กรรมการ กสทช. ย้ำค่ายมือถือต้องลดค่า 3จี เพราะไม่มีภาระแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ สุริยะใส หวั่นไลเซนส์ 3จี เถื่อน
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวยืนยันว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ที่ได้รับใบอนุญาต (ไลเซนส์) ประกอบการ 3จี ควรลดราคาค่าบริการลง 15-20% จากราคาค่าบริการในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เพราะต้นทุนประกอบการของโอเปอเรเตอร์ลดลง จากการที่ไม่ต้องแบ่งส่วนรายได้ให้กับหน่วยงานรัฐอีกต่อไป เหลือแค่ค่าธรรมเนียมรายปีเท่านั้น และค่าเชื่อมโยงโครงข่าย หรือไอซี ลดลงอีก 50%
“ค่าไอซีลดลง 50% ส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐก็ไม่ต้องจ่ายอีก 20% เมื่อต้นทุนลดลง ค่าบริการก็ต้องลดลงด้วย ซึ่งผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้าต้นทุนลดแล้วค่าบริการไม่ลด บริษัทก็ได้กำไรเต็มๆ ดังนั้นค่าบริการจึงควรลดลงทันทีไม่น้อยกว่า 20%” นพ.ประวิทย์ กล่าว
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติ 4 ต่อ 1 ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3จี ให้เอกชนผู้ประกอบการ 3 ราย ว่า หาก กทค.จะมั่นใจว่าการดำเนินการประมูล 3จี ที่ผ่านมาโปร่งใส และมีอำนาจโดยชอบตามกฎหมายที่จะออกใบอนุญาต ก็ถือเป็นสิทธิของ กทค. แต่ไม่ถือเป็นสิทธิโดยเด็ดขาดของ กทค. เพราะมีข้อกังขาและข้อโต้แย้งที่มีสาระสำคัญหลายประการที่ กทค.ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ
ทั้งนี้ เพราะข้อพิพาทในชั้นศาลปกครองยังไม่สิ้นกระแสความ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุดในสัปดาห์หน้า หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับฟ้องและรับคดีไว้ไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ใบอนุญาตที่เอกชนได้ไปจะเป็นใบอนุญาตเถื่อนทันที และถือว่ามติ กทค.เป็นโมฆะ
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ข้อพิพาทการประมูล 3จี นับตั้งแต่วันประมูล 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองยังไม่เคยมีคำสั่งหรือคำพิพากษาว่าการประมูลโปร่งใส มีการแข่งขันกันจริง ที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งเฉพาะการระบุสิทธิของผู้ฟ้องหรือผู้เสียหายเท่านั้น ดังนั้น กทค.จะลักไก่ว่าการประมูลโปร่งใสแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ยังมีคำร้องที่อาจพิจารณากันในชั้นศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่า อำนาจในการออกใบอนุญาต 3จี เป็นอำนาจของ กทค. หรือต้องเข้าที่ประชุม กสทช. ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องใช้มติที่ประชุมใหญ่ออกใบอนุญาตเท่านั้น ก็จะเกิดปัญหาขึ้นทันที
“มติ 4 ต่อ 1 ของ กทค. ในการออกใบอนุญาต 3จี จึงยังเต็มได้วยความเสี่ยงสารพัด ที่ กทค.กำลังเอาชะตากรรมตัวเองไปแลก และลากประชาชนไปแบกรับกับความเสี่ยงเหล่านั้น” นายสุริยะใส กล่าว
http://bit.ly/RMGGoR
ตอนนี้ ประชาชนอยากขอเรียกร้องให้หมอลี่ ดร. สมเกียรติ ยะไสและสว. ไพบูลย์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ
1. หลอกลวงประชาชนว่ากสทช. จะไม่สามารถลดอัตราค่าบริการ 3 จี ได้ ซ่ึงกสทช.ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง
2. การสะกัดกั้นกทค. ในการออกใบอนุญาต 3 จี โดยนำข้อมูลมาบิดเบือนทำให้เกิดความชะงักงันของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยและกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศชาติ.
3. การบิดเบือนข้อเท็จจริงและนำมาสื่อต่อสังคมโดยรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรมและเป็นการเสื่อมเสียต่อบทบาทของคนกลุ่มนี้ทั้งยังเข้าข่ายการกระทำผิดกม. อาญาที่มีโทษถึงจำคุก.
4. การที่ไปกดดันผู้ตรวจการแผ่นดินจนทำให้ผู้ตรวจการแผ่นดินกลัวและปฎิบัติตาม ทำให้ภาพพจน์ของผู้ตรวจการแผ่นดินเสื่อมเสียอย่างมากและจะเสื่อมเสียต่อไป ซึ่งคนกลุ่มนี้จะต้องรับผิดชอบ
ตอนนี้ส่ิงที่ดร.สมเกียรติ หมอลี่ สว. ไพบูลย์และยะไสควรทำคือออกมา
กราบขอโทษและขอขมาต่อประชาชน
ผู้ประกอบการฯและผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการที่พวกถ่วงความเจริญของชาติกลุ่มนี้เอาข้อมูลมาบิดเบือน. ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป. รวมทั้งต้องเตรียมตัวชดใช้กรรมที่ตนก่อข้ึน