นี่เป็น e-mail ที่ผมพึ่งส่งไปสอบถามไอโมบายทาง support@i-mobilephone.com
“ขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสินค้าและบริการของทางไอโมบาย
23:21
ถึง support@i-mobilephone.com
ขอสอบถามเป็นข้อๆ ช่วยชี้แจงด้วย (เมลฉบับนี้รวมถึงคำตอบที่จะได้รับหรือไม่ได้รับ จะถูกนำไปเผยแพร่ในเวปไซต์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือ)
– ตกลงรุ่น 8500 android นี่จะมีการพัฒนารอมเวอร์ชั่น 2.1 ให้หรือไม่ (ตอนขายบอกว่าอัพได้ แต่รอมานานแล้วไม่เห็นมีวี่แวว) รวมถึงถ้าไม่มีการพัฒนาให้บริษัทจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ทั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของผู้บริโภคที่รุ่นนี้ขายไม่ดี
– นโยบายการพัฒนารอมของ android เป็นอย่างไร พัฒนาตามยอดขาย โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า?
– ทำไมเวลาขายสินค้าถึงไม่มีการให้ข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะซัพพอร์ตแต่ละรุ่นไปถึงไหน เช่น แต่ละรุ่นที่เป็น android ไม่เคยบอกว่ารุ่นไหนจะพัฒนารอมให้ถึงเวอร์ชั่นอะไร รวมถึงกำหนดการอย่างเป็นทางการว่าจะมีการพัฒนาแล้วเสร็จเมื่อใด
– ทำไมโปรโมชั่นของแต่ละ shop ถึงไม่เหมือนกัน ทั้งที่เป็นศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของไอโมบายเหมือนๆกัน ต้องให้ไปหาเอาเองว่าโปรโมชั่นของ shop ไหนดีกว่า ไม่งั้นจะซื้อสินค้าจากทาง shop เพื่ออะไร ในเมื่อ shop เองยังหาความแน่นอนไม่ได้ ไม่ต่างกับการไปเดินซื้อตามร้าน mbk หาว่าร้านไหนถูกกว่ากัน นี่เป็นนโยบายของบริษัท?
– คอลเซ็นเตอร์เป็นศูนย์รวมข้อมูลในการตอบปัญหาของลูกค้า แต่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เป็น android รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆของสินค้า android ใดๆได้ เป็นเวลาเกือบปีแล้วนับตั้งแต่ที่ไอโมบายมีการขายสินค้า android ตัวแรกอย่าง ie6010 แต่ไม่เห็นถึงการแก้ไขหรือพัฒนาขึ้นเลย อยากให้ช่วยชี้แจงเรื่องนี้ด้วย
– การเปิดจองสินค้า i-note ในงาน mobile expo แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ชัดเจน ไม่เป็นทางการ รวมถึงตัวอย่างสินค้าเป็นแค่ตัว prototype ซึ่งรายละเอียดในตัว prototype ที่นำมาแสดงกับที่พนักงานให้ข้อมูล(ด้วยปากเปล่า) ไม่ตรงกัน เช่น cpu 1 ghz แต่ในตัว prototype แสดงเพียงแค่ 800 mhz ฯลฯ หากผู้ที่ได้ทำการจองสินค้าไปแล้ว และเมื่อรับสินค้า แล้วได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับที่พนักงานให้ข้อมูลมา บริษัทจะมีการแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง
*E-mail ฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อต้องการความกระจ่างถึงนโยบายสินค้าและบริการของทางไอโมบาย โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่อยู่บน platform android เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากทางไอโมบายของผู้ที่สนใจ
16 October 2010”
ทั้งนี้ผมส่งไปเพื่อต้องการความชัดเจน และไม่อยากให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ถูกเอาเปรียบจากบริษัทผู้ขายสินค้าและบริการซึ่งจดทะเบียนในนามของคนไทยด้วยกัน หลังจากนี้ได้คำตอบอย่างไรหรือไม่ได้คำตอบ ผมจะนำมา update ให้ทราบกัน ส่วนใครมีความคิดเห็นอย่างไร ก็เชิญแสดงความเห็นได้เต็มที่ เพราะเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล
ข้อ 3 เรื่องราคาแต่ละ shop ไม่เท่ากันนั้น ผมว่าเป็นทุกยี่ห้อนะครับ
ตามที่ผมเข้าใจนะครับของแบรนด์อื่นนี่เป็นไปตามตัวแทนจำหน่าย เช่น m-link, jay mart, tg phone นะครับ ซึ่งพวกนี้สามารถตั้งราคาและโปรโมชั่นได้เองอยู่แล้ว แต่ส่วนของไอโมบายที่ผมพูดถึงคือศูนย์บริการที่จำหน่ายสินค้าด้วยนะครับ ไม่ได้หมายถึงตัวแทนจำหน่าย ผิดถูกอย่างไรช่วยแก้ไขด้วย ขอบคุณครับ
ผมเดาว่าไอโมบายไม่ตอบ
จิงๆผมก็คิดว่างั้น เพราะผมก็เคยส่งไปก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง นานหลายเดือนแล้วด้วยแต่ก็เงียบ แต่อันนั้นผมไม่แน่ใจว่าส่งไปที่เมลนี้ หรือเมลของ webmaster ครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
ข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3 ..มันเป็นเรื่องทางเทคนิคครับ…
มันบอกได้ยากมากว่าจะพัฒนาไปถึงเวอร์ชั่นอะไร..
