ขออนุญาตระบายความรู้สึก สืบเนื่องจากผมซื้อ HTC ONE X เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นวันที่ทำให้ผมเริ่มมีเรื่องกลุ้มใจ และไม่สบายใจมาตลอด ปัญหาก็เริ่มเกิดจากนั้นมาเลยทีเดียว เริ่มด้วยตอนลองเครื่องก่อนซื้อก็ไม่มีปัญหาใดๆ เครื่องสภาพดี ตรวจเช็คการใช้งานต่างๆได้ดีแต่เมื่อนำเครื่องกลับมาใช้งาน เช้าวันที่ 7 อยู่ๆหน้าจอก็มีกลุ่มสีเหลืองขึ้นมาที่ขอบด้านบน โค้งลงมาพื้นที่ประมาณเท่าเหรียญบาทครึ่งเหรียญ ส่วนขอบจอตรงใต้โลโก้ HTC (หรือที่เค้าเรียกว่าจอเหลือง) ผมก็เริ่มไม่สบายใจโทรไปคุยกับร้านที่ซื้อมาได้ความว่า “สามารถนำเครื่องไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ซื้อเลย” เมื่อได้ความตามนั้นในวันเดียวกันผมก็จึงไปยัง ศูนย์ HTC ที่ฟอร์จูน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าต้องนำใบเสร็จที่มีเลขเครื่องอีมี่ พร้อมทั้งที่อยู่ที่ชัดเจนของร้านค้า วันนั้นผมก็เคลมใดๆไม่ได้ จึงโทรกลับไปหาร้านค้า ซึ่งร้านที่ผมซื้อก็ยินดีออกใบเสร็จฉบับเต็มมีอีมี่และที่อยู่ให้ ผมจึงเดินทางกลับ แต่ด้วยเหตุใดอันนี้ผมไม่ทราบอาการหน้าจอสีเหลืองกลับหายไปดื้อๆ เครื่องกลับมาใช้งานได้ปกติ แต่มันไม่จบแค่นั้นในช่วงเย็น อยู่ๆก็มีปัญหาใหม่มาเยี่ยม ONEX ของผมอีก อยู่ๆการใช้งานบลูทูธ(ผมใช้เชื่อมต่อกับ Jabra Extreme 2) ก็ใช้งานไม่ได้ขึ้นมาดื้อๆเลย อาการคือผมไม่สามารถใช้บลูทูธคุยห่างกับเครื่องได้เกิน 1 ฟุต หากเกินเสียงขณะสนทนาจะดังเอียดแอ๊ด และคุยไม่รู้เรื่องเลย(อาการเหมือนอยู่ห่างตัวเครื่องเกิน 5-10 เมตร ขึ้นไป)

ในวันที่ 9 มิถุนายน ใบเสร็จจากร้านที่ผมซื้อมาถึงในช่วงก่อนเที่ยง(ร้านออกใบเสร็จให้ผมและใจดี ส่งเป็นจดหมาย EMS มาให้เนื่องจากผมไม่สะดวกเดินทางไปร้านเลย) ในช่วงเย็นวันนี้เองผมจึงเดินทางเอาเครื่องไปที่ศูนย์ฟอร์จูน อีกครั้งช่วงเย็น ประมาณสัก 6 โมงครึ่ง รอคิวอยู่สัก 20 นาที ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องก็นำเครื่องเข้าไปให้ช่างทดสอบ ก็ได้ความว่าเครื่องบลูทูธของผมไม่สามารถใช้งานได้ตามมาตรฐาน ที่ระยะ 5-10 เมตร จึงเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ (แต่พนักงานผู้หญิงเคาเตอร์ที่ 2 ที่รับเรื่องบอกผมว่า “เนื่องจากมีลูกค้าเคลมเครื่องจำนวนมาก ทางศูนย์จึงจัดเตรียมเครื่องเพื่อให้ลูกค้าไว้เคลมโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องดังกล่าวจะไม่มีการแพ็คกิ้ง โดยการซีลกล่อง”) ผมก็เอะใจ เครื่องใหม่อะไรทำไมไม่มีการซีลกล่อง