ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เป็นกูรูหรือช่างที่เก่งกาจอะไร
แต่เป็นเพราะชอบเทคโนโลยี
โดยเฉพาะเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือที่นับวันยิ่งมีอะไรแปลกใหม่มาให้ได้ใช้มากมาย
และยังมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และราคาทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์อินเตอร์ที่ประดังเข้ามามากมายเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดในบ้านเรายิ่งช่วงหลังๆ
นี่ นอกจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย (ทั้งได้ใช้จริงบ้าง ไม่ได้ใช้บ้าง) แล้ว
อีกปัจจัยที่เป็นตัวแปรและหลักการซื้อโทรศัพท์มือถือซักเครื่องเลยคือ ราคา (เบี้ยน้อยแบบคนเขียนก็ดูงบในกระเป๋าเป็นหลักแบบนี้แหละ
อิๆ) วันแม่พอดี เลยได้โอกาสซื้อเป็นของขวัญให้แม่ซะเลย
เพราะขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ๋ ไม่เล็กจนเกินไป
เหมาะมือมาก สัมผัสแรกที่จับ ไม่ต่างอะไรจาก Zenfone ซีรี่ส์อื่นๆเท่าไร
เพราะวัสดุและรูปทรงเหมือน Zenfone 4 ฟิวชั่นกับ Zenfone 5 แค่ขนาดหน้าจอที่อยู่ระหว่างทั้งสองรุ่น
คือ 4.5 นิ้ว แต่ชอบที่มันกระชับมือดี
เพราะไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป วัสดุทำได้ดีตามสไตล์ของ Zenfone
ด้านหน้าเหมือนกันเด๊ะ มีกล้องหน้าเป็น VGA มี LED
Notification ด้วยนะเออ ว๊า….. ไม่มี light sensor นะจ๊ะ เอ๊ะ!!
ปุ่มทั้งสามก็ไม่มีไฟมาให้
ว๊า…แย่จุง
ฝาหลังแอบก๊องแก๊งนิดหน่อยเหมือน Zenfone 4 แต่มีไฟฉาย เอ้ย Flash มาให้ด้วย เย้!!!
ด้านล่างเป็นลำโพง
เสียงดังใช้ได้ (ดังกว่า Zenfone 5 ที่เสียงไม่สมกับตัวเท่าไร)
ด้านบนก็เหมือนเดิม มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
ด้านซ้ายเรียบๆ ไม่มีอะไรเลย
ด้านขวา มีปุ๋ม Power/Lock หน้าจอ (ไม่ก๊องแก๊งหลวมๆ เหมือน ZENFONE
4 ตัวเก่า) ถัดลงมาเป็น + – เสียง เป็น
Shutter เหมือนเข้าโหมดกล้องได้ด้วยนะ
ด้านล่างเป็น USB ไว้ชาร์จไฟ หรือต่อ USB กับเครื่องคอมพิวเตอร์
แกะฝาหลังมาเหมือน ZENFONE 5 เลย เป็น 2 ซิม 3G
ทุกค่าย
ทั้งสองช่องจ้า ช่องใส่ SD Card อยู่ด้านบนขวา
สรุปเรื่องการออกแบบ เหมือน ZENFONE 5 ย่อขนาดลงมาเหลือ
4.5 นิ้ว โดยมีสเป็คและฟังก์ชั่นอื่นๆ เหมือน ZENFONE 4 แต่บอกเลยว่าคงถูกใจหลายคน
CPU เท่าตัว ZENFONE 4 ตัวเก่าเลยนะ เป็นDual-Core
Intel Atom Z2520 1.2 GHz
OS Android 4.4 Kitkat
ZENFONE 4 ใหม่นี้มาพร้อมกับ Android 4.4 เลยนะแจ๊ะ
ส่วนตัวที่ใช้ รู้สึกว่ามันลื่นขึ้น และช่วยประหยัดพลังงานขึ้นอีกหน่อย
Storage & Application
RAM 1 GB ROM 8GB (ใช้งานจริงได้ 4.5 GB) ไม่พอสำหรับเราที่ชอบเอาช้าง
ม้า วัว ควาย และความบันเทิงทั้งหลายแหล่ อาทิ ไฟล์เพลง ไฟล์มิวสิควีดิโอซักเท่าไร
แต่แปลก RAM 1 GB นี่เอาอยู่นะ สามารถใช้งาน app หลายๆตัวพร้อมกันแล้วไม่แฮงค์หรือค้าง
ยกเว้นเปิด app ไว้เยอะแล้วเล่นเกมนะ (เล่น BF แล้วมีอาการกระตุกดุ๊กดิ๊กบ้าง
แต่ไม่แฮงค์ เกมแรงๆ ไม่ได้ลงเพราะเล่นไม่เป็น)
พื้นที่ลง App สบายหายห่วง เพราะมีพื้นที่ตามขนาดของ ROM