ขนาด Google เอง ยัง งง ที่จะกำหนด version ของ android เลย
แ้ล้วมันก็ขึ้นอยู่กับ Spec ความสามารถของ HW ด้วยครับ
***แต่ ถ้าทางสามารถฯ มีการจัดพิมพ์เอกสารอย่างชัดเจนว่า จะ up จนถึง 2.1 นี่…
อันนี้ทางสามารถฯ น่าจะต้องรับผิดชอบอะไรกับลูกค้าบ้าง เพราะได้ให้ Commitment ที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว**
ข้อ 4. โปรฯ ต่างๆ ที่แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรควรจะต้องเหมือนกันทุก Shop แล้วพนักงานขายควรจะ update โปรฯ ณ ตอนนั้นด้วย แต่ถ้าบางร้าน จะแถมนู่นนี่ให้มากกว่าอีกร้าน ถือว่า เป็นการแข่งขันระหว่างร้านครับ
ข้อ 5. Call center ควรจะโปรเฟสชั่นเนล กว่านี้ อันนี้ต้องพัฒนาต่อไป…(ผมว่า อันนี้เป็นปัญหา การสื่อสารภายในองค์กรด้วย ควรแก้ไขครับ)
ข้อ 6. ถ้าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นแบบนั้นจริง…ทางสามารถฯ ก็ควรแก้ไขหนะครับ
(แต่เป็นผมนะ.. ถ้า Spec มันไม่ชัดเจนแบบนี้ ผมก็คงจะไม่ซื้อหรอกครับ…ให้ตายเถอะ..ไม่ได้แอ้มเงินผมหรอก 555+)
****เป็นความคิดเห็น และความรู้สึกส่วนตัว ล้วนๆ นะครับ……:)**
ผมก็ไม่ได้จองเหมือนกันครับ แต่ผมอยากถามหลายๆ ประเด็นเพื่อดูว่าเค้ามีนโยบายที่จริงใจและรับผิดชอบต่อลูกค้าขนาดไหน เพราะที่ผ่านมาผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย
ก็ต้องยอมรับอะครับว่า สามารถฯ ต้องพัฒนาอะไรอีกมาก
โดยเฉพาะนะครับ….เรื่องของการสื่อสาร ระหว่างในองค์กรเอง และกับลูกค้าหนะครับ
พนักงานขาย คงให้ความหวังกับลูกค้า ปากต่อปาก กันมากไปหน่อยอะครับ
ประกอบกับ ตัว Product android เอง…ซึ่งถือว่า ยังใหม่อยู่มากหนะครับ
(จริงๆ สามารถฯ เองเขาก็มีประสบการณ์เรื่อง Smartphone PDAphone ตั้งแต่สมัยเอา Sense80 เข้ามาขายแล้วหนะครับ..ซึ่งก็ถือว่า ดูแลลูกค้าใช้ได้ดีทีเดียว)
**ความคิดเห็น และความรู้สึกส่วนตัว ล้วนๆ อีกแล้วครับทั่น**
ศูนย์บริการดี มีมากมาย ขาดแต่การสื่อสารและข้อมูลที่ชัดเจน
ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ก็เหมือนเป็นการยกระดับ i-mobile ขึ้นมาอีก
ระดับหนึ่ง
เพราะถ้าi-mobile ทำตลาดในระบบ os แบบให้ลูกค้าต้อง
จินตนาการเองว่าเดี๋ยวบริษัทคงทำอย่างนั้นให้ทำอย่างนี้ให้
ก็คงไม่นานหรอกครับที่ลูกค้าในระบบ os จะหดหาย
เพราะจินตนาการของลูกค้ากับความเป็นจริงของบริษัทมันอาจไม่
่เหมือนกัน
ข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนจากบริษัทจึงเป็นเรื่องจำเป็น
เมื่อข้อมูลชัดเจนจึงเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อ
แต่ถ้าข้อมูลข่าวสารไม่ชัดเจนจึงเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
ที่จะต้องวัดดวงเอง
i-mobile ลองคิดดูว่าอยากได้ลูกค้าแบบไหน
และลองคิดดูว่าลูกค้าแบบไหนที่จะกลับมาซื้อ
และแนะนำคนมาซื้อ i-mobile อีก
