ข่าวการเปิดตัวของ Samsung Galaxy S20 เรียกว่ายังไม่ทันหายร้อนก็มีข่าวใหม่มาจ่อคิวกันต่อทันที กับกระแสของเรือธงรุ่นต่อไปอย่าง Galaxy Note 20 ที่มาพร้อมข่าวของการจดสิทธิบัตรหน้าจอแบบโค้งสุดขอบหรือ waterfall display ซึ่งเป็นดีไซน์ที่หลายๆ ค่ายนิยมใช้กันอยู่ในตอนนี้
สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าในสหรัฐอเมริกา หรือ USPTO ได้อนุมัติคำขอจดสิทธิบัตรสำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาใช้กับ Galaxy Note 20 ซึ่งจากภาพประกอบสิทธิบัตรดังกล่าวเผยให้เห็นว่า Galaxy Note 20 จะมาพร้อมจอแสดงผลแบบจอโค้งสุดขอบ แต่ที่น่าสนใจคือในดีไซน์ดังกล่าวเราจะเห็นปุ่มกดที่ยื่นทะลุขอบจอออกมาทางด้านข้าง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Galaxy Note 20 อาจจะมาพร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน อาทิเช่น รองรับการฉายภาพสามมิติขึ้นบนอากาศ (Holographic projector), มีเซนเซอร์ Electromyography (EMG) ตรวจวัดความผิดปรกติของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า , Electroencephalogram (EEG) ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง, Electrocardiogram (ECG) การตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งก็เป็นเซนเซอร์ที่มักจะถูกติดตั้งในสมาร์ทวอซหลาย ๆ ยี่ห้อ เพื่อตรวจวัดความผิดปรกติของอัตราการเต้นของหัวใจ, และเซนเซอร์สแกนนิ้วเป็นต้น ส่วนขนาดของแบตเตอรี่นั้นก็จะมีความจุเพิ่มขึ้น โดย Galaxy Note 20+ อาจจะมีความจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ส่วน Galaxy Note 20 คาดว่าจะเป็น 4000mAh
ในส่วนของชิปเซ็ตนั้นคาดว่า Galaxy Note 20 จะใช้ Snapdragon 865 หรือ Exynos 990 ส่วนกล้องหลังอาจจะใช้โมดูลเดียวกับกล้องหลังของ Galaxy S20 และอาจจะมีรุ่น Ultra เพิ่มเข้ามาอีก ส่วนกล้องหน้าก็คาดว่าอาจจะเป็น infinity O เหมือนเดิม ซึ่งล่าสุดก็มีภาพเรนเดอร์ของตัวเครื่องออกมาให้เราได้เห็นเป็นไอเดียอีกด้วย โดยนักออกแบบคอนเซปต์ชื่อดัง อย่าง Waqar Khan ได้นำแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของ Galaxy S20 และ Galaxy Note 10 มารวมกันโดย โดย Galaxy Note 20 จะมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว, Galaxy Note 20+ และ Galaxy Note 20 Ultra จะมีกล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงอาจจะมาพร้อมกับ Space Zoom ที่สามารถซูมได้ 100 เท่าแบบไฮบริด
ทั้งนี้รายละเอียดดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางค่าย และยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของสเปคค่ะ และที่สำคัญเชื่อว่าหลายๆ คนก็ยังรอดูว่า S Pen ของ Galaxy Note 20 ในปีนี้จะมีฟีเจอร์เทพๆ อะไรให้ว้าวเหมือนรุ่นที่ผ่านมาอีกบ้าง ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
ที่มา phonearena, androidheadlines
ข่าวมาไวแหะ 🙂 🙂
เท samsung ละครับ ไม่นำเครื่อง snapdragon มาจำหน่ายในไทย หรือไม่ก็ควรเอาเข้ามาทั้ง 2 แบบ
ต้องเข้าใจเหตุผลของการมีสอง version ก่อนครับ
samsung กะจะขายแค่ exynos อย่างเดียวทั่วโลกด้วยซ้ำเพราะประหยัดต้นทุนกว่าผลิตได้เอง แต่ทีนี่ มันดันไปติดเรื่อง ลิขสิทธิ์บางอย่างในกลุ่มประเทศอเมริกา เลยไม่สามารถเอาเข้าไปจำหน่ายได้ ทำให้ต้องออกรุ่น snap ออกมาด้วย
ดังนั้นในประเทศที่ไม่มีปัญหาอย่างประเทศไทย คุณไม่มีทางเป็นการนำ snap เข้ามาขายแบบถูกต้องแน่นอนครับถ้าสองรุ่นนี้ feture เท่ากันทุกประการ
มีครั้งเดียวมั้งที่เห็นเอาเข้ามาขายสอง version เลย ถ้าจำไม่ผิดสมัย note 4 มั้ง เพราะสองรุ่นมันดันทำได้ไม่เท่ากันตัว snap มี feature มากกว่าเลยต้องยอมเอารุ่น snap เข้ามาขายทีหลัง (ถ้าข้อมูลไม่ถูกท่านใดจำได้ก็แก้ไขด้วยนะครับ)
ไทยไม่มีอำนาจต่อรองอะไร เค้าเอามาขายยังไงก็ต้องก้มหน้าซื้อไป สงสัยว่าประเทศใกล้ๆไทย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เค้าได้อะไร snapdragon หรือ exynos เหมือนเรา
เพิ่มฟีเจอร์อะไรๆมาซะมากมาย เรื่องจอเบิร์นหลังหมดประกัน 1 ปี แก้ได้ยัง???
แหว่งตลอดดดดด
ประเทศที่ได้ใช้snapdragon มีแค่อเมริกา แคนาดา และจีนเพราะประเทศเหล่านี้ใช้คลื่นความถี่2แบบคือ GSM กับCDMAเลยต้องใช้snapdragonที่รองรับทั้ง2แบบ แต่Exynos