การปรับแต่ง Samsung Galaxy Note 2 N7100
คำนำ
01. สารจากผู้ริวิว
– ในการปรับการปรับแต่ง Rom Modify และ Rom แท้จากศูนย์ Samsung
– และการปรับการปรับแต่งที่ผู้ริวิวทดสอบและทดลองมาเรียบร้อยแล้ว
– จะไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น
– ถ้าท่านจะทำตามวิธีที่ผู้ริวิวทดลองมา
– ตัวท่านเองต้องรับผิดชอบความเสี่ยงเอาเอง
– เพราะผู้ริวิวจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
– โปรดพิจารณาตามความเหมาะสมในการปรับแต่ง
สามารถเอาไปแชร์ที่อื่นได้ โดยไม่ต้องส่งข้อความมาถามผม อนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้เลย แต่รบกวนลง Credit ให้ด้วยนะครับ เพราะใช้เวลาในการทำและเหนื่อยด้วย แถมทำให้ฟรีด้วย
DARKLORDS
ขอบคุณครับ
02. คำแนะนำในการรับชม
– ควรใช้จอคอมพิวเตอร์ 17 นิ้วขึ้นไป ใช้จอเล็กกว่านั้นก็ได้ แต่รูปจะเล็กตามด้วย
– เพราะทางผู้ริวิวทำจาก HDTV 40 นิ้วต่อกับเข้าคอม ฯ
– ถ้าภาพไหนเล็ก หรือภาพแดก รับกวนแจงกลับด้วยครับจะได้ทำการแก้ไข
– ควรจะใช้ Google Chrome หรือ Firefox ในการรับชม เพราะภาพเยอะ
03. App ที่ไม่ควรใช้ในการปรับแต่ง
1. Application ที่ใช้ในการปรับแต่ง CPU
– เพราะมีเพื่อนของทางผู้ริวิวเจอดี ใช้มือถือยี่ห้อ HTC ใช้ App Overclock CPU ปรับ Speed เพิ่มอีก 100-200 Mhz
– ปรากฏว่า เครื่อง HTC พังไปเลยเพราะ Over clock CPU
– CPU ของ Galaxy Note 2 ผ่านทดสอบการจากทางโรงงาน Samsung มาเท่านี้
– เพราะฉะนั้นจึงไม่ควร Over Clock CPU
04. สิ่งสำคัญ
1. ตัวอักษรสีแดง คือ เพิ่มความระวังในการทำหรือต้องอ่านให้ละเอียด
2. ตัวอักษรสีน้ำเงิน คือหัวข้อและรอ Update ในบางส่วน
3. ถ้าผ่านไปสัก 2-3 วัน ถ้าผมตอบ Post ไหน ยาว ๆ จะทำการใส่เป็นข้อความ -*- แทนลงไป เพื่อลดจำนวนตัวอักษรและภาพก็เยอะขึ้นเรื่อย ซึ่งจะทำให้กระทู้อืดตามไปด้วย
3. แล้วอ่านและทำความเข้าใจก่อนสัก 1 รอบ แล้วค่อยปรับแต่ง
คำเตือน
– เป็นไปได้งดใช้ Rom Modify เพราะตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
– รายละเอียดของกระทู้ IMEI เปลี่ยน 004999010640000 IMEI หายและไม่สามารถโทรออกได้
– วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวจากที่ผมเจอ คือการ ลง Rom Modify ของ Phoenix V.12 และ V.13 แล้ว IMEI จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม และใช้งานได้ปกติ
– วิธีแก้ปัญหาแบบถาวรคือส่งให้ศูนย์ Samsung เขียน IMEI ให้ใหม่ และแนะนำให้ใช้ De-odex Rom แล้วทำการปรับแต่งแทนจะดีกว่า เพราะ De-Odex Rom คือ Rom ศูนย์ที่ทำการปรับแต่งไว้สำหรับให้พร้อมทำ Rom Modify
[size=20][color=#0000ff]Phase 25 เพิ่มความสามารถพิเศษให้ Note 2[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. Print งานจาก Note 2 กับ Printer ทุกรุ่นด้วย App Print Share Mobile[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. Micro USB จะต้องมีสาย Micro USB สำหรับต่อเข้ากับ Note 2 ด้วย รายละเอียดตามรูป
02. Application PrinterShare™ Mobile Print
– โหลด PrinterShare™ Mobile Print ได้จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 30. PrinterShare™ Mobile Print / Full เวอร์ชั่น ราคา 386.85 บาท
– จะต้องติดตั้งเป็นแบบ Full version เท่านั้นถึงจะ Print งานได้จริง ๆ
– PrinterShare™ Mobile Print เป็นฟรีเวอร์ชั่น ไม่สามารถ Print งานได้ทำได้แค่ทดสอบ Print
– PrinterShare™ Premium Key เป็น Full เวอร์ชั่น ถ้าจะ Print งานต้องเสียตังซื้อ App
03. Print ที่ใช้ทดสอบ
– HP Officejet 6500A Pluse-All-in-One Printer ใช้ทดสอบแบบ Print แบบ USB
– Fuji Xerox Docucentre ii C2201 ใช้ทดสอบแบบ Print แบบ Wireless
04. ยี่ห้อ Printer ที่รองรับกับ App PrinterShare™ Mobile Print
รายละเอียดตามรูปข้างล่าง
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]– 01.1 Print Share Mobile : ต่อแบบ USB โดยตรง[/color][/size]
01. เปิดเครื่อง Print HP Officejet 6500A Pluse-All-in-One Printer
02. สาย USB Printer
03. ต่อสาย Micro USB เข้ากับ USB Printer
04. ต่อสาย USB Printer เข้า Printer แล้วอีกด้านให้ต่อ Micro USB เข้า Note 2
05. มาดูสถานะที่ Note 2จะระบุไว้ว่า Printer Connected
06. เปิด App PrinterShare Premium ขึ้นมาจะเจอหน้าจอตามรูป
07. กดปุ่มซ้ายมือด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก Select Printer
08. กดเลือก Nearby – USB
09. กด OK
10. ก็จะเจอ Printer ที่ต่อกับ USB จากของ Note 2
– แล้วกดเลือก Printer ที่ คำว่า Found Printers
11. จากนั้น จะให้ทำการ Download Driver จากทาง App
– กดเลือก Yes
12. เมื่อโหลดเสร็จจะกลับสู่หน้าจอตามรูป ในส่วนนี้ ขอรีวิวการ Print รูปจาก Note 2
– กดไปที่ Pictures
–
13. กดเลือก Gallery แล้วให้กดเลือก
– ถ้ากด Just Once จะถามทุกคร้้งที่เลือก
– ถ้าเลือก Always จะเป็นการเลือกแบบนี้ตลอดไปโดยไม่ต้องการ
14. กดเลือกรูปภาพที่จะ Print
15. จากนั้นกลับสู่หน้าจอตามรูป
– แล้วกด Options
16. กด Picture Size
17. กดเลือก Fit to page แล้วกด OK
18 จากนั้นจะกลับสู่หน้าจอนี้ แล้วกด Print
19. เลือกรูปแบบการ Print แล้วกด OK
20. รูประหว่างรอการ Print ใช้เวลาส่งคำสั่ง Print ต่อแผ่น 1 เท่ากับสั่ง Print จากคอม
21. กด OK
22. รูปนี้ เป็นกระดาษ A4 ภาพ Scan สีจากกระดาษที่ Print
[size=13][color=#0000ff]– 01.2 Print Share Mobile : ต่อแบบ Wireless Lan[/color][/size]
– ในข้อนี้ทางผู้ริวิว ขออธิบายแบบเป็นภาษาไอทีเลย
– เพราะถ้าผู้ใช้งานไม่มีพื้นฐานไอทีแน่พอสมควร หรือถ้าไม่ใช่คนทำงานไอที ก็ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว
[size=13][color=#0000ff]วิธีต่อ ต่อแบบ Wireless LAN[/color][/size]
01. Fix IP Address Printer ให้ต่ออยู่ในวงแลนเดียวกัน Note 2
02. Connect Galaxy Note 2 เข้ากับ Wireless Lan ให้วงแลนเดียวกันกับ Printer
03. เปิด App PrinterShare Premium
04. กดปุ่มซ้ายมือด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก Select Printer
05. กดเลือก Nearby – WiFi
06. เลือก Printer ที่อยู่ในวงแลนเดียวกัน
07. กด Select Manually
08. กดเลือกรุ่น Printer ที่มีอยู่ในวงแลนเดียวกัน
– ในส่วนนี้ ใช้ FUJI XEROX DocuCentre-III สำหรับทดสอบ
– กดเลือก Fujitsu
09. กดเลือกรุ่น…..PrintPartner ของ Printer
10. ถ้าไม่มีรุ่น Printer ให้กดเลือกรุ่นที่สูงที่สุดในตอนนี้
11. กด Yes เพื่อทำการ Download Driver Printer
12. รูประหว่างรอ
13. เมื่อเสร็จแล้วจะกลับเข้าสู่หน้านี้ กดที่ Pictures หรือเลือกงานที่ต้องการจะ Print
14. กดเลือก Gallery แล้วกดเลือก Just Once
15. ให้ทำการเลือกรูปที่ต้องการจะ Print หรืองานที่ต้องการจะ Print
16. เสร็จแล้วจะได้รายละเอียดตามรูป แล้วกด Option
17. กดเลือก Picture Size
18. กดเลือก Fit to Page
19. กด Print
20. กดเลือกหน้าที่ต้องการ Print แล้วกด OK
21. รูประหว่างรอ Print ความเร็วในการสั่ง Print เท่าคอมพิวเตอร์
22. เมื่อสั่ง Print เสร็จ ให้กด OK
23. รูปกระดาษ A4 ที่สั่ง Print ผ่านทาง Wireless
– เนื่องจากไม่มี Driver แบบต่อตรงเหมือน USB
– จึงทำให้แค่ Print แบบขาวดำ
[size=13][color=#0000ff]ไฟล์ที่รองรับการ Print จาก App PrintShare[/color][/size]
– Contact เบอร์โทร
– Calendar ปฏิทิน
– Web Page
– Message
– Call log
– G-mail
– Google Doc
– MS Office: Word, Excel, PowerPoint
– ไฟล์ PDF
– text ไฟล์
[size=13][color=#0000ff]02. การต่อพ่วงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม[/color][/size]
-02.1 Micro USB
-02.2 Mouse, Keyboard, Mouse & Keyboard Bluetooth
– สาย Micro USB ต่อเข้า Bluetooth แล้ต่อเข้า Note 2
– จากนั้นจะมีรูป Mouse ก็สามารถใช้งานแทนการกดจากมือได้เลย
– ถ้าเป็น Keyboard ต่อเข้า Note 2 ต้องการจะสลับภาษาให้กดปุ่ม Shift + Space bar
– จะเป็นการสลับภาษาอังกฤษกับภาษาไทย โดยไม่ต้องไปกด slide แป้ม Keyboardที่ Note 2
-02.3 USB Hub
–
-02.4 Thumb Drive
–
-02.5 External Hard disk
–
–
-02.6 Reader Card
– เตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด
– Micro SD Card กับ Reader Card
– แล้วต่อสาย Micro USB เข้า Reader Card แล้วนำ Micro SD Card ต่อเข้า Reader ได้เลย
-02.7 การต่อพ่วงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมแบบเป็นชุด
[size=14][color=#0000ff]03. การต่อ Note 2 เข้า HDTV[/color][/size]
– เนื่องจากผม ไม่มี HDTV แบบ Smart TV จึงขอข้ามในส่วนของ AllShare ^_^ *0*
[size=13][color=#0000ff]อุปกรณ์ที่ใช้ต่อกับ HDTV[/color][/size]
01. SAMSUNG MHL Adapter,A/V link,Micro USB to HDMI for Galaxy S3, Note 2 N7100
[size=14][color=#0000ff]วิธีการต่อ[/color][/size]
01. ความยาวของสายขึันอยู่กับสาย HDMI ที่มาใช้ต่อกับ Note 2 เข้าทีวี
02. ต่อสาย USB กับเข้า Adaptor ที่ใช้ชาร์ไฟบ้าน (Adaptor) ไฟมันถึงจะมา
03. ต่อสาย Micro USB to เข้า Galaxy Note 2
04. ต่อสาย HDMI ของ SAMSUNG MHL Adapter เข้าสาย HDMI Cable
05. ต่อสาย HDMI ของทีวีเข้าด้านหลังทีวี
06. รายละเอียดตามรูปข้างล่าง
02. 2M MHL Micro To HDTV HDMI Adapter Cable for Galaxy S3 I9300, Note 2 N7100
[size=14][color=#0000ff]วิธีการต่อ[/color][/size]
01. ภายในกล่องจะสายทั้งหมดแยกเป็น 3 ส่วน คือ HDMI, Micro USB, USB
02. สาย USB สำหรับต่อเข้าที่ชาร์ไฟบ้าน (Adaptor)
03. ต่อเข้าที่ชาร์ไฟบ้าน (Adaptor)
04. ต่อเข้าไฟบ้าน
05. สาย HDMI
06. สาย HDMI ต่อเข้าด้านหลัง HDTV ที่เป็น HDMI
07. สาย Micro USB
08. สาย Micro USB ต่อเข้ากับ Note 2
09. วิธีการกดเลือกสัญญาณภาพ ให้ไปดูที่รีโมท TV กับดูด้านหลังของ TV ว่าต่อ HDMI ช่องไหน (Port)
10. กดเลือก SOURCE ที่ Port นั่น ๆ สัญญาณภาพก็จะมา
[size=14][color=#0000ff]ตัวอย่างภาพที่ต่อเสร็จ[/color][/size]
01. หน้าหลักของ Note 2
02. Animation :
เรื่อง : Mobile Suit Gundam 00 The Movie A Wakening of the Trailblazer.mkv
Size : 7.22GB
– ภาพจากโปรแกรม KMPlayer จากคอมพิวเตอร์ ต่อเข้า HDTV
– ภาพจาก App MX Player จาก Note 2 ต่อเข้า HDTV
03.Movie :
Resident.Evil.Retribution.2012.1080p.BluRay.x264.DTS.THM.mkv
Size : 9.87
– ภาพจากโปรแกรม KMPlayer จากคอมพิวเตอร์ต่อเข้า HDTV
– ภาพจาก App MXPlayer จาก Note 2 ต่อเข้า HDTV
[size=13][color=#0000ff]04. Note 2 VS KMPlayer VS Power DVD ? Who is winner ?[/color][/size]
– Note 2 + MX Player ต่อเข้า HDTV
Movie : Resident.Evil.Retribution.2012.1080p.BluRay.x264.DTS.THM.mkv
Size : 9.87
– PC+VGA GDDR5 2GB 256Bit+โปรแกรมKMPlayer ต่อเข้า HDTV
Movie : Resident.Evil.Retribution.2012.1080p.BluRay-rip.x264.DTS.THM.mkv
Size : 9.87
– PC+VGA GDDR5 2GB 256Bit+Power DVD ต่อเข้า HDTV
Movie : Resident.Evil.Retribution.2012.1080P-Bluray 2D
Size : 42.5GB
[size=13][color=#0000ff]04. Note 2 VS KMPlayer VS Power DVD ? Who is winner ? ผลสรุป[/color][/size]
– Note 2 แพ้ขาดลอย แต่ถ้าดูจากล้องที่่ถ่าย ภาพตามข้างบนก็พอทราบรายละเอียดแล้ว
– Note 2 เหมาะสำหรับเคลื่อนย้ายไปมาสะดวก และพกพาง่าย
– ดูจาก Sub หนัง น่าจะเห็นชัดส่วนในข้อนี้ 04. Note 2 VS KMPlayer VS Power DVD ? Who is winner ?