สำหรับ ข้อ1-2,5 ต้องมีเป็นลายลักษณ์อักษรครับ นอกนั้น ถือว่าเราเชื่อคนง่ายไปเอง ข้อ3ข้อนี้ผมเข้าใจเป็นอย่างดีเพราะผมอยู่กับที่เกี่ยวกับวงการนี้มาเเล้ว 13ปี ราคาเเต่ละ shopไม่เท่ากัน มันมีปัจจัยหลายอย่าง มันเยอะกดไม่ไหว ข้อ3เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาขององค์กรเลย (ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวน่ะครับ)
ง่ายๆครับ ทาง iMobile ถึงแม้จะเป็นระดับ บมจ. แต่การทำงานทั้งระบบมันยังไม่เข้าสู่ระบบสากล ณ ขณะนี้ได้แค่ระบบเหมือน SME เท่านั้น ผมว่ามันต้องยกระดับคุณภาพขององค์กรได้แล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ISO แต่มันจะผ่านหรือเปล่านั้นไม่รู้
เท่าที่รู้จักองค์กรนี้มา คิดว่า เรื่องการสื่อสารในองค์กรแย่สุดละ
โดยเฉพาะพนังงานระดับล่างเนี่ย แทบจะไม่รุ้เรื่องอะไรเลยถ้าไม่จี้
ระดับบนก็ทำนองว่าใครอยากทำอะไรก็ทำ คนปลายทางเนี่ยแย่
ต้องคอยค้นคว้าด้วยตัวเอง ว่าคนก่อนหน้าทำอะไรมาบ้าง
ถึงตาผู้บริโภคก็ต้องคอยalart ตามว่าทางบริษัททำอะไรไปบ้าง
เราจะช่วยตัวเองได้ยังไงบ้าง ไม่ก็คลำหาทางกันไป
ปล.อาจจะงงบ้าง เพื่อรักษาน้ำใจ
ขอโทษค่ะ ซ้ำอีกแล้ว
Dojoman ให้อภัยครับ อิอิ
เออออออ…..หวังไว้มาก..ก็เจ็บมาก….วินาทีนี้…ต้องทำใจ…เวลาจากไปไม่ต้องอาวรณ์
อันนี้ผมก็เข้าใจนะครับ ว่าตอนนี้ผมก็คงต้องทำใจ ซึ่งนั่นเป็นความคิดเชิงหลักปรัชญามากกว่า แต่ที่ผมกำลังพูดถึงคือในแง่ของหลักเศรษฐศาสตร์และการตลาด ที่ผู้ขายสินค้าต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสินค้าที่ตัวเองขาย เพราะนี่ไม่ใช่สินค้าที่ขายออกไปแล้วก็จบเลย หากไม่มีการรับผิดชอบต่อสินค้าของตนเองก็เท่ากับเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค อย่างน้อยๆผมก็แค่หวังว่านี่จะเป็นแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายรายนี้ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อ หรือคิดจะซื้อในโอกาสต่อๆ
เป็น Public Company ที่มีการบริหารงานแบบ Small & Medium Enterprise อืมๆ
แหล่มมาก…
ถ้า audit ISO คงติด nc/car กันเพียบ…อิอิ
ถึง i-mobile พี่tuner22และพวกเราแสดงความจริงใจแล้วขอให้คุณแสดงความใจกว้างบ้างเข้ามาตอบให้กระจ่างหายสงสัย หรือจะส่งคนมาตอบว่ายังไม่ได้คำนวนต้นทุน เอะอะต้นทุน ไหนบอกว่าบริษัทคนไทย เพืี่อแบร์นไทย หรือต้องการหลอกกันเองให้ชำนาญก่อน แล้วค่อยไปหลอกต่างชาติ เตือนไว้ก่อนคนไทยเป็นคนอลุ่มอล่วย ไม่เหมือนต่างชาตินะเค้าเอาตาย
ลองดูอันนี้ครับ http://www.droidsans.com/node/6216 ผมนึกว่าจะเป็นเเต่น้อง i เเต่ของผมถือว่าโชคดี
เอาปัญหา lagfix มาเทียบกัน จากปัญหาที่ผมกล่าวมาทั้งหมด มันเทียบกับแค่เรื่อง lagfix ได้ด้วยหรอครับ
lagfix = ใช้งานเครื่องไปสักพักแล้วออกอาการหน่วง ต้องทำ lagfix เพื่อแก้ปัญหา
