1. ถอดแบตเปลี่ยนไม่ได้ แต่ยังใส่เมมเพิ่มได้ ( Micro SD Card )

2. ไม่ได้กันน้ำกันฝุ่นตามมาตราฐาน IP67 เหมือนกับ Samsung Galaxy S5

3. Ultra Power Saving ของ Samsung Galaxy Tab S รุ่น 10.1 อยู่ได้นานสูงสุด 25 วัน และ 8.4 นานสูงสุด 19 วัน

4. มีฟีเจอร์ ดาวน์โหลดบูตเตอร์ (Download Booster) ทั้ง Tab S 8.4 และ Tab S 10.5 (มีข่าวมาว่า Note3 รุ่น LTE กำลังมีฟีเจอร์นี้เหมือนกัน http://www.sammobile.com/2014/06/30/international-galaxy-note-3-sm-n9005-gets-update-with-download-booster-kids-mode/ )

5. มีแอพ WebEX, Remote PC, Hancom Office ที่เหมือนกับ Note Pro โดยเฉพาะ Hancom Office นั้น สามารถทำงานได้เหมือน Microsoft Office รูปแบบมายังไง ก็อ่านไฟล์ได้ไม่ผิดเพี้ยน แก้ไข เพิ่มเติม และบันทึก สลับกับการใช้งานใน Microsoft Office ได้สะดวกสบาย ซึ่งรุ่นที่ออกก่อนหน้านี้คือ Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) ไม่มีครับ

6. เป็น Tablet ที่บางและเบาที่สุดในโลก เมื่อเทียบขนาดหน้าจอที่ใกล้เคียงกัน

7. มี wifi mimo หรือเรียกว่า wifi สองเสา (Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, MIMO) ซึ่งในมือถือตระกูล Samsung มีเพียงรุ่น Galaxy S5 และ Galaxy NotePro เท่านั้น (ที่มีในเมืองไทย) ซึ่งใน iPad Air คู่แข่งมาตราฐานมีถึงแค่ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n ยังไม่มี ac

8. ความจุมีเพียงรุ่น 16GB เท่านั้น

9. สีที่มีจำหน่ายในตอนแรก รุ่น 8.4 มีเฉพาะสีขาว และรุ่น 10.5 มีเฉพาะสีดำ

10. SideSync 3.0 ที่เคยมีเฉพาะใน Note Pro และ Tab 4 ตอนนี้มีใน Tab S ทั้งรุ่น 8.4 และ 10.5 แต่ต้องบอกก่อนว่าถ้าอนาคต Note 10.1 (2014 Edition) อัพเดทเป็น Android 4.4 ก็จะสามารถใช้แอพนี้ได้เช่นกัน (ปัจจุบัน Note 10.1 รุ่นแรกก็อัพเดท Android 4.4.2 แล้วแต่ยังไม่รู้ว่าสามารถใช้ SideSync 3.0 ได้หรือไม่?) http://www.samsung.com/th/support/convergence/sidesync/

11. เครื่องสามารถอ่านไฟล์วิดิโอสูงกว่า FullHD 1080P หรือขนาด WQHD (2560 x 1440) @30fps ที่ส่งมาจากเครื่อง Galaxy Note3 LTE และ Galaxy S5 แต่ตัวเครื่อง Tab S ทั้งสองรุ่นบันทึกวิดิโอได้ FHD (1920 x 1080) @30fps

12. กล้องถ่ายรูปทั้งหน้าหลัง เหมือน Samsung Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) และ Samsung Galaxy Note Pro ทุกประการ รวมถึงฟีเจอร์กล้องด้วย

13. Tab S 10.5 แบตเตอร์รี่น้อยกว่ารุ่น Note 10.1 (2014 Edition) เล็กน้อย เนื่องจากความบางของตัวเครื่อง

14. สายชาร์ตยังคงเป็น USB 2.0 สำหรับรุ่น 8.4 ใช้เวลาชาร์ตประมาณ 3 ชั่วโมงแบตถึงเต็ม และรุ่น 10.5 ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงแบตถึงเต็ม

15. ด้วยหน้าจอ AMOLET หากเราใช้พื้นโทนสีดำจะทำให้พื้นบริเวณสีดำไม่แสดงสีออกมา ทำให้ประหยัดแบต หากเราใช้ Wallpaper โทนสีดำ โปรแกรมทั้งหมดเป็นโทนสีดำ จะทำให้เครื่องประหยัดแบตเตอร์รี่ได้เยอะมากๆ (จึงมีโหมดขาวดำ หรือ Ultra Power Saving ยังไงละ)