– ความคมชัดของหนังส่วนใหญ่ จะขึ้นอยู่กับขนาดของต้นฉบับ ซึ่งไฟล์ .MKV ไม่มีทางสู้ Blu-ray 50GB ได้แน่นอน
– Note 2 ส่งสัญญาณภาพเข้า HDTV ได้แค่ 1920x1080i 30p ,แสดงสีได้ 16ล้านส่วน ส่วน Graphic นั่น ไม่เห็นเขียนอธิบายเลยว่าเป็นอะไร แค่บอกรุ่น *-* ซึ่งเปรียบเทียบกันได้ยาก
– PC นั่น ส่งสัญญาณภาพเข้า HDTV ได้แค่ 1920x1080P 60p ,แสดงสีได้ 32ล้าน และมี VGA GDDR5 2GB 256Bit มาช่วยในการแสดงผล
[size=14][color=#0000ff]ความเห็นส่วนตัวผู้ริวิว[/color][/size]
– ผมไม่อยากให้คนอื่น ๆ โดนโฆษณาหลอก ว่า หูฟังขายกันแพง ๆ แล้วโดนหลอกว่าเสียงดี
– ผมแนะนำถ้าอยากฟังสุดยอดระบบเสียง ต้องเข้าไปฟังในโรงหนัง Imax
– เพราะส่วนตัวเวลาผมดูหนังจะดูจาก Blu-ray 50GB กับคอมพิวเตอร์
– อุปกรณ์ที่ผมใช้ดูหนัง CPU, VGA GDDR5 2GB 256Bit, Ram, Sound Card Creative Blaster X-FI Titanium, Speaker 5.1 ในคอมพิวเตอร์ครับ
– ซึ่ง Note 2 ไม่มีทางสู้กับ PC ได้แน่นอน ส่วนใหญ่ผมจะเอาไว้ฟังแก้เซ็งเวลาเดินทาง
– และ Smart phone ทุกรุ่น ในตอนนี้ยังไม่มีทางเทียบได้กับ PC
– เพราะหูฟังของ Note 2 ก็ยังเล็กอยู่ดี ถ้าเอามาเทียบกับลำโพงขนาดกลาง เสียง 5.1 ก็ไม่มีทางเทียบกันได้
– ขออภัย ถ้าตรงเกินไป เพราะจากประสบการณ์ของผม ผมก็เป็นคอหนัง Full HD 1080P กับคอหนังในโรง Imax
– แต่ผมดูเฉพาะหนังต้นทุนสูงและหนังแนว Action, Sci-fi แล้วก็ไม่ค่อยชอบดูหนังไทยและไม่ชอบดูละครไทย
[size=14][color=#0000ff]04. การชาร์ต Battery Samsung รุ่นอื่น ๆ กับ Note 2 ด้วยกระดาษแผ่นเดียว[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. สามารถชาร์ตแบตเตอรี่ ทุกรุ่น ที่มีขนาดเล็กว่า
02. ในการริวิว จะใช้ Battery ของ Samsung Galaxy SL- i9003 มาทดสอบ
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เตรียมกระดาษแผ่นเดียว แล้วฉีกแล้วยัดใส่ในพื้นที่ว่าง ๆ ด้านหลังให้เต็ม ๆ
02. ดันแบตเตอรี่ให้แน่ ๆ และแผงวงจงทองแดงให้ตรงกับที่ชาร์ตแบตเตอรรี่
03. ปิด Case ด้านหลัง Note 2
04. ทดสอบด้วยการเปิดเครื่อง Note 2
05. เวลาชาร์ Battery ของรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Battery ของ Note 2 ต้องทำการปิดเครื่องชาร์ต ไม่งั้นจะชาร์ตไม่เข้า เพราะใช้พลังงานจาก Battery ตอนเปิดเครื่องเยอะมาก
06. จากที่ทดสอบ ไม่แนะนำให้ใช้ Battery ของ Galaxy SL-i9003 กับ Note 2 เพราะเปิดเครื่อง 1 นาทีใช้ไฟไป 1 %
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 18 การปรับแต่ง Deodexed Rom / Rom Modify ตอนที่ 1[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การเพิ่ม Effect CRT Screen Off Animation, Ink Effect, 4 way Reboot ให้ Deodexed Rom[/color][/size]
– ใช้ Rom Android Revolution HD Note 2 V.15.0 ในการทดสอบ
– ใช้ Rom PhoeniX ROM V10 XXDMC3 ในการทดสอบ
[size=14][color=#FF0000]ใช้ได้เฉพาะกับ Rom Modify ห้ามใช้กับ Rom ศูนย์ เพราะใช้ไปก็ไม่มี Effect อะไร[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. Effect CRT Screen Off Animation จะทำงานได้ก็จะต้อง Flash Kernel Adam/Perseus ถึงจะทำงาน
02. วิธีการ Flash Kernel Phase 8 Link : 07. การ Flash Kernel : Adam, Perseus (#jump087)
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เข้า Website ตามนี้ Link : CRT – SCREEN OFF ANIMATION
02. ให้เข้าไปในหัวข้อ DOWNLOAD GT7100 :
03. ให้โหลดไฟล์ที่ชื่อ
– CRT-GT7100-DMA7-HAWKISH-ROM
– CRT-GT7100-DMA7-HAWKISH-ROM
– CRT-GT7100-XXDLL7
04. ไฟล์อื่น ๆ อย่าไปโหลด เพราะจะมีปัญหา ตอนที่กดปุ่ม Restart แล้วปุ่มจะไม่โชว์ให้เห็น
05. ให้ Copy ไฟล์ที่โหลดเสร็จ 3 ไฟล์ หรือไฟล์ไหนก็ได้ รายละเอียดตามนี้
CRT-GT7100-UBDLL3-CRASH-ROM.zip
CRT-GT7100-DMA7-HAWKISH-ROM.zip
CRT-GT7100-XXDLL7.zip
06.ให้ทำการ Flash ไฟล์ .zip ใน CWM Recovery
07. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip อยู่ใน Phase 5 Link : 13. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
08. ให้เลือก Flash .zip ไฟล์ชื่อ CRT-GT7100-XXXXX.zip
09. ในที่นี้ใช้ไฟล์ ชื่อ CRT-GT7100-XXDLL7.zip สำหรับทดสอบ
10. และให้กดตอบ Yes – Install CRT-GT7100-XXXXX.zip
11. แล้วให้ Reboot เครื่อง หลังจาก Reboot แล้วจะมีการ Update ให้รอประมาณ 1-2 นาที
12. หลังจาก Update เสร็จแล้ว จะมีการถามจาก MTP Application ไม่ต้องไปใส่ใจให้กด OK
13. ทดสอบ Lock Screen ดู จะได้รายละเอียดตามรูป แต่เวลากดบางครั้งจะไม่ติด
รูปหลังจากใส่ Effect (Copy Video ชาวบ้านมาทำ Screenshot ของฝรั่งจาก XDA)
14. มาต่อส่วนของ 4Way Reboot ถ้าเดิมไม่ เขียน Script เวลากด Restart เครื่อง ตามรูป
15. ภาพก่อนทำการ Flash ไฟล์ .zip
– จะไม่มีการถามรายละเอียด มีแต่เพียงให้กด OK เพื่อ Restart ไปเลย
16. ภาพหลังทำการ Flash ไฟล์ .zip
17. มาดูในส่วนของ Ink Effect ให้ทดสอบ Lock Screen แล้วกด Unlock แล้วเอามือมากดค้าง ๆ ไว้จะเห็นรายละเอียดตามรูป
– ใช้มือมากดแทนปากกาได้เลย ก็จะมี Effect ทันที
18. ใช้จะ Ink Effect ได้จะต้องตั้งค่าหน้า Lock Screen ตามนี้
– ไปที่ Menu Setting กดเลือก Lock Screen
– ไปที่ Screen Lock แล้วกดเลือกให้เป็น Swipe No Security
19. และถึงจะทำการ Factory Reset เครื่องไป Effect และ Script ที่ทำการ Flash ไฟล์ .zip ก็ยังอยู่ไม่หายไป
20. เป็นเสร็จสิ้น
[size=14][color=#0000ff]03. การเพิ่ม Lidroid 15 Toggles ให้ Deodexed Rom[/color][/size]
– ตัวอย่าง Rom ใช้กับ Phoenix V.9 เพราะเวอร์ชั่น ยังไม่มี Ink Effect และ Toogle เลย
[size=14][color=#FF0000]ใช้ได้เฉพาะกับ Rom Modify ห้ามใช้กับ Rom ศูนย์ ไม่งั้น Rom อาจจะพังและต้องลงใหม่[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เข้า Website Link ตามนี้
– LiDroid 15 Toggle mod หรือ
– LiDroid 15 Toggle mod
02. จะเห็นไฟล์ ชื่อ
Lidroid 15 Toggle mod.zip
Lidroid 15 Toggle mod – V2.zip
03. จะโหลดไฟล์ชื่อ Lidroid 15 Toggle mod – V2.zip แล้ว Copy ไปไว้ใน Micro SD Card
04.ให้ทำการ Flash ไฟล์ .zip ใน CWM Recovery
05. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip อยู่ใน Phase 5 Link : 13. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
06. ให้เลือก Flash .zip ไฟล์ชื่อ Lidroid 15 Toggle mod – V2.zip
07. และให้กดตอบ Yes – Install Lidroid 15 toggle v2.zip
08. หลังจากนั้นให้ Reboot เครื่อง Note 2 สัก 1 รอบ
09. รูปที่ Notification Panel ที่ Rom Phoenix v.9 ก่อนทำ และยังไม่มี Toogle Mod ใด ๆ เลย
10. เมื่อ Reboot เครื่องจะเห็น icon QuickPanel Settings
11. รูปที่ Notification Panel ภายหลังจาก Flash ไฟล์ .zip จะมี 15 toggle ปรากฎออกมา
12. เมื่อกดดูใน QuickPanel Settings จะเห็นรายละเอียดตามรูป สามารถปรับแต่งได้ ตามต้องการ
13. และทดสอบ Factory Reset ก็ Lidroid 15 Toggles ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และไม่มีผลกระทบอะไรกับ Rom Modify
[size=14][color=#0000ff]04. การเพิ่ม AdvanceS – 23 Statusbar Toggles ให้ Deodexed Rom[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]02. การเพิ่ม Ink Effect, Unlock MultiWindows Control, Add 27 Toggles, Device Option, Call Record Button ให้กับ Rom ศูนย์[/color][/size]
[size=20][color=#FF0000]- สามารถใช้ได้แค่ De-odex Rom หรือ Rom Modify เท่านั้น[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff][/color][/size]
– แต่สามารถนำ Rom ศูนย์ ไปทำเป็น De-odex แล้วค่อย
– วิธีการทำ Rom ศูนย์ ให้เป็น De-Odex Rom ดูรายละเอียดได้จาก Phase 13 Link : 01. การทำ Rom ศูนย์ เป็น Deodex Rom (#jump1301)
[size=14][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ดาวโหลด อยูที่อยู่ Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
1.1 หัวข้อย่อยที่ 15. Omega Toggles Control
1.2 หัวข้อย่อยที่ 78. MultiWindow Complete Control V.3
1.3 หัวข้อย่อยที่ 79. Simplistic FrameworkV3.5.1 Odexed
1.4 หัวข้อย่อยที่ 80. Simplistic FrameworkV3.5.1 Deodexed
02. Copy ไฟล์ ดังต่อไปนี้ไปไว้ใน Micro SD Card
– ไฟล์ MultiWindow Complete Control V3.apk
– ถ้าเป็น Rom ศูนย์ ให้ Copy ไฟล์ SimplisticFrameworkV3_5_1-Deodexed.zip
– ถ้าเป็น Rom Momdify ให้ Copy ไฟล์ SimplisticFrameworkV3_5_1-Deodexed.zip
– ไฟล์ OmegaTogglesControl.apk
03. เครื่องต้อง Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้
04. Effect CRT Screen Off Animation จะทำงานได้ก็จะต้อง Flash Kernel Adam/Perseus ถึงจะทำงาน
05. วิธีการ Flash Kernel Phase 8 Link : 07. การ Flash Kernel : Adam, Perseus (#jump087)
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ให้ทำการ Flash ไฟล์ .zip ใน CWM Recovery Mode
02. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip อยู่ใน Phase 5 Link : 13. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
03. ถ้าเป็น Rom ศูนย์ ให้ Flash ไฟล์ .zip ชื่อไฟล์ SimplisticFrameworkV3_5_1-Deodexed.zip
04. ถ้าเป็น Rom Momdify ให้ Flash ไฟล์ .zip ชื่อไฟล์ SimplisticFrameworkV3_5_1-Deodexed.zip
05. ใน CWM Recovery Mode ขั้นตอนต่อไปหลังจาก Flash ไฟล์ .zip
06. ให้เลือกตอบ Yes – SimplisticFrameworkV3_5_1-XXXXX.zip
07. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
08. ติดตั้ง App ชื่อ MultiWindow Complete Control V3.apk
09. ติดตั้ง App ชื่อ OmegaTogglesControl.apk
10. มาในส่วนของ Toogles Control ก่อน
– รูป Notification Panel ก่อน Flash ไฟล์ Simplistic Framework V3.501
11. รูป Notification Panel หลัง Flash ไฟล์ Simplistic Framework V3.501
– ถ้าจะไปที่ Menu Setting ต้องกดที่รูปที่ ทำสีแดงถึงจะเข้าไปได้ เพราะมีการปรับเปลี่ยนรูป
12. ในส่วนของ Notification Panel ใช้ Toogle Control ควบคุม
13. ให้เปิด App ชื่อ Toogle Control ขึ้นมา
14. ถ้ามีการถามจาก App SuperUser ในขั้นตอนไหนของ TogglesControl หรือ MultiWindow Complete Control V3 ให้ตอบ Grant อย่างเดียว
15. ในส่วนของ Toogles เมื่อเปิดขึ้นมาจะเห็นรายละเอียดตามรูป
– ทดสอบไปที่ Customize Quick Buttons
16. กดเลือก Choose toggles
17. จะเห็นรายละเอียดตามรูปให้ปรับตามความต้องการ
18. ในหน้าแรกของ Toogles ให้ทดสอบกด Omega Free Features
19. จะปรากฎหน้าจอตามรูป