ผมเข้าใจว่าเป็นเครื่องที่ลูกค้าท่านอื่นได้เลือกแล้วตอนเคลมเครื่องแต่อาจ จะมีปัญหาบางอย่างจึงไม่รับไป และพนักงานก็นำเครื่องนั้นมาให้ผมเลือกใหม่ ผมก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็โอเคได้ครับ ก็คิดแค่ว่าขอให้ใช้งานได้ปกติ ปัญหาจุกจิกนิดๆหน่อยๆก็ช่างมัน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ ผมได้เครื่องมาลอง 3 เครื่องนะครับ
เครื่องที่ 1. เมื่อผมรับมาจากมือเจ้าหน้าที่ ***มันเปิดเครื่องไม่ติดครับ***จึงขอเปลี่ยนในทันที
เครื่องที่ 2. เครื่องนี้ใช้งานได้ปกติแต่มีแสงแสดงสถานะรอดที่ใต้ช่องหูฟังสนทนา เลยขอเปลี่ยนๆ
เครื่อง ที่ 3. ด้วยความที่ผมเริ่มจุกจิกผมได้ยินด้วยความไม่ตั้งใจของพนักงานผู้หญิงว่า เอาเครื่องขายให้เค้าเลย(เสียงมาจากในห้องช่าง) แต่เครื่องใหม่ไม่แกะซีลจริงๆครับ แต่ภายในซีล ตัวกล่องด่างๆดำๆไปหมด ผมก็ช่างมัน แกะซีลออกเปิดกล่องออกมา โอ้โห แทบอยากจะร้องว่าพระเจ้า เครื่องสีขาว แต่ด่างดำไปทั้งตัว เหมือนไปผ่านสมรภูมิมา ผมก็ช่างมันนี่เครื่องใหม่จากซีลนะ คงแค่รอยเปื้อนเท่านั้น เมื่อบูทเครื่องเสร็จ แม่เจ้า ผมทัช Notification bar ด้านบนไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ซอฟแวร์ หรือจอ หรือเมนบอร์ดเสีย (นี่เครื่องใหม่จากซีลนะเนี้ย) จึงขอเปลี่ยนอีก เวลาตอนนั้นก็ประมาณ 19.28 น. ซึ่งศูนย์ก็ปิด ทุ่มครึ่ง –* พนักงานตอบผมว่าเครื่องหมดแล้ว ผมก็คิด เฮ้ย!!!!! หมดแล้วเนี้ยนะ แต่คิดในใจนะครับ พนักงานผู้หญิงที่เคาเตอร์ที่ 2 บอกผมว่าเครื่องจะมีเข้ามาวัน พุธ-พฤหัส อีกที แต่ช่างผู้ชายอีกคนเดินออกมาผมเข้าไปถามกลับตอบว่า เจ้าหน้าที่สต๊อคที่ทำเบิกเครื่องอะ กลับบ้านแล้ว เครื่องอะมี -*- (รู้สึกเหมือนผมไม่ฉลาดในสายตาพนักงานผู้หญิง บอกความจริงกันก็ได้นะครับ) ผมก็คิดเพียงว่าแล้วผมจะเอาอะไรใช้ ผมต้องใช้โทรศัพท์นะ ซึ่งผมก็ต้องทำงานและจำเป็นที่ต้องใช้บลูทูธ ผมก็เลยบอกไปว่างั้นขอเครื่องที่ 2 (เครื่องที่มีเพียงแสงไฟรอด) และเครื่องที่ 1 ที่เปิดไม่ติดมาดูใหม่อีกที รู้มั้ยว่าเกิดไรขึ้น เค้าเอาเครื่องที่ 1 ออกมาทั้งทีมีสายชาร์ตเสียบค้างออกมาด้วย และบอกผมง่ายๆว่า แบตมันหมด เลยเปิดไม่ติด (งั้นไอที่ผมคิดก็จริงอะดิ พนักงานผู้หญิงบอกว่าเป็นเครื่องใหม่ไว้เคลมไม่มีซีล แต่มันแบตหมดได้ไงถ้าเครื่องใหม่ มันโดนเทสจากลูกค้าท่านอื่นๆ จนแบตมันหมดตังหาก เป็นการเอาเครื่องมาเวียนให้เคลม) ผมจึงจำใจเอาเครื่องที่ 2. กลับบ้านด้วยความหวังว่ามันจะใช้งานได้ปกติ ก็แค่แสงไฟรอดออกมาเท่านั้น!!!!

