วันนี้ผมอยากจะมาพูดเรื่องเกี่ยวกับ ทำไม Android ถึงยังไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดซักที
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า Android Os นั้น เป็นระบบเปิด open source นั่นทำให้สามารถ มือถือหลายๆเจ้า สามารถนำ เจ้าหุ่นกระป๋องเขียวไปพัฒนา และอย่างที่เรารู้กันและต้องยอมรับว่า Android นั้นมีราคาถูกกว่า Iphone อยู่หลายขุม ผมออกตัวก่อนเลยว่า ผมเป็นแฟน Android เต็มพิกัด
และนี่คือ Android ที่ผมใช้และขายไปแล้ว
1.Samsung Galaxy Spica
2.I mobile I858
3.Samsung Galaxy S 16gb version 2.2
เอาตรงๆผมว่าเจ๋ง
แต่ที่ยังไปไม่ถึงจุดๆนั้น นั่นก็เพราะว่าพอเริ่มเป็นที่นิยมในตัว android หลายๆเจ้าก็พากันออกรุ่นใหม่ๆราคาถูกมาๆ แล้วต้องยอมรับด้วยว่า มันขาดๆเกิน ไม่สมบูรณ์แบบซักที
Wellcom A88 คู่ต้อสู้ของ Samsung Galaxy Spica
ต้องยอมรับว่าแม้ว่า A88 จะได้รับความนิยมมากกว่าในราคาตอนเปิดตัวประมาณ 8990 ก็ยังโดนต่อว่าเรื่อง กล้องกับลำโพงอยู่ดี และแม้ว่า Spica จะจอสวยสุดๆ แต่มันก็ยังขาดๆเกินๆยังไงบอกไม่ถูก CPU 800 แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึง 2.2 แถม cpu ไม่รองรับ flash อีก เฮ้อ ปัญหาเรื่อง EDGE ไม่วิ่ง ต้องเอาวิธีนู้นใช้วิธีนี้มันแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมจริงๆ
Galaxy S สุดยอดมือถือ smart phone ปี 2010 จากหลายสถาบัน
ต้องยอมรับว่าตัวที่ผมใช้คือ 2.2 แล้ว รองรับ flash 10.1 สมบูรณ์แบบ หน้าจอชัด กล้องงาม วีดีโอ เยี่ยม แต่แบตหมดไว วัสดุเปราะบาง แต่ผมก็ยังชื่มชมว่ามันสุดยอด GPU ขั้นมหากาฬ แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้า แบตหมดไวขนาดนั้นและเกม 3D สูงๆเพิ่งทยอยเข้ามาและรุ่นใหม่ก็กำลังจะมาแทนที่ (สำหรับคนที่แบตหมดไม่ไว ผมไม่รุ้ว่าเกี่ยวกับที่ผมเป็น 2.2 แล้วรึเปล่า เวลาเปิดเวปมันต้องแสดงผลเยอะขึ้น)
เมื่อมันเป็น open source มือถือค่ายนี้คงไม่พลาด
I mobile i858 สุดยอดมือถือจอยักษ์ ดูทีวีได้ ผมเคยใช้และพอใจมาก แต่ในขณะที่ตอนออกมาแรกๆ rom ยังมีอาการ sleep forever หรืออยู่ดีๆเครื่องก็ดับ ซึ่งเซ็งมาก ถ้าเราไม่ได้ไปดูมันตลอดเวลามีคนจะติดต่อเรื่องสำคัญละจะทำยังไง แม้ว่ามันจะหน้าตาดูดีเพียงใดแต่เราก็คงเถียงไม่ได้ว่า GPU ที่ขาดไปในรุ่นนี้ ทำให้มันก็ยังไม่ใช่ตัวที่จะครอบคลุมทุกอย่าง รวมถึงปัญหา GPS อยู่ดี I810 ออกมาอีกตัว กล้อง 8 ล้าน ปัจจุบันอัพเป็น 2.1 ได้แล้ว ก็ยังถือว่าเป็นตัวที่น่าสนใจอีกตัว ยังไงก็ลองพิจารณาดูนะครับ
HTC ค่ายนี้ก้ยังมีตัวเจ๋งๆออกมามากมาย แต่ผมจะขอข้ามละนะครับ เพราะว่าผมไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบ หมัดต่อหมัดแล้ว ผมพอจะสรุปเมื่อเทียบกับ iphone ได้ดังนี้
1.IOS มีความเสถียรมากกว่า มากถึงมากสุด แม้ว่าบางครั้งเราอาจจะด่าทอว่า โห่ Flash ก็ไม่มี บางเวปแสดงผล ลิงก์ซ้อนกันอีก (ใครใช้ ipod iphone ลองเปิด www.thaiandroidphone.com/portal.php ดูครับ มองไปทางขวาๆ) แต่จะสำคัญอะไรถ้าเครื่องเปิดแล้ว ไม่ค้าง ไม่ hang มันก็ย่อมดีกว่า สรุปผมว่าเกือบทุกเครื่องที่เป็น Android เฉลี่ยงค้างบ่อยกว่า iphone จากประสบการณ์จริง