– ถ้าติ๊กถูกใน Samsung Battery ที่รูปชาร์ตแบตเตอร์ จะกลับเป็นสี่เหลี่ยมแบบเดิมของ Samsung
– ถ้าติ๊กถูกใน Big AM/PM จะเป็นการโชว์ คำว่า AM ในส่วนของนาฬิกาข้างบนด้านขวาของ Note 2
– ถ้าติ๊กถูกใน Lanucher Wallpaper Scrolling จะเป็นการสั่งให้ Wallpaper Scrolling ได้
20. ทดสอบให้ติ๊กถูกที่ Lanucher Wallpaper Scrolling แล้วมาที่หน้าแรกของเครื่อง Note 2
– กดปุ่มด้านล่างซ้ายมือก แล้วเลือกคำสั่ง Edit Page
21. ถ้ามีหลาย ๆ Page อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเลือก ถ้ามี Page ให้กดไปที่เครื่องหมาย + เพื่อเพิ่ม Page
22. ทดสอบโดยกดมือข้างที่หน้าจอแล้วเลื่อนไปทางด้านขวา
23.จะพบว่า Wallpaper Scrolling ได้แล้ว
– ถ้าไม่ต้องการใช้ ให้ไปเอา ติ๊กถูก Lanucher Wallpaper Scrolling ออกจาก Toogles
24. ต่อไปมาในส่วนของ MultiWindow Complete Control V3
– ให้เปิด App ชื่อ MultiWindow Complete Control V3
25. ทดสอบ ให้กดเลือกไปที่ Add Application
26. กดเลือกไปที่ Add Application อีกรอบ
27. ให้ทำการเลือก Application แล้วกด OK แล้วให้
– MultiWindow Complete Control V3 นี้จะเป็นอันเดียวกันกับใน Phoenix Rom v.9-10
28.ในส่วนนี้ทดสอบ กับ App CWM Manager และ ES File Explorer Manager
29. เมื่อทดสอบเสร็จแล้วจะได้รายละเอียดตามรูป
30. ถ้า Screenshot capture รูปแล้ว ดึง Notification Panel จะไม่มีคำว่า Close
– แต่สามารถ สไลด์พวกข้อความที่เตือนใน Notifications ทิ้งได้เหมือนเดิม
– แต่เปลี่ยนเป็นรูป ให้กดแทน รายละเอียดตามรูป
31. ต่อไปมาในส่วนของ Device Option ให้กดปุ่ม Power หรือปุ่มปิดเครื่องจะเห็นรายละเอียดตามนี้
– แต่ทุกอย่างสามารถทำได้หมด
32. มาดูในส่วนของ Ink Effect ให้ทดสอบ Lock Screen แล้วกด Unlock แล้วเอามือมากดค้าง ๆ ไว้จะเห็นรายละเอียดตามรูป
– ใช้มือมากดแทนปากกาได้เลย ก็จะมี Effect ทันที
33. ใช้จะ Ink Effect ได้จะต้องตั้งค่าหน้า Lock Screen ตามนี้
– ไปที่ Menu Setting กดเลือก Lock Screen
– ไปที่ Screen Lock แล้วกดเลือกให้เป็น Swipe No Security
34. ให้ฝัง Application เข้าไปใน Rom เวลาที่ทำการ Factory Reset ไป App จะได้ไม่ได้หาย
– วิธีการฝัง App ดูได้จาก Phase 12 Link : 01. การฝัง Application เข้าไปใน Rom (#jump1201)
– ให้ฝัง App ชื่อ MultiWindow Complete Control V3.apk และ
– ให้ฝัง App ชื่อ OmegaTogglesControl.apk
35. Simplistic Control (Toggles Control) แบบ Full version นั้นจะต้องไปดูต่อในหัวข้อ 03.การเพิ่ม Ink Effect, Unlock MultiWindows Control, Add 27 Toggles, Device Option ให้กับ Rom ศูนย์ ตอนที่ 2
[size=14][color=#0000ff]02. การเพิ่ม Ink Effect, Unlock MultiWindows Control, Add 27 Toggles, Device Option, Call Record Button ให้กับ Rom ศูนย์ ตอนที่ 2[/color][/size]
– ในส่วนนี้จะเป็นเนื้อหาที่ต่อมาจาก ตอนที่ 1 เกี่ยวกับ
– เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ SimplisticFramework ที่ใช้ Simplistic Control (Toggles Control) แบบ Full version เท่านั้น
[size=14][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. SimplisticFramework ต้องติดตั้งมาจากตอนที่ 1 ให้เรียบร้อย
02. ติดตั้งและดาวโหลด App Phase 6 Link : จาก 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 81. Simplistic Control Full version ราคา 60.00 บาท
[size=13][color=#0000ff]การปรับแต่ง Simplistic Control Full version[/color][/size]
01. เปิด Simplistic Control ขึ้นมาแล้วให้เลือกปรับแต่งตามเหมาะสม
02. เมื่อเปิด Simplistic Control จะพบรายละเอียดตามรูป
03. ส่วนแรก ถ้ากดเข้าไปที่ MultiWindows Complete Control
– Simplistic Control Full version จะมี MultiWindows รวมอยู่เรียบร้อยแล้ว
– จำเป็นจะต้องติดตั้ง Multiwindows Control v.3 ด้วย ถึงจะเห็นใน Simplistic Control
04. ในส่วนที่ 2 Phone Application เลือกปรับดูตัวความเหมาะสม
– เมื่อกดเข้ามาข้างใน Phone Application จะพบรายละเอียดตามนี้
05.ในส่วนที่ 3 TouchWiz Launcher
– จะมี Funtion Wallaper Scrolling ให้ใช้งานและรายละเอียดอื่น ๆ ตามรูป
06 ในส่วนที่ 4 General UI จะมีรายละเอียดตามรูป
– CRT-OFF Animation สามารถใช้ได้จริงกับ Rom ศูนย์
07.ในส่วนที่ 5 Hardware Buttons จะมีรายละเอียดตามรูป
08. ในส่วนที่ 6 Lockscreen จะมีรายละเอียดตามรูป
– มี Ink effect without pen ปรับได้ตามชอบ และสามารถ Ramdom สีของ Ink Effect ได้
09.ในส่วนที่ 7 Power Menu มีรายละเอียดตามรูป
– จะเป็นการปรับค่า POwer Menu ที่จะสั่งให้ปิดทำงานตอนปิดเครื่องสามารถกำหนดได้ตามความเหมาะสม
10. ในส่วนที่ 8 StatusBar Color/Transparency มีรายละเอียดตามรูป
– สามารถปรับสี StatusBarได้
– สามารถปรับสี Trasparency บน LockScreen ได้
11. ในส่วนที่ 9 icon and NOtification มีรายละเอียดตามรูป
12. ในส่วนที่ 10 Clock มีรายละเอียดตามรูป
– ปรับได้ตามความเหมาะสม
13.ในส่วนที่ 11 Battery มีรายละเอียดตามรูป
– สามารถปรับสี Battery หรือรูปแบบได้
14. ในส่วนที่ 12 Battery มีรายละเอียดตามรูป
– ถ้าไปที่ Main Battery View สามาปรับได้ตามความเหมาะสม
15.ในส่วนที่ 13 Battery มีรายละเอียดตามรูป
– ถ้าไปที่ Main Battery View สามาปรับได้ตามความเหมาะสม
16.ในส่วนที่ 14 Expandaed Statusbar มีรายละเอียดตามรูป
– สามารถปรับ สี Brightness Bar Color
– และปรับอื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสม
17.ในส่วนที่ 15 Toggles Settings เป็นส่วนสุดท้าย มีรายละเอียดตามรูป
– จะมีการปรับ Toggles ได้และอื่น ๆ ปรับตามความเหมาะสม
18. ในส่วนที่ 15 Toggles Settings
– เมื่อไปเข้าไปที่ Choose toggles จะปรากฎรายละเอียดตามรูป
– สามารถปรับ toggle ได้ตามความเหมาะสม
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 24 การปรับแต่ง Deodexed Rom ตอนที่ 7[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 23 การปรับแต่ง Deodexed Rom ตอนที่ 6[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 22 การปรับแต่ง Deodexed Rom ตอนที่ 5[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 17 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 8[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 16 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 7[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 15 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 6[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 14 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 5[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
Update
** ขยายออกเป็นทั้งหมด 30 Phase ครับ เตรียมพื้นที่ จะได้ไม่ลำบากเวลาขยายทีหลังครับ
Phase 18 การปรับแต่ง Deodexed Rom / Rom Modify ตอนที่ 1
04. การเพิ่ม Ink Effect, Unlock MultiWindows Control…………
05. การเพิ่ม Ink Effect, Unlock MultiWindows Control…………
** ข้อที่ 04-05 เป็นการใช้ Simplistic Framework 3.5.1 เข้าลูกเล่น ตอนนี้ใช้ไม่ได้กับ Rom ศูนย์ หรือ Odex Rom ผมขอย้ายมาอยู่ทางฝั่ง De-odex Rom / Rom Modify แทนครับ
[size=20][color=#0000ff]Phase 13 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 3[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. วิธีทำ Rom ศูนย์ เป็น De-odex Rom[/color][/size]
– ทดสอบกับ Rom ศูนย์ไทยเวอร์ชั่้นล่าสุด คือ N7100XXDMC3
– Rom ศูนย์ Samsung เป็น Odex Rom อยู่แล้ว เหตุผลที่เรียกว่า odex เพราะว่า ไฟล์ นามสกุล .apk ที่ติดมากับ Rom จะมีไฟล์นามสกุล .odex มาด้วยพร้อมกัน
– การทำ De-odex คือการรวมไฟล์นามสกุล .apk กับ .odex เข้าด้วยกัน ทำให้ประหยัดพื้นที่และเพิ่มการทำงานที่เร็วขึ้น โดยการเรียกการทำงานไปที่ไฟล์ .apk อย่างเดียว
– De-odex Rom เป็น Rom ที่เหมาะสำหรับการนำมาทำ Rom Modify เช่น Phoenix Rom, Omega Rom ก็เป็น De-odex Rom ที่ทำการปรับแต่งมาเรียบร้อยแล้ว
[size=14][color=#0000ff]Credit : [/color][/size]
01. xeudoxus
Link : xUltimate Main v2.X
02.DeodexTool AutoDEOTool JDmod
Link : DeodexTool AutoDEOTool
03. Android SDK
Link : Android SDK
[size=14][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง Samsung kies ที่เครื่อง PC ให้เรียบร้อยแล้วทำการ Restart PC 1 รอบ
02. เครื่องจะต้องทำการ Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้
03. ทุกอย่างสามารถทำได้บนระบบปฏิบัติการ Windows (ไม่ต้องทำบน Linux)
04. สำหรับการทำผู้ที่จะทำได้ มีความรู้พื้นฐานเพียงแค่ลงโปรแกรมและ Drive บน Windows เป็นก็สามารถทำได้
05. รูปก่อนทำให้ Rom ศูนย์เป็น De-odex Rom
– ใช้ App Root Explorer เปิดเข้ามาไปดูใน /system/app
– Rom ศูนย์ หรือ Odex Rom คืออันเดียวกัน
06. รูปหลังทำให้ Rom ศูนย์เป็น De-odex Rom
– ใช้ App Root Explorer เปิดเข้ามาไปดูใน /system/app
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]STEP 1[/color][/size]
01. ติดตั้ง App BusyBox ในเครื่อง Note 2 ตามรายละเอียดใน Phase 5 Link : 06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free (#jump059)
02. เครื่อง PC จำต้องติดตั้งโปรแกรม Java Runtime ติดตั้งตาม Link นี้ : Link : Java
03. Download ไฟล์ 3 ไฟล์ดังต่อไปนี้
3.1 Android SDK ไฟล์ที่ 1 เป็นไฟล์ขนาด 405MB
Link : Android SDK
– เมื่อเข้่าไปตาม Link แล้วให้กดไปที่ DOWNLOAD FOR OTHER PLATFORMS
– ในที่นี้ แนะนำให้โหลดไฟล์ สำหรับ Windows 64-bit เพราะจะเป็นไฟล์ที่ใช้ได้ทั้ง Windows 32Bit และ 64Bit ด้วย
– จะมีรายละเอียดมาแสดง ให้กดติ๊กถูกที่ I have read and agree with the above terms and conditions
– แล้วให้กด Download adt-bundle-windows-x86_64-20130219.zip
– โหลดเสร็จก็จะได้ไฟล์ชื่อ adt-bundle-windows-x86_64-20130219.zip
3.2. xUltimate 2.4.2 ไฟล์ที่ 2 เป็นไฟล์ขนาด 7MB
Link : xUltimate 2.4.2
– โหลดเสร็จก็จะได้ไฟล์ชื่อ xUltimate-v2.4.2.zip
3.3 DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod ไฟล์ที่ 3 เป็นไฟล์ขนาด 7MB
Link : DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod
– โหลดเสร็จก็จะได้ไฟล์ชื่อ DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod.zip
[size=14][color=#0000ff]STEP 2[/color][/size]
01. ต่อ Note 2 เข้ากับ PC
02. ที่เครื่องNote 2 ไปที่ Settings เข้าไปในหัวข้อ Developer options
