นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินทัช ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หนึ่งในผู้ชนะการประมูล แสดงท่าทีพร้อมดำเนินการตามมาตราการด้านกม.เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทบนความมั่นใจว่าขั้นตอนการประมูลทั้งหมดได้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับ กสทช. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ 2553
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประมูล 3G ทั้ง 3 ราย ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีการสมรู้ร่วมคิดหรือการฮั้วใด ๆ ในขั้นตอนการประมูล โดยแม้จะมีกระแสข่าวว่าพบหลักฐานการฮั้วประมูล แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้วนไม่มีการดำเนินการใดๆ มีเพียงการกล่าวลอยๆ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม และเพื่อความยุติธรรม ในเมื่อ 3G IM (หนังสือชี้ชวนการลงทุนสำหรับการประมูลใบอนุญาต 3G) ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ กสทช. ต้องดำเนินการตามขั้นตอนการประมูลอย่างจริงจัง ซึ่งหาก กสทช. ละเลยไม่สนใจดำเนินการ กสทช. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมก็จะมีความผิดตามกฏหมายเหมือนกัน
นายสมประสงค์ยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไมก่อนหน้านี้ จึงไม่มีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง 3G IM ทั้งที่ร่างดังกล่าวถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของ กสทช. เป็นเวลาหลายเดือน แต่ตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวทั้งหลายกลับเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาและการประมูลจบลงเรียบร้อย
สิ่งหนึ่งที่ถือไม่เป็นธรรมกับบริษัทเอกชนอย่างชัดเจน คือกรณีที่คณะกรรมาธิการวุฒิสภาเรียก 3 ผู้ชนะการประมูลเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 25 ต.ค. เพื่อพิจารณาว่าการประมูล 3G นั้นถูกดำเนินการเพื่อสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมและถูกต้องแท้จริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่ากรรมาธิการวุฒิสภา ได้ยื่นเรื่องไปยังป.ป.ช.แล้วก่อนหน้านั้น 1 วันคือในวันที่ 24 ต.ค.โดยตั้งข้อสังเกตว่าการประมูลที่เกิดขึ้นอาจมีการสมรู้ร่วมคิดหรือฮั้วราคาโดยผิดกฎหมาย รวมถึงอาจละเมิดกฎหมายการจัดซื้อของรัฐ ก่อนที่จะรับฟังข้อมูลจาก 3 ผู้ชนะการประมูลด้วยซ้ำ
‘ทำไมกรรมการเหล่านั้นแสดงความเห็นต่อต้านการออกแบบวิธีการประมูลล่าช้า แต่กลับเร่งรีบที่จะยื่นคำร้อง จนไม่สามารถรอรับฟังข้อมูลที่ชัดเจนได้ แบบนี้เรียกว่าอคติหรือไม่’ นายสมประสงค์กล่าว
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/Vi…word=%A1%B7%A4