วันก็ดำเนินไปต่อ ผมก็ใช้งานเจ้าเครื่อง 2. นี้และแล้วเมื่อวันพฤหัสที่ 14 มิถุนายน ช่วงค่ำ เนื่องจากไฟที่บ้านดับ ผมจึงเอาเครื่องเปิดหน้าจอเป็นไฟฉาย และก็แจ็คพอต เครื่องมีเดดพิกเซล 3 – 5 จุด ได้(ที่ไม่แน่ใจเพราะอีกสองจุดไม่แน่ใจว่าฝุ่นในหน้าจอหรือเดดพิกเซลจริงๆ จิตตกอีกครับ ผมต้องไปเคลมอีกเหรอเนี้ย ผมอยู่วัชรพล เดินทางไปฟอร์จูน ต้องไปทางด่วนไม่งั้นรถติดแบบหลับได้เลย ระยะทาง 18 กิโล รถผมใช้น้ำมันเบนซิล 8กม./ลิตร +ค่าทางด่วน 2 ด่าน 40+20 บาท สรุปผมเสียค่าเดินทางไป+กลับ ประมาณ 260 บาท แค่คิดก็เซ็งแล้วครับ) แต่ก็ต้องไปอะนะ

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน เดินทางไปเคลมเครื่องครั้งที่ 2 วันนี้เตรียมพร้อม จากการมีประสบการณ์การเคลมมา 1 ครั้ง เมื่อแ้จ้งปัญหาและขอเคลมเสร็จ ผมต่อท้ายบอกพนักงานไปว่า ขอเครื่องที่ซีลนะครับ ไม่อยากมีปัญหาอีก พนักงานเค้าก็โอเค (รอบนี้เป็นพนักงานเคาเตอร์ที่ 4) รอบนี้เครื่องมมีปัญหาจุกจิกนิดหน่อยผมจึงแกะซีลไปสองเครื่อง
เครื่อง ที่ 1. ใช้งานได้ปกติ แต่มีไฟรอด(อีกแล้ว) จากประสบการณ์บอกตัวเองว่า ไม่หยวนๆแล้ว ถ้ารู้สึกไม่โอเคก็เปลี่ยนเครื่องใหม่ทันที
เครื่องที่ 2. เครื่องนี้สภาพภายนอกสวยสมบูรณ์มาก ไม่มีฝุ่นในจอเลยด้วย เกือบจะรับแล้วแต่ มีเดดพิกเซล 2 จุด(อีกแล้ว) ก็เซ็ง
จะ ขอเปลี่ยนอีกพนักงานเคาเตอร์ 4 ไม่ยอมแล้วครับ บอกว่าเครื่องที่ 2. นี่ก็มีลูกค้าจองไว้ (เวลาจองนี่ล็อคอีมี่เครื่องกันเลยเหรอครับ) แต่เอามาให้ผมแกะเลือกดู — ผมก็เกรงใจ ไม่อยากจุกจิก (ในขณะเดียวกันที่ทำงานผมโทรมาตามแล้ว และเนื่องจากเกิดปัญหาขึ้นที่ทำงาน อีกทั้งตอนลองเครื่องผมถอดซิมออก ที่ทำงานจึงติดต่อไม่ได้ เริ่มมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น) ผมจึงโอเคงั้นเอาเครื่อง 1. ตอนนั้นผมไม่มีเวลาแล้วต้องรีบกลับ และเป็นการทำพลาดครั้งใหญ่เลยทีเดียวเชียว

เมื่อกลับมาถึงบ้านใน วันเดียวกัน ก็มาสังเกตุเห็นว่าที่หน้าจอของเครื่องที่เพิ่งเคลมมา มีรอยบิ่นที่ขอบจอใต้หูฟัง เยื้องๆกับไฟสถานะ ที่ไม่ไฟรอดออกมานิดนึงด้วย จึงสังเกตุใกล้ๆปรากฎว่ามีเป็นรอยบิ่นจริงๆครับ ขอบจอแหว่งหายไปความยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร (ทำไมผมแจ็คพอตตลอด)จิตตก รอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่เรื่องเดิมๆกับเจ้า ONE X เนี้ยแหละ ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง ก็เพิ่งเอากลับมาเอง ไว้พรุ่งนี้โทรหา call center ตอนเช้าละกัน HTC เค้าน่าจะเข้าใจ

