หลังจาก Valve เปิดตัว Steam Machine ร่วมกับ Steam Frame และ Steam Controller รุ่นใหม่ กระแสความสนใจจากเกมเมอร์ทั่วโลกทันที โดยเฉพาะ Steam Machine ที่หลายคนมองว่าอาจเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างคอนโซลกับพีซีสำหรับห้องนั่งเล่น เล่นเกมบนทีวีได้แบบเสียบแล้วใช้ทันทีในสไตล์คอนโซล แต่ยังได้ประสิทธิภาพแบบพีซี

ช่วงแรกมีความคาดหวังว่าตัวเครื่องอาจมีราคาย่อมเยากว่าเดสก์ท็อปทั่วไป แต่ล่าสุดทิศทางเริ่มเปลี่ยน เมื่อ Pierre-Loup Griffais และ Lawrence Yang จาก Valve ออกมาให้ข้อมูลตรงไปตรงมาในพอดแคสต์ Friends Per Second เกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านราคา

This image has an empty alt attribute; its file name is image.png

Griffais ระบุชัดว่า Steam Machine จะ ไม่ใช้โมเดลขายขาดทุน แบบ PlayStation หรือ Xbox ที่ยอมขายเครื่องต่ำกว่าต้นทุนเพื่อหวังทำกำไรจากซอฟต์แวร์ในระยะยาว แต่จะอิงราคาจาก พีซีประกอบที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงที่สุด ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ไม่ควรคาดหวังราคาถูกล่อใจแบบคอนโซล พร้อมเสริมว่าตลาดชิ้นส่วนพีซียังผันผวนอย่างหนัก ทำให้ Valve ยังไม่สามารถกำหนดราคาได้ในตอนนี้

แม้จะไม่ใช่เครื่องราคาประหยัด แต่ Valve ย้ำว่าจุดขายของ Steam Machine อยู่ที่การออกแบบที่พีซีประกอบทั่วไปทำได้ยาก เช่น ตัวเครื่องขนาดเล็กเป็นพิเศษ เสียงเงียบมาก ระบบไร้สายที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยเสาอากาศ 4 ต้น รองรับคอนโทรลเลอร์หลายแบรนด์ รวมถึงฟีเจอร์ HDMI CEC ที่ช่วยให้ควบคุมเครื่องผ่านรีโมตทีวีได้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สายประกอบคอมอาจต้องลงทุนและปรับแต่งเพิ่มเองหลายขั้นตอนกว่าจะให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน

ในด้านสเปก Steam Machine คาดว่าจะมาพร้อมซีพียู AMD Zen 4 แบบ 6 คอร์ 12 เธรด, การ์ดจอ RDNA 3 จำนวน 28 CUs, RAM DDR5 16GB และ GDDR6 8GB โดย Valve อ้างว่าแรงกว่า Steam Deck ประมาณ หกเท่า และรองรับเกมระดับ 4K 60FPS ผ่านเทคโนโลยี FSR ซึ่งถือว่าเป็นสเปกระดับกลางค่อนไปทางสูงในตลาดพีซีปัจจุบัน

เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโซล เช่น PS5 ราคา 549 ดอลลาร์ และ Xbox Series X ราคา 649 ดอลลาร์ จึงมีโอกาสสูงมากที่ Steam Machine จะมีราคาสูงกว่า ทั้งเพราะต้นทุนพีซีที่ยัง “ขึ้นไม่หยุด” ตั้งแต่ RAM, SSD ไปจนถึงการ์ดจอ ทำให้เครื่องอาจเข้าใกล้ช่วงราคาพีซีระดับกลางในตลาดปัจจุบัน

แล้วถ้ามาทรงนี้ “ประกอบคอมเอง” คุ้มกว่าหรือไม่?

นี่เป็นคำถามใหญ่ที่หลายคนเริ่มตั้งขึ้นหลังได้ยินทิศทางด้านราคา และ Valve ก็บอกว่า Steam Machine ไม่ได้ตั้งใจมาแข่งเรื่องราคา กับพีซีประกอบ แต่มาแข่งเรื่อง “ประสบการณ์ใช้งานสำเร็จรูปแบบคอนโซล”

ถ้าผู้ใช้ต้องการสเปกใกล้เคียงกันและต้องการราคาถูกที่สุด พีซีประกอบมักยังคงคุ้มกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่ส่วนลดและราคาตลาดผันผวน แต่ถ้าต้องการ:

  • ตัวเครื่องเล็กพิเศษ
  • เงียบมากแบบแทบไม่ได้ยิน
  • วางห้องนั่งเล่นได้สวยแบบคอนโซล
  • ใช้งานกับทีวีได้ลื่นไหล
  • ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาไดรเวอร์หรือคอนโทรลเลอร์

Steam Machine ก็จะให้ “ประสบการณ์ที่พีซีประกอบทำได้ยากหรือแพงกว่า” แม้ราคาจะสูงขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Valve กำลังวางแผน Steam Machine Pro รุ่นสเปกระดับสูงในอนาคต แต่จะโฟกัสรุ่นระดับกลางก่อน โดยฮาร์ดแวร์ทั้งหมด รวมถึง Steam Frame และ Steam Controller จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026

ที่มา : neowin