2.Android มีการเชื่อมต่อ internet ที่ไวมาก เมื่อเทียบกับ ios4 ผมลองเปิดเทียบกับตัวต่อตัว Android ทำได้ดีกว่า Bluetooth Android ก็ยังดีกว่า Iphone เช่นกัน
3.Touch Screen แม้ว่าจะใช้ระบบจอสัมผัสเหมือนกัน แต่เอาจริงๆ สามารถที่จะสู้ touch iphone ได้รึเปล่าผมว่าน่าคิด(ส่วนตัวผมว่าไม่ได้เลย) อย่างเวลาผมเข้า www.scbeasy.com เอาจริงๆ ลิงก์ของ android browser ไม่ได้ตรงกับที่กดเล้ยย(ทดสอบใน galaxy S & Spica)
4.Easy to use อันนี้ผมไม่ต้องเขียนเยอะก็คงทราบ android ถอดเม็ม ลากๆๆๆ ยัดเข้าไป ใช้ได้ Iphone เหมือนอยู่ในคุก ต้องใช้ usb port แบบเฉพาะ ต้อง itune อย่างเดียวเวลาจะทำอะไรก็ตาม มันช่างวุ่นวาย แบตก็ถอดไม่ได้ อะไรก็ไม่รู้
5.อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ application ผมไม่ต้องถามครับ แม้ว่า android จะมี app เยอะแต่ ก็คุณภาพสู้ iphone ไม่ได้ แม้ว่าบางอย่างจะเจ๋งกว่า Iphone แต่ app store เจ๋งกว่าเราเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะ game และ Social ดูอย่าง Facebook ก็ได้ Facebook ของ Iphone ถึงขนาดมี chat แล้ว เรายังต้องใช้Appแยกอยู่เลย (Go chat facebook)
6ตัวเครื่อง อันนี้ Iphone มีแบบเดียว แต่ android หน้าตาเยอะมากมายและหลายแบบ อันนี้แล้วแต่คนชอบแล้วละครับ นอกจาก Body แล้ว interface Android ยังหลากหลายกว่า
7.Hardware ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับการซดแบตที่ยิ่งใหญ่ เมื่อวัดกันแล้ววันต่อวัน Iphone อยู่ได้นานกว่า Android ทุกตัวที่ผมเล่นและถามมา Iphone4 เปิด Edge ทั้งวัน Android ก็ Edge ทั้งวัน (ชัดเจนมากในกรณีของ Galaxy S Super Amoled+Gpu+Cpu มันมากเกินที่พี่จะให้แบตผมมา 1500 mAh นะจ๊ะ
8.Multi Tasking หรือการใช้งานหลายๆอันซ้อนกัน เอาจริงๆเลย ผมว่า Android เหนือกว่า แต่ Android ชอบมีโปรแกรม อะไรก็ไม่รู้ทำงาน ทั้งๆที่เราไม่ได้สั่ง ต้องมานั่ง task killer กัน แต่ก็ยังดีกว่า iphone เพราะ เวลา Iphone เล่น MSN จะไม่สามารถที่จะเปิด App อื่นได้ มันจะออก MSN ทันที(วิธีแก้ผมไม่รู้ ผมใช้อย่างเดียวครับ ลองคิดดูนะครับ คนส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่พวกเรา เค้าไม่มานั่งวิเคราะห์มือถือหรอกครับ ใช้อย่างเดียว) ซึ่ง Android เหมาะมากสำหรับคนใช้อย่างเดียว และ Iphone ต้อง advance นิดนึง
สรุป
1.Os
Iphone ชนะครับ
2.Connection
Android ครับ
3.Touch screen
Iphone ครับ
4.Easy to use
Android ครับ
5.Application
Iphone ครับ
6.Interface
Android ครับ
7.Hardware
เสมอครับ
8.Multi Tasking
Android ครับ
สรุป 4-4 เสมอครับ แต่ผมให้ยกนี้ Iphone ชนะครับ ผมจะรอเวลา ที่ Android ยิ่งใหญ่และเสถียรครับ อย่างน้อยๆ APP ใน App store ก็ใช้กับ Iphone ได้เกือบทุกอัน ไม่มีเด้งเหมือน Android หลายรุ่นราคา Iphone อาจจะแพง แต่ผมว่าเค้าแน่นอนกว่ามาก และเพราะว่าผมเป็นแฟน Android อย่างเข้าสายเลือด ผมคงต้องรอให้วันนั้นเป็นของเราสักวัน วันที่ Android จะเป็นระบบที่เสถียรที่สุด