เช้าวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน รอจน callcenter เปิดทำงาน (10.30-19.30น.)ถ้าเข้าใจไม่ผิด call center ก็คือที่ศูนย์บริการนั้นแหละ เพราะผมเคยคุยแล้วเค้าโอนสายให้คุยกับช่าง ซึ่งผมได้เจอช่างคนนี้ที่ศูนย์บริการ และเค้าทักผมว่า ปัญหานี้เราน่าจะได้คุยกันแล้วครั้งหนึ่ง ตอนไปเคลมเครื่องแรก เมื่อโทรไปก็มีพนักงานผู้หญิงรับ ผมก็บอกอาการตำหนิไป พนักงานก็บอกว่าได้ ให้เอาเครื่องเข้ามาให้ช่างพิจารณาอีกที ผมก็ถามย้ำว่าได้แน่ๆนะครับ พนักงานก็บอกว่าได้ ถ้าเครื่องเกิดจากการผลิตทาง HTC ยินดีเคลมให้ แต่ต้องให้ช่างพิจารณาก่อน (ที่ผมถามย้ำเพราะว่าผมจะได้ไม่ต้องเดินทางไปถ้ามันไม่ได้ เพราะมันเปลืองค่าเดินทางมากๆ) ดังนั้นพอเสร็จธุระผมก็ดิ่งไปศูนย์ในทันที ไปถึงก็ราวๆ 6โมงเย็น ไปถึงก็กดบัตรคิว มีคิวรออยู่ 17คิว โอ้ว คนนั่งเต็มเลย — นานแน่นอน ก็นั่งรอๆๆๆ จนถึงเวลา 18.50 น. ก็ถึงคิวผม พอเจอพนักงาน(รอบนี้เป็นคนเดิมกับที่เจอครั้งแรกคือ เคาเตอร์ 2) ผมก็แจ้งในทันที “เครื่องผมเคลมเมื่อวานนี้ครับ มันมีรอยที่ขอบจอด้านบน เป็นรอยบิ่น ” พนักงานก็บอกว่าเดี๋ยวให้ช่างดูก่อน ….พอเดินออกมาจากห้องช่าง “เคลมไม่ได้ค่ะ”(อ้าว เซ็งขึ้นมาทันที)พนักงานแจ้งว่าเป็นรอยภายนอกเคลมไม่ได้ค่ะ ผมก็อธิบายว่ารับเครื่องไปเมื่อวานนี้เอง จากเคาเตอร์ 4 พนักงานก็ยืนยันว่าไม่ได้จริงๆ ไม่รู้จะทำเรื่องเคลมด้วยเหตุผลอะไร ถ้าเห็นรอยตั้งแต่เมื่อวาน และไม่รับเครื่องไปก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหากรับออกไปแล้ว ถ้าหากมีปัญหาแบบนี้ก็จะเคลมไม่ได้ ปกติจะเคลมให้จากปัญหาที่เกิดจากการใช้งานเท่านั้น ผมก็ไม่ยอมก็ให้เค้าหาวิธีเคลมให้หน่อย มันมีรอยมาจริงๆยังไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่ทันได้ใช้อะไรเลย มาเมื่อวานนี้เอง สักพักเค้าก็เดินกลับเข้าไปหาช่างอีกครั้งหนึ่ง ออกมาใหม่ “ช่างบอกว่าไม่ได้จริงๆ ช่างไม่ยอม approved ให้ ถ้าช่างยอมแล้วเกิดปัญหาช่างจะต้องจ่ายค่าเครื่องเอง” ผมก็ยังไม่ยอม ตอนนี้เริ่มโกรธขึ้นมาหน่อยๆ รู้สึกว่าตอบง่ายจัง -*- ไม่มีทีท่าพยายามช่วยอะไรเลย ผมก็ไม่ยอมสิเริ่มโกรธแล้ว เลยขอคุยกับคนที่คุยได้หน่อย พนักงานเคาเตอร์ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ส่วนนี้ผมเข้าใจ จึงอยากคุยกับคนที่มีอำนาจ ก็คือช่าง แต่พนักงานเคาเตอร์ 2.