03. ให้เลื่อนการทำงานของ Developer options แล้วจะมีคำถามขึ้นมาให้ตอบ OK
– ที่หัวข้อ Debugging ให้ติ๊กถูกที่คำว่า USB debugging แล้วจะมีคำถามขึ้นมาให้ตอบ OK
04. ให้ Copy ไฟล์ ใน STEP 1 ข้อ 3 ชื่อไฟล์ ตามข้างล่างไปไว้ใน Drive C ของ PC
– adt-bundle-windows-x86_64-20130219.zip
– xUltimate-v2.4.2.zip
– DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod.zip
05. ที่ไฟล์ xUltimate-v2.4.2.zip ให้ทำการแตกซิบไฟล์ (Extrac) ให้เลือก Extrac Here
– ออกจะได้โฟลเดอร์ ชื่อ xUltimate-v2.4.2 รายละเอียดไฟล์ตามรูปข้างล่าง
06. ให้เปิดไฟล์ชื่อ Main.exe ขึ้นมา ครั้งแรกจะเจอรายละเอียดตามรูป
– ให้กดตัวอักษร Y แล้วกดปุ่ม Enter
– หลังจากนั้นจะพบรายละเอียดตามรูป
07. ที่โฟลเดอร์ ชื่อ xUltimate-v2.4.2 จะมีโฟลเดอร์เพิ่มมาตามรูป
08. ที่โปรแกรม Main.exe ให้กดเลข 1 แล้วกดปุ่ม Enter
09. จากนั้นโปรแกรมจะเริ่มทำการดึงไฟล์ใน Rom ที่เป็นนามสกุล .apk และ .odex
– จะดึงไฟล์จากใน Note 2 ที่ /system/app/
– โดยดึงไฟล์มาเก็บไว้ที่ C:\xUltimate-v2.4.2\origi_app\
– ให้รอจนโปรแกรมดึงไฟล์จนเสร็จ
10. เมื่อเสร็จแล้ว จะปรากฎหน้าจอสีเขียวตามรูป ให้กดปุ่ม Enter แล้วโปรแกรมจะกลับเข้าไปหน้าแรก
11. ที่หน้าแรกของโปรแกรม Main ให้กดเลข 2 แล้วกดปุ่ม Enter
– โดยดึงไฟล์มาเก็บไว้ที่ C:\xUltimate-v2.4.2\origi_frame\
12. ให้รอจนโปรแกรมดึงไฟล์จนเสร็จ
13. เมื่อเสร็จแล้ว จะปรากฎหน้าจอสีเขียวตามรูป ให้กดปุ่ม Enter แล้วโปรแกรมจะกลับเข้าไปหน้าแรก
14. ให้ปิดโปรแกรม xUltimate-v2.4.2 ไปได้เลย
15. ตัวอย่างไฟล์ที่ดึงมาเสร็จแล้วใน C:\xUltimate-v2.4.2\origi_app\
16. ตัวอย่างไฟล์ที่ดึงมาเสร็จแล้วใน C:\xUltimate-v2.4.2\origi_frame\
[size=14][color=#0000ff]STEP 3[/color][/size]
01. ไปที่ไฟล์ชื่อ DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod.zip ที่ Copy ไปไว้ใน Drive C
02. ให้ทำการแตกซิบไฟล์ (Extrac) DeodexTool_AutoDEOTool_JDmod.zip ให้เลือก Extrac Here
03. จะได้โฟลเดอร์ชื่อ C:\AutoDEOTool_JDmod\
– รายละเอียไฟล์ตามรูปข้างล่าง
– แล้วให้กด AutoDEOToolMain.bat ตามรูป
– ถ้าไม่เห็นไฟล์ชื่อ AutoDEOToolMain.bat ก็ให้กดไฟล์ AutoDEOToolMain
05. เมื่อ Script ชื่อ AutoDEOToolMain.bat จะได้รายละเอียดตามรูป
06. ให้ Copy ไฟล์ใน STEP 3
– ไฟล์ทุกไฟล์ใน C:\xUltimate-v2.4.2\origi_frame\ ไปไว้ใน C:\AutoDEOTool_JDmod\_app\
07. ให้ Copy ไฟล์ใน STEP 3
– ไฟล์ทุกไฟล์ใน C:\xUltimate-v2.4.2\origi_frame\ ไปไว้ใน C:\AutoDEOTool_JDmod\_framework\
08. กลับไปที่ AutoDEOToolMain.bat
– ให้กดหมายเลข 1 แล้วกดปุ่ม Enter
09. จากนั้น Script จำเริ่มทำการรวมไฟล์ .odex และ apk เข้าด้วยกัน
– หรือรวมไฟล์ .odex กับไฟล์ .jar
10. เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้่ว Script ก็จะกลับ ไปยังหน้าแรก ตามรูป
11. ให้ปิดไฟล์่ AutoDEOToolMain.bat ไปได้เลย
12. รวมเมื่อไฟล์เสร็จแล้ว ไฟล์ C:\AutoDEOTool_JDmod\_app\
– มียังมีเหลือแต่ไฟล์ขยะ ให้ลบทิ้งไปได้เลย
– และไฟล์ที่ได้จากการรวมไฟล์ จะไปอยู่ใน C:\AutoDEOTool_JDmod\deodexed_APK\
– รูปหลังรวมไฟล์เสร็จ จะพบว่าไม่มีไฟล์ .odex อยู่แล้ว
13. รวมเมื่อไฟล์เสร็จแล้ว ไฟล์ C:\AutoDEOTool_JDmod\_framework\
– มียังมีเหลือแต่ไฟล์ขยะ ให้ลบทิ้งไปได้เลย
– และไฟล์ที่ได้จากการรวมไฟล์ จะไปอยู่ใน C:\AutoDEOTool_JDmod\deodexed_JAR
– รูปหลังรวมไฟล์เสร็จ จะพบว่าไม่มีไฟล์ .odex อยู่แล้ว
14. ให้เปลี่ยนชื่่อโฟลเดอร์ ใน C:\AutoDEOTool_JDmod\ รายละเอียดตามข้างล่าง
– โฟลเดอร์ deodexed_APK เปลี่ยนชื่อเป็น done_app
– โฟลเดอร์ deodexed_JAR เปลี่ยนชื่อเป็น done_frame
15. จากนั้นให้ Copy โฟลเดอร์ done_app และโฟลเดอร์ done_frame ไปไว้ใน Memory ภายในเครื่อง Note 2
16. ถ้าอยากดูคำสั่งในการ compile หรือรวมไฟล์ ให้ไปดูที่
– คลิกขวาที่ไฟล์ 01deodexAPK.bat แล้วเลือกคำสั่ง Edit ก็จะเห็นรายละเอียดคำสั่ง
– คลิกขวาที่ไฟล์ 02deodexJAR.bat แล้วเลือกคำสั่ง Edit ก็จะเห็นรายละเอียดคำสั่ง
[size=14][color=#0000ff]STEP 4[/color][/size]
01. ไปที่ไฟล์ adt-bundle-windows-x86_64-20130219.zip ให้แตกไฟล์ (Extrac)
– ออกจะได้โฟลเดอร์ ชื่อ C:\adt-bundle-windows-x86_64-20130219 รายละเอียดไฟล์ตามรูปข้างล่าง
– ให้ Cut หรือ Copy โฟลเดอร์ ชื่อ sdk มาไว้ที่ Drive C
02. แล้วให้เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ sdk เป็น Android-sdk
03. เครื่อง Note 2 ยังต้องอยู่กับ PC
04. กดปุ่ม Windows Key ค้างไว้แล้วตามด้วยให้กดปุ่มตัวอักษร R
05. พิมพ์คำว่า cmd แล้วกด OK
– คำสั่ง cmd เป็นคำสั่งในการเรียกโปรแกรม DOS ขึ้น
06. จากนั้นจะได้รายละเอียดหน้าจอโปรแกรม DOS ตามรูป
07. ที่หน้าจอโปรแกรม DOS ให้พิมพ์คำว่า cd C:\Android-sdk\platform-tools แล้วกดปุ่ม Enter
– คำว่า cd คือคำสั่งในการเข้าโฟลเดอร์
– ส่วน C:\Android-sdk\platform-tools คือ Folder ที่ต้องเข้าไปโดยไม่ต้อง Click
08. ให้ Copy คำสั่งต่อไปนี้ไปแล้วใน Notepad
adb shell
su
stop
mount -o rw,remount /system/ /system/
cp /sdcard/done_app/* /system/app/
rm /system/app/*.odex
cp /sdcard/done_frame/* /system/framework/
rm /system/framework/*.odex
mount -o ro,remount /system/ /system/
reboot
09. ให้พิมพ์คำสั่งว่า adb shell ในโปรแกรม Dos แล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป
10. กลับไปที่เครื่อง Note 2 คำมีการถามมาจาก App SuperSu ให้กดตอบ Grant
10. ต่อไปให้พิมพ์คำว่า su แล้วกดปุ่ม Enter
– ต่อด้วยให้พิมพ์คำว่า stop แล้วกดปุ่ม Enter
11. ให้ Copy คำสั่ง mount -o rw,remount /system/ /system/
– แล้วไปที่โปรแกรม Dos แล้ว Click ขวาที๋โปรแกรม Dos แล้วเลือกคำสั่ง Paste แล้วกดปุ่ม Enter
12. ส่วนคำสั่งที่เหลือก็ให้ทำเหมือนกัน Copy ไปวางแล้วกดปุ่ม Enter
– โดยคำสั่งที่เหลือให้ Copy ไปทีคำสั่ง
cp /sdcard/done_app/* /system/app/
rm /system/app/*.odex
cp /sdcard/done_frame/* /system/framework/
rm /system/framework/*.odex
mount -o ro,remount /system/ /system/
13. คำสั่งสุดท้าย reboot ให้รอจนได้รายละเอียดตามรูปก่อนแล้วค่อยใช้คำสั่ง reboot
– จากนั้นเครื่อง Note 2 จะทำการ Reboot
รายละเอียดตามรูป
14. จากนั้น Note 2 จะ Reboot แล้วทำการใส่ไฟล์ De-odex ที่ทำมาทั้งหมดกลับเข้าไปใน Note 2
– ประมาณ 200 กว่าไฟล์
15. จากนั้นลบโฟลเดอร์ done_app และ done_frame ที่อยู่ใน Memory Note 2 ทิ้งได้เลย
16. เป็นอันเสร็จสิ้น และสามารถนำ Rom ไปใช้ กับ Simplistic Framework V3.5.1 ได้เลย
17. ส่วนวิธีการทำ Rom เป็นไฟล์ .tar และ .md5 กำลังหาอยู่ -*- *0*
[size=14][color=#0000ff]02. การเก็บ ROM ศูนย์จากการ Update ด้วย Samsung Kies[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต่อ Note 2 เข้าเครื่อง PC
02. เปิดโปรแกรม Samsung Kies
03. กดปุ่ม Windows Key ค้างไว้แล้วตามด้วยให้กดปุ่มตัวอักษร R
04.พิมพ์ ตัวอักษร %tmp% แล้วกด OK
05. ก็จะได้รายละเอียดตามรูป ซึ่งเป็น Windows Explorer ของ PC
06. ที่หน้า Windows Explorer ของ PC ให้ไปที่ Menu View แล้วเลือกคำสั่ง Deatils
07. หลังจากนั้นกลับไปที่โปรแกรม Samsung Kies ให้ทำการ Update Firmware ตามปกติ
08. ให้กลับไปที่ Windows Explore ในข้อที่ 5 และรอจนไฟล์โหลดเสร็จ
– ที่หัวข้อคำว่า Date modified ให้กด 1 ครั้งเพื่อให้วันที่มีการสร้างเป็นวันล่าสุด จะเรียงขึ้นมาด้านบน
– ถ้าไม่เห็นไฟล์วันที่ล่าสุดให้กดอีกรอบ จนกว่าจะเห็นว่าไฟล์ที่ Update ล่าสุด
– และห้สังเกตุไฟล์ล่าที่ได้จะเป็นไฟล์นามสกุล .tmp
– ถ้าต้องการเห็นความเปลี่ยนของไฟล์ ให้กดปุ่ม F5 ที่ Keyboard เพื่อเป็นการ Refresh หน้าจอ
– ไฟล์ .tmp จะมีชื่อไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง และจะเห็นไฟล์เพิ่มขนาดขึ้นมาเรื่อย ๆ
09. รอสักระยะ ให้สังเกตุที่ Samsung Kies ถ้ามีคำว่า Decompressing Binary file ก็จะแสดงว่าโหลดเสร็จแล้ว
– และเปิด windows Explorer ในข้อที่ 5 เปรียบเทียบกับ
10. ที่ Windows Explorer ใสข้อที่ 5 ทางโปรแกรม Samsung Kies จะเริ่มทำการ ถอดรหัสไฟล์ .tmp เป็นไฟล์ .zip
[size=13][color=#FF0000]- ให้กดปุ่ม F5 ที่ Keyboard ไปเรื่อย ๆ และรอจนไฟล์ .zip กับ ไฟล์ .tmp มีขนาดเท่ากัน
– ให้รีบ Copy ไฟล์ .zip ออกไปไว้ที่อื่น ๆ ถ้าทำช้า จะไม่ได้ไฟล์นำมาเก็บไว้เลย
– ใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีถึง 40 วินาทีในการถอดรหัส ขึ้นอยู่กับสเปกเครื่อง PC ของแต่ละเครื่อง[/color][/size]
– ถ้าทำช้า ก็จะไม่ได้ Rom ศูนย์มาเก็บไว้ และไฟล์ .tmp ก็จะเอามาใช้ไม่ได้ด้วย
– ถึงจะเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ .tmp เป็น .zip ก็ใช้ไมได้เหมือนกัน เพราะเป็นการ เข้ารหัสไฟล์ไว้
11. หลังจากนั้นให้ Click ขวาที่ไฟล์ .zip แล้วเลือกคำสั่ง Extrac here
– หรือทำการแตกซิบไฟล์ออกมาจะได้ Rom ศูนย์ Samsung มาเก็บไว้
12. เป็นเสร็จสิ้น และจะได้ Rom มาเก็บไว้
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 11 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 1[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom Modify เป็น Logo ศูนย์[/color][/size]
– โหลด Root Explorer ได้จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 33. Root Explorer (File Manager) Free / Full เวอร์ชั่น ราคา 115.82 บาท
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ติดตั้ง App ชื่อ Root Explorer (File Manager) เปิดโปรแกรมขึ้นมา
2. เพื่อลดขั้นตอนการอธิบายการริวิว Upload file Logo ของ Rom จากศูนย์ Samsung เลยจะง่ายกว่า
– 2.1 โหลดไฟล์ชื่อ bootanimation จาก Link Download : bootanimation
– 2.2โหลดไฟล์ชื่อ samsunganiจาก Link Download : samsungani
3. โหลดเสร็จให้ Copy ไฟล์ ชื่อ bootanimation กับ samsungani ไปไว้ใน Micro SD Card ที่ไหนก็ได้
4. เปิด App Root Explorer (File Manager) จะได้ตามรูป
5. ให้ไปแล้วไปที่ System กดเลือกไปที่ Media
6. จะเห็นไฟล์ชื่อ bootanimation.zip
7. ให้กดที่ปุ่ม Mount R/Wให้มันเปลี่ยนเป็นMount R/O
8. ให้ลบมันทิ้งซะ โดยกดค้างไว้ที่ไฟล์ bootanimation.zip แล้วเลือก Delete
9. ถ้าอยากเห็นความต่าง ให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ จะไม่มี Logo ตอน Boot เครื่อง จะมีแต่คำว่า ANDROID สีเขียวกระพริบ รอจนมันโหลดเสร็จ