i-mobile = เครื่องดับตอนไหนก็ไม่ทราบ, จะกดโทรศัพท์เครื่อง restart เอง, ไปอยู่ในที่ไม่มีสัญญาณ กลับมาตรงที่มีสัญญาณ ไม่จับสัญญาณโทรศัพท์ต้องปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่, ขึ้น no simcard ถอดใ่ส่ใหม่ 3-4 ครั้งไม่หาย เปลี่ยนซิมก็ไม่หาย แล้วอยู่ดีๆก็กลับมาเป็นปกติ เปลี่ยนเครื่องไปแล้ว อัพรอมมาเป็นตัวที่สาม เปลี่ยนบอร์ดก็แล้ว ปํญหาพื้นฐานในการเป็นโทรศัพท์เหล่านี้ก็ไม่หาย
ช่วยบอกผมทีว่ามันใกล้เคียงกันตรงไหนครับ???
****update ข้อมูลเพิ่มเติมจากการตอบกลับจากไอโมบาย****
Re: ขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสินค้าและบริการของทางไอโมบาย
18/10/2553
ตอบกลับ ▼
Support
เพิ่มในรายชื่อผู้ติดต่อ
เรียน ผู้ใช้บริการไอโมบาย
เบื้องต้นต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับคำแนะนำและคำถามที่สอบถามมา ทางเราจะทำการส่งเรื่องเข้าให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆตามอีเมลฉบับนี้ให้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อทำการตรวจสอบ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกอย่างไรแล้วทางเราได้รับคำชี้แจงอย่างไรจะประสานงาน ติดต่อกลับทางคุณเพื่อแจ้งคำชี้แจงอีกคร� �้ง ต้องขออภัยที่ตอบอีเมลฉบับนี้ล่าช้าค่ะ
หากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อที่ call center i-mobile 02-975-5555 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
ขอบคุณที่ไว้วางใจบริการของ i-mobile
++++ก็นับว่ายังดีที่มีการตอบกลับมา แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบที่สมควรจะได้รับอยู่ดี
อันนี้เป็น E-mail เพิ่มเติมที่ผมได้ส่งกลับไปอีกครั้ง คราวนี้ยาวมาก โดยผมได้รวบรวมปัญหาส่วนตัวที่พบจากการใช้สินค้าและบริการของไอโมบายเอาไว้
RE: ขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสินค้าและบริการของทางไอโมบาย
13:40
ตอบกลับ ▼
ถึง irishclaims09@yahoo.com, support@i-mobiephone.com
เพิ่มเติมจาก E-mail 2 ฉบับที่แล้ว
ส่วนที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นปัญหาส่วนตัวที่พบเจอจากการใช้สินค้าและบริการของทางไอโมบายเป็นครั้งแรก ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ประทับใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก โดยผมของแยกเป็นประเด็นหลัก คือ 1.ในเรื่องของสินค้า 2.ในเรื่องของบริการเครือข่าย (i-mobile 3gx)
1. เรื่องของสินค้า (i-mobile 3g 8500) หลังจากใช้มาเป็นเวลากว่า 5 เดือน ซึ่งผมขอแยกเป็นประเด็นย่อย 2 ประเด็น คือ 1.1 ส่วนของ firmware 1.2 ส่วนของ hardware
1.1 firmware ซึ่งผมได้ทำการไปอัพเดทที่ศูนย์บริการแล้ว 3 ตัวด้วยกัน
– android 1.6 r1058 มีปัญหาดังต่อไปนี้ 1.เครื่องดับเอง 2.เครื่อง restart เอง 3.Accelerometer sensor เอียงซ้ายเห็นได้ชัดเจนเวลาอยู่ใน โหมด landscape 4.เวลาสัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไปจะไม่ทำการค้นหาสัญญาณให้ใหม่ นอกจากจะทำการ restart เครื่อง 5.IMEI ของเครื่อง แสดงไม่ครบ 6. เครื่องดับเอง และไม่สามารถเปิดได้ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆก็ตาม
