Apple เตรียมเปิดต้ว iPhone 16 series วันที่ 10 กันยายนนี้ เวลา 00.00 น ตามเวลาในไทย (คืนวันที่ 9 เข้าวันที่ 10)ในรุ่นนี้แน่นอนว่าจะมาพร้อมกับ Apple Intelligence ที่เป็นจุดขายหลักของปีนี้ ล่าสุดเริ่มมีการพูดถึง iPhone 17 ที่ข่าวว่าจะมาพร้อม RAM ขนาด 12GB เพื่อรองรับฟีเจอร์ AI ในอนาคตที่มากกว่า iPhone 16 ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ RAM แค่ 8GB เท่านั้น
Apple เตรียมเปิดตัว iPhone 16 series ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ล่าสุด มีข่าวจากวงในว่า iPhone 16 อาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่อาจจะไปเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน iPhone 17 แทน เพราะล่าสุด Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่าใน iPhone 17 series อาจมีการเปิดตัวรุ่นที่มีความบางเป็นพิเศษ ซึ่งจะใช้ชื่อรุ่นว่า iPhone 17 Air เพื่อคั่นกลางระหว่าง iPhone 17 และ iPhone 17 Pro
Apple อาจเปลี่ยนไลน์อัปใหม่อีกครั้งใน iPhone 17 โดยคาดว่าจะมีการตัดรุ่นจอใหญ่ iPhone 17 Plus ออกไป และแทนที่ด้วยซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า iPhone 17 Slim โดยจะเน้นไปที่ดีไซน์ความบาง บางกว่าฮาร์ดแวร์ และคาดว่าจะทำลายสถิติ iPhone ที่บางที่สุดแทนที่ iPhone 6 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2014
Revegnus ทิปสเตอร์ชื่อดัง ปล่อยโรดแมปการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ในกรอบเวลา 5 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2023 จนถึง 2027 โดยอ้างอิงจากการคาดการณ์ของ Samsung Securities ที่เป็นบริษัทในเครือ Samsung Group พบมีอุปกรณ์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้ง iPhone SE 4 ที่แฟน ๆ รอคอยกันมานาน และไทม์ไลน์การเปลี่ยนผ่านจากจอ LCD ไปสู่ OLED ในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดดีไซน์ต้นแบบของ iPhone 16 Series หลุดออกมาถึง 3 แบบ ซึ่งในบางดีไซน์ก็มาพร้อมกับปุ่มใหม่ที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้ว่ามันมีไว้ใช้ทำอะไร Mark Gurman สื่อวงในของฝั่ง Apple ได้ออกมาเผยแล้วว่า ปุ่มที่ว่านี้มีชื่อว่า Capture Button ที่มีไว้เพื่อกดถ่ายภาพ และวิดีโอโดยตรง แถมล่าสุดยังมีข้อมูลลือไกลไปถึง iPhone 17 Pro Max ที่จะเปิดตัวในสองปีหน้าเลยด้วย
iPhone 15 ยังไม่ทันได้เปิดตัวดี ข่าวลือของ iPhone 17 Series ก็เริ่มมากันแล้ว โดยนักวิเคราะห์อย่าง Ross Young ได้เผยว่า iPhone 17 Pro Series จะมาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนหน้า Face ID ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอเป็นครั้งแรก ส่วนในฟากของ iPhone 17 และ iPhone 17 Plus ก็จะได้รับจอรีเฟรชเรทสูง 120Hz ด้วยเช่นกัน
มีข่าวออกมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้วว่าสหภาพยุโรปได้เสนอนโยบายให้อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบพกพาต้องใช้มาตรฐานชาร์จด้วย USB-C ร่วมกันได้ทั้งหมด และล่าสุดยังได้มีการโหวตจากรัฐสภายุโรปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวออกมาด้วย ซึ่งมีผลโหวตฝั่งที่เห็นด้วยแบบชนะขาดลอย โดยวางแผนว่าจะเริ่มใช้กฎหมายนี้แบบจริงจังภายในปลายปี 2024 นี้ค่ะ