– ข้อนี้ ข้ามไปเลยก็ได้ ถ้าคนที่ใจร้อนด่วนได้ ไม่จำเป็นต้องทำ
10. เปิด App Root Explorer (File Manager) ให้ไปแล้วไปที่ Storage กดเลือกไปที่ extSdCard
11. ไปที่หาในโฟลเดอร์ที่ Copy ไฟล์ ชื่อ bootanimation กับ samsungani ที่ Save ไว้ตอนแรก
12. กดปุ่มซ้ายด้านล่าง เลือก Multi-Select แล้วไปติ๊กเลือกเอา 2 ไฟล์ และให้กดปุ่ม Copy
13. กดปุ่มเลือก .. Parent folder จนเห็นคำว่า System กดเลือกไปที่ bin
14. กด Mount R/W ให้มันเปลี่ยนเป็น Mount R/O กดเลือกกดปุ่ม Paste
15. ติ๊กถูกที่ Do this for all existing items แล้วกด Replace
16. กด Mount R/O ให้กลับไปเป็น Mount R/W
17. Reboot เครื่อง 1 รอบแล้ว Logo หุ่นกระป๋องเดินได้ ก็จะกลับมาเป็นของ Samsung Galaxy Note 2 ของแท้ครับ เป็นอันจบ
[size=14][color=#0000ff]02. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom ศูนย์[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมตัวก่อนทำ[/color][/size]
1. โหลดไฟล์ XXX.zip ที่เป็น Boot Animation เก็บไว้
2.Copy ไฟล์ Boot Animation ที่เป็นไฟล์ XXX.zip
3. ตัวอย่างไฟล์ Boot Animation
4. โหลด ROM Toolbox Pro ได้จกา Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
5. หัวข้อย่อยที่ 20. ROM Toolbox Pro Free/ Full เวอร์ชั่น ราคา 149.06 บาท
6. – โหลด Root Explorer ได้จกา Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
7. หัวข้อย่อยที่ 33. Root Explorer (File Manager) Free/ Full เวอร์ชั่น ราคา 115.82 บาท
[size=13][color=#0000ff]โหลดได้จากที่ Boot Animation ทีไหน ?[/color][/size]
1. โหลดได้จาก App Rom Toolbox Pro
– ไฟล์ที่โหลดมาได้จะเก็บอยู่ในอยู่ Note 2 โฟลเดอร์ romtoolbox/boot_animations/
2.โหลดได้จาก XDA-Developers แต่ต้องไปเปิดหาจาก กระทู้ที่ Post ของแต่ละกระทู้
Link : Galaxy Note II Themes and Apps
3. หลังจากโหลดไฟล์ Boot Animation ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น bootanimation.zip
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ติดตั้ง App ชื่อ Root Explorer (File Manager) เปิดโปรแกรมขึ้นมา
2. Download ไฟล์ ต่อไปนี้ (เอามาจาก Omega Rom)
– โหลดไฟล์ bootanimation จาก Link นี้ : Bootanimation
– โหลดไฟล์ชื่อSamsungani จาก Link นี้ : Samsungani
3. โหลดเสร็จให้ Copy ไฟล์ ไปไว้ใน Micro SD Card ที่ไหนก็ได้ 2 ไฟล์ดังต่อไปนี้
– bootanimation
– samsungani
4. Copy ไฟล์ bootanimation.zip ไปไว้ใน Note 2
5. เปิด App Root Explorer (File Manager) จะได้ตามรูป
6. หลังจากเปิด App Root Explorer แล้วกดเลือกไปที่ storage
7. กดเลือก extSDcard
8. กดค้างไว้ที่ไฟล์ที่ Bootanimation.zip
9. แล้วจะมีคำสั่ง ให้เลือก Copy ไฟล์
10. กดปุ่ม ทางด้านขวามือของ NOte 2 แล้วออกมาที่โฟลเดอร์ /system/media
– จากนั้นให้กด Mount R/W ก็จะเปลี่ยนเป็น Mount R/O
11. กด Paste
12. สำหรับ Rom Modify ถ้า Bootanimation.zip อยู่แล้ว
– ให้กด ติ๊กถูกตามรูปแล้วกด Replace ไปเลย
13. จากนั้นให้กด Mount R/O อีกครั้งก็จะเปลี่ยนเป็น Mount R/W
– ที่กดเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมก็เพื่อป้องกันมือไปกดผิดแล้วลบไฟล์ทิ้ง
14. จากนั้นให้ไป Copy ไฟล์ bootanimation กับ samsungani ทั้ง 2 ไฟล์มาวางทับใน โฟลเดอร์ /system/bin
– ต้องกด Mount R/W ให้เป็น Mount R/O ด้วย แล้วค่อยวางทับไปเลย
– ขอ งดใส่รูปเพราะ มีตัวอย่างในการ Copy ไฟล์ Boot Animation อยู่แล้ว กระทู้จะได้ไม่หนักเกิน
15. Reboot เครื่องก็จะได้ Boot Animation ที่ต้องการ เป็นอับจบ
[size=14][color=#0000ff]03. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom Modify[/color][/size]
– โหลด ROM Toolbox ได้จาก Phase 6 20. ROM Toolbox แบบฟรี หรือเสียตังซื้อก็ได้
– ใช้ได้เฉพาะ Rom Modify ที่มี Boot Animation อยู่แล้ว
– ไม่สามารถใช้ได้กับ Rom ศูนย์
– ถ้าใช้ Rom ToolboxPro มาเปลี่ยน Boot Animation แล้วต้องทำจาก App นี้ตลอดไป
– ริวิวทดสอบทำหมดแล้ว เปลี่ยนกลับไม่ได้ นอกจากจะใช้ App Rom ToolboxPro
– ถ้าผู้ใช้อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปเลย ไม่ต้องไปกลัว เพราะเดี๋ยว Version 4.2 กับ Version 5.0 ก็มา พอทำการ Flash Rom ใหม่ เดี่ยวก็หายหมด
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App : Rom ToolboxPro
02. จากนั้นจะปรากฎหน้าจอดังนี้
03. กดเลื่อนทางมาด้านขวามือ ที่หัวข้อคำว่า Interface
04. ในที่นี้ขอริวิ ด้วย Android Logo ให้กดเลือก Android Logo
05. กด Install
06. จากนั้น Superuser จะถาม ให้กด Grant แล้ว Boot Animations จะทำการติดตั้ง
– เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
07. ถ้า Logo อันไหนที่โหลดเรียบร้อยจะเปลี่ยนรูปเป็นเครื่องหมายถูก
08. รูปหลังเปลี่ยน Logo
[size=14][color=#0000ff]04. วิธีเปลี่ยน Product code Rom Modify[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]- ก่อนทำสำรองข้อมูลด้วยไม่งั้นมันจะ Factory Reset หายเกลี้ยง[/color][/size]
– เป็นวิธีใช้ App โดยไม่ต้องจำการพิมพ์เลขสำหรับ Note 2
– Rom Modify ใช้วิธีกดปุ่มตามแป้นโทรไม่ได้
– จริง ๆ ในส่วนนี้มีมากับเครื่องอยู่แล้ว App ตัวนี้เพียงไปเรียกการเปลี่ยน Product Code ขึ้นมา
– โหลด App ได้ที่ Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 17. CSC Changer สำหรับเปลี่ยน Product Code
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. จะเป็นต้องติดตั้ง BusyBox สามารถดูได้จาก Link : 06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free (#jump059)
06. ติดตั้ง App CSC Changer แล้วเปิด App ขึ้นมา
07. กด Grant
08. กด Change CSC
09. กด Continue
10. เลือก THL แล้วกด INSTALL กดค้างสัก 5-7 วินาที แล้ว Not 2 ก็จะ Reboot
11. ถึงจะเปลี่ยน Product Code เป็นไทย ก็ยังไม่ Support การ Up Firmware จาก Samsung Kies อยู่ดีครับ
– ตัวอย่างรูปที่ต่อกับ Samsung Kies ก่อนทำ App change CSC
– ตัวอย่างรูปSamsung Kies หลังทำ App change CSC
[size=13][color=#0000ff]05. วิธีเปลี่ยน Product code Rom ศูนย์[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด Phone
02. กด *#272* แล้วกดหมายเลข IMIE
03. หมายเลข IMIE หาได้จากไหน
– ไปที่ Settings
– กดเลือก About device
– กดเลือก Status
ก็จะเห็นหมายเลข IMIE
04. กด *#272*35XX27XX41XX9XX3#
05. ก็จะแสดงหน้าจอตามนี้ ให้กดเลือก
– กดเลือก THL ให้ขึ้นเป็นสีเขียวตามรูป
– แล้วกดที่ปุ่ม Install ค้างไว้สัก 5 วินาที
– แล้วเครื่องจะการล้างข้อมูลทุกอย่างทั้งหมดและ Factory พร้อมเปลี่ยน Product Code
– จะกลับมาสู่หน้าการตั้งค่าใหม่เหมือนเปิดเครื่องใหม่เลย
[size=14][color=#0000ff]06. วิธีเปลี่ยน Build Number[/color][/size]
– Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ ถ้าไม่ Root ทำไม่ได้ครับ
– ติดตั้งและโหลด App ES File Explorer ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App ที่ชื่อ ES File Explorer ขึ้นมา
02. กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 >>> กดปุ่ม Setting
03. กดปุ่มที่คำว่า Root Settings
04. ติ๊กถูกที่คำว่า Root Explorer
05. กดเลือก Yes
– ถ้ากดแล้ว Error ขอแสดงความเสียใจด้วยว่า Rom ท่านมีปัญหาครับ เพราะช่วงที่ทดสอบเจอ Error คือมันไม่ยอมให้ Grant ต้อง ลง Rom Modify หรือ Rom ศูนย์ใหม่ถึงจะทำได้ครับ
06. กดเลือก Grant
07. กดเลือกถูกตามนี้ให้หมดครับ
8. จากนั้นให้กลับไปที่หน้าแรกของ App
9. กดที่ปุ่ม Favorites ตามรูปเลยครับ >>> จากนั้นกดที่ ปุ่มรูปเครื่องโทรศัพท์
10. กดหาที่ system ตามรูป
11. จากนั้นให้หากับกด 1 ครั้งที่ Icon : build.prop
12. กดเลือก ES note Editor
13. จะได้รายละเอียดตามรูป ให้แก้ไขตามที่เราต้องการใน ในช่องที่มีคำว่า ro.build.display.id=N7100XXDMA6
14. แก้ไขรายละเอียดตามที่ต้องการ เสร็จแล้วให้กดปุ่มด้านล่างขวามือของ Note 2
15. ตอบ Yes แล้ว Reboot โทรศัพท์ 1 รอบ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงครับ
16. รูปก่อนที่จะเปลี่ยน Build Number
17. รูปหลังเปลี่ยน Build Number
[size=14][color=#0000ff]07. วิธีถนอมปุ่ม Home กับ ปุ่ม Power[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 4 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 11. CWM Manager 3.1.5 ฟรี App
– หัวข้อย่อยที่ 51. Smart Cover ราคา 41.51 บาท
– หัวข้อย่อยที่ 58. Screen Off and Lock / Full ราคา 37.61 บาท
– หัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
02. ติดตั้ง Application ทั้ง 4 App คือ CWM Manager, Smart Cover, Screen Off and Lock, S File Explorer File Manager
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Smart Cover ขึ้นมา
02. ไปที่ วงกลมสีดำ ตามรูปแล้ว
03. จะปรากฎหน้าจอตามรูป กด Activate
04. เมื่อกดแล้วจะเปลี่ยนจากวงกลมสีดำ เป็นสีเขียว
05. เปิด App Screen off ขึ้นมา
06. จะปรากฎหน้าจอตามรูปกด Activate
07. เปิด CWM Manager 3.15
08.ในที่นี้ เอาไว้ใช้ Recovery mode, Download mode, Reboot
– อาจจะมีประโยชน์มากกว่านี้ แต่ ไม่ค่อยได้ใช้
09. เปิด App ES File Explorer ขึ้นมา
10. จะปรากฎหน้าจอตามรูป
11. กดปุ่มที่มุมซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกด Settings
12.จะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้ทำการเลื่อนหา แล้วกดเลือก Root Settings
13. กด Root Explorer
14. จะมีคำเตือนขึ้นมา ให้กด Yes
15.กด Grant
16. กดเช็คถูกให้หมดรายละเอียดตามรูป
17. จากนั้นให้กลับไปหน้าแรกของ App ES File Explorer กดที่ Favorites
18. กดที่รูปโทรศัพท์
19. เลื่อกหาคำว่า sytem แล้วกดไปเข้าใน Folder System
20. หลังจากนั้นให้เลื่อนหาไฟล์ build.prop แล้วกดเลือกไฟล์ build.prop
21.จะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้กดเลือก ES Note Editor
22. ให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุดของบรรทัด แล้ว พิมพ์ข้อความในบรรทัดท้าย คือ qemu.hw.mainkeys=0
23.กดปุ่มด้างล่างขวาของ Note 2 แล้วกด Yes แล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
24. เมื่อรูป Reboot ก็จะปรากฎหน้าจอตามรูป
– ปุ่มสี่เหลี่ยมด้านซ้ายมือ ปุ่มอันแรก ใช้แทนการกดปุ่ม Home และสไลด์ App ทิ้งได้จากปุ่มนี้
– ปุ่ม รูปบ้าน ใช้กดแทนปุ่ม Home
– ปุ่ม U Turn ใช้แทนปุ่มด้านล่างขวามือ