– android 1.6 r1205 ซึ่งจะปัญหาข้อ 6 ที่กล่าวมา ผมได้ทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่และอัพเดทเป็น r1205 จากศูนย์บริการแล้ว แต่ก็ยังพบ ปัญหา ดังต่อไปนี้ 1.เครื่องดับเอง (น้อยลงบ้าง) 2.เครื่อง restart เอง (น้อยลงบ้าง) 3.Accelerometer sensor เอียงซ้ายเห็นได้ชัดเจนเวลาอยู่ ในโหมด landscape (ยังไม่รับการแก้ไข) 4.เวลาสัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไปจะทำการค้นหาสัญญาณให้ใหม่บ้างไม่ค้นหาบ้าง ต้องทำการ restart เครื่อง 5.IMEI ของเครื่องแสดงไม่ครบ (ยังไม่ได้รับการแก้ไข)
– android 1.6 r164 หลังจากที่มี firmware ตัวนี้ออกมา ผมได้ทำการอัพเดทอีกครั้ง ซึ่งเป็น firmware ที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ยังมี ปัญหาที่พบ ดังต่อไปนี้ 1.เครื่องดับเอง (น้อยลงบ้าง) 2.เครื่อง restart เอง (น้อยลงบ้าง) 3.Accelerometer sensor เอียงซ้ายเห็นได้ชัดเจน เวลาอยู่ในโหมด landscape (ยังไม่รับการแก้ไข) 4.เวลาสัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไปจะทำการค้นหาสัญญาณให้ใหม่บ้างไม่ค้นหาบ้าง ต้องทำการ restart เครื่อง
– สรุปในเรื่องของ firmware ในปัจจุบัน ปัญหาที่ถูกแก้ไขจนเป็นปกติ มีเพียงเรื่องเดียว คือ ตัวเครื่องสามารถแสดง IMEI ได้ครบทุกหลัก เท่านั้น
1.2 hardware หลังจากที่ได้ทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว ปัญหาที่พบเจอ มีดังต่อไปนี้
– กล้องถ่ายรูปใช้ไม่ได้ เปิดแอพ camera ขึ้นมา แล้วช่องถ่ายภาพขึ้นมีรุ้งๆเหมือน โทรทัศน์ที่รับสัญญาณไม่ได้ ได้ทำการแก้ไขโดยไปที่ศูนย์ บริการให้ทำการแก้ไขให้
– เครื่องสั่นแล้วมีเสียง แกรบๆข้างใน เหมือนประกอบข้างในไม่แน่น ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากไปแก้ไขเรื่องกล้องถ่ายรูป เพียงหนึ่งวันถัดมา และ ได้ทำการแก้ไข โดยไปที่ศูนย์บริการให้ทำการแก้ไขให้อีกครั้ง
– ไม่สามารถ mount sd card ผ่านสาย usb กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ (ไม่มีสัญลักษณ์ขึ้นมาให้ mount) ได้ทำการแก้ไขโดยไปที่ศูนย์บริการ อีกครั้ง และต้องทำการเปลี่ยนบอร์ดใหม่ ซึ่งผมต้องรอเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
และปัญหาต่อไปนี้ได้เกิดขึ้นหลังจาได้ทำการเปลี่ยนบอร์ดใหม่แล้ว
– เครื่องสั่นแล้วมีเสียง แกรบๆข้างใน เหมือนประกอบข้างในไม่แน่น ปัญหานี้เป็นปัญหา ณ ปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ทำการเปลี่ยน บอร์ดมาไม่กี่วัน และยังไม่ได้ทำการแก้ไข ทั้งที่ในใบรับเครื่องได้ลงไว้ว่าทำการ QC แล้ว