android ชนะ ให้ไป 1 เสียงครับ ^ ^ จาก คนจนๆ!! ซึ่งถือว่ามันตอบสนองความต้องการของผมได้ดีทีเดียว กะแค่ซื้อมาลอง แต่ติดใจ มักๆ!! ที่สำคัญ ไม่คิดว่าจะได้ ประโยชน์ขนาดนี้ สำหรับ ราคานี้
เขียนได้ดีคับ ผมว่าเป็นกลางที่สุดและ 4-4 …
ถึงจะแตกต่าง แต่เราไม่ขอแตกแยกครับ ^ ^ ต่างคนก็ต่างความเห็น อิอิ และก็ขอบคุณสำหรับบทความ ทำให้ได้เก็บไปคิด ครับ ! อิอิ
คาดว่าปีที่จะมาถึงนี้ Andriod น่าจะเสถียร และ คงเยอะมากท้องตลาดคงวางทุกร้าน และขอให้ถูกสักนิสนึงก้อยังดี
ความเห็นทุกๆคนต่างจากที่ผมไป post ไว้ใน thaiandroidphone นะครับ แต่ผมว่า ผมเนี่ย เป็นกล๊างเป็นกลางที่สุดแล้ว เพราะยังไงผมก็รัก Android ผมคงไม่เชียร์ iphone หรอกครับ แล้วผมก็ช้มาแล้ว 2 อย่างจริงๆ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นครับ
เยี่ยมมากๆครับ เรื่องความชอบผมชอบ iphone แต่ให้ผมเลือกซื้อผมซื้อแอนดรอยครับเพราะตอบโจทย์สำหรับชีวิตผมได้ดีกว่า
ขอบคุณสำหรับบทความครับ ละเอียดมากเลย 😀
มาโหวตให้น้องหุ่นเขียวอีกเสียงครับ เมื่อก่อนยอมรับเลยว่าไม่สนใจ smart phone เลยจนกระทั่งได้จับ iphone นั่นแหละครับ ทำให้ผมไขว้เขวและอยากได้ขึ้นมา
แต่เหมือนพรายกระซิบ ที่ผมดันศึกษาต่อจนรู้จักกับแอนดรอยด์ครับ ทำให้ผมเข้าใจว่า iphone มันไม่ใช่คำตอบสำหรับผมแล้ว เพราะแอนดรอยเกิดมาเพื่อเป็น “โทรศัพท์ของผม” จริงๆ ^^
เรื่อง apps นี่น่าเศร้าครับ ผมว่าส่วนหนึ่งถ้า google จัดการระบบซื้อขายให้ครอบคลุมทุกประเทศได้ คนน่าจะอยากลงทุนมากขึ้นและคุณภาพ app น่าจะไปดีกว่านี้ (และต้องพึ่งจิตสำนึกผู้บริโภคด้วย)
แต่แอบเซ็งเว็บของ Market มาก จริงๆน่าจะทำออกมาให้ดูดีตั้งแต่แรกนะ ไม่สมกับเป็น google เลย
ผมว่าที่น่าเศร้าอีกเรื่องคือการที่มันปรับแต่งได้มากกลับกลายเป็นดาบสองคมครับ เพราะ end user หลายคนนะผมว่าที่พอรู้สึกใช้ยากแล้วพลอยหงุดหงิด
อ้อ อีกเรื่องคือ UI ที่ต้องการปรับปรุงอีกมากครับ เพราะต้องยอมรับว่ามันคือ “ความประทับใจแรก” ของผู้บริโภคเลย หลังๆเริ่ม UI เจ๋งๆออกมามั่งละ ก็ดีใจครับ
แต่ให้ตายเหอะ ตัว body ของแต่ละรุ่นที่หลุดออกมาให้เห็นช่วงหลังๆนี่ทำผมหงุดหงิด มันหน้าตาพิมพ์นิยมไปแล้วนะเฟ่ย ณ จุดนี้ผมยกเรื่องการออกแบบของ htc ดีที่สุดละครับ (ที่ชอบมากๆคือ N1 )
เห็นด้วยครับ
แต่ส่วนหนึ่งผมว่าเป็นเพราะ user กับ การตลาด ด้วยนะ (พูดถึงในไทย)
อย่างการตลาดในบ้านเรา แทบจะไม่มีโฆษณา android ในทีวีเลย
ถึงจะมีออกมาบ้างว่าใช้ os android แต่ก็ดันไปแทรกอยู่ในโฆษณาของแบรนด์ซะนี่
ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ยังติดภาพกับ แบรนด์ มือถืออยู่อย่างมาก
nokia, samsung และ iphone นี่คนรู้จักกันดี
แต่พอพูดถึง android ใน samsung สิ ผมว่าน้อยคนที่จะรู้จัก
อีกส่วนคือ user ในบ้านเรามักเป็นแบบ end user
คือซื้อมาใช้ทีเดียวจบ/ ใช้ง่ายเป็นพอ