26. เมื่อทำเสร็จแล้ว จะไม่สามารถใช้ปุ่มด้านซ้ายมือล่างได้
– วิธีแก้ไขคือ ไปลบข้องความ qemu.hw.mainkeys=0 ในไฟล์ build.prop
– แล้ว Reboot เครื่องก็จะกลับมาเป็นปกติ
27. อธิบายภาพรวมการใช้งาน App ทั้ง 3 App
– วิธีใช้งาน คือดึง Icon ทั้ง 3 App ออกมาด้านหน้าเครื่อง
– Screen Off เพียงแต่กดที่ App หลังตั้งค่า Active ก็จะทำการ Lock หน้าจอ
– Smart Cover ใช้สำหรับปิด-เปิดหน้าจอ ทั้ง แบบ Case ปิดหน้าและไม่เปิดหน้า
– CWM Manager 3.15 ใช้สำหรับ Recovery mode, Download mode, Reboot
– คำสั่งที่เขียนด้วย qemu.hw.mainkeys=0 ใน ES File Explorer จะได้ปุ่มมาแทนการใช้ปุ่มจากเครื่อง Note 2
28. เมื่อกดใช้งาน
– App Screen Off ก็จะทำการ Lock เครื่องทันที
– สำหรับคนที่มี Case แบบปิดเครื่อง เพียงแต่เปิด Case ก็จะด้านหน้าเครื่องออก App Smart Cover ก็จะเปิดหน้าจอทันที
– สำหรับคนที่ไม่มี Case แบบปิดด้านหน้าเครื่อง เพียงแต่ให้เอามือมาบังที่กล้องด้านหน้าแล้ว เอามือออก App Smart Cover ก็จะเปิดหน้าจอทันที
29. เวลาใช้งานหรือเล่นเกมบน Note 2 จะต้องปิดการทำงานของ Smar Cover ไม่ฉะนั้น ถ้ามือไปโดนกล้องด้านหน้า เครื่องจะ Lock ทันที
30. จะได้ใช้ปุ่ม Home เพียงปุ่มเดียวคือ ปิดเครื่อง เท่านั้น
31. เป็นอันสิ้นสุดการวิธีถนอมปุ่ม Home กับ ปุ่ม Power
[size=14][color=#0000ff]08. Unlock MultiWindow Control ด้วย Xposed installer[/color][/size]
– วิธีนี้ จะสามารถใช้ได้ทัง Rom ศูนย์และ Rom Modify
– แต่ไม่สามารถควบคุม Add ที่อยู่ใน MultiWindows Bar ได้
– เพราะจะไปดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
[size=14][color=#FF0000]ห้ามติดตั้ง MultiWindows Control อันอื่น เพราะจะทำให้ MultiWindow Control ค้างบ่อยจนน่าลำคาญ[/color][/size]
[size=13][color=#FF0000]ข้อดี-ข้อเสีย[/color][/size]
01. ถ้าทำตามวิธี Xposed installer ทุกครั้งที่ Reboot เครื่อง Note 2 Multi Windows Control จะ Reset ทันที
02. ไม่สามารถกำหนด App เองได้ เพราะ Xposed installer จะดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
03. สามารถเกือบทุก App แบบ 100 %
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 3 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 59. Xposed installer v2.1.3
– หัวข้อย่อยที่ 60. xMultiWindow Mod v1.3
– หัวข้อย่อยที่ 61. Xposed Appsettings V.0.2
02. เมื่อโหลดมาครบทั้ง 3 App แล้วให้ Copy ไปไว้ใน Micro SD Card
03. ทำการติดตั้ง App ทั้ง 3 App คือ Xposed installer v2.1.3, xMultiWindow Mod v1.3 และ Xposed Appsettings V.0.2
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. รูปก่อนทำ
02. เปิด App Xposed installer v2.1.3 ขึ้นมา
03. เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วให้กดไปที่แถบ Modules แล้วให้กดเช็คถูกที่ xMulti Windows Mod[1.3]
04. จากนั้นให้ไปที่แถบ Framework แล้วกด Install/Update
05. กด Grant ถ้าไม่มีมการถามจาก Supersu ให้ข้ามไปเลย
06. กด OK
07. จากนั้นกด Reboot
08. หลังจากที่ Reboot มาแล้วให้ทดสอบเปิด MultiWindows Control ขึ้นมา ก็จะปรากฎตามรูป
– วิธีนี้ จะไม่สามารถควบคุม App ได้แต่จะเป็นการดึง App ทั้งหมดมาเลย
09. ตัวอย่างการใช้ App ในรูปแบบ MultiWindows Control
10. ถ้าต้องการยกเลิก xMulti Windows Mod[1.3]
11. ให้ไปที่ Modules แล้วกดเช็คถูก Xposed App settings[0.2]
12. แล้วกด Install/Update
13. กด Ok
14. จากนั้นให้กด Reboot หรือ Reboot เครื่อง
[size=13][color=#FF0000]15. ถ้าทำแล้วยังไม่มี Unlock MultiWindows ไม่ได้ให้ทำใหม่อีกรอบ ก็จะสามารถ Unoock ได้[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]09. Unlock MultiWindow Control ด้วย App Multi Windows Manager[/color][/size]
– วิธีนี้ จะสามารถใช้ได้ทั้งง Rom ศูนย์และ Rom Modify
– แต่ไม่สามารถควบคุม Add ที่อยู่ใน MultiWindows Bar ได้
– เพราะจะไปดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
[size=14][color=#FF0000]ห้ามติดตั้ง MultiWindows Control อันอื่น เพราะจะทำให้ MultiWindow Control ค้างบ่อยจนน่าลำคาญ[/color][/size]
[size=13][color=#FF0000]ข้อดี-ข้อเสีย[/color][/size]
01.ทุกครั้งที่ Reboot เครื่อง Note 2MultiWindow Control จะไม่ Reset
02. สามารถกำหนด App เองได้
03. สามารถใช้ได้เพียง App แบบ MultiWindow Manager เพียง 60-70 %
04. ถ้าใช้แบบฟรีเวอร์ชั่น ทุกครั้งที่ Add App ใหม่จะต้อง Reboot Note 2 ทุกครั้ง
05. ถ้าใช้แบบ Full เวอร์ชั่น ทุกครั้งที่ Add App ใหม่จะต้องไม่ต้อง Reboot Note 2
05. ต้องรอทางผู้เขียน App MultiWindow Manager ทำให้เสถียรมากกว่านี้
06. สามารถไปใช้วิธี Unlock ด้วย Xposed installer ได้
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 3 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 71. Multi Window Manager : ฟรีเวอร์ชั่น / Full เวอร์ชั่น 36.61 Bath
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. รูป MultiWindow Control ก่อนทำ
02. เปิด App MultiWindow Manager ขึ้นมา
03. กดเลือก Grant
04. กดเลือก No Thanks
05. กดเลือก OK
06. กดเลือก Galaxy Note 2 แล้วกด Next
07. กดเลือก GT-N7100 แล้วกด Apply Patch
08. ถ้าเป็นฟรีเวอร์ชั่น จะต้องกดเลือก Restart Now เพื่อ Reboot เครื่อง
09. หลังจาก Reboot Note 2 ให้เปิด App MultiWindow Manager
– ให้กดเลือก App ด้านบน แล้ว App ด้านบนจะลงมาข้างล่างอัตโนมัติ
10. แล้วกดป่มด้านล่างขวามือของ Note 2 แล้วให้ตอบ Yes
11. ให้กดเลือก Yes
– ถ้าเป็นฟรีเวอร์ชั่น จะต้อง Restart เครื่อ
– ถ้าเป็น Full เวอร์ชั่่น App MultiWindow Manager จะทำการ Apply Patch ให้เอง
12. รูประหว่างการ Apply Patch
13. ตัวอย่างรูปที่ Add App เข้า
14. ทดสอบ MultiWindows Control กับ App MX Player Pro กับ Camera
15. ด้านซ้ายเป็น App MX Player ด้านขวาเป็นการใช้ Camera ถ่ายภาพจาก HD TV
16. เป็นอันเสร็จสิ้นการ Unlock ด้วย App MultiWindows Manager
[size=14][color=#0000ff]10. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย Directory Bind[/color][/size]
– ในส่วนนี้เป็นวิธีการย้าย Data ที่มีข้อมูล App ที่โหลดข้อมูลขนาดใหญ่มาเก็บไว้ภายใน Note 2
– ซึ่งถ้าใช้ App พวกประเภทเกมมาก ๆ อาจจะทำให้ Memory เต็มได้
– จริง ๆ ไม่ใช่การย้าย Application แต่ตั้งชื่อเพื่อให้สื่อความหมายได้เข้าใจง่าย
– แต่เป็นการย้ายโฟลเดอร์ข้อมูลของ App หรือเกม แล้วเปลี่ยน Patch ในการ Run App
– และเป็นการจำลองไฟล์ที่อยู่ใน SD Card ให้มาทำงานภายใน Memory ของ Note 2
– [size=13][color=#0000ff]การย้ายโฟลเดอร์ข้อมูล (ย้าย App) ประเภทนี้ไม่เหมาะกับคนที่ Update Rom บ่อยครั้ง หรือคนที่ลง Rom Modify บ่อย ๆ เพราะทุกครั้งลง Rom ใหม่จะต้องมา Set ค่าใหม่ทั้งหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลดและติดตั้ง App DirectoryBind 0.2.0k จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 77. DirectoryBind 0.2.0k
02. โหลด App หรือเกมให้เสร็จ เพื่อจะทำการย้าย Data จาก Memory Note 2 ไป Micro SD Card
03. เกม และ App ที่ใช้ในการทดสอบ และใช้งานได้ตามปกติ
– Sygic 11.2.6
– Modern Combat 4
– N.O.V.A.2
– N.O.V.A.3
– Shadowngun 1.1.0
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Directory Bind ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดครั้งแรกจะมี App SuperSu ขึ้นมาถามให้ตอบ Grant ตามรูป
03. แล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป
04. การตั้งค่าของ Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของเครื่อง Note 2 แล้วให้กดเลือก Preferences
05. ให้กดเช็คถูกตามรูป
– สำคัญที่สุด คือ กดเช็คถูก Alternate dbase mgmt เพื่อเปิดการใช้งานเพิ่มในส่วนนี้เพื่อให้ดาด้าเบสบันทึกจุดทำงานโปรแกรม
06. ที่หน้า Preferences
– ให้กดเลือก Default data patch ก่อนกับ
– ให้กดเลือก Default target patch
07. ที่ช่อง Default target patch ให้พิมพ์คำว่า /mnt/extSdCard/
– ให้ดูคำอธิบายเพิ่มเกี่ยว /mnt/ คืออะไรในข้อที่ 32 – ข้อที่ 36
08. ที่ช่อง Default data patch ให้พิมพ์คำว่า /mnt/sdcard/
– ให้ดูคำอธิบายเพิ่มเกี่ยว /mnt/ คืออะไรในข้อที่ 32 – ข้อที่ 36
09. ในการย้ายโฟลเดอร์ข้อมูล จะยกตัวอย่างชื่อ App Sygic มาในส่วนนี้
– ให้ติดตั้งเกมหรือ App ที่จะทำการย้ายข้อมูลให้เรียบร้อย
10. Application Sygic ที่ยกตัวอย่าง
– จะเก็บข้อมูลไว้ตามรูป /storage/sdcard0/Aura
11. กลับไปที่หน้าแรกของ App Directory Bind ให้กดที่คำว่า Root access OK ให้เปลี่ยนเป็น ON
12. แล้วให้ทำการหาดูรายละเอียดของโฟลเดอร์ของเกม หรือ App ว่าเก็บข้อมูลไว้ที่ไหนใน Memory ของ Note 2
– ในส่วนนี้ ให้ทำการสร้างโฟลเดอร์ที่เหมือนกับที่มีอยู่ในใน Memory ของ Note 2
– โดยการต่อ Note 2 เข้า PC แล้วสร้างโฟลเดอร์ที่เหมือนกันรอไว้ก่อน จะได้สะดวกไม่ต้องมาพิมพ์เองใน Note 2
– ให้ทำการสร้างโฟลเดอร์แค่ 1 ขั้น หรือ แค่ด้านนอกของโฟลเดอร์นั่น ก็พอ
ตัวอย่างเช่น
12.1 เกม Modern Combat 4 Zero Hour
– จะเก็บไฟล์ไว้ใน \Android\obb\com.gameloft.android.ANMP.GloftM4HM\
– ก็ไปสร้างโฟลเดอร์ไว้ใน Micro SD Card ทั้งหมด 3 โฟลเดอร์ ไว้ใน
– คือ สร้างโฟลเดอร์ Android แล้วต่อด้วยโฟลเดอร์ obb ต่อด้วยโฟลเดอร์ com.gameloft.android.ANMP.GloftM4HM
– ถ้าโฟลเดอร์ที่มีรายละเอียดภายในอีกไม่จำเป็นต้องสร้าง ให้สร้างแค่โฟลเดอร์เกมอันแรกก็พอ
13. ต่อในส่วนของ App Sygic ให้สร้างโฟลเดอร์ไว้รอ App Sygic
– รูปนี้คือโฟลเดอร์ของ App Sygic ชื่อ Aura ที่สร้างไว้ SD Card โดยสร้างจากใน PC
– รูปนี้ คือ โฟลเดอร์ App Sygic ชื่อ Aura ที่มีอยู่ Memory ของ Note 2
14.ที่หน้าแรกของ App Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของเครื่อง Note 2 แล้วเลือก Add new entry
15.จะเข้าสู่หน้าจอตามรูป ที่หัวข้อ Enter mount (target) path.
– ให้กดเลือกที่คำว่า /mnt/sdcard/ โดยกดค้างไว้สัก 3 วินาที
16. กดเลือกโฟลเดอร์ชื่อ Aura
– ในส่วนนี้จะเป็นตัวอย่างของ App Sygic ชื่อโฟลเดอร์ Aura
– โฟลเดอร์ที่ App หรือเกมบันทึกข้อมูลไว้ จะชื่อไม่เหมือนกัน
– จะต้องทำการหาดูว่า App บันทึกไว้ที่ไหน
17. จากนั้นจะเข้าสู่โฟลเดอร์ของ App หรือเกม ในที่นี้คือโฟลเดอร์ชื่อ Aura แล้วให้กด Select
18.จะกลับสู่หน้าเดิม ที่หัวข้อ Enter source (data) patch.