และย้ายลง
SD Card ได้ด้วย
มี application พื้นฐานมาค่อนข้างครบ เช่น File Manager
Flashlight FM Radio Quick Memo SuperNote ก็เลยสบายไปสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นอะไรมาก
แต่ที่ชอบคือ What’s Next กับ Do it later นะ
เพราะเป็นคนขี้ลืม หากคนที่มีธุระหรืองานเยอะๆ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลยแหละ
เล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน่วงหรือแฮงค์ แต่เกมโหดๆ
กินทรัพยากรเครื่องมากๆ ไม่น่าจะเหมาะเท่าไร
UI :
Zen UI ออกแบบมาให้เรียบง่าย ใช้งานได้ง่าย ดูสบายตาดี และลื่นไหลดีด้วย
ตรงนี้ชมว่า Asus ทำมาดีจริงๆ
ตอนเป็นน้อง ZENFONE 4 ตัวเก่าหน้าจอบอกเลยว่าค่อนข้างธรรมดาแถมมืดๆ
ด้วย (แต่ก็นะตามราคา) ส่วน ZENFONE 4 ใหม่นี้ หน้าจอดีขึ้นกว่าเก่านะ
แต่เพราะหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 4.5 นิ้ว บวกกับการเปลี่ยนจาก TFT LCD มาเป็น
IPS ดูดีขึ้นเยอะ
แต่ก็ยังมืดๆ นะ เพราะตอนมาเทียบกับ ZENFONE 5 ความสว่างผิดกันลิบลับ
แต่สรุปแล้ว ดีกว่าตัวเก่าเยอะ
เสียง
ลำโพงเสียงให้เสียงดังสมตัวดี เปิดสุดก็ไม่เห็นว่าเสียงจะแตกนะ
เป็นโทนกลางๆ ไม่ใสมาก มีเบสนิดๆ เสียงดังกว่า ZENFONE 5 แล้วกัน 555
ลำโพงสนทนา รุ่นนี้เหมือนมีการปรับปรุงมา
เพราะไม่มีเสียงแตกระหว่างคุยโทรศัพท์แล้ว (รุ่นเก่า ZENFONE 4/5 มีเสียงแตกระหว่างพูดสาย)
ดังชัดเจนดี
Asus กลัวว่าคนฟังเพลงจะกร่อยเลยให้
Audiowizard มาด้วย เพื่อช่วยให้เสียงดีขึ้นมาก
แต่ก็บอกไว้ก่อนว่าดีขึ้นแต่ก็ไม่เท่าระดับรุ่นท๊อปๆ นะ ณ
จุดนี้แก้ได้ด้วยการใช้หูฟังดีดีช่วย เสียงจะนิ่ม ทุ้ม กังวาล ชวนฝันขึ้นเยอะเลย
สำหรับหูเทพเชิญผ่านนะจ๊ะ
กล้อง
กล้องหลัง : อันนี้ฟินไปเลย เพราะเพิ่มความละเอียดมาเป็น 8MP
แถมมีไฟแฟลชอีกด้วย
และไม่พอ ยังมี pixel master เหมือน ZENFONE 5 ด้วย
คุณภาพของภาพถ่ายก็อยู่ในระดับดี แต่บางครั้งแสงมันเวอร์ๆ ไปนิดนะ ไม่เป็นไร
ขาวโอโม่ อิๆ
ถ่ายแบบโหมด Auto
ถ่ายแบบหลังละลาย
ภาพถ่ายในสภาวะแสงเพียงพอ ภาพที่ออกมาคุณภาพและสีสันดีเลย
สีไม่สดมากหรือจืดจนเกินไป ถ่ายภาพก็โฟกัสได้ไว ไม่ค่อยหลุด
ภาพถ่ายกลางคืนบ้าง
ภาพถ่ายตอนแสงน้อยก็ทำได้ดี แต่รู้สึกว่านอยส์จะเยอะไปนิดนึง
ถ่ายกลางคืนแบบมีไฟห้องไม่เปิดแฟลช
ถ่ายแบบปิดไฟเปิดโหมดนกฮูก (อิๆ)
ถ่ายแบบปิดไฟ เปิดแฟลช ZENFONE4 ไฟแฟลช
ค่อนข้างแรงดีนะ หรือเพราะบวกกับ pixel master ด้วย
ภาพที่ใช้แฟลชเลยสว่างวาบไปหน่อย
ส่วนภาพนี้เป็นแบบปิดไฟ เปิดแฟลชของ ZENFONE5
แต่ถ้าในที่มืดมากๆ แล้วต้องถ่ายรูปโดยใช้แฟลช
เหมือนระบบยังทำการวัดแสงไม่ได้ หากเป็นภาพวัตถุระยะใกล้และกลางๆ
ภาพจะออกมาสว่างมาก ขนบางครั้งขาวไปเลย
สรุป ทั่วไปภาพที่ถ่ายออกมาคุณภาพดีขึ้นมาก โฟกัสไว
แม่นขึ้นและไม่ค่อยหลุดโฟกัส ยกเว้นเรื่องถ่ายโดยใช้แฟลชในที่มืดนี่แหละ
กล้องหน้า : ขอผ่าน เพราะไม่เวิร์คเท่าไร น่าจะให้มาซัก 1.3
MP ก็ยังดี
แบตเตอรี่ 1,750 mlh
เท่าที่ใช้ หากเป็นวันที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์โหดมาก 8.30 น.
