ปัจจุบันในบ้านเรานิยมค้า-ขายผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ทั้งนี้เพราะความสะดวกสบาย อยู่ที่ไหน เวลาไหนก็สามารถช้อปได้ ขายของได้แบบ 24 ชั่วโมง กันเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อน!! ขายดีก็ใช่ว่าจะกำไรเยอะหากไม่สามารถคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนสินค้า และค่าขนส่งซึ่งต้องบอกเลยว่าเข้าเนื้อกันมานักต่อนักแล้ว ล่าสุดไปรษณีย์ไทย จัดหนัก จัดเต็มเอาใจพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ด้วย อีโคโพสต์ (ECO-POST) ส่งของได้ถูกกว่าเดิม พร้อมเช็คสถานะของพัสดุได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ถ้าต้องการเช็คสถานะได้ต้องส่งแบบ EMS เท่านั้นซึ่งราคาก็จัดว่าสูงอยู่ หากจะส่งลงทะเบียนธรรมดาก็เช็คสถานะสินค้ายากอีก บริการ “อีโคโพสต์” (ECO-POST) เลยน่าสนใจมากๆ เพราะส่งของได้ในราคาที่ปรับลดค่าส่งลง พร้อมเช็คสถานะได้ 24 ชั่วโมง (ต้นทางและปลายทาง) แถมยังรับประกันกรณีของสูญหายหรือเสียหายสูงสุด 1,500 บาทอีกด้วย
โปรโมชั่นดังกล่าวจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 18 ธันวาคม 2561 – 31 มีนาคม 2562 รองรับตั้งแต่สินค้าชิ้นเล็ก 20 กรัมไปจนถึงสินค้าชิ้นใหญ่ที่ 10 กิโลกรัม โดยราคาโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 16 บาท และสูงสุดเพียง 160 บาทเท่านั้น และจะเริ่มใช้อัตราปกติตั้งแต่ 1 เมษาฯ เป็นต้นไป
อัตราค่าบริการ ECO-POST
อัตราค่าบริการ EMS
อัตราชดใช้ค่าเสียหาย EMS :
การชดใช้ค่าเสียหายในกรณีสูญหาย/เสียหายระหว่างการจัดส่งทางไปรษณีย์ตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกิน 2,000 บาท/ชิ้น ทั้งนี้ สามารถซื้อประกันเพิ่มได้สูงสุดถึง 50,000 บาท
เปรียบเทียบอัตราค่าบริการ ECO-POST และ จัดส่งแบบลงทะเบียน
จะเห็นได้ว่า “อีโคโพสต์” เป็นบริการใหม่ที่ตอบโจทย์และเหมาะกับพ่อค้า-แม้ค้าออนไลน์มากๆ เพราะช่วยให้ประหยัดต้นทุนค่าจัดส่งสินค้าและเพิ่มกำไรในการขายให้มากขึ้น (และแน่นอนว่าเพื่อต่อกรกับบริการส่งพัสดุเจ้าอื่นๆ ด้วย) โดยเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าขายสินค้าอีคอมเมิร์สให้เติบโตขึ้นได้อีกในปีหน้า
source : thailandpost.co.th
ขอให้อย่ามาแบบที่ผมเคยโดนบ่อยๆใน EMS นะ ยอก่าส่งแล้ว ไม่มีของมา โทรไปถามมีการบอกว่า จะส่งพรุ่งนี้ แล้วใส่ว่าส่งแล้วได้ไง??? อีกอันนึงคือ ขึ้นว่าส่งไม่ได้ ที่บ้านมีคนอยู่ทุกวัน แต่ขึ้นว่าส่งไม่ได้ ผมรับของเจ้า สีส้มไม่เคยเจอแบบนี้เลย จะน่าเบื่อกว่าตรงที่ต้องโทรมาถามทางเข้าบ้านทุกครั้งที่มีของส่ง แต่ความแน่นนอนนี่มากกว่าชัดเจนมาก (จริงๆให้คนขับทุกคนใช้ Google Map ก็จบแล้วป่ะ ให้ผมใส่พิกัด กับรูปถ่ายหน้าบ้านไว้เลยก็ได้)
คำถามหลัก ที่ทาง ปณ ยังไม่ยอมแจ้งคือ
การจัดส่ง จัดเป็นหมวดเร็ว พิเศษ แบบ ems หรือเปล่า
หรือแค่แบบเดียวกับการส่งลงทะเบียน แต่เพิ่มการเช็คสถานะได้ เพิ่มมาเฉยๆ
กลัวค่าส่งถูก แล้วจะบวกวันเพิ่ม แต่ถ้าเป็นแบบ ถึงในวันถัดไปแบบ ems ในราคาถูกลง ถือว่าเยี่ยมเลย
ดูจากราคาน่าจะเร็วกว่าลงทะเบียนนะครับ (25-160 บาท ใกล้เคียงกับ EMS มาก)
ระยะเวลาแบบเดียวกับลงทะเบียน / ไม่มีรับประกันระยะเวลาการจัดส่ง ใช้ระบบตามใจคนส่งว่าว่างตอนไหน ภายใน 7 วัน ทำการ max / ถึงจัดส่งช้ากว่านั้น ก็ก้มหน้ารับกรรมไป ไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้ ( ems ถ้าเกินกำหนดระยะเวลาการส่ง ทำเรื่องร้องเรียน ให้กระตุกที่ง ปณ ได้ และขอคืนค่าส่งได้)
เอาราคาไปเทียบกับ ems
แต่เอาบริการมาเทียบกับแบบลงทะเบียน
ขนาดบริการ ems ยังร้องยี้ แล้วจะกล้าไว้ใจตัวนี้ได้ยังไง
ปรับทัพสู้บริษัทอื่นที่เกิดกันมาเป็นดอกเห็ด
ทั้ง Kerry เดิม เพิ่มเติมคือ ไทยรัฐ SCG Lalamove Lineman TNT
และอื่นๆอีกมากมาย
ให้ดีแค่ไหนก็ไม่เอาแล้วครับ EMS ไทย เข็ดจนวันตาย
.