ก็ไม่ยอมให้คุย บอกว่าไม่ได้ค่ะ ผมก็เลยขอคุยกับคนที่มีสิทธิตัดสินใจ ผู้จัดการ หรือคนที่ดูแลศูนย์ รวมทั้งขอเอกสารการแสดงความคิดเห็น ผมต้องการคอมเมนท์ คอมเพลน หรืออะไรก็ได้เกี่ยวกับปัญหานี้ พนักงานก็บอกว่าไม่ไ้ด้ เอกสารไม่มีให้กรอกอะไรเลย คนที่ตัดสินใจได้ก็ลาวันนี้ค่ะ และพนักงานก็บอกว่า”งั้นเอางี้ค่ะ ยังไงทิ้งเครื่องเอาไว้ แล้วทางเราจะอีเมลล์ไปหา HTC ไต้หวันเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่ต้องทิ้งเครื่องไว้ประมาณ 1 สัปดาห์” (ผมซื้อเครื่องมายังไม่ถึง 14 วัน ยังมีสิทธิการเปลี่ยนเครื่อง แต่เปลี่ยนไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ ผมต้องใช้งานโทรศัพท์ตลอด เครื่องสำรองก็ไม่มีให้ ผมจะไม่ยั้วะได้ไง) ผมก็ไม่ยอมอีกสิ รอไปไม่มีคำตอบ รออีก 1 สัปดาห์แบบไม่แน่ไม่นอน เปลี่ยนได้ป่าวก็ไม่รู้ แต่ต้องทิ้งเครื่องไว้ เอากลับไปใช้ก่อนก็ไม่ได้ ถ้าอีก 1 สัปดาห์คุณบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ แล้วมารับเครื่องคืน ผมคงจะตัวชา หน้าชาครับ ยังกับรอผลสอบสมัยเรียน หรือ โดนแฟนบอกเลิกอะมั้งความรู้สึกหนะ ยังไงความรู้สึกตอนนั้นก็บอกตัวผมเองว่า วันนี้ผมไม่ยอมแล้ว พนักงานก็เข้าไปข้างในห้องช่างอีกครั้ง กลับมาคราวนี้มาบอกผมว่า เอางี้พบกันครึ่งทางค่ะคุณลูกค้า ให้ผมทิ้งเบอร์ไว้ และจะให้คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจโทรมาคุยกับผมวันจันทร์ ผมก็ยังไม่ยอมอีก (คือในใจผมนะ ถ้าผมมาอีก ค่าเดินทางผมอีก มันต้องเสียเงิน เสียเวลาอีก มาถึงตรงนี้แล้วเคลียร์ให้จบไม่ได้เลยเหรอ และพนักงานคนนี้ถ้าอ่านกันมาตั้งแต่แรกนะครับ เค้าพูดไม่จริงกับผมหลายเรื่อง ผมก็ไม่ไว้ใจแล้ว) ผมก็ถามว่างั้นโทรไปหาเลยไม่ได้เหรอ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ คนนั้นเค้าลาวันนี้ และวันนี้วันหยุดเค้า รบกวนไม่ได้ ผมจึงถามซ้ำว่าแล้วถ้างั้นตกลงผมจะได้เคลมมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่รู้เลยค่ะ และประโยคสนทนาต่อไปนี้น่าสนใจยิ่ง

ผม: ถ้างั้นผมจะเคลมปัญหาอื่น หากเครื่องนี้มีปัญหาอื่นและผมเจอปัญหาในตอนนนี้ ผมจะขอเคลมจากปัญหาอื่นก็ได้สิ
พนักงาน: ไม่ได้ค่ะ เนื่องจากลูกค้าแจ้งปัญหาอีกปัญหานึงในตอนแรก จึงถือว่ามาด้วยปัญหานั้น ไม่สามารถเคลมด้วยปัญหาอื่นได้
