คำถามถึง… กมธ.วุฒิฯ
เรื่อง3จี… ที่ต้องตอบ

หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน
หน้า 5 คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์วันหยุด

เรื่องราวของมหากาพย์ 3จี ยังไม่จบ… หลายฝ่ายก็ตั้งหน้าตั้งตาลุ้นและรอกันต่อไป… 2 ประเด็นใหญ่ตอนนี้ คือ… การเคลื่อนไหวของผู้ตรวจการแผ่นดิน.. ซึ่งศาลปกครองบอกว่าจะรับคำฟ้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่… และการเคลื่อนไหวของคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภา…

ระหว่างรอศาลฯ… ลองมาดูจังหวะการขยับของ กมธ.วุฒิสภาชุดนี้ดูว่าเป็นไง… เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2555 วันที่ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติรับรองผลการประมูลคลื่น 3จี… น.ส.บุญยืน ศิริวรรณ ได้ยื่นคำร้องต่อ กมธ.ชุดดังกล่าวทันทีว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนและเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ… และนายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา เป็นประธาน… ก็ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า… การกระทำของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ส่อไปในทางไม่โปร่งใส ขัดต่อ พ.ร.บ.ฮั้ว…

หลายคนได้ฟังแล้วก็สงสัยและมีคำถามทันทีว่า… แล้วทาง กมธ. ได้มีการสอบสวนตรงสอบข้อเท็จจริงแล้วหรือ… ทำไมออกมาพูดว่าผู้ถูกร้องเรียนเหมือนจะมีความผิด ทั้งที่ผู้ถูกร้องเรียนยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ เลย… มันเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องเรียนแล้วหรือ… นั่นเป็นคำถามที่สะท้อนออกมาจากสังคมทันทีเหมือนกัน….

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2555 หรือ 2 วันหลังจากที่มีการยื่นร้องเรียน… สว.ไพบูลย์ คนเดิมก็ออกมาสัมภาษณ์อีกครั้งในประเด็นเดิม… คนที่ได้ฟังก็สงสัยอีกว่า… ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2551 ประกอบ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา พ.ศ.2554 ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจของ คณะกรรมาธิการฯ มาตรา 6 ได้กำหนดขั้นตอน ให้ กมธ. มีหนังสือเรียกและกำหนดวันจัดส่งเอกสารหรือมาแถลงข้อเท็จจริง… เพื่อให้ กมธ. ได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนที่จะมีมติใดๆ ซึ่งเป็นไปตามหลักการทั่วไปของการสอบสวนที่ต้องฟังความของทุกฝ่ายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ…

ดังนั้นจากทั้ง 2 กรรม 2 วาระ… ที่เป็นเช่นนี้… ก็หนีไม่พ้นที่ กมธ.จะโดนตั้งข้อกังขาได้ว่า… มีการตั้งธงไว้แล้วหรือไง… ทำไมออกมาพูดในทำนองนั้นทั้งที่ยังไม่ได้สอบสวนข้อเท็จจริงใดๆ ให้รอบด้านก่อน…

หลังจากนั้นวันที่ 24 ต.ค. 2555 กมธ. ก็ได้สรุปผลการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของ น.ส.บุญยืน… การดำเนินงานของ กทค. อาจเข้าข่ายความผิดต่อ พ.ร.บ.ฮั้วประมูลและก็ส่งผลสรุปนั้นไปให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนที่จะมีการเชิญ กทค. และผู้เกี่ยวข้องที่ถูกกล่าวหามาชี้แจง…

นี่เป็นอีกวาระที่ตอกย้ำอีกว่า… ทำไม กมธ.ชุดนี้ จึงได้ทำอะไรได้เร็วปานนั้น 18 รับคำร้อง 19 ตรวจสอบ 20-23 เป็นวันหยุด… 24 สรุปผลแล้วก็ยื่น ป.ป.ช. … โอ้วพระเจ้าจอร์จ… มันยอดจริงๆ เลย… แต่อย่างที่บอกว่า… แล้วยังงี้มันตัดสินฝ่ายเดียวได้ด้วยหรือไง… ไม่กลัวเขาตั้งคำถามถึงจริยธรรมของคนตรวจสอบบ้างหรือ… มันก็มีระบุอยู่นะในข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการฯ ข้อ 19… เพราะอันนี้ผู้ถูกร้องเขาก็พูดได้ว่า… ส่อว่าการพิจารณารับเรื่องร้องทุกข์ ไม่มีความเสมอภาค ไม่เท่าเทียม ไม่เป็นธรรม และมีการเลือกปฏิบัติ…

ผมว่าเพื่อจรรโลงความดีงามของสังคมนี้… กมธ. ก็ควรที่จะต้องตอบคำถามถึงข้อกังขานี้นะ… เพราะว่าในเมื่อเราตรวจสอบคนอื่นได้ก็ต้องพร้อมให้คนอื่นตรวจสอบเหมือนกัน…

พงษ์พันธุ์