– ให้กดเลือกที่คำว่า /mnt/extSdCard/ โดยกดค้างไว้สัก 3 วินาที
19. ก็จะปรากฏหน้าจอตามรูป โดยส่วนนี้โฟลเดอร์ ถ้าทำการสร้างไว้เรียบร้อยแล้วจากใน PC
– ให้กดเลือกโฟลเดอร์ Aura
20. แล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป แล้วให้กดเลือก Select
21. จากนั้นจะกลับสู่หน้าจอเดิม ให้ติ๊กถูกที่คำว่า Transfer files from target to data
– แล้วกด Add
22 จากนั้น App Directory Bind จะทำการย้ายโฟลเดอร์ แล้วทำการจำลองไฟล์ และเปลี่ยน Patch สำหรับการ Run App ให้เองอัตโนมัติ
23. ตรวจสอบไฟล์ก่อนที่จะ Reboot และหลัง Reboot
– ให้ไปที่โฟลเดอร์ ของ App หรือเกม แล้วกดค้างไว้ แล้วเลือกคำสั่ง Details
– รูปด้านซ้าย คือรายละเอียดทำการย้ายโฟลเดอร์เสร็จ แต่ข้อมูลเป็น 0 และมีไฟล์เป็น 0
– รูปด้านขวา คือรายละเอียดหลังทำการ Reboot เครื่องเสร็จ. โดย App Directory Bind ทำการจำลองไฟล์มาใน Memory 2 ให้ โดยไม่กินพื้นที่
24. เมื่อเสร็จแล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้ไปดูใน Micro SD Card ว่าไฟล์ได้ย้ายไปจริงหรือไม่
– แล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
– หรือจะทำการย้ายโฟลเดอร์หมดก่อน ค่อย Reboot ก็ได้
25. เมื่อ Reboot เสร็จ รูปแผ่นดิส จะกลายเป็นสีเขียว ตามรูป
26. ให้ทำทดสอบเปิด App หรือเกม ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
27. ถ้าทำการย้ายโฟลเดอร์ (App) ทั้งหมดแล้ว Reboot เครื่อง 1 รอบ
– เมื่อ Reboot เสร็จแล้ว ทุกอย่างจะขึ้นรายละเอียด ดังรูปก็แสดงว่าพร้อมใช้ และเสร็จสิ้นแล้ว
[size=14][color=#FF0000]ต่อไปเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมจะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้ แต่ถ้าไม่อ่านแล้วจะมีอาการ งง ตามมาภายหลัง[/color][/size]
28. เมื่อทำการ Reboot Note 2 ทุกครั้งอาจจะมี MTP Application ขึ้นมาถาม ไม่ต้องไปใส่ใจ ให้กด OK ไปเลย
29. แล้วถ้าใช้งานอยู่แล้ว Directory Bind กด อาการ stopped ตามรูป ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ ก็จะสามารถทำงานได้ตามปกติ
– แต่ถ้าไม่สามารถใช้งานได้ก็ให้เปิด App Directory Bind ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทำงาน
– ถ้าไม่ทำงานก็ให้ทำการตรวจเช็ครายละเอียดให้ Reboot 1 รอบ
30. รายละเอียดหลังจาก App เสร็จ จากเดิมที่มีพื้นเหลือประมาณ 3-4 GB ตอนนี้เหลือพื้นที่ว่าง 9.43GB
31. การยกเลิกการใช้งานชั่วคราวของ Directory Bind หรือถ้าเครื่องเกิดอาการช้า ๆ
31.1 ที่หน้าแรกของ Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้างล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก Unbind all
31.2 ที่หน้าแรกของ Directory Bind ที่หัวข้อคำว่า Root access OK ให้กดเลือกให้เป็น Off
31.3 แล้วให้ทำการ Reboot 1 รอบแล้ว
– ค่อยเปิดการทำงานใหม่
– แล้ว Reboot อีก 1 รอบ
32. คำอธิบายเพิ่มเติมว่า /mnt/ มาได้ยังไง
– ที่หน้าแรก ให้กดปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือกคำสั่ง add new entry
– ก็จะปรากฎหน้าจอตามรูป
33. ให้กดที่ปุ่ม Up เรื่อย ๆ จนเจอรายละเอียดตามรูป
– นี้คือ mnt และ Storage จะเอามา Add ใน new entry ได้เลย
34. ไปเข้าไปข้างใน /mnt/ ก็จะเป็นรายละเอียดตามรูป จะมี extSdCard กับ sdcard
– ถ้ากดเข้าไปข้างใน storage ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน
35. สามารถใช้ได้ทั้ง /mnt/exSdCard/ และ – /mnt/sdcard/
– ในการ Add Default data patch และการ Add Default target patch
36. หรือสามารถใช้ได้ทั้ง /storage/exSdCard/ และ /Storage/sdcard0/
– ในการ Add Default data patch และการ Add Default target patch
[size=14][color=#0000ff]11. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย App 2 SD Pro[/color][/size] [–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]12. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย Lucky Patcher[/color][/size] [–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]13. วิธี Swap Internal Memory กับ Micro SD[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. เครื่องจะต้อง Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้
02. Copy ข้อมูลและสำรองข้อมูลทุกอย่างลง PC ก่อนให้หมด
03. แนะนำ : ให้ Format Micro SD Card ให้เป็นแบบ eXFat (จะทำหรือไม่ทำก็ได้ในข้อนี้)
04. วิธีการ Format SD Card ให้เป็น eXFat อยู่ใน Phase 4 Link : 04. การเรียกดูและ Format Micro SD Card ให้เป็นระบบ eXFAT (#jump1404)
05. ติดตั้ง App ชื่อ Script Manager-SManager
– ทำการโหลด App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 74. Script Manager-SManager(NoAds) ฟรีเวอร์ชั่น
06. ถ้า Memory เป็นประเภท ExFat ให้โหลด Mod ที่อยู่ Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 75.1 Mod for exfat Sd Card for custom kernel
– หัวข้อย่อยที่ 75.2. Mod for exfat Sd Card for stock kernel with init.d support
– แล้วให้ Copy ไฟล์ Mod ที่โหลดมาทั้ง 2 ไฟล์ไปไว้ใน Micro SD Card
[size=13][color=#0000ff]หรือ[/color][/size]
06. ถ้า Memory เป็นประเภท Fat32 ให้โหลด Mod ที่อยู่ Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 76.1 Mod for fat32 Sd Card for custom kernel
– หัวข้อย่อยที่ 76.2 Mod for fat32 Sd Card for stock kernel with init.d support
– แล้วให้ Copy ไฟล์ Mod ที่โหลดมาทั้ง 2 ไฟล์ไปไว้ใน Micro SD Card
07. ติดตั้ง App ชื่อ ES File Explorer File Manager
– ทำการโหลด App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
รูป Storage Memory ก่อนทำ
01. หลังจากที่ Copy ไฟล์ Mod ไปไว้ใน Micro SD Card
02. ให้ใช้วิธีการ Flash .zip ไฟล์
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในข้อที่ 04
04. หลังจากทำขั้นตอนการ Flash ไฟล์ มาแล้วให้มาต่อในส่วนนี้
05. ถ้าเป็น Micro SD Card เป็น eXFat ให้ Flash ไฟล์ ไฟล์ 2 ไฟล์นี้ด้วย
5.1 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_extfat.zip และ
– ไฟล์นี้คือ คำสั่งมี่เขียนมาเรียบร้อยแล้ว
5.2 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_stock_kernel_extfat.zip
– ส่วนไฟล์นี้คือ Kernel สำหรับ Flash Kernel หรือจะใช้ Flash Kernel Adam กับ Perseus ก็ได้
[size=14][color=#0000ff]หรือ[/color][/size]
05. ถ้าเป็น Micro SD Card เป็น eFat32 ให้ Flash ไฟล์ 2 ไฟล์นี้ด้วย
5.1 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_fat32.zip และ
– ไฟล์นี้คือ คำสั่งมี่เขียนมาเรียบร้อยแล้ว
5.2 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_stock_kernel_fat32.zip
– ส่วนไฟล์นี้คือ Kernel สำหรับ Flash Kernel หรือจะใช้ Flash Kernel Adam กับ Perseus ก็ได้
06. หลังจาก Flash ไฟล์ทั้ง 2 ไฟล์เสร็จ ให้ Reboot เครื่อง
07. ให้เปิด App ชื่อ Script Manager-SManager ขึ้นมา
08. กดเลือก Do not ask again และกด OK
09. จากนั้นจะเข้าสู่หน้านี้ ให้กดปุ่มลูกศรสีแดงตามรูป
10. จากนั้นจะเข้าสู่หน้านี้ ให้กดปุ่มลูกศร ที่ทำสีแดงตามรูปอีกครั้ง
11.เลื่อนหาคำว่า etc แล้วกดเลืกเพื่อเข้าไปในไฟล์เดอร์ etc
12. เลื่อนหาคำว่า init.d แล้วกดเลืกเพื่อเข้าไปในไฟล์เดอร์
13. จะเห็นไฟล์คำว่า 11extsd2internalsd กดเลือกไปที่ไฟล์นี้
14. จะปรากฎหน้าจอดังรูป แล้วให้กดที่คำว่า Su และ Boot แล้ว กด Save
15. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง Note 2
16. หลังจาก Reboot แล้ว Superuser จะถาม ให้ตอบ Grant
17. ไปที่ Menu Settings แล้วไปที่ Storage ประมาณ 1-2 นาที แล้วระบบสลับ Memory ให้เอง
18. ยังไม่เสร็จในส่วนนี้ ต่อไปให้เปิด App SuperSU ขึ้นมาเพื่อตั้งค่า
19. เมื่อเปิด App ขึ้นมาจะปรากฎหน้าจอดังนี้รูป กดเลือก App SManager ads
20. ในช่อง Notifications ให้เปลี่ยนเป็น Enabled แล้วกด Save
– เพื่อไม่ให้มีการเตือนทุกครั้งที่ Reboot App Script Manager-SManager จะ Run คำสั่งได้เลยทันที
21. หลังจากนั้นให้ Copy ไฟล์ทุกอย่างที่อยู่ใน Memory ภายในของ Note 2 มาเก็บไว้ใน Micro SD Card ที่ได้ทำการ Swap/สลับ ทั้งหมดเลย
22.ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการ Swap Memory กับ Micro SD Card และให้ทดสอบเปิดใช้งานทั้ง เกมและทุกอย่าง ก็สามารถใช้งานได้ปกติ
23. เพิ่มเติม ส่วนตัวไปนี้ เป็นคำสั่งที่ทางคนเขียนใน XDA-Developers เป็นคนเขียนคำสั่งขึ้นมา
– รายละเอียดภายในไฟล์ 11extsd2internalsd
24. รูปที่ต่อ Micro USB จาก Note 2 เข้า PC
[size=14][color=#0000ff]14. วิธียกเลิก Swap Internal Memory กับ Micro SD[/color][/size]
– ส่วนนี้เป็นหัวข้อต่อเนื่องมาจากข้อ 12 วิธี Swap Internal Memory กับ Micro SD
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ให้ดูรายละเอียดติดตั้ง วิธีการติดตั้ง ES File Explorer File Manager ในข้อ 2
02. Phase 5 Link : 14. วิธีการติดตั้ง ES File Explorer File Manager (#jump069)
03. เมื่อเปิด App ที่ชื่อ ES File Explorer File Manager ขึ้นมา ให้กดที่ Favorites ตามรูป
04. กดที่รูปโทรศัพท์
05. กดเลือก etc
06. กดเลือก init.d
07. กดค้างไว้ที่ไฟล์ 11extsd2internalsd
08. กดเลือกคำสั่ง Delete
09. ให้ตอบ OK
10. แล้วให้ Reboot 1 รอบ
11. ให้ Copy ไฟล์ทุกอย่างจาก Micro SD Card กลับไปไว้ใน Memory ของ Note 2 ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
12. รูปหลังยกเลิก การ Swap Memory
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 9 การตั้งค่า 3G และ Wireless Lan[/color][/size]
– สำหรับคนที่ลง Rom ศูนย์แล้ว ไม่สามารถใช้งาน Internet /3G ได้
– จะต้องมำการ Add APN ถึงจะใช้งาน Internet ได้
[size=14][color=#0000ff]01. ตรวจสอบค่าเบื้องต้น[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ แล้วใช่้งาน 3G ไม่ได้ สำหรับคนที่สมัคร Package 3G
– จะต้องทำการ Add APN ถึงจะได้งาน 3G ได้
– รายละเอียดตามรูป
02. ไปที่ Slide หน้าจอด้านบนลงจะเห็นรายละเอียดตามรูป ให้กดเลือก Mobile Data
03. ถึงจะกดเปิด Mobile Data แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งาน Internet 3G ได้ ต้องไปตั้งค่า APN ต่อถึงจะงาน Internet ได้
[size=14][color=#0000ff]02. การเพิ่ม Add Access Point Names[/color][/size]
ตัวอย่างการ ADD ของ True Move H ค่ายอื่น ๆ ก็ทำเหมือนกัน
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ไปที่ Setting กดปุ่มเลือก More Setting
2. ที่หน้า Wireless and network กดเลือก Mobile networks
3. ติ๊กถูกที่ Mobile data แล้วกดเลือก Network operators
4. จากนั้น Note 2 จะทำการ ค้นหาเครือข่ายผู้ให้บริการ
5. ให้กดเลือกเครือข่ายที่สมัคร 3G
6. ให้กลับมาที่หน้า Mobile networks
7. จะพบรายลเอียดตามรูป
8. กดปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก New APNรายละเอียดตามรูป
9. แล้วให้ใส่ รายละเอียดของแต่ละค่ายมือถือ
10. พอ Add เสร็จให้กลับมาที่หน้า APNS แล้วกดติ๊กถูกที่ วงกลม
11. กลับมาที่หน้าแรกของ Note 2 พบว่า มีสัญญาณ 3G พร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว
– แล้วให้ทดสอบเข้าใช้งาน Internet ดูครับ
12. ทดสอบเข้า Internet จะใช้งานได้ตามปกติ
เดี๋ยวมาใส่รายละเอียดต่ออีกที
[size=14][color=#0000ff]003. การตั้งค่า MMS [/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. วิธีทำการ Add เหมือนกัน APN
02. รายละเอียดของแต่ละค่ายตามรูป
[size=14][color=#0000ff]04. เบอร์โทรผู้ให้บริการมือถือในกรณีที่ตั้งค่า 3G ไม่ผ่าน[/color][/size]
– เบอร์โทรติดต่อ Call Center แต่ละค่าย ตั้งค่า 3G แล้วยังใช้ Internet ไม่ได้
– หรือคนที่ใช้ Package แบบ EDGE ต้องติดต่อกับทาง Call Center ของแต่ละค่าย
[size=14][color=#0000ff]05. การแก้ไขปัญหา Roaming ของ 3G ค่ายต่าง ๆ[/color][/size]
– ขอยกตัวอย่างของ True Move H เพราะผมใช้งาน ย่อมมีสิทิธิ์ วิจารณ์ และเสียค่าใช้จ่ายให้กับค่ายมือถือด้วย
– วิธีการแก้ไขง่ายมาก ๆ คือการ Register ค่ายมือถือใหม่ เป็นอันจบ
– แต่ถ้าทำแล้วยังไม่สามารถใช้งานก็แสดงว่า พื้นที่บริเวรนั้่นไม่มีสัญญาณ 3G
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เดิมเคยใช้ 3G ได้ในพื้นที่เดิม แต่เดินทางไปอีกอำเภอหนึ่ง ทำให้ขึั้น Roaming ตลอด ๆ เวลาทั้ง ๆ อำเภอนี้เคยใช้งานได้ตลอด รายละเอียดตามรูป (Copy รูป Samsung Grand มา หาของ Note 2 ไม่ทัน)
02. ไปที่ Setting กดปุ่มเลือก More Setting
03. ที่หน้า Wireless and network กดเลือก Mobile networks
04. ติ๊กถูกที่ Mobile data แล้วกดเลือก Network operators
05. จากนั้น Note 2 จะทำการ ค้นหาเครือข่ายผู้ให้บริการ
06. กด Register ค่ายมือถือผู้ให้บริการ อีกรอบ
07. ทดสอบใช้งาน 3G ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติ
08. ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับปัญหา Roaming ของผู้ริวิว
– เพราะเจอปัญหากับตัวเองตอนไปเที่ยวที่จังหวัดนครพนม
– วันแรกผ่านอำเภอนั้น ๆ ใช้งานได้ตปก
– วันที่ 3 ใช้งาน 3G ไม่ได้ ก็เลยทดสอบหาวิธ๊ใช้งานดู ปรากฎว่าได้จริง ๆ
– ปัญหาจึงน่าจะเกิดจากเสาสัญญาณ 3G ที่ค่ายที่ใช้งานอยู่ไม่ได้ตั้งเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติ
– ผู้ริวิวรู้ได้ไง ? (เพราะผมทำงานเป็นไอทีอยู่คร๊าบ ๆ)
[size=14][color=#0000ff]06. การใช้งานกับ Wireless LAN (ADSL Router/Internet ที่บ้าน/ที่ทำงาน)[/color][/size]
– คำอธิบายง่าย ๆ เกี่ยว Wireless Lan เป็นการส่งสัญญาณ Internet แบบไร้สาย ในระยะประมาณ 20 – 50 เมตร
– คำอธิบายง่าย ๆ เกี่ยว Wifi เป็นการส่งสัญญาณ Internet แบบไร้สาย ต่อ 1 เสาสัญญาณในระยะไกล 10 กิโลเมตร
– ยังมีหลายคนเข้าในผิดว่า Wireless Lan เป็นอันเดียวกัน Wi-fi
– กรณีใช้ Wi-fi ต้องติดต่อ Call Center ของแต่ละค่าย
