็นแท็บเล็ตจอใหญ่แต่ก็ไม่ถึงขั้น Ultra ด้วยขนาดหน้าจอ 12.4 นิ้ว ทำให้ยังพอพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้อยู่ และยังได้พื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา มากับความจุสูงสุด 12+512GB แบตเตอรี่เกิน 10,000mAh
Galaxy Tab S
Galaxy Tab S คือแท็บเล็ตเรือธงขนาดเล็กที่สุดของ Samsung ทำให้ได้สเปคและฟีเจอร์ระดับท็อปในขนาดอุปกรณ์ที่พกพาง่าย น้ำหนักเบาลงมา แต่ก็จะมีสเปคบางอย่างที่ลดลงมาด้วยอย่างแบตเตอรี่ระดับ 8000mAh ความจุสูงสุดที่ 12+256GB และอาจตัดกล้องบางตัวออก แต่ยังคงเป็นแท็บเล็ตสเปคดีที่ราคาถูกลงมา
Galaxy Tab S FE / FE+
Galaxy Tab S FE และ FE+ จะเปิดตัวมาทีหลังจากรุ่น Galaxy Tab S ทั้งสามรุ่นด้านบน โดยเป็นแท็บเล็ตที่ราคาประหยัดลงมา ด้วยการปรับลดสเปคบางอย่าง ทั้งหน้าจอที่เป็น LCD 90Hz ชิปเซ็ตที่แรงน้อยลง ความจุลดลง ระบบเสียงเปลี่ยนไปใช้แค่ลำโพงคู่ กล้องปรับลดความละเอียด แต่จะยังคงได้ระดับความจุแบตเตอรี่ ความเร็วชาร์จ ไม่แพ้รุ่น S ธรรมดา แถมรองรับปากกา S Pen และ Samsung DeX ด้วย
ความต่างของ Galaxy Tab S FE และ FE+ อยู่ที่ขนาดหน้าจอ และความจุแบตเตอรี่ ที่ Tab S FE+ จะสเปคดีกว่า (และแพงกว่าประมาณ 7,000 บาท)
Galaxy Tab S Lite
Galaxy Tab S Lite เป็นรุ่นน้องเล็กสุดในตระกูล Tab S ที่จะยังได้ S Pen ไว้ใช้ขีดเขียน วาดรูป จดโน้ต แต่คุมราคาไว้ให้ไม่เกินช่วงหมื่นต้น เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการแท็บเล็ตราคาไม่แรงมากพร้อมปากกา ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็จะเป็นรองรุ่นอื่น อย่างหน้าจอ LCD ขนาดเพียง 10.4 นิ้ว กล้องความละเอียดไม่สูงมาก RAM 4GB กับความจุเริ่มต้น 64GB ไม่มีระบบสแกนนิ้วมือ แบตเตอรี่แค่ 7000mAh กับชิปแรงระดับกลาง
รุ่นล่าสุด Galaxy Tab S6 Lite ใช้ชื่อนี้มานานหลายปี แต่จริง ๆ แล้วมีการอัปเดตสเปคมาวางขายใหม่เรื่อย ๆ หากต้องการซื้อรุ่นนี้แนะนำเช็คให้ดีว่าวางขายในปีไหน เพราะหากเป็นรุ่นเก่าเกินไปอาจได้ใช้ชิปที่ช้าไม่พอการใช้งาน
Galaxy Tab A Series
Galaxy Tab A เป็นแท็บเล็ตระดับเริ่มต้นของซัมซุง แยกเป็นรุ่น Tab A + และ Tab A ที่ทั้งสองต่างกันด้านขนาดจอ แบตเตอรี่ ความจุ และกล้อง แต่จะมีความแตกต่างหลักกับ Galaxy Tab S คือไม่รองรับการใช้งานปากกา S Pen ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป เพื่อความบันเทิงมากกว่า โดยสเปคก็จะปรับลดลงมาอีกด้วยชิประดับเริ่มต้น ความแรงเหมาะใช้งานทั่วไป หน้าจอเล็กกว่า ความละเอียดน้อยกว่า ดังนั้นจึงมีราคาประหยัดที่สุดเริ่มต้นแค่ประมาณ 6,000 บาท
ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดความแตกต่างของแท็บเล็ต Samsung ที่มีวางขายอยู่ในปัจจุบัน หลัก ๆ แล้วความแตกต่างก็มีตามระดับราคา ที่ยิ่งราคาแพงก็จะได้สเปคโดยรวมที่ดีมากกว่า และยังมีฟีเจอร์ความสามารถพิเศษที่ครอบคลุมมากกว่ารุ่นราคาถูกด้วย หากใครสนใจแท็บเล็ต Samsung สามารถหาซื้อได้ทั้งช่องทางออนไลน์ หรือตามช็อป Samsung และร้านค้าที่ร่วมรายการ
ข้อมูลละเอียดดีมากเลยครับ แต่พออ่านแล้วก็แอบเซ็งด้วยความที่อายุมากแล้วก็เลยหา tablet ที่เอาไว้ใช้อ่าน ดูหนังแบบสบายตาเลยไปเอาเจ้า Tab A8 มาใช้แรมแค่ 4GB พื้นที่ 64GB แถม CPU ยังเป็น Unisoc พอมาอีกไม่ถึงสองปี ออกตัว A9+ มาสเปคนี่เปลี่ยนไปแบบคนละเรื่อง แรม8 รอม 128 แถมได้ snap 695อีก ในราคาเท่าเดิม😭😭😭😭😭😭😭