ผมว่า root เค้ายังไม่อยากทำเลย นับประสาอะไรกับ flash rom ฯลฯ
ขนาด iphone เอง user บางกลุ่มยังต้องไปให้เค้า jailbreak + ลง app ให้เลย
android นี่อาจจะยาก (สำหรับคนที่ไม่ชอบพวกนี้)
ลองสังเกตุง่ายๆ user android ในบ้านเรามันก็เป็นกลุ่มคนประเภทเดียวกันนั่นแหละ
ถ้าคนปกติเค้าจะเน้นไปที่ แบรนด์ ทั่วไปอย่าง nokia, samsung
หรือถ้าจะเล่นอะไรที่มันหวือหวาหน่อย เค้าก็ข้ามไป iphone เลย(แพงเค้าก็ผ่อนได้)
สรุปง่ายๆเกี่ยวกับแอพนะครับ
ส่วนใหญ่สิ่งที่ Iphone ทำได้ Android ก็จะทำได้ แต่ไม่ถึงกับดีเท่า
แต่บางสิ่งที่ Android ทำได้ Iphone จอาจจะไม่สามารถทำได้เลยเพราะด้วยความที่มันผูกขาด
Android เหมาะสำหรับคนชอบปรับแต่ง
แต่ Iphone เหมาะสำหรับ End user ที่ต้องการความสะดวก
ดังนั้นจะมาบอกว่าใครชนะ ใครดีกว่ามันก็ยาก ต่างฝ่ายต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย
และมันอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ใช้
บางคนไม่ชอบความจำเจก็จะเลือก Android ชอบปรับแต่ง นู้นนี่นั่นเรื่อยเปื่อย เปลี่ยนได้แม้กระทั่ง UI
แต่ถ้าชอบความสะดวกแต่ปรับแต่งได้น้อยก็จะเลือก Iphone
แต่สำหรับผม ไม่ได้เกิดมาเพื่อ iphone ครับ เพราะชอบความ various ของ Android มากกว่า
ผมก็ว่ามันดีคนละแบบนั่นแหละครับอาจจะดูคล้ายกันทั้งในด้านการทำงานรวมถึงแอพ แต่มันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ข้อดีที่สุดของ iphone สำหรับผมคือ ราคาขายต่อตกน้อย เพราะมันไม่ได้ออกมาถี่เท่ากับ android ที่ปีนี้ปีเดียวออกรุ่นที่สเปคเครื่องระดับสูงออกมาเป็นสิบเครื่องก็เพราะว่ามันเป็น Open Source ก็เลยออกมาถี่ ทำให้ราคาร่วงเร็วมาก ss gs เป็นตัวอย่าง คือผมไม่ได้ซื้อมือถือเพื่อมาขาย แต่จะดีกว่าไหมเมื่อมันตกรุ่นไปแล้วมันก็ยังราคาดีพอจะขายแล้วบวกเพียงนิดหน่อยก็ได้รุ่นใหม่แล้วตอนi4มาใหม่ๆ 3gs มันอยุ่ยังหมื่นห้า แต่SS GS 8GB ตอนนี้เครื่องใหม่มันหมื่นแปดทั้งที่ยังไม่มีรุ่นใหม่ออกเลยจริงๆมันก็อาจจะใกล้แล้วราคาร่วงมารอก่อนเลยนี่ถ้ารุ่นใหม่ออกมามือ1 มันไม่ลงมาหมื่นห้าเลยหรอ แล้วราคามือสองก็ยิ่งลงตามมาอีก มองในแง่ผู้ซื้อ มันดีมากครับที่มือถือราคาลงไว ทำให้คนที่งบน้อยสามารถเก็บตังรอได้เลย และถูกกว่าที่ตั้งงบไว้แต่แรก แต่ในแง่ของคนใช้แล้วหล่ะก็เสียความรู้สึกมากครับ ซื้อมาไม่กี่เดือนราคาลงไปสองพันแล้ว จะขายมือสองก็ยิ่งได้น้อยกว่าเดิมไปอีก จริงๆเรื่องราคามันไม่เกี่ยวกับประเด็น IOS Android โดยตรง แต่มันก็เป็นจุดที่คนงบน้อยอย่างผมรู้สึกได้ชัดเจน
สิ่งที่มีการก้าวหน้าและพัฒนาอย่างรวดเร็ว จะทำให้สิ่งนั้นราคาตกเร็วกว่า มันคือสัจธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาเร็วก็จะทำให้ตกรุ่นเร็วกว่าเทคโนโลยีที่เติบโตช้ากว่าเช่น มือถือ หรือคอมพิวเตอร์
แค่ปีเดียวเราจะได้เสปกที่สูงขึ้นในราคาเท่าเดิม หรือเสปกที่เท่าเดิมในราคาที่ถูกลง
แต่ถ้าสิ่งไหนมีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงช้า สิ่งนั้นก็จะมีมูลค่าคงเดิม หรือเปลี่ยนแปลงช้าไปด้วย
