จากที่เมื่อวานนี้มีข่าวว่าทาง CAT (กสท.) เตรียมเจรจาขอยืดอายุสัมปทานคลื่น 1800MHz ที่ตนถืออยู่ 20MHz ออกไปอีก 7 ปี ซึ่งวันนี้ทางดีแทคก็ได้ออกมายืนยันว่ามีการเจรจากับทาง CAT เรื่องเอาคลื่น 1800MHz ในช่วง upper band มาใช้งานจริงตามข่าว แต่ยังไม่มีข้อสรุปอะไรชัดเจนออกมา ต้องรออนุมัติจากอีกหลายฝ่าย แต่ข้ามวันไปไม่นานก็มีการสยบข่าวนี้ลงในทันทีโดยกสทช. โดยให้เหตุผลว่าผิดกฎหมายนั่นเอง
AIS ได้ออกมาแถลงข่าวเป็นรายสุดท้ายในกลุ่มผู้ประมูลคลื่น 900 ทั้ง 4 ราย ซึ่งการไม่ได้มาของคลื่น 900MHz ที่เป็นคลื่นเก่าในมือที่ AIS ใช้มาตั้งแต่แรกนั้นถือเป็นความเสียหายหรือไม่ แล้วทำไมถึงหยุดประมูลทั้งๆ ที่มูลค่าการเคาะครั้งสุดท้ายของตัวเองนั้นสูงกว่า JAS ที่ประมูลคลื่นได้ไปซะอีก คุณสมชัย ประธานบริหารของ AIS เลยได้ออกมาชี้แจงในงานแถลงข่าวครั้งนี้
มาต่อกันที่ Dtac เครือข่ายที่มีผู้ใช้เยอะเป็นอันดับ 2 ของประเทศ แต่กำลังเจอสถานการณ์วิกฤตเรื่องการขาดแคลนคลื่นในอีก 3 ปีข้างหน้า เพราะพลาดการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ทั้ง 2 ใบ จนทำให้คลื่นไม่เพียงพอ จากที่เคยเป็นผู้นำมีคลื่นกว้างถึง 50MHz กลายเป็นเหลือเพียง 15MHz เท่านั้น น้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึงเท่าตัว หลังจากที่ให้ผู้ชนะแถลงไปก่อนเมื่อวานนี้แล้ว วันนี้ทางดีแทคจึงขอออกมาพูดคุยบ้าง
หลังจากการประมูลใบอนุญาตสองใบมูลค่ารวมกว่า 2.3 แสนล้านบาท ประมูลกันแบบข้ามวันข้ามคืน วันนี้มีเรื่องให้ช็อควงการ เมื่อทาง CAT เล็งขอขยายสัมปทานคลื่น 1800MHz ที่มีในมือ ซึ่งปัจจุบัน DTAC ใช้งานอยู่และใกล้หมดอายุในปี 2561 (3ปีข้างหน้า) ออกไปจนถึงปี 2568 (10ปี ข้างหน้า) ต่อชีวิตให้ดีแทคแบบเต็มๆ เตรียมชงเรื่องไปขออนุมัติกับทางรัฐมนตรี ICT...