ผม: อ้าวแล้วถ้าเกิดว่าตอนนี้ผมเจอเดดพิเซล หรือปัญหาการใช้งานอย่างที่คุณว่าๆสามารถเคลมได้ แล้้วทำไมเคลมไม่ได้แล้วหละ ผมก็ต้องใช้เครื่องไปแบบนี้ แบบมีปัญหา เพราะผมแจ้งปัญหาผิด และเครื่องก็ยังไม่เกิน 14 วัน และคุณพนักงานก็ยังไม่ได้ทำเรื่องกรอกเอกสาร หรือใส่ข้อมูลใดๆลงระบบเลยด้วยซ้ำว่าผมมาเคลมด้วยปัญหาอะไร เพียงแค่นั่งคุยกับผม และเดินเข้าไปถามช่าง
พนักงาน : ค่ะไม่ได้แล้วค่ะ เพราะลูกค้ามาเคลมปัญหาแรก แต่จะเปลี่ยนปัญหาอย่างนี้มันก็ไม่ใช่แล้วค่ะ เคลมไม่ได้ค่ะ

บท สนทนานี้อาจจะไม่ตรงซะทีเดียว อาจะผิิดพลาดบ้างประการใดต้องขออภัยคนในบทสนทนาด้วย ไม่มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียครับ แต่การสนทนานี้ทำให้ผมยิ่งโกรธ ขึ้นไปอีก นี่มันอะไร ผมเคลมอะไรไม่ได้อีกแล้ว ทั้งที่ถ้าหากมันเกิดปัญหาอื่นผมก็เคลมไม่ได้แล้ว แม้ปัญหาการใช้งานอย่างที่พนักงานบอกแต่ตอนแรกว่าเคลมได้ ก็จะเคลมไม่ได้แล้ว ผมเห็นถึงความเอาใจใส่ หรือขวนขวายที่จะช่วย แต่นี่ไม่มีเลย ผมเลยยิ่งโกรธ ผมเชื่อว่าวิธีหนะมีครับ ถ้าพนักงานจะหาช่องทาง หรือจะแก้ไขปัญหา แบบไม่ตามระบบ ทำได้ หรือพยายามจะทำให้ผมเห็นก็ยังดี แต่นี่ไม่มี มีแต่ อย่างนั้นก็ไม่ได้ นี้ก็ไม่ได้ ก่อนผมจะมาที่ผมโทรถาม Call Center เพราะผมตัดใจไว้แล้วว่าถ้ามันเคลมไม่ได้ ก็จะไม่มา แต่วันนี้ที่ทำให้ผมโกรธ จนต้องการเคลมเครื่องเพราะคำตอบของพนักงานนี่แหละครับ สุดท้ายผมก็ไม่ได้คำตอบใดๆที่ระบุชัดเจน หรือมองอีกมุมคำตอบที่ชัดเจนคือ “เคลมไม่ได้แล้ว” แต่ที่ให้รอคือ รอลุ้นคำตอบจากคนที่มีอำนาจเท่านั้น ซึ่งถ้าคนที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ผมก็จะต้องใช้เครื่องๆนี้ต่อไป ใช้ไปแบบนี้หละครับ ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เพราะผมคงไม่ทำอะไรแล้ว สคบ.ก็ช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เอาไปขู่พนักงานเค้ายัังไม่กลัวเลย เพราะเค้าไม่เดือดร้อน คนที่เดือดร้อนคือบริษัทของเค้าตังหาก

ทั้งหมดนี้คือความอัดอั้น ในใจ และปัญหากับHTC ในปัจจุบัน มองมุมหนึ่งเค้าก็ดูแลเราระดับนึงแล้ว ผมจึงได้เปลี่ยนเครื่องมา 2 เครื่องแล้ว แต่เพดานในการดูแลของเค้ามันสุดแล้วสำหรับผม หากวันจันทร์นี้ทาง HTC แจ้งว่าไม่ได้ ก็คงไม่ได้แล้ว

ปล.ผมเองก็ใช้ HTC มาหลายเครื่อง แต่เจอแบบนี้ หมดกันเลย ความรู้สึกดีๆ ไม่รู้ Q.C. ทำงานยังไง