เช่น เตารีด , หม้อหุงข้าว , เครื่องซักผ้า , ตู้เย็น หรือแม้แต่วงการรถยนต์ ที่กว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจะใช้เวลาเป็นสิบๆปี ราคารถมือหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับราคามือหนึ่งตอนนี้จะราคาพอๆกันในเสปกที่เท่าเดิมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่วงการคอมพิวเตอร์และมือถือไม่ใช่
แค่ราคามือถือ 5 ปีที่แล้วกับตอนนี้ราคาจะห่างกันมาก นั่นก็เพราะวงการนี้เทคโนโลยีมันยังไม่หยุดนิ่ง
แต่การที่ iphone ราคาตกช้ากว่าก็อาจจะเป็นเพราะมันออกรุ่นมาน้อยกว่ามือถือทั่วๆไปนั่นแหละครับ
กว่าจะพัฒนาไปอีกขั้นก็ต้องรอออกรุ่นใหม่มาแล้วเป็นเวลาปีหรือสองปี ในขณะที่มือถือแบรนด์อื่นๆเค้าออกกันเป็นร้อยรุ่นแล้ว
อันนี้น่าจะเป็นข้อดีของเฉพาะ iphone ที่ออกรุ่นมาน้อยกว่าชาวบ้าน
แต่ถ้าเอาตรรกะอันนี้มาคิดก็เท่ากับว่า Android กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไม่หยุดนิ่ง เหมือนดังเช่นวงการคอมพิวเตอร์และวงการมือถือทั่วๆไปนั่นเอง
ไม่ต้องอะไรครับ ขนาด lollipop ที่ไม่ใช่ Android ไม่ถึงปีราคาก็ลดจาก 7900 เหลือ 5900 ลดมาถึง 2 พันบาทแล้วครับ เทียบกับ a88 ที่ลดมาแค่พันเดียวในเวลาหนึ่งปี
(ตกไม่ต้องบอกนะว่า lollipop เป็นรุ่นที่ขายดีขนาดไหน)
iphone ราคาไม่ตกหรอครับ ? ลูกพี่ลูกน้องผมซื้อ Iphone4 ตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย 29900 บาท พอเข้าไทยปุ๊บ 23000 บาทด้วยโปรโมชั่นสุดเปลืองของเครือข่ายต่างๆ ทีนี้พอจะเอาไปขายต่อ 2 หมื่นยังไม่มีคนจะซื้อเลยครับขายไม่ออก ขาดทุนก็เป็นหมื่น ไม่ต้องพูดถึงรุ่นเก่าๆอย่าง 3g ที่ตอนนี้ หมื่นต้นๆจะมีคนซื้อรึเปล่านะ ทั้งๆที่แค่ปี สองปีเท่านั้นเอง เค้าออกเกือบทุกปีแท้ๆ ปีหน้า iphone 5 ก็มาอีก หวังว่า iphone 4 จะไม่ลดราคาซะจนใจหายนะ
สรุปก็คือการราคาตกของ Android แทบไม่แตกต่างจากมือถือทั่วๆไปเลยหรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
ส่วน iphone ราคาไม่ตกถ้าเป็นรุ่นเดียวกันอาจจะไม่ตกมาก แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เก่ากว่าจะตกเห็นๆครับ เยอะมากด้วย ลองเทียบ iphone 4 กับ 3gs ก็ได้ครับ เปิดตัวมาราคาเกือบจะเท่ากัน แค่ปีเดียวราคาตกไปเกือบหมื่น
เรื่องนี้ผมก็บอกไปแล้วไงครับ เพราะ android มันเป็น Open Source มันเลยอยุ่ในมือถือหลายๆเจ้าทำให้ราคาตกเร็ว และios มันก็มีแค่ไม่กี่รุ่นบนโลก ส่วนที่ผมเปรียบคือราคาศูนย์ครับไม่ใช่ราคาเครื่องหิ้ว ตอนI4 ออกใหม่ๆ 3gs 8GB มือสองยังขายกันหมื่นห้านะครับผมจำได้เพราะตอนนั้นผมกำลังตัดสินใจระหว่าง ios กับ Android ตอนนี้ลงก็ไม่แปลกอะไรเพราะมันนานแล้ว ตอนนี้i4 มันยังสองหมื่นกว่าเท่าเดิมตอนที่เข้าไทยมั้ยครับ และน่าจะเท่านี้ต่อไปอีกหลายเดือนเพราะยังไม่มีแววออกรุ่นใหม่ มันเลยทำให้ราคาขายมือสองยังคงเท่าเดิมหรือลงก็ลงน้อยเพราะมือหนึ่งมันขายเท่าเดิม
ผมไม่ได้พูดกรณีของคุณอะครับ
ผมพูดถึงกรณีที่ว่า Iphone พอมีรุ่นใหม่ออกมา ราคาตกฮวบๆอย่างน่าใจหายเลยละครับ
