Galaxy S – 1 Click lag fix .apk โหลดได้จาก market แล้วนะครับ
คนทำเค้าทำเป็นโปรแกรมติดตั้งในเครื่องเลย จากที่ดูสามารถ root / unroot,lagfix/unlagfix ได้จากโปรแกรม ง่ายขึ้นพันเท่าไม่ต้องใช้คอมต่ออีกต่อไป โหลดจาก market แล้วใช้งานได้เลยครับ หาคำนี้
Galaxy S – 1 Click lag fix หวังว่าคงจะสนุกกับการทำที่ง่ายขึ้นนะครับ
ใครใช้แล้ว กรุณา รายงานผลด้วยครับ จะได้โหลดมาใช้บ้าง ทั้ง root unroot lagfix เลยเหรอ
ครบขนาดนั้นเลยเหรอครับ อย่างงี้ก้อลดความเสี่ยงลงได้ใช่ป่าวครับ
มารอดู ครับ อิอิ
ลองลงแล้วครับ เพราะทนไม่ไหวเวลาใช้แล้วมันชอบค้างไป 3-4 วิ ก่อนลงก็หาข้อมูลในเน็ตเห็นแต่คนบอกว่าโอเค เลยลองลง ปรากฏว่าก็เร็วขึ้นมากจริง ๆ ลง quadrant จาก market ทดสอบก็ได้ 2000+ จาก 800
วิธีลงนะครับ
1. ลงโปรแกรมจาก market
2. เรียกโปรแกรมขึ้นมา เลือกข้อ root มันจะบอกว่าลงแล้วให้ reboot เข้า recovery console ก็ปิดเครื่องซะเพื่อ reboot
3. วิธี reboot เข้า recovery console ของ galaxy S คือ กด volume UP กับ ปุ่มกลาง (Home key) ค้างไว้ แล้วค่อยกดเปิดเครื่อง กดสองปุ่มแรกค้างไว้จนกว่าจะเข้าหน้า recovery นะครับ (ไม่นานมาก)
4. ใช้ปุ่ม volume up-down เลือก update.zip แล้วกดปุ่มกลางเพื่อเลือก จากนั้นก็รอ reboot
5. เข้าโปรแกรมอีกที เลือก ext2 แล้วก็เลือก lagfix (ลองเลือก lagfix เลยก็ได้มันจะบอกเองว่าต้องลงข้อไหนก่อน)
จากนั้นก็รอมัน copy สารพัดจนเสร็จก็จะ reboot เป็นอันจบการลง
ลองใช้ดูก็จะรู้สึกเองว่าเร็วขึ้นมาก แต่ถ้าสงสัยว่าเร็วขึ้นแค่ไหนก็ลองลง quadrant ทดสอบดูครับ
หมายเหตุ *** ผมมือใหม่นะครับ ไม่เคย root เครื่องเหมือนกัน ถ้าใช้แล้วมีปัญหาอะไร ผมช่วยไม่ได้นะครับ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญแถวนี้ อิอิ
ว้าว ใจกล้าจริงๆ อิอิ
ตัว update.zip โหลดจากที่ไหนครับ
ทดลองมาสักพักแล้วครับ ก่อนที่เค้าจะเอามาลง Market ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ลองทั้ง lagfix และ unlagfix แล้ว แต่ผม root เองนะ ไม่ได้ใช้ของเค้า
อะไรๆ ก็เป็นเรื่องง่ายไปหมดเลย ดีจริงๆ ครับ ^ ^
หลัง ๆ มาอะไร ๆ ก็ง่ายไปหมด
ดีแล้วไม่ต้องยุ่งยากเหมือนก่อน
Root ด้วย วิธีอื่น กะทำ lagfix ด้วยวิธีอื่น สามารถ ใช้ ตัวนี้ ทำ un Root กับ unlagfix ได้รึป่าวlagfix ของผมน่าจะเป็น เวอร์ชั่นแรกๆ
ผมกลับว่ายิ่งง่าย ยิ่งไม่ดีแฮะ
เพราะใครๆก็กดใช้ได้ โดยแทบไม่ต้องรู้เลยว่าตัว app มันทำอะไรตามหลักการอะไรบ้างอะ
นั่นคงเป็นมุมมองของ developer กระมังครับ
