Samsung นั้นเป็นผู้เล่นเบอร์ต้น ๆ เสมอเวลาพูดถึงวางการสมาร์ทโฟนจอพับครับ และ Samsung เอง ก็เป็นเจ้าที่เลือกที่จะเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold6 และ Z Flip6 มาในตลาดโลกแล้ว แต่ว่า Samsung ไม่ได้มาแค่นั้นครับ ! แต่ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold Special Edition (หรือ Samsung W25 ในประเทศจีน) หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold6 / Z Flip6 ได้ไม่นาน และนั่นคือสิ่งที่เราจะมาพรีวิวจับเครื่องจริงกันในบทความนี้ !

ดีไซน์รอบตัวเครื่อง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Samsung Galaxy Z Fold Special Edition นั้นวางจำหน่ายแค่ในประเทศเกาหลีใต้ และประเทศจีนในนาม Samsung W25 เท่านั้น ซึ่ง Samsung Galaxy Z Fold Special Edition นั้นมีการออกแบบที่แตกต่างกับใน Galaxy Z Fold6 อยู่พอสมควรเลย

ดีไซน์ตัวเครื่อง ได้ผ่านการออกแบบมาให้มีความหรูหราไม่น้อยเลย โดยออกแบบฝาหลังให้เป็นกระจกสีเทาแบบเงา และกรอบข้างตัวเครื่องที่ดีไซน์ออกมาเป็นโทนสีทอง และมีลวดลายรอบ ๆ ตัวเครื่องด้วย นอกจากนั้น บริเวณกล้องถ่ายภาพยังมีดีไซน์ที่แตกต่างจากเดิม โดยได้ยกตัวกล้องถ่ายภาพให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยด้วย

ในขณะที่ตัวเครื่องยังคงมีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับที่ Galaxy Z Fold6 ออกแบบมา เช่นตัวเครื่องที่มีความเหลี่ยม ขอบมุมมน หรือกระทั่งกล้องถ่ายภาพที่มีวงแหวนครอบและลวดลายวงกลมอีกด้วยรวมไปถึงการวางพอร์ตที่คล้ายกับของเดิม แต่วางช่องใส่ซิมต่างจากเดิม โดยวางตำแหน่งไว้ด้านบนของตัวเครื่องแทน ส่วนหน้าจอนั้น เห็นได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ที่ 6.5 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้น (ด้วยความกว้างของเครื่องที่เพิ่มขึ้น) แล้ว ขอบจอของ Z Fold Special Edition ยังมีขนาดที่เล็กลงด้วย รวมไปถึงตัวเครื่องได้ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาบนจอนอกแล้วด้วยเรียบร้อย แม้ปกติ Samsung จะไม่ติดฟิล์มมาให้ในสมาร์ทโฟนที่ขายในช่วงหลังก็ตาม

ส่วนหน้าจอใน นอกจากจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามขนาดของหน้าจอนอกแล้ว บานพับของ Samsung Galaxy Z Fold Special Edition ยังมีความแข็งแรง เวลากางหลังจากพับเครื่องแล้ว เฟืองยังแข็งแรงและกางได้ทุกองศาอยู่ แต่ที่น่าสนใจมากก็คือ หน้าจอด้านในยังมีรอยพับที่น้อยมาก ๆ อีกด้วย หน้าจอในของ Galaxy Z Fold Special Edition นั้นแทบไม่รู้สึกถึงรอบพับเลยแม้แต่น้อย

และเฉพาะ Samwsung W25 ที่ขายในจีนเท่านั้น ตัวเครื่องยังได้ให้อุปกรณ์เสริมที่ครบถ้วนอีกด้วย เพราะในกล่องของตัวเครื่องนั้นผ่านการออกแบบมาอย่างสวยงาม และในกล้องได้ให้ของแถมทั้งเคสหนังวีแกน, ฟิล์มที่ติดมาครบทั้งจอนอกและจอใน, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ (25W) และสายชาร์จครบถ้วนอีกด้วย

สเปคของ Samsung Galaxy Z Fold Special Edition

  • จอใน: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 8 นิ้ว
    • ความละเอียด QXGA+ (2160 × 1856 พิกเซล)
    • อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
    • สว่างสูงสุด 2,600 nits
    • รองรับ HDR10+
    • ไม่รองรับปากกา S Pen for Fold
  • จอนอก: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.5 นิ้ว
    • ความละเอียด 2376 x 968 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
    • สว่างสูงสุด 2,600 nits
    • กระจก Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซต : Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy
  • RAM LPDDR5x: 16GB
  • ROM UFS 4.0: 512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลัก 200MP (f/1.8) ระบบกันสั่น OIS
    • กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP (f/2.2) มุมกว้าง 123 องศา
    • กล้องเทเลโฟโต้ 10MP (f/2.4) ระบบกันสั่น OIS ซูม Optical 3x / Digital 30x
  • กล้องเซลฟี่ด้านนอก : 10MP (f/2.2)
  • กล้องเซลฟี่ด้านใน (ใต้จอ) : 4MP (f/1.8)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
  • แบตเตอรี่ : 4,400mAh
    • รองรับชาร์จไว 25W
    • รองรับชาร์จไวไร้สาย 15W
    • รองรับ Wireless Reverse Charging 4.5W
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.3
    • NFC
    • USB-C 3.2 Gen 1
    • UWB
    • รองรับ DeX Mode
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ข้างตัวเครื่อง) / Accelerometer / Gyro / Proximity / Compass / Barometer
  • ความทนทาน : IP48
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 6.1.1 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด :
    • เมื่อกาง: 153.5 x 132.6 x 4.9 มม.
    • เมื่อพับ: 153.5 x 68.1 x 10.6 มม.
  • น้ำหนัก : 236 กรัม