3gs เปิดตัวในไทย 24900 ปี 09
พอปี 10 iphone4 ออกมา 23000 กว่าๆ 3gs ตกมาเหลือ 18000-16000 ครับ แค่ปีเดียวมันตกฮวบขนาดนี้เลย ซึ่งน่าจะหนักกว่ามือถือ Android ทั่วๆไปน่ะครับ
ผมว่าก็ไม่ถูกนะ
เพราะทาง apple เค้ามีนโยบาย ไม่ยอมให้สินค้าตกรุ่นเด็ดขาด
คือพอ iphone4 ออก apple ก็เลิกขาย 3gs แล้ว
เพราะเค้าคิดว่า เอาตัว iphone4 มาแทนที่ 3gs (ไม่ใช่เพิ่ม product)
ที่ราคาตกเพราะมันมีตัวใหม่มาแทนที่ ไม่ใช่เค้าลดราคา
ผมงงตรรกะคุณแฮะ เพราะปกติถ้า apple ทำยังงั้น ราคายิ่งน่าจะตกน้อยลงเลยนะ ยิ่งการที่มีตัวใหม่มาแทนที่น่ะ
ถ้าเลิกผลิต นั่นแปลว่า รุ่นเก่าๆจะยิ่งราคาไม่ตกเลย เพราะพ่อค้าสามารถเก็งกำไรได้
ผมเคยไปหาซื้อ cpu ที่เลิกผลิตไปแล้ว ซึ่งสามารถใช้กับเมนบอร์ดเก่าได้โดยไม่ต้องซื้อใหม่ให้เปลือง
กลายเป็นว่า cpu นั้นราคาเท่ากับของใหม่ !!! ผมถามว่าทำไมถึงขายแพงเท่าของใหม่เลยทั้งๆที่มือสองมันบอกว่าเค้าเลิกผลิตแล้วมันหายาก… ก็จริงตามนั้นครับ ทั้งๆที่ผมคิดว่ามันน่าจะถูกกว่าครึ่งๆเลยนะ
แต่ผมว่าที่ราคา iphone มันตกก็เพราะว่าพอรุ่นใหม่ออกมันมีการพัฒนาไปเกือบจะทั้งหมด ทำให้รุ่นเดิมมันตกรุ่นจริงๆมากกว่า
มันคนละกรณีกันครับ
ของ apple เค้าทำเพื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
สิ่งที่ apple ทำคือ การไม่ยอมเสียภาพลักษณ์ของแบรนด์
คือจะไม่ขาย product ที่ตกรุ่นไปแล้ว
แต่เค้าแก้ทางด้วยการส่ง product ตัวใหม่เข้าไปแทนที่
กลไกราคาก็คือ พอไอโฟน4เข้าไปแทนที่ เปิดตัวด้วยราคาที่เท่ากับ ไอโฟน3gs
ผู้ใช้จึงหาทาง ปล่อย ของมือสองกันเอาเอง
ซึ่งการตั้งราคามันเกิดจากตรงนี้แหละ (และมันไม่สามารถไปตั้งราคาที่เทียบเท่าไอโฟน4ได้อยู่แล้ว)
ต่างจากกรณี cpu ของคุณ
คือไลน์ผลิตมันหมดไปแล้ว แต่ตัวสินค้ายังมีความต้องการในตลาดอยู่
เมื่อมีคนต้องการ และของมีจำนวนน้อย ราคาถึงได้แพงได้
ง่ายๆ ลองนึกถึงตอนการ์ดจอ pci มาแทนที่ agp
ทั้งที่ agp สเปคด้อยกว่า แต่ราคากลับแพงกว่า
เพราะบริษัทผู้ผลิตเค้าลดไลน์ผลิต แต่ความต้องการในตลาดยังคงมีอยู่ไงครับ
ซึ่ง 2กรณีนี้ ต่างกันตรงที่
ไอโฟน3gs ไม่เป็นที่ต้องการ เพราะโดนแทนที่ด้วยไอโฟน4
(แต่คนที่ซื้อมือสอง เพราะยอมรับได้กับราคาและสเปคที่ด้อยกว่า)
แต่ตัว cpu มันยังเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะมันยังเป็นที่ต้องการและมีจำนวนน้อยนั่นเอง
ความเห็นส่วนตัวของผมนะ
Android จะเสถียรก็ต่อเมื่อ Firmware version แต่ละรุ่น ต้องกำหนด Spec ขั้นต่ำ และ Spec ขั้นสูงของ Hardware ด้วย
ไม่ใช่ว่าผู้ผลิตจะผลิตสเป๊คเทพๆไม่ได้ แต่ถ้าสเป๊คเทพย่อมมาพร้อมราคาเทพ ผู้ใช้ย่อมมีความคาดหวังสูงตามไปด้วย
Hardware ไปไกลแต่ Firmware ยังทำไม่ได้ เหอๆ มันโคตรตลกอ่ะ แล้วจะไม่ให้ราคาตกได้ไง
กำหนดไปเลยว่าสเป๊คขอบล่างและเพดานบนเป็นอย่างไร รุ่นไหนที่ทำออกมาได้ตามนั้นก็จะได้รับรองมาตรฐานเด็กดอย…บลา..บลา..บลา ก็ว่ากันไป
