เรียกได้ว่าไปไม่รอดจริง ๆ สำหรับบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศนอร์เวย์อย่าง Telenor ที่ได้ทำการขายกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด ให้กับบริษัท M1 Group สัญชาติเลบานอน ไปบริหารต่อเป็นมูลค่า 105 ล้านเหรียญ หรือตีเป็นเงินไทยแล้วราว 3,400 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่จำเป็นต้องขายก็เพราะบริษัทขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องและบริหารต่อไม่ไหวจากเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศพม่าแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น
สำหรับบริษัท Telenor ได้ลงทุนในประเทศพม่าไปตั้งแต่ปี 2014 ด้วยเม็ดเงินกว่า 5,300 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือราว 19,780 ล้านบาท ซึ่งหลังจากลงทุนไปก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถเปลี่ยนกระแสเงินสดในบริษัทเป็นบวกได้ในปี 2017 โดย Telenor ของพม่าได้จ่ายเงินปันผลไปกว่า 3,200 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือราว 11,900 ล้านบาท ดูจากตัวเลขแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นธุรกิจที่น่าจะเติบโตไปได้สวยในอนาคต อีกทั้งมีฐานลูกค้าอยู่ในมือกว่า 18 ล้านราย หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรในประเทศ
แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประเทศพม่าเกิดการรัฐประหารขึ้น ทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศย่ำแย่ลง จนในเดือนพฤษภาคมบริษัท Telenor ที่บริการในพม่าลงบัญชีขาดทุนไปกว่า 6,500 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือราว 24,250 ล้านบาท ทั้งจากหนี้สูญและบริการสัญญาณข้อมูลมือถือถูกจำกัดสิทธิ์ ทำให้บริษัทต้องขาดรายได้ไปมหาศาล รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของพนักงานบริษัทด้วย Telenor จึงจำเป็นต้องขายกิจการในประเทศพม่าทิ้งไปที่สุด
อย่างไรก็ตามบริษัท M1 Group ที่เข้ามาซื้อกิจการ Telenor ต่อนั้น ถือเป็นบริษัทที่อยู่ในบัญชีดำของ Burma Campaign UK (องค์กรอิสระที่คอยตรวจสอบธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศพม่า) ซึ่งระบุว่าบริษัท M1 Group มีหุ้นส่วนในบริษัทที่ให้เช่าสัญญาณกับกิจการของกองทัพพม่าด้วย ทำให้ไม่แปลกใจเท่าไรที่จู่ ๆ จะมีบริษัทสัญชาติเลบานอนจะเข้ามาซื้อดีลสุดคุ้มอันนี้ไปนั่นเองครับ
ที่มา : telenor, myanmar-now, reuters
เหตุผลจริงๆน่าจะเป็นเพราะโดนบังคับให้ดักข้อมูลลูกค้ามากกว่า เพราะตัวเองก็ลงทุนในหลายประเทศถ้ายอมทำตามรบพม่าน่าจะเสียความน่าเชื่อถือ ราคาที่ขายแอบถูกนะเทียบกับราคาคลื่นที่ประมูลกันในไทยนี่คนละเรื่องเลย