ความแตกต่างระหว่าง Z Fold Special Edition และ Z Fold6

ต้องบอกว่า Samsung Galaxy Z Fold Special Edition นั้น มีความแตกต่างกับ Samsung Galaxy Z Fold6 โดยทั่วไปอยู่พอสมควรเลย อย่างที่เห็นว่าในรุ่น Z Fold Special Edition จะมีขนาดหน้าจอทั้งด้านนอกและด้านในที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ตัวเครื่องยังบางลงกว่าเดิม แต่สิ่งที่ต้องแลกมากับทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, รอบพับที่น้อยลง ก็คือหน้าจอด้านในที่ไม่มีกล้องถ่ายภาพแบบซ่อนใต้หน้าจอ (หรือที่รู้จักกันในชื่อ UDC) แล้ว แถมยังใช้ปากกา S-Pen Fold Edition ใด ๆ ไม่ได้แล้วด้วย

จากความรู้สึกแล้ว การจับถึอของทั้ง 2 รุ่นก็มีความแตกต่างกันอยู่ โดย Samsung Galaxy Z Fold Special Edition จะมีความรู้สึกในการจับถือที่ยากขึ้นเล็กน้อย เพราะมีความกว้างของเครื่องที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงมีความเหมือนกันคือหน้าจอมีรูปทรงที่เน้นไปทางสูง มากกว่ามีความเหมือนพาสปอร์ตแบบใน Google Pixel Fold รุ่นแรก หรือ OPPO Find N3 ด้วย และยังมีเรื่องของความหนาของเครื่องที่แตกต่างกัน และแม้จะไม่มาก แต่ก็ยังรู้สึกได้

นอกจากนั้น กล้องถ่ายภาพหลักของ Samsung Galaxy Z Fold Special Edition ได้เปลี่ยนไปใช้กล้องถ่ายภาพความละเอียด 200 ล้านพิกเซลแล้ว เพียงแต่ว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายภาพอื่น ๆ นั้น ยังคงมีความละเอียดที่เท่าเดิมอยู่ และจากที่ได้ลองก้ลอถ่ายภาพมาแบบเบื้องต้นแล้วนั้น ก็แทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่างกล้องถ่ายภาพบน Samsung Galaxy Z Fold6 และ Samsung Galaxy Z Fold Special Edition อีกด้วย

ส่วนสเปคภายในเครื่อง ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันระหว่างสองรุ่นนี้มากนัก โดยยังคงใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 For Galaxy เหมือนกัน แต่ใน Z Fold Special Edition จะให้แรมมาที่ขนาด 16GB และหน่วยความจำ 512GB เท่านั้น และสเปคของเครื่องส่วนอื่น ๆ ก็ยังมีความเหมือนกับใน Z Fold6 ทั้งการกันน้ำ กันฝุ่นที่ IP48 เท่านั้น รวมไปถึงยังมีขนาดแบตเตอรี่ที่ 4,400 mAh เท่าเดิม และชาร์จแบตเตอรี่ที่ความเร็ว 25W (ต่อสาย) และ 15W (ไร้สาย) เหมือนเดิมเช่นกัน

สรุปส่งท้าย

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy Z Fold Special Edition นั้นเป็นเหมือน Samsung Galaxy Z Fold6 รุ่นที่มีการเสริมเติมแต่งบางอย่างเข้าไปเพิ่มจากเดิมที่ได้เปิดตัวมาในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลาย ๆ คนอาจสังเกตเห็นได้ว่า Z Fold Special Edition นั้นได้ปิดจุดบอดหลาย ๆ อย่างที่ Z Fold6 และรุ่นก่อน ๆ มีอยู่ได้หลายอย่าง เช่นขนาดหน้าจอ (ตอนพับ) ที่ใหญ่ขึ้น หรือกระทั่งหน้าจอในที่มีรอบพับน้อยกว่าเดิมมาก ๆ ด้วยนะ แต่ Z Fold Special Edition เหมือนจะยังไม่เพอร์เฟคในด้านการเป็น Z Fold รุ่นถัดไปอย่างเต็มตัว หรือไม่แน่ว่า Samsung Galaxy Z Fold ในอนาคต อาจจะออกแบบมาในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันกับในรุ่น Special Edition นี้ก็เป็นได้ เพราะ Samsung ยังมีเวลาในการทำการบ้าน พัฒนา Samsung Galaxy Z Fold ให้ดีกว่าเดิม ก่อนที่ Samsung จะเปิดตัว Sasmsung Galaxy Z Fold7 ในช่วงกลางปี ถึงปลายปี 2025 นี้

ระหว่างนี้ Samsung Galaxy Z Fold6 ที่วางขายอยู่ในระดับโลก (รวมถึงในไทย) เอง ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงพับได้ประจำปี 2024 จากค่ายที่ผลิตสมาร์ทโฟนพับได้มานานเช่นนี้ และหวังว่า Samsung Galaxy Z Fold7 ที่จะเปิดตัวตามมาภายหลัง จะมีของดีที่มีอยู่ใน Z Fold Special Edition เช่นนี้บ้าง