มือถือราคาถูก สเป๊คดูกระโหลกกะลา แต่ได้มาตรฐาน แปลว่ารุ่นนี้ราคาไม่สูง ความสามารถยังไม่เยอะ แต่เสถียร อะไรแบบนี้ ผู้ใช้ก็อุ่นใจมากขึ้น เช่นตอน A88 เป็น OS 1.6 ผมโคตรมีความสุขที่ได้เล่นมันแม้จะไม่ได้เล่นอะไรอลังการ ความไว+นิ่ง ที่ทำให้สัมผัสแรกของผู้ใช้ Android ครั้งแรกถึงกับตะลึงว่าราคาขนาดนี้มันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ บอกต่อกันปากต่อปาก เกิดกระแส A88 อื้ออึงทั่วเมือง
ต่างกับตอนที่ Spica อัพเป็น 2.1 แต่เล่น Live wallpaper ไม่ได้ โดนด่า+ขายทิ้ง ทั้งๆที่การเปลี่ยนจาก 1.6 -> 2.1 นั้นมีดีอะไรตั้งเยอะ ซึ่งเ้ค้าเน้นไปทาง Connectivity แต่ user ดันไปเห็นรุ่นอื่นมี Live wallpaper แล้วเกิดนอยขึ้นมา(เอาใจยากจริงๆ) อันนี้เข้า concept ต่ำกว่ามาตรฐานไปเลย น่าเห็นใจน้องปิก้าจริงๆ
สเป๊คมาอย่างเทพ เกินขอบบนมาตรฐาน user มองอนาคตแล้วว่าน่าจะอัพ Firmware ได้ก็รอต่อไป อยากซื้อก็ซื้อไป แต่อย่าเพิ่งคาดหวังสูง
เหมือนอย่างที่ Nexus one วางรากฐานของมือถือ Android Froyo 2.2 ว่าถ้าสเป๊คต่างจากตัว N1 มากเกินไปความสามารถก็ต่างจากมาตรฐาน 2.2 ไปด้วย user จะได้มีการ benchmark ได้ง่ายขึ้น
ผมว่าเรื่องแบบนี้ End user ทั่วๆไปไม่รู้ นอกจากพวกโรคจิตอย่างพวกเราที่ดูสเป๊คซะละเอียดยิบ เพื่อนผมที่เพิ่งขาย Galaxy S ไปถึงกับเซ็งเมื่อข่าว Nexus S ค่อนข้างจะเป็นความจริงมากๆ เพราะนั่นแสดงว่า Gingerbread 2.3 จะ run smooth บน GS เป็นแน่แท้ 55+
“กำหนดมาตรฐาน ขั้นต่ำ ขั้นสูง ผลิตมาอยู่ในขอบเขต ก็ได้รับรองจากอากู๋” เป็นผม ผมโคตรสนใจมือถือแบบนี้อ่ะ ถึงแพงก็สบายใจจ่าย
ส่วนมือถือ นิ่ง หลับ ขยับ Restart เหมือนกับที่ จขกท. เจอใน น้องไอโมฯ เจอแบบนี้ผู้ใช้ก็หวาดๆล่ะครับ
ข้อสงสัยในการใช้งาน สามารถเปิดเวปตามที่ผมอ้างอิงได้เลยครับ
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าซื้อมือถือมาใช้งาน แลัถ้า Galaxy S เครื่องละ 22890 บาท ทำให้ผมกดลิงก์ไม่ตรง มันก็คงคุยกันยาวๆ
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ
iPhone ที่เสถียรกว่าเพราะมันไม่ใช่ open source รึป่าวครับ
เพราะผมสังเกตได้จากการ JB iPhone รู้สึกว่าเครื่องทำงานช้าลงน่ะครับ
ตอนนี้ก็ใช้ทั้ง 2 os อยู่ครับ
Android เอาไว้เล่นเว็ปที่มีแฟลช ดูคลิ้ป ครับ อุอุ
มันควรจะเสถียรกว่าครับเพราะมี HW มาตรฐานเดียวกัน ออกจากโรงงานเดียวกัน ทำให้เหล่านักพัฒนาพัฒนาซอฟแวร์และเฟิร์มแวร์มาให้เหมาะสมกับมาตรฐานเดียวกันง่าย
แถมทุกๆอย่างยังล็อคไว้เพื่อเฉพาะความมีเสถียภาพของการใช้งานในแบบๆเดียวเท่านั้น
จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเสถียรกว่า Android มาก
เพราะ Android ใช้กับ Hardware ที่มีหลายๆมาตรฐาน ออกจากโรงงานคนละที่ ต่างฝ่ายต่างพัฒนามาไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่แฟร์ถ้าจะเอามาเทียบกัน
เหมือนคุนเอาเครื่องเกมส์ Console มาเทียบกับ PC Emulator นั่นแหละครับ
แน่นอนเครื่อง Console จะมีประสิทธิภาพมากกว่าตามในแบบที่เค้าพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะทางกับเครื่องๆเดียว
