ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นตลาดมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบรนด์ไหนๆ ก็อยากจะเข้าไปทำตลาดในจีนกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Samsung หรือ Apple ซึ่งก่อนหน้านี้เคยบครองส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับต้นๆ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมามือถือแบรนด์จีนก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาให้มีสเปคเทียบเท่าแบรนด์ดังๆ แต่วางจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่า ส่งผลให้ Samsung ที่เคยครองยอดขายอันดับ 1 เริ่มออกอาการเป๋ และยอดขายร่วงมา 2-3 ปีติดต่อกัน
จากที่ Samsung เคยเป็นเจ้าตลาดมือถือในประเทศจีนมานานแสนนาน แต่ตอนนี้กลับมีส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงอย่างน่าใจหายในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา จากที่เคยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในจีนถึง 8.6% จากทุกแบรนด์ ตอนนี้เหลือเพียง 3.3% เท่านั้น (ตกลงไปถึง 60%) แน่นอนว่าแบรนด์ที่ผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของตลาดมือถือจีนในตอนนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Huawei ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้กินส่วนแบ่งตลาดมือถือไปแล้วถึง 19.7% ตามด้วย OPPO ที่มีส่วนแบ่งตลาด 17.5% และ vivo 17.1% โดยข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการสำรวจของ Counterpoint Technology Market Research
ส่วนแบรนด์ดังร่วมชาติอย่าง Xiaomi ที่ช่วงหลังๆ ยิ่งเห็นว่าไม่สามารถทำการตลาดสู้กับ 3 แบรนด์ข้างต้นได้ ถึงจะใช้การขายออนไลน์แบบ Flash Sale เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายทำให้สามารถขายมือถือรุ่นใหม่ๆ จนเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที แต่ Xiaomi ยังเน้นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ภายในเมืองใหญ่มากกว่า ในขณะที่ OPPO และ vivo นั้นเน้นขายในตลาดต่างจังหวัดและชนบทที่มีประชากรกว่า 1,000 ล้านคน ที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์ โดยปัจจุบัน มีร้านที่ขายมือถือ OPPO กว่า 240,000 ร้าน ทั่วประเทศจีน และร้านที่ขายมือถือของ vivo อีกกว่า 120,000 ร้าน ส่วน Xiaomi มีร้านที่ขายอยู่เพียงไม่กี่ร้อยแห่ง เช่นเดียวกับ Apple ที่มีร้านอยู่ในประเทศจีนแค่ไม่กี่สิบแห่งเท่านั้นเอง
ผู้บริหารของ China Economy and Finance Research ยังได้บอกถึงเหตุผลที่ Samsung ร่วงลงมาจากอับดับ 1 ในตลาดมือถือประเทศจีนเอาไว้ว่า “มือถือของ Samsung มีราคาแพงกว่ามือถือแบรนด์จีน และมีวางจำหน่ายแต่ในร้านค้าเท่านั้น (ไม่มีขายออนไลน์) และยังมีการให้บริการต่างๆ ที่ยังไม่ทั่วถึงพอ Samsung ต้องพยายามเข้าถึงลูกค้าในจีนให้มากกว่านี้” ก็ถือเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับ Samsung เลยทีเดียว เพราะเมื่อปี 2014 นั้น Samsung สามารถทำตลาดมือถือในประเทศจีนจนมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 20% แต่หลังจากนั้นก็ลดลงมาเรื่อยๆ
ซึ่งการจะกลับมานั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ทั้งที่ในช่วงหลัง Samsung เองก็พยายามออกแบบมือถือและอัดสเปคเพื่อสู้กับแบรนด์จีน อย่างตระกูล Galaxy C ที่หันมาใช้บอดี้โลหะแบบที่คนจีนชอบ รวมถึง RAM ก็จัดเต็มมาที่ 6GB แต่ก็เหมือนจะยังไม่สามารถเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้สักเท่าไหร่
ที่มา : Phonearena, Theinvestor
ก็ยังจัดว่าแพง
ขนาด Xiaomi ตัวทอป ราคาแค่รุ่นกลางซัมซุง
ยังไม่ติด 1 ใน 3 เลย
ไม่ต้องดูไหนไกลครับมันมองออกได้ง่าย คนเราย่อมเลือกในสิ่งที่มีบริการหลังการขายสะดวกที่สุด คนไทยยังเลือกแบบนี้เลย ต่างแต่ house ไทยมันหลังการขายกากกว่า ss และหายากกว่า ss ไง
รูปที่ 1 และ 2 จีน
รูปที่ 3 เวียดนาม
55555
ซัมซุงก็คงพยายามอยู่มั้งครับ ในสนามรบอื่น
ก็ชนะขาดหมดจนมียอดขายอันดับ 1 ของโลก
แต่มาเจอพญามังกรก็แข็งหน่อย ตีไม่เข้า
พยายามต่อไปครับ