– รับสัญญาณ wifi ได้แย่ลง จากก่อนหน้าจะทำการเปลี่ยนบอร์ดใหม่นั้นผมสามารถรับสัญญาณ wifi โดยห่างจากเราท์เตอร์ได้ 2 ชั้น แต่ ปัจจุบัน สามารถรับสัญญาณ wifi ได้โดยห่างเราท์เตอร์ได้เพียงชั้นเดียว และสัญญาณแกว่งขาดหายและขึ้นๆลงๆ และยังไม่ได้ทำการแก้ไข
– จับสัญญาณ gps ได้แย่มาก ใช้เวลาจับสัญญาณนานหลายนาทีมากในครั้งที่สามารถจับสัญญาณได้ และหลายๆครั้ง(ส่วนมาก)ไม่สามารถ จับสัญญาณ ได้เลย แม้อยู่ในที่โล่งไม่ได้อยู่ในอาคาร (ทดสอบโดย google map, ndrive และ sygic) และยังไม่ได้ทำการแก้ไข
– ตัดการรับสัญญาณ wifi เอง ทั้งที่ได้ไปทำการตั้งค่า wifi sleep policy เป็น never when plugged in แล้วก็ตาม ก็ยังคงตัดการรับสัญญาณ wifi เมื่อเข้า sleep mode ทั้งที่ยังเสียบสายชาร์ตอยู่
– แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ เทียบกับโทรศัพท์มือถือที่เป็น android ด้วยกัน ทั้งที่แบตเตอรี่ระบุว่ามีความจุมากถึง 1500 mAh และในกรณีนี้ยัง ไม่เคยถูกทำการแก้ไขใดๆเลย ทั้งก่อนเปลี่ยนเครื่อง หลังเปลี่ยนเครื่อง หรือหลังเปลี่ยนบอร์ดแล้วก็ตาม
จากปัญหาข้างต้น ผมได้ทำการขอเทิร์นเครื่องแล้วเพิ่มเงินเพื่อเปลี่ยนสินค้าเป็น i-mobile i858 ตั้งแต่ที่ทราบว่าต้องทำการเปลี่ยนบอร์ด แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้จัดการสาขาของศูนย์บริการ
2. เรื่องบริการเครือข่าย (i-mobile 3gx) เป็นปัญหาที่พบเจอในช่วงเวลา 4 เดือนที่ใช้บริการอยู่ และในปัจจุบันได้ทำการยกเลิกไปแล้ว โดยปัญหาที่พบสามารถแยกได้เป็น 2 ประเด็นย่อย คือ 2.1 ปัญหาที่เกิดจากตัวเครือข่าย 2.2 ปัญหาที่เกิดจากศูนย์บริการ i-mobile
2.1 ปัญหาที่เกิดจากตัวเครือข่าย มีดังต่อไปนี้
– สัญญาณขาดหาย แม้จะอยู่ในพื้นที่บริการที่ได้ระบุไว้ในเวปไซต์ของ i-mobile 3gx ซึ่งประกอบกับปัญหาตัวเครืื่องที่จะไม่ทำการค้นหา สัญญาณให้หลังจากที่สัญญาณขาดหายไปแล้ว เสมือนว่าไม่ได้พกโทรศัพท์อยู่เลย แล้วปัญหานี้ไม่ได้ทำการแก้ไขเลยจนกระทั่งยกเลิกบริการ
– คิดค่าบริการไม่เป็นธรรม ในรอบบิลแรกของการใช้บริการ 6/6/2010 – 24/6/2010 ผมได้ทำการโทรเข้าหาศูนย์บริการของ dtac 1678 ซึ่งเมื่อ ได้รับใบแจ้งชำระค่าบริการแล้วระบุว่า คิดค่าบริการในนาทีละ 3 บาท ซึ่งนอกเหนือโปรโมชั่น เพราะเป็นเบอร์พิเศษ ทั้งนี้ผมได้ทำการสอบถาม ทาง dtac แล้วว่าทาง dtac จะคิดค่าบริการในการโทรเข้าศูนย์บริการ คือ หากโทรจากเบอร์ของ dtac จะคิดค่าบริการครั้งละ 3 บาท และหาโทร จากเครือข่ายอื่นๆ จะคิดค่าบริการตามโปรโมชั่นที่ใช้อยู่ โดยผมได้ทำการทดสอบโดยใช้เบอร์ของ true แล้วสรุปว่าเป็นจริงตามตามที่ทาง dtac ได้ระบุไว้
– ทำการตัดสัญญาณ อย่างไม่มีเหตุผล จากปัญหาเรื่องคิดค่าบริการไม่เป็นธรรมตามที่กล่าวมาข้างต้น ผมได้ทำการร้องเรียนจากทางศูนย์ บริการ และได้สอบถามจากทางคอลเซ็นเตอร์แล้ว ซึ่งได้รับคำตอบว่า กำลังดำเนินการอยู่ และไม่ได้รับการติดต่อใดๆมาอีก จนกระทั่งในรอบ บิลที่ 4 รอบบิล 25/8/2010 – 24/9/2010 ได้ทำการตัดสัญญาณโทรศัพท์ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้ชำระค่าบริการ ทั้งที่ผมยังไม่ได้รับการติดต่อ จากเรื่องที่ทำการร้องเรียนไป แล้วจะให้ชำระค่าบริการได้อย่างไร
