Xiaomi เคยผ่านการเปลี่ยนรูปแบบโลโก้มาครั้งนึงเมื่อปีช่วงเดือนมีนาคม 2021 โดยเปลี่ยนจากโลโก้ mi ที่มีกรอบสี่เหลี่ยมให้กลายเป็นโลโก้ที่มีกรอบสี่เหลี่ยมแบบมุมโค้งแทน และในปีนี้ Xiaomi ก็ขอเปลี่ยนดีไซน์โลโก้แบรนด์ตัวเองอีกรอบนึง คราวนี้ยังคงใช้กรอบมุมโค้งเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนจากการใช้สีส้ม-ขาวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันมาหลายปี หันไปใช้โลโก้สีดำ – ขาวแทนซะแล้ว
จากการสำรวจข้อมูลการตลาดมือถือทั่วโลกในปี 2021 จาก Canalys พบว่าเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ค่าย Apple กลับมาผงาดขึ้นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด คิดเป็น 22% ตามมาแบบหายใจรดต้นคอด้วยคู่แข่งอย่าง Samsung ที่ 20% และอันดับ 3 คือ Xiaomi ส่วนยอดการส่งออกมือถือทั่วโลกรวม ๆ แล้วแทบไม่กระเตื้อง จากผลกระทบชิปขาดแคลนและโรคระบาดที่ยังคงตามมาหลอกหลอนในหลาย ๆ ประเทศ
Xiaomi เปิดตัวมือถือ Redmi Note 11 Series ในจีนไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยมือถือซีรีส์นี้มากับสเปคแบบจัดเต็ม ทั้งการรองรับ 5G, หน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรทสูง, ชาร์จไว 120W และอื่น ๆ อีกเพียบ แต่เปิดราคามาได้แบบเป็นมิตรสุด ๆ เริ่มต้นที่ 1199 หยวน หรือราว ๆ 6,230 บาท ไปสุดที่ตัวท็อป 2299 หยวน หรือราว ๆ 12,000 เท่านั้นเอง ซึ่งหากว่าใครที่เล็ง ๆ มือถือซีรีส์นี้อยู่ ก็เตรียมเก็บเงินรอกันไว้เลย…เพราะ Xiaomi กำลังจะเปิดตัว Redmi Note 11 Series รุ่น Global ในวันที่ 26 มกราคมนี้แล้ว
เพิ่งผ่านปีใหม่มาไม่กี่วัน ล่าสุดทาง Xiaomi ก็ได้นำเอา Xiaomi 11i 5G และ 11i HyperCharge 5G มาเปิดตัวแล้ว ชูจุดเด่นที่ระบบชาร์จไว โดยตัว 11i 5G รุ่นธรรมดาจะมาพร้อมกับระบบชาร์จไวความเร็ว 67W ซึ่งก็ถือว่าเร็วมาก ๆ แล้วในตลาดสมาร์ทโฟน ณ ปัจจุบัน ทว่าตัว Hypercharge นี่จัดหนักจัดเต็มยิ่งกว่า รองรับสูงสุดถึง 120W ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ไป 100% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น
Xiaomi 12 Series สมาร์ทโฟนรุ่นแรก ๆ ของโลกที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 8 Gen 1 จาก Qualcomm ก็ได้ทำการเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอบนี้ขนมาทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 12X รุ่นเล็ก, Xiaomi 12 รุ่นธรรมดา และ Xiaomi 12 Pro รุ่นท็อปสุด โดยวันนี้ทีมงาน DroidSans จะมาเขียนบทความเปรียบเทียบสเปคของมือถือทั้ง 3 รุ่นให้เพื่อน ๆ ได้อ่านประกอบการตัดสินใจกันว่า สเปคแต่ละตัวเหมือนหรือต่างกันตรงไหน นิสัยการใช้งานแบบนี้เหมาะกับรุ่นไหน มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ
ไฮไลท์สำคัญในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi เมื่อวาน นอกจากสมาร์ทโฟนเรือธงสเปคแรง Mi 12, นาฬิกา Watch S และหูฟัง Buds 3 แล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่บนพื้นฐาน Android 12 อีกด้วยอย่าง MIUI 13 โดยจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ และระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนากว่าเดิม อีกทั้งในบทความนี้ยังมีรายชื่อมือถือที่จะได้รับอัปเดตเป็น MIUI 13 อีกด้วยกว่า 20 รุ่น
Xiaomi ไม่ได้เปิดตัวแค่มือถือเรือธง Xiaomi 12 Series และสมาร์ทวอทช์สุดหรู Xiaomi Watch S1 เท่านั้น แต่ยังมีหูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นใหม่อย่าง Xiaomi Buds 3 ออกมาเผยโฉมในงานเดียวกันนี้ด้วย โดยหูฟังรุ่นนี้น่าจะถูกใจคนชอบฟังเพลงคุณภาพสูงแน่นอน เพราะมันให้เสียงได้ในระดับ HiFi แถมยังมากับระบบตัดเสียงรบกวน ANC เพิ่มความดื่มด่ำให้กับเสียงดนตรีมากขึ้นไปอีก
Xiaomi เผยโฉมมือถือเรือธงเจเนอเรชันล่าสุดทีเดียว 3 รุ่นรวด นำโดย Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ที่มากับชิป Snapdragon 8 Gen 1 ตัวล่าสุดจาก Qualcomm เสริมทัพด้วย Xiaomi 12X ขุมพลัง Snapdragon 870 ซึ่งได้มีการนำ “สัดส่วนทองคำ” มาใช้ในการออกแบบ เพื่อให้ตัวเครื่องมีความสมดุลในทุกมิติ จับถือได้ง่ายด้วยมือเดียว ในขณะที่ด้านฮาร์ดแวร์มีการอัปเกรดที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งจอภาพ ระบบชาร์จ ระบบระบายความร้อน และอื่น ๆ
ภายในงานเปิดตัวมือถือ Xioami 12 Series ที่กำลังจะจัดขึ้นในจีนวันที่ 28 ธันวาคมนี้ มีการคาดการณ์ว่านอกจากจะเปิดตัวมือถือแล้ว ยังจะมีการเปิดตัว MIUI 13 (Android 12) เวอร์ชั่นสำหรับจีนด้วย และคาดว่าหลังจากนั้นอีกแป๊บเดียวก็จะเปิดตัว MIUI 13 เวอร์ชั่น Global สำหรับมือถือรุ่นที่ขายทั่วโลกต่อเลย ซึ่งทาง Xiaomi ก็ได้เผยรายชื่อของมือถือ Xiaomi, Redmi และ POCO รุ่นที่จะได้รับการอัปเดตในล็อตแรกออกมาแล้ว
เมื่อวานนี้พึ่งมีโปสเตอร์ที่ทาง Xiaomi ปล่อยออกมาเพื่อประกาศกำหนดการเปิดตัวของมือถือ Xiaomi 12 Series ออกมาหยก ๆ ผ่านมาแค่วันเดียว มีโปสเตอร์เผยโฉมหน้าของ Xiaomi 12 รุ่นธรรมดากับ Xiaomi 12 Pro มาให้เห็นกันต่อเลย แถมยังมีข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพชิป Snapdragon 8 Gen 1 ของรุ่น Pro ด้วยแอป Geekbench ที่มาโชว์ความแรงแบบสุด ๆ อีกต่างหาก