แต่กับความหลากหลายในการพัฒนาซอฟแวร์มาเพื่อใช้งานได้ในวงกว้างๆกว่ามันคงมีความเสถียรภาพที่น้อยกว่าตามไปด้วยเนื่องจากมี HW หลายๆรุ่น หลายๆระดับและมาจากหลายๆที่
ดังนั้นการเทสเรื่องความเสถียรภาพให้ใกล้เคียงกับ 100 % นั้นเป็นไปได้ยากกว่าการเทสแค่เครื่องๆเดียวแน่นอน
อันนี้นับเป็นข้อเสียของ Opensouce อย่าง Android ครับแต่เรื่องนี้ก็สามารถนำมาเป็นข้อดีได้เหมือนกัน ดังเหตุผลข้างต้น
งั้น ถ้าอยากให้มีมาตรฐานเดียวกัน
google ก็ต้องมีบทบาทมาเป็นตัวกลางในการ ควบคุม spec
เหมอืน WM7 ซินะคับ ที่ ทาง microsoft มาคุม spec ขั้นต่ำไว้
แต่ เหมือนกับ ว่า google ต้องการให้ มีการผลิตที่ พัฒนาที่สูงกว่า
ของตน nexus one ก็เห็นจะ ๆ ว่า HTC desire กับ SSGS นำกว่า nexus one ไปมาก
แล้ว มาตรฐานตัวที่ 2 คือ nexus two ที่มา พร้อม กับ 2.3 ที่เป็นข่าว มาได้ซักพักแล้วว่า
samsung เป็นผู้ผลิต แต่ SW google จัดการ เอง ซินะ แล้วงั้น
ทั้งหมดที่กล่าวมา google ต้อง มีบทบาทมากขึ้น ซินะครับ
ผมว่ามันคือการเผื่อแผ่ของ google มากกว่าครับ
สมมติว่า Nexus One เป็นเครื่องที่เสปกสุดโต่งยิ่งกว่านี้
แล้ว google สร้าง engine ของ 2.2 ออกมาแล้วทดสอบกับ Nexus One ในเครื่องเสปกสุดล้ำมหาประลัยกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
2.2 ก็อาจจะต้องใช้ทรัพยากรที่มีต้นทุนแพงยิ่งขึ้น ถึงขนาดที่เครื่องโรงงานอื่นๆผลิตออกมาขายถูกๆไม่ได้เลย
เราก็จะไม่ได้เห็นมือถือราคา 7-9 พันรัน 2.2 ได้เลย ซึ่งตลาด Android มันก็จะแคบลงกว่าเดิมอีกครับ
แค่ลำพังตอนนี้ developer ทั้งหลาย ก็ต้องปรับแล้วปรับอีกให้มัน customize กับหลายๆ hardware ที่ต่างกัน
การเป็น Opensouce มันต้องคำนึงตรงนี้ด้วย ไม่งั้นก็คงขายได้แต่ตลาดบนอย่างเดียว
ในขณะที่การเรียกใช้ทรัพยากรก็ต้องลดหลั่นลงไปด้วย
แทบจะเรียกว่าคนละตลาดกันเลย จริงๆไม่ค่อยอยากเปรียบเทียบเท่าไร แนวทางมันต่างกันมากเกินทั้ง iphone และ Android แต่คนส่วนใหญ่คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอามาเทียบกัน
Android ยังไม่มีศาสดานี่… แอปเปิ้ลเค้ามี… อ๊ะล้อเล่น
ถ้า android สเปค อุปกรณ์ เท่ากันหมดทุกเจ้า adndroid จะเหนือกว่าไอโฟนหลายขุมครับ แต่มันเป็น open source มันเอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ มือถือบางรุ่น cpu gpu มันแรงกว่าไอโฟนเป็นโยชน์ ก็มีเยอะแยะ iphone มันมีมากี่ปี android มันมีมากี่ปี คนพัฒนาอันไหนมันยากกว่ากัน ระหว่างทำเครื่องให้เสถียรกะ os กับทำ os ให้เสถียรกับเครื่อง ความยากมันต่างกันครับ เอามาเปรียบกันไม่ได้เลยสักนิด
ส่วนเรื่องแอพของไอโฟนที่ดีกว่านั้น ผมเชื่อว่าไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย เพราะคนที่เขียนแอพของ android
อย่างน้อยเค้าต้องคิดแล้วล่ะว่าจะเขียนยังไงให้ครอบครุมเสปคเครื่องที่ต่ำกว่าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่ใช่สเปคตายตัวแบบไอโฟน
และตอนนี้ จขกท จาใช้เครื่องไหนอยู่เนี่ยยย ฮ่าๆ
มือใหม่ใช้เครื่องมาขอเก็บวิชานะครับ อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นเยอะมาก (^^)