OpenAI ประกาศให้สมาชิกทั่วไปใช้ ChatGPT Search ฟรีแล้ว ซึ่งเป็นบริการค้นหา (Search Engine) ที่ใช้ AI ในการดึงข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ มาให้ตรงใจคนถามมากที่สุด ส่วนการใช้งานจะทำยังไง แตกต่างหรือดีกว่าระบบค้นหาเจ้าอื่นยังไง เราจะพาไปลองเล่นกัน
ChatGPT มีลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจในชื่อ Advanced Voice Mode ออกมา โดยตอนนี้สามารถใช้งานร่วมกับแชร์วิดีโอบนหน้าจอได้แล้ว โดยฟีเจอร์นี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วตอนที่เปิดตัว GPT-4o แต่ตอนนั้นยังรองรับเพียงโหมดเสียงเท่านั้น ซึ่งล่าสุดตอนนี้ ผู้ใช้สามารถแชทกับ ChatGPT โดยใช้กล้องโทรศัพท์ และระบบจะเห็นเหมือนกับที่เราเห็นจริงแบบ real-time ได้
OpenAI จัดแคมเปญ 12 Days of OpenAI ที่จะออกมาให้ข้อมูลด้านต่างๆ ของบริษัท ซึ่งวันแรกเริ่มด้วยการปล่อยแพ็กเกจ ChatGPT Pro ในราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 6,800 บาท ซึ่งขยับราคาจากแพ็กเกจ Plus ไปสูงถึง 10 เท่า ที่จ่ายอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 680 บาท ราคาแรงขนาดนี้ ไปดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง
สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ใช้งาน ChatGPT ไปเจอกับเหตุการณ์ประหลาดเข้า เมื่อแช็ตบอตดันไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ เกี่ยวกับชื่อ ‘David Mayer’ เลย – ต่อมาประเด็นนี้ได้กลายเป็นหัวข้อไวรัลบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตพยายามหลอกล่อให้ ChatGPT เอ่ยนาม David Mayer ออกมาด้วยสารพัดวิธี แต่จบลงที่ความล้มเหลว ความอยากรู้อยากเห็นจึงยิ่งทวีคูณ ผู้คนต่างพากันสงสัยว่า บุคคลปริศนาผู้นี้คือใครกันแน่ บ้างก็เล่นมุกเชื่อมโยงกับลอร์ดโวลเดอมอร์ จากซีรีส์แฮร์รี พอตเตอร์
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับฟีเจอร์ ChatGPT Search ที่สามารถค้นหาข้อมูลบนเว็บได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งเราจะได้รับคำตอบที่รวดเร็วและทันท่วงที พร้อมลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลบนเว็บที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจจะต้องใช้ปลั๊กอินเสริมในการค้นหา แต่ตอนนี้จะรองรับอินเทอร์เฟซที่ใช้ภาษาแบบธรรมชาติ ทำให้สามารถแสดงผลการค้นหาที่ต้องมีการอัปเดตตลอด อย่างเช่น ผลกีฬา ข่าวสาร ราคาหุ้น และอื่น ๆ ได้สะดวกมากขึ้น โดย ChatGPT จะเลือกค้นหาข้อมูลบนเว็บตามสิ่งที่ถาม หรือค้นหาด้วยตนเองโดยคลิกไอคอนค้นหาบนเว็บ
ช่วงนี้ หลายๆ คนน่าจะเห็นคลิปคนคุยกับ AI เกลื่อนไปหมด เห็นแล้วอยากทำบ้าง แต่ไม่รู้จะทำยังไง เขาใช้แอปไหนกัน เราจะมาบอกให้ โดยแอปที่ใช้กัน คือ ChatGPT ซึ่งมีฟีเจอร์แช็ตด้วยเสียงขั้นสูง (AI Voice Generator) ที่มีการปล่อยให้ลองใช้กันมาสักพักแล้ว สะดวกตรงที่ไม่ต้องนั่งพิมพ์ให้เมื่อย แค่ถามสิ่งที่อยากรู้อยากไป AI ก็จะตอบกลับมาเป็นเสียง เหมือนเราคุยอยู่กับคนจริงๆ จะชวนคุยเรื่องต่างๆ หรือว่าจะฝึกภาษาก็สามารถทำได้
กระแส AI ที่กำลังบูมไปทั่วโลก ณ เวลานี้ เกิดจากพัฒนาการด้านการทดลอง งานวิจัย และบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งนอกจากการทุ่มแรงกายและแรงเงินเพื่อพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ให้ฉลาดขึ้นแล้ว ยังต้องทุ่มเทกับการโฆษณาเพื่อดึงความสนใจจากคนทั่วไป ให้เกิดการรับรู้ และความอยากที่จะใช้เหล่าสินค้าและบริการ AI ด้วย จนหลายครั้งกลายเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค เมื่อคำโอ้อวดคุณสมบัติของ AI จากบริษัทเหล่านี้ กลับไม่ใช่ความจริงของสินค้า
Elon Musk เจ้าพ่อ Tesla และเจ้าของโซเชียลดังอย่าง X ออกมาโพสต์แสดงความไม่พอใจกับ Apple หลังมีการประกาศว่าจะนำ ChatGPT มาช่วยเสริมการใช้งานฟีเจอร์ AI บน iOS 18 โดยได้ประกาศกร้าว หาก Apple นำ ChatGPT มาฝังในระดับ OS เจ้าตัวจะสั่งแบน ไม่อนุญาตให้พนักงานภายในบริษัทใช้งานอุปกรณ์ใด ๆ ของ Apple รวมถึงห้ามบุคคลภายนอกนำเข้ามาใช้งานในบริษัทด้วย
หลังจากที่มือถือฝั่ง Android เริ่มเดินเกมเพิ่มฟีเจอร์ AI บนสมาร์ทโฟนนำหน้า iPhone ไปหนึ่งก้าว รอบนี้ Apple ขอเป็นผู้ตาม เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ บน iOS ภายในงาน WWDC 2024 ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2024 นี้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการเปิดตัวก็ได้มีข่าวว่าฝั่ง Apple ได้ปิดดีลขอใช้แชตบอตจาก OpenAI เป็นที่เรียบร้อย และกำลังขอใช้ Google Gemini อยู่ด้วย พร้อมเผยฟีเจอร์ AI 10 อย่างที่จะเพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกด้วย
OpenAI เปิดตัวโมเดล Generative AI ตัวใหม่ล่าสุดในชื่อ GPT-4o ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่ต่อยอดมาจาก GPT-4 ตัวเดิม โดยตัว o ที่เติมเข้ามาในชื่อ ย่อมาจาก Omni ซึ่งเป็นการบอกว่าโมเดล AI ตัวนี้สามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งประมวลผล Prompt จากข้อความ, การพูด, ภาพ, วิดีโอ และเสีย โดยโมเดลใหม่นี้จะอัปเดตให้ทุกคนได้ใช้งานใน ChatGPT ได้ฟรีอีกด้วย
