บริษัท Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลระดับเรือธงสำหรับยานยนต์ล่าสุด ได้แก่ Snapdragon Cockpit Elite และ Snapdragon Ride Elite ในงาน Snapdragon Summit โดยชิปเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วย CPU Qualcomm Oryon™ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชันบนยานยนต์ ซึ่งเป็นชิปส่วนหนึ่งใน Snapdragon Digital Chassis ที่ผู้ผลิตยานยนต์สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลขั้นสูง และความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติ ครบ จบ ในที่เดียว
โดย Snapdragon Cockpit Elite จะเป็นชิปที่เอาไว้ใช้กับระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในห้องโดยสาร ส่วน Snapdragon Ride Elite จะใช้ประมวลผลข้อมูลภายนอกห้องโดยสารและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติขั้นสูง ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลภายนอกและภายในห้องโดยสารได้แบบเรียลไทม์ รองรับการปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้แบบ Adaptive แล้วยังสามารถประมวลผลแบบรวมศูนย์รวมเข้าด้วยกันได้อย่างยืดหยุ่น โดยชิปรุ่นใหม่นี้มาพร้อมหน่วยประมวลผล NPU ประสิทธิภาพสูง อย่าง Cockpit Elite แรงขึ้น 12 เท่า เมื่อเทียบกับ Cockpit รุ่นก่อนหน้า
ทางด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานก็เป็นอีกจุดเด่นหลัก โดยชิปเซตนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุดในขณะที่มอบประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งรองรับแอปพลิเคชันการขับขี่อัตโนมัติแบบแฮนด์ฟรี การตรวจจับวัตถุที่ได้รับการปรับปรุง และการตรวจสอบผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ GPU Qualcomm® Adreno™ ยังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ประสิทธิภาพกราฟิกดีขึ้น ตอบสนองความต้องการในการเล่นเกมและมัลติมีเดีย
ในส่วนของความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญ ด้วยฟังก์ชัน ADAS ตัวควบคุมเกาะนิรภัย จะมีการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ เพื่อให้มั่นใจถึงการทำงานที่เชื่อถือได้ และยังถูกสร้างขึ้นเพื่อการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไปสู่ SDV โดยเน้นที่ความสามารถในการอัปเกรดได้ และกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่คล่องตัว
Snapdragon Ride Elite มีจุดเด่นที่ ISP สามารถจัดการและประมวลผลเซนเซอร์ได้จำนวนมาก รองรับเซนเซอร์มัลติโหมดมากกว่า 40 ตัว รวมถึงกล้องความละเอียดสูงสูงสุด 20 ตัว และไม่เพียงแต่ตรวจจับภายนอกเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจสอบภายในห้องโดยสารได้แบบ 360 องศาอีกด้วย ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและประสบการณ์ในห้องโดยสาร นอกจากนี้ Snapdragon Ride Elite ยังนำเสนอระบบขับขี่อัตโนมัติที่ครอบคลุม ในขณะที่ Snapdragon Cockpit Elite มุ่งเน้นไปที่มัลติมีเดียที่สมบูรณ์และความสามารถของ AI เป็นหลัก
คาดว่าการทดสอบการใช้งานจริง Snapdragon Cockpit Elite และ Snapdragon Ride Elite น่าจะเริ่มขึ้นในปี 2025 โดยมีการร่วมมือกับผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ เช่น Li Auto และ Mercedes-Benz AG โดยมีเป้าหมายที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้กับยานยนต์ในอนาคต
ที่มา qualcomm
Comment