Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นพิเศษ Phone (2a) Special Edition กับสีตัวเครื่องที่มีครบทุกแม่สีในเครื่องเดียว ทั้ง แดง น้ำเงิน เหลืองจนกลายเป็นสินค้าของ Nothing ที่มีสีเยอะที่สุด โดยจะวางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด และมีเพียงรุ่นความจุ 12GB + 256GB เท่านั้น ในราคาเท่ารุ่นสีมาตรฐาน ไม่มีบวกเพิ่ม
Android 15 Beta 2 เปิดให้มือถือ Pixel ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้ว รอบนี้มีฟีเจอร์ใหม่เด่น ๆ คือ private space โคลนแอป ล็อกแอป ซ่อนแอป ที่หลายคนรอมานาน ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตมือถือหลายค่ายก็ประกาศเข้าร่วมโปรแกรม Android 15 Beta อย่างพร้อมเพรียง มาทั้ง vivo, OPPO, Xiaomi, realme, iQOO, HONOR, Nothing และอื่น ๆ ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีหลายรุ่นที่เปิดให้ทดสอบในไทยแล้วเช่นกัน
Nothing กลับมาอีกครั้งกับหูฟังดีไซน์ไม่เหมือนใคร โดยในปี 2024 ได้เปิดตัวมาให้เลือกสรรกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ Nothing Ear ที่เป็นภาคต่อจาก Nothing Ear (2) โดยตรงพร้อมอัปเกรดแบตเตอรี่ ใช้งานได้นานขึ้น และ Nothing Ear (a) ที่เป็นรุ่นราคาประหยัดถูกที่สุดในบรรดาหูฟังไร้สายของแบรนด์พร้อมดีไซน์เคสแบบใหม่กับการมาของสีเหลืองเป็นครั้งแรก ส่วนราคาในไทยเปิดมาเริ่มต้นที่ 3,799 บาทเท่านั้น
Nothing ประกาศจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ในวันที่ 18 เมษายน 2024 ซึ่งเฉลยออกมาแล้วว่าเป็นหูฟังสองรุ่น คือ Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ที่รอบนี้ Nothing เปลี่ยนแนวทางการตั้งชื่อใหม่ ไม่มีเลขเจเนอเรชันกำกับพ่วงท้ายแล้ว เหลือแต่ชื่อสินค้าอย่างเดียวโล้น ๆ จุดน่าสนใจคือ จากภาพที่หลุดออกมาแสดงให้เห็นว่า Nothing Ear (a) จะมีสีเหลืองเป็นหนึ่งในตัวเลือก ฉีกแนวเดิม ๆ ของ Nothing ที่เน้นสีโมโนโครมขาวดำมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้
สัปดาห์นี้มีสมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่น ด้าน Samsung เผยโฉม Galaxy A35 5G พร้อม Galaxy A55 5G แบบแพ็กคู่ ในขณะที่ Nothing พา Nothing Phone (2a) มาบุกตลาดประเทศไทย ซึ่งฟีดแบ็กเบื้องต้นบนโลกออนไลน์ของทั้งสามรุ่นค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ‘เปิดราคาดีเกินคาด’ โดยมีค่าตัวเริ่มต้นที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท ทาง DroidSans จึงนำข้อมูลตัวเครื่องมาเปรียบเทียบให้ดูว่ามือถือทั้งสามรุ่น แตกต่างกันตรงไหน อย่างไรบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ
หลังจาก Nothing Phone (2a) เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2024 ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 สัปดาห์พอดิบพอดี ซึ่ง Nothing ก็ประกาศปล่อยเฟิร์มแวร์ Nothing OS 2.5.3 ที่เป็นอัปเดตแรกออกมาแล้ว โดยจะมีทั้งการแก้ไขบักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกบางส่วน – เบื้องต้นเปิดให้อัปเดตแล้วในรุ่น Nothing Phone (2a) และ Nothing Phone (1) ส่วน Nothing Phone (2) ที่อยู่ตรงกลาง น่าจะตามมาเร็ว ๆนี้
นอกเหนือจากมือถือiรุ่นใหม่ Nothing Phone (2a) แล้ว วันนี้ Nothing ยังพาหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ CMF by Nothing มาเปิดตัวพร้อมกันด้วยอีกสองรุ่นคือ CMF Buds หูฟังไร้สาย true wireless (TWS) แบบมาตรฐาน และ CMF Neckband Pro หูฟังไร้สายแบบมีสายคล้องคอ ชูจุดเด่นราคาย่อมเยา แต่ให้คุณภาพเสียงพรีเมียม ค่าตัวเริ่มต้นประมาณ 1 พันกว่าบาททั้งคู่
Nothing เปิดตัว Nothing Phone (2a) อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ปรับมาใช้ดีไซน์แบบ The Eyes ที่ใช้การจัดวางกล้องหลังคู่ 50MP ในแนวนอนลักษณะเดียวกับดวงตามนุษย์ โดยที่กล้องหนึ่งเป็นกล้องหลัก อีกกล้องหนึ่งเป็นกล้องอัลตราไวด์ ส่วนไฟ Glyph Interface ที่ด้านหลังก็ยังอยู่ให้เล่นเหมือนเดิม สนนราคาเริ่มต้น 11,499 บาท เป็นมือถือ Nothing ที่ถูกที่สุดที่เคยขายมา
Nothing ยืนยันแล้วว่า หลังการเปิดตัว Nothing Phone (2a) วันที่ 5 มีนาคม 2024 ที่ต่างประเทศเสร็จสิ้น ถัดจากนั้นอีก 7 วัน Nothing Phone (2a) ก็จะเดินทางมาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มีนาคม 2024 เป็นต้นไป ซึ่งไทยถือเป็นหนึ่งใน 13 ประเทศกลุ่มแรกที่ทาง Nothing เลือกจะทำตลาด โดยการจำหน่ายในวันแรกจะอยู่ภายใต้แคมเปญ #THE100 Drops จำกัดแค่ 100 เครื่องเท่านั้น ใครมาก่อนได้ก่อน
สับขาหลอกกันไปมาสำหรับ Nothing Phone (2a) ทั้งในด้านดีไซน์ และล่าสุดก็ลามมาถึงชิปประมวลผล เพราะยืนยันว่าไม่ได้ใช้ชิป Dimensity 7200 แบบธรรมดา เพราะใช้เป็นชิปรุ่นพิเศษรุ่นตีบวกอย่าง Dimensity 7200 Pro ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Nothing โดยเฉพาะ