16. วัสดุด้านหลังที่ดูคล้ายหนังเทียม ความจริงแล้วเป็นพลาสติกปั๊มลาย แน่นอนว่าเลอะยาก และเกิดรอยยากกว่าหนังจริงๆ (ไม่เหม็นเหมือนหนังจริงด้วย)

17. แอพ Group Play ยังไม่สามารถเล่นวิดิโอแบบหน้าจอต่อๆ กันได้เหมือนกับ Galaxy Note 3 และ Galaxy S5 (ถ้าได้นะ เอามาต่อกัน 5 เครื่องนี่อลังการมากๆ)

18. ปุ่ม Option แบบใน Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) หายไป กลายเป็นปุ่ม Native App เหมือนกับ Galaxy Note Pro และ Galaxy Tab 4 แทน

19. เวลาโทรศัพท์ Galaxy Tab S 8.4 แนบหูโทรได้เหมือนกับรุ่น Galaxy Tab4 8.0 แต่รุ่น Galaxy Tab S 10.4 เวลารับโทรศัพท์จะต้องตะโกนคุยกันเพราะออกลำโพง

20. ที่บอกว่า CPU Exynos Octa Core ความจริงแล้วใช้รุ่น Exynos 5420 รุ่นเดียวกับ Galaxy Note 3 รุ่น 3G, Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) และ Galaxy Note Pro http://www.samsung.com/global/business/semiconductor/minisite/Exynos/products5octa_5420.html

สเปคโดยละเอียดของ CPU คือ

CPU    ARM® Cortex™-A15 Quad 1.9GHz/Cortex™-A7 Quad 1.3GHz

GPU    Mali™-T628 MP6

Memory    2 LPDDR3e 933MHz (14.9GB/s memory bandwidth)

Display    WQXGA (2560 x 1600) with MIC(Mobile Image Compression)

แต่กลับมี 4G เพราะใช้เสาของ Intel XMM7160 (Blogger ท่านนี้ได้กล่าวไว้ https://www.facebook.com/papayatop )

แถมอีก 5 เรื่อง

1: ในกล่องมีหูฟังแถมมาให้ (ยังไม่ทราบรุ่นว่าใช่รุ่นเดียวกับ Galaxy S5 หรือไม่ ถ้าใช่ เสียงจะใส กว้างและเบสดีกว่ารุ่น S4, Note3)

2: SIM ใช้ Micro SIM เหมือนกับรุ่น Galaxy S3 – S5 ส่วน iPhone 5 ขึ้นไป และ iPad Mini, iPad Air ใช้ Nano Sim ใครย้ายจากรุ่นไหนมาเช็ค SIM ให้ดี

3: รองรับ Micro SIM สูงถึง 128 GB ตอนนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 3500 – 4900 บาทครับ (อิงจาก http://www.tohome.com/product_detail.aspx?product_id=20140500247 )

4: นอกจากเคสราคาแพง ที่เป็นแบบสูญญากาศแล้ว ยังมีแป้นพิมพ์ที่ทำขึ้นเฉพาะรุ่น Tab S เข้าไปดูรูปได้ที่นี่ http://www.samsung.com/th/galaxytabs/accessory_bk.html

5: จากการประเมินเมื่อเทียบกับ Galaxy Note 8.0 ราคาคงลงยากพอกัน ไม่ต้องรอโปรไหนให้ลดราคา ถ้าคิดว่าได้ใช้ ซื้อไปเลยก็แล้วกัน ส่วนพวกที่บอกรอรุ่น Note ให้มีปากกา ผมเชื่อว่าท่านก็ไม่ค่อยได้ควักปากกามาใช้ ถ้าอยากใช้งานเอกสารแต่เงินมีไม่ถึง 24,900 บาท เพื่อซึ่ง NotePro และไม่อยากแบกจอใหญ่กว่านี้ แนะนำ Tab S 8.4 ราคา 16,900 บาท คุ้มที่สุด ถ้าชอบดูหนังผ่านคลิบยูทูปค่อยอัพเป็น Tab S 10.5 แล้วถ้าอยากหาวิดิโอมาดูได้เยอะๆ โดยไม่เปลือง 3G แนะนำแอพ http://www.tubemate.net สามารถดาวน์โหลดคลิบ youtube ใส่ใน tablet android ได้ครับ

Credit : pantip