ส่วนผมคงจะมองแบบ user คืออยากจะให้มันเร็วไม่หน่วง ก็โอเคแล้ว 😀 คงไม่ได้ไปแตะต้องระบบอยู่แล้ว
ใช่ครับเพราะส่วนใหญ่เป็นแค่ end user ซึ่งถ้าเป็น dev เค้าก็บอกว่าปล่อย opensource ไว้แล้ว ไปหาอ่านเองก็อยู่แล้วหละ
ขอบคุณครับที่นำมาบอก ผมลองจัดการดูแล้วครับ ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านว่าจิงๆ
ไม่ต้องลุ้นอะไรมากเลย ^^
ลองแล้วครับ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก เยี่ยมครับ
ลองแล้วครับ เร็วขึ้นมาก ของเดิมช้าจนน่าหงุดหงิด TvT
อยากลองดูบ้างอะคับ ทำเตรียมการอะไรก่อนรึเปล่าคับ เช่น Memory แล้วโปรแกรมเรายังจะอยู่ครบเหมือนเดิมรึเปล่าอะคับ อยากลองจังอะ
2.2 JP3 ลงแล้วเร็วขึ้นเยอะเลยครับ ยังไม่เจอปัญหา
บางหัวข้อมันขอ Busybox 1.17.1 ทั้งๆ ที่ผมก็ลงแล้วอ่ะครับ.. ต้องไปตั้งอะไรที่ไหนหรือเปล่า
ผมทำ lagfix ตัวล่าสุดนี้ แล้วมีอาการดังนี้ครับ
1. ดาวโหลดไฟล์ attachment ใน gmail ไม่ได้ ขึ้่น error fetching attachment : require sd card to open แต่ยกเว้นพวกไฟล์รูปกลับทำได้
2. โหลดแอพฯในมาร์เก็ตไม่ได้ ขึ้น error “download unsuccessful”
ก็เลยลองลง firmware ใหม่ผ่าน kies (ใช้ odin ถอยไปทีนึงก่อน)
– อัพใหม่สด ๆ ยังไม่ได้ทำอะไร ก็ปกติดี อาการข้างต้นไม่เกิด
– ใช้โปรแกรม oneclicklagfix 1.5.3 ในมาร์เก็ต แล้วทำตามสเต็ปดังนี้
– root
– ทำ ext2
– ทำ lagfix
**พอถึงตอนนี้ ลองกลับไปดู ก็ปรากฏว่า อาการ error ข้างต้นมันกลับมาอีกแล้ว (ก่อนทำ lagfix จะไม่เป็น)
– ใช้โปรแกรม oneclicklagfix ทำ undo ย้อนกลับไปเรื่อย ๆ จนถึง unroot
– ทำ hard reset แล้ว wipe ทุกอย่าง
– reboot ใหม่ มันยังคงมี superuser อยู่ (สงสัย unroot ไม่สำเร็จ)
– ทดสอบดูไม่เกิดอาการ error ข้างต้น
สรุปเอาเองมั่ว ๆ ว่า คงเกิดจาก lagfix แล้วมั้งครับ… ฉะนั้น ใครพอมีวิธีอะไรแนะนำ ก็รบกวนด้วยนะครับ (ตอนนี้ทนใช้แบบนี้ไปก่อน รอ froyo ละกัน)
ขอบคุณครับ
ได้ใช้ Busybox 1.17.1 รึเปล่าครับ ผมก็ทำแล็คฟิก แต่ไม่มีปัญหาอะไรครับ
เร็วจริงๆ แต่ยังไม่เหนอาการ force close คับ
ว้าว!…. ทำแล้วจากคะแนน 880 พุ่งเป็น 2,226 คะแนนเลยครับ
สุดยอดจริงๆ ขอบคุณที่แนะนำครับผม ลื่นปรื้ดๆ…
จำเป็นต้องมี external memory ด้วยหรือป่าวค่ะ
…เข้าไปหาใน market เป็น RyanZA’ one Click Lagfix คือตัวเดียวกันกันที่พูดถึงใช่มั๊ยค่ะ
ผมก็ใช้ RyanZA’ one Click Lagfix ครับผม
ส่วน external memory ผมไม่แน่ใจครับแต่เครื่องผมมีอยู่ 4 GB ครับ
ไม่จำเป็นต้องมีครับ
ปล.ตั้งแต่ผมใช้มาก็ไม่เคยใส่ micro sd เลย เพราะ 16 GB มันก็พอสมควรกับการใช้งานทั่วไปล่ะ