จากปัญหาที่ถูกตัดสัญญาณ ผมได้ทำการต่อสัญญาณ โดยการชำระค่าบริการส่วนที่ค้างแล้วได้ชำระค่าบริการล่วงหน้าของรอบบิล 25/8/2010 – 24/9/2010 โดยไม่มีเงื่อนไข และการชดเชยใดๆจากทางเครือข่ายให้ทั้งสิ้น
2.2 ปัญหาที่เกิดจากศูนย์บริการ ซึ่งสืบเนื่องจากปัญหาที่เกิดจากตัวเครือข่าย มีดังต่อไปนี้
– ทั้งนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวเครือข่าย ผมได้ไปทำการขอยกเลิกบริการในวันที่ 24/9/2010 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดของรอบบิล ที่ศูนย์บริการ แต่ศูนย์บริการให้คำตอบว่าเครือข่ายล่มไม่สามารถชำระค่าบริการ หรือยกเลิกบริการได้ ให้มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น ผมจึงได้สอบถามว่า วันนี้เป็นวันสิ้นสุดรอบบิล หากไม่ทำการยกเลิกในวันนี้แล้วจะเป็นอย่างไร โดยศูนย์บริการได้ให้คำตอบว่าจะมีการคิดเรทของโปรโมชั่นเป็นรายวัน (อย่างนี้เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือไม่?) และในวันที่ 25/9/2010 ผมได้ไปทำการขอยกเลิกบริการอีกครั้ง ที่ศูนย์บริการเดิม แต่ก็ยังคงได้รับคำตอบเดิมว่าเครือข่ายล่มอีก ผมจึงได้ทำการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทางคอลเซ็นเตอร์ได้ให้คำแนะนำ โดยให้เบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการให้ทำการโทรไปสอบถามศูนย์บริการในวันรุ่งขึ้นอีกทีว่าสามารถให้บริการได้หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เดินทางไปเสียเที่ยว ในวันที่ 26/9/2010 ผมจึงได้ทำการโทรไปสอบถามศูนย์บริการก่อน และได้คำตอบว่าสามารถให้บริการได้แล้ว แต่พอผมไปถึงและขอทำการยกเลิก ก็ได้คำตอบว่าเครือข่ายพึ่งล่ม ไม่สามารถให้บริการได้อีก และไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆเลย ผมจึงทำการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ว่าสามารถแก้ปัญหายังไงให้ผมได้บ้าง ทางคอลเซ็นเตอร์ก็ขอคุยกับพนักงานของศูนย์บริการ ซึ่งก็คือผู้จัดการสาขา โดยทางผู้จัดการสาขาให้ข้อมูลกับผมว่า ไม่สามารถติดต่อกับเครือข่ายได้ทำให้ไม่สามารถทำการตรวจสอบยอดค้างชำระ ดังนั้นถ้าผมยืนยันจะขอยกเลิกบริการในวันดังกล่าวจะต้องชำระค่าบริการของรอบบิล 25/9/2010 – 24/10/2010 เป็นจำนวนเงิน 299 บาท(ไม่รวม vat) ตามโปรโมชั่นซะก่อน เพราะเป็นนโยบาย ซึ่งผมไม่ยินดีจะชำระค่าบริการดังกล่าวเนื่องจากผมได้ชำระค่าบริการของรอบบิลที่ผมทำการขอยกเลิกล่วงหน้าไปแล้ว และผมได้มาขอทำการยกเลิกบริการตั้งแต่ก่อนจะขึ้นรอบบิลใหม่ แต่ระบบไม่สามารถให้บริการผมได้ จึงไม่ใช่ความผิดของผม ผมจึงได้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์อีกครั้งว่าจะแก้ปัญหาให้ผมยังไงได้บ้าง ทางคอลเซ็นเตอร์จึงทำการติดต่อศูนย์บริการอีกครั้ง จนผมสามารถขอยกเลิกบริการได้โดยชำระค่าบริการส่วนเกิน