จากที่ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเรื่องที่ JAS แถลงการเข้าสู่ตลาดมือถือกันไปแล้ว บ่ายวันเดียวกันทาง TRUE ก็มีการแถลงต่อกันเลย โดยมีการแจงรายละเอียดเกี่ยวกับการนำคลื่นต่างๆ ที่มีในมือไปใช้งานและตอบคำถามที่หลายๆคนน่าจะอยากรู้ ซึ่งมีทั้งที่ตอบแล้วเข้าใจมากขึ้น และตอบแล้วยังสงสัยอยู่ แต่ทางคุณศุภชัย ผู้บริหารของทรู อาจจะมีเวลาไม่เพียงพอตอบคำถาม จึงขอนำมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านและช่วยกันคิดตามกันก่อนสักรอบนึงครับ แล้วค่อยไปหาข้อมูลมาเพิ่มให้ภายหลังต่อไป
หลังจาก JAS ประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz ทำให้บริษัทกลายเป็นจุดสนใจ และอยากรู้ข้อมูลว่าค่ายน้องใหม่ค่ายนี้จะมีดียังไง น่าใช้ขนาดไหน คลื่นที่เอามาจะเอาไปทำอะไรบ้าง และมีเงินลงทุนมาจากแหล่งไหนอย่างไร สู้กับเครือข่ายอื่นได้หรือเปล่า และมีเครือข่ายของต่างชาติเข้ามาแจมรึเปล่า วันนี้ทาง JAS จึงเปิดโต๊ะแถลงข่าวตอบข้อสงสัยให้กับทางผู้สื่อข่าว และพอดีได้มีโอกาสได้เข้าร่วมฟังด้วย จึงขอนำเอาข้อมูลมาแชร์ให้ฟังกัน[updated] 24 ธ.ค. มีการแถลงข่าวเพิ่มเติมอีกครั้ง
จบการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz ที่ยังคงรักษาความยาวนานได้เหมือนคราวคลื่น 1800MHz ลากยาวข้ามวันข้ามคืนรวม 4 วัน 3 คืนเคาะไปเกือบ 2 ร้อยรอบ โดยในครั้งนี้ ไม่มีใครยอมใครมาจนสุดทาง กดราคากันรัวๆ ตั้งแต่เริ่มต้น จนราคาพุ่งขึ้นเหนือราคาประมูลคลื่น 1800MHz ไปตั้งแต่หัวค่ำคืนแรก จนมาปิดราคาสุดท้ายที่ได้มูลค่ารวมทั้งหมดถึง 151,952 ล้านบาท ผู้ชนะหักปากกาเซียนเป็น...
จบการประมูลจากคลื่น 900MHz โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าประเทศไทยทำลายสถิติโลกในเรื่องของราคาประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz ซึ่งนั่นเป็นเพียงการดูจากมูลค่าของใบอนุญาตเพียงอย่างเดียว แต่นั่นอาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไป เพราะตามจริงควรต้องคิดเอาราคาเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ ประชากรเยอะมูลค่าของใบอนุญาตก็ควรจะเยอะตาม และต้องจับเอามูลค่ามาหารเฉลี่ยเป็น MHz ต่อจำนวนประชากรจึงจะจัดอันดับอย่างแท้จริงได้ ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนนี้มาให้แล้วดังนี้ โดยปัจจุบันราคาของไทยติดขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ของโลกไปเรียบร้อยครับ ^^*ปรับแก้หลังเสร็จสิ้นการประมูล และกราฟนี้คิดเทียบกับข้อมูลที่กสทช.เปิดเผยมาก่อนหน้า**ข้อมูลผิดเนื่องจากกสทช.มีการปรับแก้วิธีคิดอีกครั้ง ขอบคุณข้อมูลจาก Cyberbiz
ผ่านกันไป 4 วัน 3 คืน กับการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900MHz ราคาปัจจุบันที่กำลังเขียนบทความนี้จบอยู่ 10.15 น. มีมูลค่า 132,954 ล้านบาท เตรียมพุ่งทะยานขึ้นไปแตะสถิติโลกที่เคยมีการประมูลคลื่น 900MHz กันเอาไว้ที่ 68,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อตอนบ่ายวานนี้ผมมีการเขียนบทความถึงที่มาของเงินที่แต่ละค่ายนำมาประมูล กับเหตุว่าทำไมราคาถึงพุ่งกระฉูดขนาดนี้ไป แต่หลังจากที่ลองคิดดูอีกรอบแล้ว หมากเกมนี้อาจจะเป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่าที่คิดมากนัก...
จนถึงตอนนี้การประมูลใบอนุญาตคลื่น 900MHz ก็ยังไม่จบลง ราคารวมของทั้งสองใบอนุญาตเกินแสนล้านไปเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ซึ่งหลายๆคนก็สงสัยกันว่า ราคานี้เป็นราคาที่เหมาะสมรึเปล่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปสูงขนาดนี้ได้ จากที่ลองๆไปรวบรวมมา จึงขอเอามาเล่าให้ฟังกันเอาไปคิดต่อกันแบบพอสังเขปดังนี้ปล. ภาพประกอบจากเพจ Mao-Investor นะครับ ไปติดตามกันได้