เช้าก่อนไปทำงาน 100% ฟังเพลงตอนไปทำงาน ประมาณ 30 นาที เปิด 3G ไว้ตลอด
โทรนิดหน่อยประมาณ 1 ชม. เล่นเกมเบาๆ ตอนเ ย็นๆ 18.00 น. ก่อนกลับบ้าน เหลือประมาณ 20% นิดๆ
ถือว่ารอดแบบหวุดหวิด
แต่ถ้าวันที่งานยุ่งๆ
ใช้หนักๆ 8.30 น. เช้าก่อนไปทำงาน 100%
ฟังเพลงตอนไปทำงานประมาณ 30 นาที เปิด 3G ไว้ตลอด
โทรเข้า-ออกบ่อยๆ เล่นเกมเบาๆ
ตอนพักเที่ยง ตอนบ่ายๆ ประมาณ 14.00
น. แบตก็จะแดงร้องเตือนแล้วว่าเหลือ 20% แล้วจ้า
ชาร์จไฟนู๋ด้วยจ้า
สรุป Battery ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ดูเหมือน KitKat มีส่วนช่วย
แต่ถ้าออกไปข้างนอกจะให้รอดทั้งวันพก power bank ด้วยก็ดีนะ
รายละเอียดหรือฟังก์ชันปลีกย่อยอื่นๆ ขอข้ามนะ เพราะก็เหมือนๆ ZENFONE4
เลย
แต่โดยส่วนตัวจากการที่ได้ลองใช้ก็ประทับใจกับ ZENFONE 4 ตัวใหม่พอสมควรเลยทีเดียว
โดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับราคาแล้ว คุ้มสุดๆ เพราะถือว่าอัดสเปคมาได้ล้นราคามาก
เหมาะสำหรับคนที่งบน้อย หรือเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ smart phone จริงๆ
สำหรับจุดอ่อนบางจุดนั้นต้องยอมรับว่ามองข้ามไปเลย เพราะว่าด้วยราคาเพียงไม่ถึง 4,000 บาท
แต่ได้โทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชันครบครัน เพียงพอต่อการใช้งานของใครหลายๆ
คนเลยทีเดียว
จุดเด่น
–
ราคาเป็นมิตรต่อทุกคน
–
กล้อง 8MP + Pixel Master และไฟแฟลชทำให้เป็นโทรศัพท์มือถือกล้องคุณภาพดีมากอีก 1 รุ่นในตลาดระดับล่าง-กลาง
–
เป็น KitKat ตั้งแต่เกิด
–
2 ซิม 3G ทุกค่าย
–
จอขนาดใหญ่ขึ้น ภาพสวยขึ้น ดูดีขึ้น
จุดสังเกตุ
–
แบตฯ ถอดเปลี่ยนไม่ได้
–
จอจะสว่างน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆยี่ห้อ
–
ไฟแฟลชดูเหมือนจะมีปัญหาในการถ่ายภาพในที่มืด
(น่าจะเป็นที่ firmware ที่ยังไม่สมบูรณ์)
–
หาซื้อยาก (แหะๆ ส่วนตัวหน่อย)
วันนี้ก็ขอจบการรีวิวแบบบ้านๆ ตามประสาคนเห่อของถูก คราวหน้า
จะมารีวิว Asus Zenfone 5 4G LTE ให้ได้ยลกันนะ
(ขอดูราคาว่าสามารถซื้อได้ป่าวนะฮ๊ะ) และถ้ามีโอกาส
จะมารีวิวเครื่องรุ่น/ยี่ห้ออื่นๆ
ให้ทุกท่านได้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจซื้ออีกในโอกาสหน้า
สำหรับครั้งนี้หากตกหล่นอะไรไป ขออภัยสำหรับมือใหม่ด้วยนะ แล้วเจอกัน^^
เพิ่งซื้อมาได้ไม่กี่วัน
เห็นด้วยตามข้างต้นครับ
คือเห็นมันเหมือนๆ กับ Zenfone 5 ย่อส่วนอะนะ แต่บอกเลยว่าอย่าไปเทียบกันเชียว (คือส่วนต่าง 2000 เนี่ยมันได้กับอะไรที่ดีกว่าทุกอย่างจริงๆ แต่พอดีงบผมมันจำกัดแค่ 4.5 เลยต้องเอาตัวนี้) ที่ผมเซ็งที่สุดก็เรื่องหน้าจอนี่แหละ จะมืดไปไหน! (Zen 5 ของแม่ปรับต่ำสุดเท่ากับ 4.5 ผมปรับประมาณเกือบๆ ครึ่ง – -)