โดยการให้บริการดังกล่าวนับว่าเป็นการให้บริการที่แย่มาก ศูนย์บริการไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ และช่วยเหลือใดๆผม ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการเลย
โดยผมได้ทำการร้องเรียนศูนย์บริการ และตัวผู้จัดการสาขาไปทางคอลเซ็นเตอร์แล้ว ก็ไม่ทราบว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งศูนย์บริการที่ผมได้ไปใช้บริการตามที่กล่าวมาทั้งหมดคือ ศูนย์บริการเซนทรัลปิ่นเกล้า และผู้จัดการสาขาคือ นายภาคิน
จากปัญหาที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมด ทำให้ผมไม่สามารถไว้วางใจ ที่จะใช้สินค้า และบริการจากไอโมบายได้อีก ซึ่งปัญหาทางเครือข่ายผมได้ทำการยกเลิกไปแล้ว แต่ในส่วนของสินค้าซึ่งก็คือ i-mobile 3g 8500 ผมไม่สามารถรับสภาพที่จะใช้งานอีกต่อไป ผมจึงจะทำการขอคืนสินค้า โดยผมขอรายละเอียด ในการขอคืนสินค้าดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ผมยังคงรอการติดต่อกลับโดยด่วนที่สุด เพื่อขอทราบคำชี้แจงจาก E-mail ฉบับก่อนหน้า และกรณีของ E-mail ฉบับนี้ และสมควรให้ผมได้ติดต่อกับผู้รับผิดชอบกรณีดังกล่าวโดยตรงด้วย โดยหากไม่ทำการติดต่อกลับ และทางไอโมบายไม่ได้ให้คำตอบที่น่าพึงพอใจ ซึ่งจะแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคแล้ว ผมจะทำการนำ E-mail ทั้ง 2 ฉบับไปทำการยื่นเรื่องฟ้องร้องกับทาง สคบ. ในเรื่อง “สินค้า และบริการ ไม่มีคุณภาพ” เป็นลำดับต่อไป
เนื้อหาของ E-mail ฉบับนี้ รวมถึงคำตอบที่จะได้รับ และคำตอบที่ผมได้รับก่อนหน้าจะถูกนำไปเผยแพร่ใน website และ blog ที่เกี่ยวข้องกับโทรศํพท์มือถืออีกครั้ง
19 October 2010
โดยผมขอรับรองว่าตามที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ผมประสบมาด้วยตนเองไม่ได้แต่งเติม หรือใส่ร้ายเพื่อจุดประสงค์ที่จะทำลายชื่อเสียงของไอโมบายแต่อย่างใด ควรใช้วิจารณญาณของตนเองเป็นตัวสิน
เป็นกำลังใจให้ค่ะพี่ เพื่อทุกๆคน สู้ๆนะคะ่
อ่านแล้วเหมือนรีวิวรอมซะส่วนใหญ่
ครับอ่านแล้วอาจจะรู้สึกแบบนั้น เพราะผมอ่านเอง บางส่วนผมก็แยกไม่ออกเป็นที่แน่นอนเหมือนกันระหว่างปัญหาที่เกิดจาก firmware หรือ hardware กันแน่ แต่ผมก็ยังมองว่าไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากส่วนไหน ถ้าผู้ใช้สินค้าไม่ได้ทำการใช้สินค้าอย่างผิดวิธี แต่เกิดปัญหาต่างๆนาๆขึ้น ผู้ที่สมควรออกมาแสดงความรับผิดชอบย่อมต้องเป็นเจ้าของหรือผู้ขายสินค้าครับ
รอฟังคำตอบด้วยคนครับ
แต่คิดว่าคงไม่มีคำตอบที่นี่ชัด – -”
จุดขายก็ไม่ชัด มิกซ์ซะมาก เลยไม่เด่นสักด้าน
อ่านแล้วก็เห็นใจนะครับ…
ยังไง ขอให้ i-mobile ได้ปรับปรุงด้วย..
ติ..เพื่อก่อ..ครับ…