ชิปประมวลผลเรือธงรุ่นปัจจุบันของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 8 Elite นั้นถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมแบบ 3nm รุ่นที่ 3 (N3E) โดย TSMC และดูเหมือนว่า Qualcomm จะยังใช้พันธมิตรที่เชื่อถือได้เจ้าเดิมสำหรับชิปตัวต่อไปอย่าง Snapdragon 8 Elite 2 โดยล่าสุดมีข่าวลือว่าชิปตัวใหม่นี้จะผลิตโดยใช้กระบวนการ N3P 3nm ที่ทันสมัยขึ้นของ TSMC เช่นเดิม

รายงานใหม่นี้มาจาก Gamma’s Hardware information ยืนยันว่า Snapdragon 8 Elite 2 จะผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 3nm (N3P) ของ TSMC จริง และหากข่าวนี้เป็นจริง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งการยืนยันว่า Qualcomm ยังไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของ Samsung Foundry ก็เป็นได้ เลยยังตัดสินใจให้ TSMC ผลิตให้อยู่

Snapdragon 8 Elite 2 ชิปเรือธงตัวถัดไป คาดว่า Qualcomm จะเลือกให้ TSMC เป็นผู้ผลิต ไม่ใช่ Samsung

Snapdragon 8 Elite 2 ตามรายงานระบุว่ามีหมายเลขรุ่น SM8850 และมีชื่อรหัส Kaanapali แต่มีรายงานว่า Samsung ก็พยายามจะผลิต 8 Elite 2 โดยใช้กระบวนการผลิตของตัวเองด้วยเช่นกัน และลือว่ามีชื่อรหัสว่า “KaanapliS”

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานระบุว่า “KaanapliS” จะไม่ปรากฏชื่อบนฐานข้อมูลอีกต่อไป ส่งผลให้การผลิต Snapdragon 8 Elite 2 จะเปลี่ยนไปที่ TSMC แทน และจะมีชื่อรหัสว่า “KaanapaliT” ซึ่งตัว “T” ด้านหลังก็เดาไม่ยากว่าจะหมายถึงการผลิตของ TSMC นั่นเอง

ตามรายงานก่อนหน้านี้ Snapdragon 8 Elite 2 จะรองรับ SME ของ ARM ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่ช่วยให้โปรเซสเซอร์สามารถจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานแบบคอร์เดียวได้มาก ซึ่งอาจทำให้ Qualcomm ชนกับชิป M4 ของ Apple ได้ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการรองรับ SME แล้ว ยังมีข่าวลือว่าชิปเซตทั้งสองตัวจะผลิตโดยใช้กระบวนการ N3P 3nm ของ TSMC ซึ่งคาดว่าจะช่วยปรับปรุงทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล และที่น่าสนใจคือ ชิป A19 ของ Apple ก็มีข่าวลือว่าจะใช้กระบวนการผลิตแบบ 3nm เช่นกัน

ส่วนข้อมูลด้านประสิทธิภาพ มีข่าวลือว่า Snapdragon 8 Elite 2 จะมาพร้อมกับคอร์ประสิทธิภาพสูงที่ความเร็วสูงสุด 5.00GHz และทำคะแนน Geekbench แบบคอร์เดียวได้สูงถึง 4,000 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้ยังคงเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น เนื่องจากประสิทธิภาพที่แท้จริงจะได้รับการยืนยันได้ก็ต่อเมื่อชิปเซตเปิดตัว และผ่านการประเมินประสิทธิภาพจริงแล้วเท่านั้น รวมถึงคะแนนการประเมินประสิทธิภาพก็อาจจะไม่สามารถสะท้อนประสิทธิภาพในการใช้งานจริง ดังนั้นอาจต้องรอการเปิดตัวจริงก่อน ถึงค่อยประเมินกันอีกที

ที่มา gizmochina