ประสบการณ์ตรง ส่งของไปประเทศจีน นน. เกือบ 30กก. ค่าส่ง EMS 3,500 บาท แค่ข้างในราคาไม่ถึงพัน เพราะลูกค้าต้องการอะไหล่ชุดนี้มาก แถมเป็นลูกค้าประจำและต้องรีบใช้ของภายในหนึ่งเดือน ไอ้เราก็คิดว่า EMS น่าจะดีกว่าของเอกชน
.
เกือบสามอาทิตย์ลูกค้ายังไม่ได้ของ (ลูกค้าอยู่เซี่ยงไฮ้) โทรมาจิกว่าทำไมยังไม่ได้ของ ไอ้เราก็แปลกใจว่าทำไมของยังไม่ถึง ลอง Tracking ดู กลายเป็นว่า ของยังอยู่ที่ด่านสุวรรณภูมิ ถามไปก็ตอบอย่างเดียวว่ายังไม่ทราบข้อมูล เช็คไม่ได้ คือเอาง่ายๆ เค้าก็เช็คผ่านหน้า Web เหมือนเราหน่ะและ ไม่สามารถเช็คแบบอื่นได้แล้ว แถมต้องรออีกเดือนถึงจะรู้ผล ฟวรยยยยยยยเหอะ ด่าไปว่าแล้วจะให้ทำยังไง ลูกค้าก็ต้องรีบใช้สินค้า ตอบอย่างเดียวว่าไม่ทราบต้องรอหัวหน้าก่อน
.
ตัดปัญหา ส่งของไปอีกรอบเพราะเหลือเวลาแค่ 6 วัน คราวนี้ใช้ขนส่งเอกชน ทางบริษัท การันตีว่า ถึงมือภายใน 1-2 วัน แถมถูกกว่า EMS ไทยอีก เรียบร้อยครับ ถึงมือลูกค้า ภายในวันครึ่ง
.
ส่งของได้ปุ๊บ ทำเรื่องร้องเรียนขอเงินคืนทั้งค่าสินค้าและค่าส่ง ใช้เวลาเกือบสามเดือนถึงได้คืน
ไม่ใช้แล้วจ้าไปรษณีย์ไทย
อยากให้เจ้ง จะได้จบ ๆ ตกงานกันไปเถอะ
ดิ้นสู้เคอรี่สุดฤทธิ์ อุดรนี่เคอรี่ครองเมือง
ยังไง ปณ ก็ไปไม่รอด ต้นทุนการบริหารงานต่างกับ kerry ลิบลับเลย จ้างพนักงาน ปณ แก่ๆทำงานเช้าชามเย็นชาม 1คนแพงกว่าจ้างพนักงาน kerry สาขาเล็กๆทั้งสาขาซะอีก กำไรก็ไม่มี บริการห่วย ไม่ง้อลูกค้า พนักงานทำงานแบบไม่กลัวองค์กรเจ๊ง เพราะยังไงๆจะขาดทุนแค่ไหนก็ได้เงินภาษีมาช่วยจ่ายเงินเดือนอยู่ดี ยุบหรือขายให้เอกชนไปเถอะ อยู่ไปก็เปลืองภาษีเปล่าๆ
ไม่ขาดทุนมานานแล้วครับ
ไม่ได้ใช้เงินภาษีด้วย กำไรหลายพันล้าน ส่งเข้าภาครัฐเกือบ 90% ทุกปีครับ
ไม่เคยขอภาษีจากภาครัฐมาใช้เลย
อยากให้มองไปรษณีย์ใหม่ด้วยครับ
อ่านไปอ่านมา ดูเหมือนว่าจะยกเลิกการส่งกล่องพัสดุในแบบลงทะเบียน
บังคับให้ใช้แบบอีโคโพสต์แทน
ราคาก็น่าจะแพงขึ้นด้วย(พ้นช่วงแนะนำ)
อยากจะบอกว่า ไปรษณีย์ไม่ขาดทุนมานานแล้วครับ
ส่งรายได้เข้าภาครัฐตลอด ไม่เคยขอเงินภาษีจากภาครัฐเลย
อยู่ได้ด้วยตัวเองมานานแล้วครับ
อยากให้มองใหม่ด้วยครับ