[size=13][color=#0000ff][/color]วิธีทำ[/size]
01. ไปที่ Settings กดเลือก Wi-Fi และ เลื่อน เปิดการทำงาน Wi-Fi
[size=13][color=#0000ff]วิธีต่อแบบที่ 1[/color][/size]
02. กดเลือก Wireless ที่ต้องการมีอยู่ที่บ้าน หรือที่ทำงาน
03. ใส่ Password ช่อง Password แล้วกด Conect
04. ให้ทดสอบกดใช้งาน Internet ถ้าใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ให้ทำการ Add ใหม่
[size=13][color=#0000ff]วิธีต่อแบบที่ 2[/color][/size]
– วิธีเหมาะสำหรับต่อกับที่ทำงาน ส่วนใหญ่จะเป็น เซ็ตค่า Wireless แบบซ่อน
– ถ้าต่อไม่ถูก แนะนำให้ปรึกษาทางต่อกับคนที่ Set Wireless LAN หรือคนที่ทำงานเป็นไอทีของบริษัท/ที่ทำงาน Set ให้
05. ในหน้าของ Wi-Fi ให้กด Add Wi-Fi network
06. ใส่ SSID, Security และ Password แล้วกด Save
07. ให้ทดสอบกดใช้งาน Internet ถ้าใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ให้ทำการ Add ใหม่
[size=13][color=#0000ff][/color]ถ้าไม่รู้ User Name, Password และ Security ที่ต่อ Wireless ต้องทำไง ?[/size]
01. ถ้าเป็น True Move, TOT, 3BB จะมี Call Center สำหรับ Support ลูกค้าให้โทรไปติดต่อ
02. ให้ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet รีโมท เข้ามาเปลี่ยนค่าอุปกรณ์ที่ใช้ต่อ Internet เพื่อเปิดการทำงานการใช้งาน Wireless พร้อมทั้งตั้งค่า Password และค่าอื่น ๆ ให้
03. ให้จดค่าต่าง ๆ ที่ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet ไว้สำหรับทำการต่อ Wireless ใน Note 2
** อย่าถามวิธี Config ADSL Router สำหรับต่อ Internet กับ Note 2 ถึงผมจะทำได้ แต่ผมจะไม่บอก แนะนำให้โทรติดต่อกับ ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet ครับ
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 8 การ Update Patch / Mod/ file .zip[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. วิธีทำปุ่ม Call Record เสียงโทรเข้า – ออก[/color][/size]
– วิธีนี้ใช้ได้ และผ่านการทดสอบทั้ง Rom Modify, Rom ศูนย์แท้
– ไม่มีกระทบใด ๆ ทั้งสิ้นกับระบบ Android
– เครื่องที่สามารถทำได้ต้องผ่านการ Root แล้วเท่านั้น
[size=13][color=#0000ff]รูปก่อนทำ[/color][/size]
– รูปกำลังโทรออก
– รูปที่กำลังคุยกัน ถึงจะการกดปุ่ม Record ได้
[size=13][color=#0000ff]- การเข้า Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
– Call Record โหลดได้จากได้ใน : Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อที่ 06. Call Record Button[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. Copy ไฟล์ชื่อ SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip ไปไว้ที่ Micro SD Card
02. ปิดเครื่อง แล้วเข้า CWM Recovery Mode หลังจากเข้า Recovery Mode แล้ว
03. กดปุ่มเลือกเป็น Install zip
03. กดปุ่มเลือก Choose zip from External SDCard
04. กดเลือกไปหาที่ Copy ไป SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip ที่อยู่ใน Micro SD Card
05. จากนั้นกดปุ่มเลือก SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip
06. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง
07. ลองตรวจสอบโทรออกดูครับรายละเอียดจะเป็นตามรูปข้างบน
08. ก็ไปการเสร็จสิ้นการทำปุ่มอัดเสียง
09 เวลาบันทึกเสียงไฟล์จะไปเก็บไว้ ที่ตามนี้ \GT-N7100\Phone\Sounds
10. ไฟล์ที่ได้จากการบันทึกเสียงจะเป็นไฟล์ชื่อ XXXXXX.amr ไม่ใช่ไฟล์ .MP3
[size=14][color=#0000ff]02. การแปลงไฟล์จากปุ่ม Call Recordเป็น MP3[/color][/size]
– เป็นการแปลงไฟล์ในคอมพิวเตอร์
– ไม่ได้แปลงในมือถือ
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. วิธีการแปลงไฟล์จาก XXXXXX.amr เป็นไฟล์ .MP3, .WAV
02. ต้องแปลงไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมชื่อ Format Factory เป็นฟรีแวร์มาช่วย
Download Link : ดูใน Phase 6 Link : 02. รวมโปรแกรมฟรีแวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Android (#jump065)
03. ให้ Copy ไฟล์ที่อัดเสียงไปเก็บไว้ในคอม ฯ ที่ใดก็ได้
04. หลังจากนั้นให้ติดตั้งโปรแกรม (ซึ่งไม่ขออธิบายเกี่ยวกับการติดตั้งโปรแกรมบนคอม ฯ)
05. เพราะคนที่เล่น Android ได้ขนาดนี้ต้องติดตั้งโปรแกรมเป็นอยู่แล้ว
06. ข้อที่ 15 ถึงข้อ 26 ในส่วนนี้ ภาพจะใหญ่หน่อยนะ เพราะทำภาพเล็กแล้ว มองไม่เห็น
07. สามารถเลือกเมนูภาษาได้ตามรูป ในที่นี้ผู้ริวิวเลือกเป็นภาษาไทยแล้วกัน
08. หลังจากโหลดโปรแกรมเสร็จ ติดตั้งจะได้หน้าตาตามรูป จากนั้นคลิก>>> ทั้งหมดไปยัง MP3
09. คลิก การตั้งค่าขาออก
10. ปรับแต่งคุณภาพเสียงเอาตามความเหมาะสม เสร็จแล้ว คลิก ตกลง
11. คลิก เพิ่มแฟ้ม
12. ให้คลิกไปที่เลือกเก็บไฟล์ ในที่นี้ ชื่อ ไฟล์ตามรูปครับ >>> แล้ว คลิก Open
13. คลิก เรียกดู เพื่อเลือกที่เก็บ
14.ในที่่ขอเก็บไว้ที่ Desktop (ใครสะดวกเก็บที่ไหนก็ตามแต่สะดวกครับ) แล้ว คลิก OK
15. คลิก ตกลง
16. จะกลับสู่หน้านี้
16. คลิก เริ่ม ให้รอสักครู่ จนขึ้นคำว่า เสร็จสมบูรณ์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
17. เสร็จแล้วมาดูไฟล์ที่แปลงจาก .arm มาเป็นไฟล์ MP3 แล้วก็เปลี่ยนชื่อไฟล์ได้ตามเหมาะ เป็นอันจบครับ
[size=14][color=#0000ff]03. การ Update เวอร์ชั่นใน CWM Recovery Mode[/color][/size]
– ให้โหลด CWM เวอร์ชั่นใหม่ ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อย 04. PhilZ Touch 4.35 Recovery CWM 6.0.2.8
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. Copy ไฟล์ CWM ที่เป็น Philz Touch 4.XX N7100.zip ไปไว้ใน Micro SD Card
02. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
03. กดเลือกไปหาไฟล์ ที่เป็น Philz Touch 4.XX N7100.zip ที่ต้องการจะ Update
04. กดเลือก Yes
05. เสร็จแล้วจะได้รายละเอียดตามรูป
06. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง
07. ปิดเครื่อง แล้ว CWM Recovery Mode อีกรอบ
08. ก็จะพบว่า CWM มีการ Update เวอร์ชั่่นเรียบร้อยแล้ว
[size=14][color=#0000ff]04. การ Update CWM เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin[/color][/size]
– ให้โหลดไฟล์ Update ในPhase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 05. PhilZ Touch 4.35 Recovery CWM 6.0.2.8
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ปิดเครื่อง Note2 แล้วเข้า Download Mode
02. เปิดโปรแกรม Odin แล้วกดปุ่ม PDA
03. กดไปเลือกหาไฟล์ Philz Touch 4.XX N7100.tar แล้วกด Open
04. จะกลับมาที่หน้าจอ Odin แล้วกดปุ่ม Start
05. พอขึ้นคำว่า Removed!! ก็ให้ถอดสาย Micro USB แล้วเครื่องจะ Reboot เอง
06. จากนั้นให้ปิดเครื่องแล้วเข้า CWM Recovery Mode จะปรากฎหน้าจอตามรูป
[size=14][color=#0000ff]05. การ Update/Patch Theme[/color][/size]
– สามารถเปลี่ยน Theme กลับเหมือนเดิมได้ แต่ต้องโหลด Theme ต้นฉบับมาเก็บไว้
– ใช้ได้ทั้ง Rom Modify และ Rom ศูนย์
– เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้ Rom ศูนย์ แต่อยากได้หน้าตาของ Theme แบบใหม่ แต่ไม่อยากใช้ Rom Modify
[size=14][color=#FF0000]ห้ามนำ Theme ที่ระบุว่าเป็น Deodex กับ with simplistic มาใช้กับ Rom ศูนย์ เพราะอาจจะทำให้เครื่องค้าง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]Theme สำหรับใช้ Patch / Mode / update[/color][/size]
01. รูป Rom ศูนย์ก่อน Path / Update Them
01. AOSP Jelly Bean theme V8
Link : AOSP Jelly Bean theme V8
02. CRASH 4.4 SCAMUS DESING
Link : CRASH 4.4 SCAMUS DESING
03. Kalagas Grayscale Theme v4.0
Link : Kalagas Grayscale Theme v4.0
04. Kalagas Mixed Theme v4.0
Link : Kalagas Mixed Theme v4.0
05. Galaxy Note II Themes อื่น ๆ มีให้เลือโหลดได้เยอะตาม Link นี้
Link : Galaxy Note II Themes and Apps
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
– อธิบายแบบง่าย ๆ คือ วิธีการทำเหมือนกับ Flash Rom Modify เลย
– วิธีเข้า CWM Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. โหลดไฟล์ Theme .zip มาเก็บไว้ใน PC
02. Copy ไฟล์ Theme ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
04. แล้วให้กดเลือก Theme ที่ต้องการจะติดตั้ง
05. หลังจากติดตั้ง Theme เสร็จให้ Reboot Note 2 หนึ่งครั้ง ก็เป็นเสร็จสิ้น
[size=14][color=#0000ff]06. การเปลี่ยน Theme MultiWindow Control Bar[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ให้โหลดไฟล์ Update ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
02. หัวข้อย่อยที่ MultiWindowTheme.zip : ในส่วนนี้จะเป็น Theme แบบพื้นหลังใส
03. หัวข้อย่อยที่MultiWindowThemeRevert.zip : ในส่วนนี้จะเป็น Theme ต้นฉบับ
04. โหลดไฟล์ Theme MultiWindow Control ที่เป็นไฟล์ .zip มาเก็บไว้ใน PC
05. แล้วให้ Copy ไฟล์ Theme MultiWindow Control ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
– อธิบายแบบง่าย ๆ คือ วิธีการทำเหมือนกับ Flash Rom Modify เลย
– วิธีเข้า CWM Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. เปิดเครื่องแล้วเข้า CWM Recovery mode
02. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
03. แล้วให้กดเลือก MultiWindow Theme ที่ต้องการจะติดตั้ง
– ถ้าต้องการเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนต้นฉบับ ก็ให้ Flash MultiWindow Theme Revert
– ถ้าต้องการเปลี่ยนแบบพื้นหลังใส ก็ให้ Flash MultiWindow Theme
04. จากนั้นให้ Reboot Note 2 ก็เป็นอันสิ้น
05. ตัวอย่าง MultiWindow Theme แบบพื้นใส
06. ตัวอย่าง MultiWindow Theme Revert ต้นฉบับ
[size=14][color=#0000ff]07. การ Flash Kernel : Adam, Perseus และอื่น ๆ[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]ประโยชน์ของ Kernel[/color][/size]
01. Kernel คือแกนกลางหลักของระบบปฏิบัติการ ทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรของระบบ และติดต่อกับ Hardware ต่างๆ
02. เป็นการ Flash Kernel เพื่อความสามารถพิเศษlให้กับ Rom
03. อื่น ๆ [-รอ Update–]
[size=13][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ให้โหลด Kernel ที่เป็นไฟล์ .zip หรือ Link : Phase 6 : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 72. Adam Kernel V2.2.1
– หัวข้อย่อยที่ 73. Perseus Kernel (Alpha v.34.2)
02. Kernel อื่น ๆ มีอีกเยอะ แต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างเฉพาะของ Adam Kernel V2.2.1
03. ติดตั้ง App BusyBox ก่อน เพราะไม่งั้น Boeffla Sound จะทำงานไม่ได้
04. วิธีการลง App BusyBox อยู่ใน Phase 5 Link : 06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free (#jump059)
05. ถ้าลง Perseus Kernel จะทำให้ App Steaks จะไม่สามารถทำงานได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลดไฟล์ Adam Kernel.zip มาเก็บไว้ใน PC
02. Copy ไฟล์Adam Kernel ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
04. กดเลือก Kernal เพื่อทำการ Flash Kernel
05. เสร็จแล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
06. จะมี Icon 2 App ปรากฎมาในเครื่อง คือ
– STweaks และ
– Boeffla Sound Control
07. ถ้าเป็น Kernel อื่น ๆ อาจจะไม่มี icon นี้
08. ถ้า Flash kernel ที่ไม่มี Kernel ของศูนย์ Samsung แล้วไป Reset ให้กลับไปอยู่ในค่าประกัน ก็จะเป็น Modify อยู่
09. ต้องใช้ Rom ศูนย์ Samsung, Kernel ศูนย์ Samsung และ Recovery ศูนย์ Samsung ถึงจะ Reset ค่าได้แบบสมบูรณ์แบบ
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 7 การติดตั้ง Rom Official & Rom Modify[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การ Flash Rom ศูนย์ด้วยโปรแกรม Odin[/color][/size]
– วิธีการเข้า Download Mode และ Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
– วิธีการ Full wipe ดูรายละเอียดใน Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
[size=13][color=#FF0000]เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ก่อนทำจะต้องสำรองข้อมูลทั้ง Contact, ข้อมูลรูปภาพ และอื่น ๆ ออกก่อนทำด้วย ไม่งั้นข้อมูลหายเกลี้ยง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Rom ศูนย์ แล้วให้เลือกทีบันทึกไว้ สามารถโหลดได้จาก Phase 5 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปรับแต่ง Note 2 (#jump5)
– หัวข้อย่อย 07. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sammobile Firmware หรือ
– หัวข้อย่อย 08. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sampro
02. เสร็จแล้ว คลิกขวาที่ไฟล์ (ต้องมีโปรแกรม Winrar หรือ 7zip) เลือก Extrac จะได้ไฟล์ XXXX.tar.md5
03. ปิดเครื่อง Note 2 แล้วเข้า Recovery mode
04. สำหรับคนที่ใช้ Rom ศูนย์และยังไม่ได้ Root อยู่แล้วให้กดเลือก wipe cache partition กับ wipe factory reset ครับ
05. สำหรับคนที่ Root อยู่แล้ว
– กดเลือก wipe cache partition และ
– กด wipe factory reset และ
– กดปุ่มเข้า Advance กด Wipe Dalvik Cache
06. กดปุ่มขวามือด้างล่างของ Note 2 แล้วเลือก Reboot System now
07. แล้วให้ปิดเครื่อง Note 2 แล้วเข้า Download Mode
08. ติดตั้งโปรแกรม Samsung Kies ที่คอมพิวเตอร์ แล้ว Restart คอมพิวเตอร์ 1 รอบ
09. ต่อสาย Micro USB กับ Note 2 เข้าคอมพิวเตอร์
10. เปิดโปรแกรม Odin ให้ติ๊กถูกที่ ช่อง Auto Reboot และ F.Reeset Time แล้วกดที่ปุ่ม PDA ตามรูป
11. ในช่องสีฟ้า ID:COM แต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนกัน ต้องเช็คด้วยว่ามันเป็นสีฟ้าหรือเปล่า ถ้าไม่เป็นสีฟ้า แสดงว่าสายไม่แน่ หรือไม่ก็ยังไม่ได้ลง Driver (Samsung Kies)
12. แล้วเลือกไปหาที่เก็บไฟล์ XXXX.tar.md5 รายละเอียดตามรูป แล้วกดปุ่ม Open รอสักประมาณ 1-2 นาที ช่วงระหว่างนี้โปรแกรม Odin จะทำการเช็คไฟล์ XXXX.tar.md5 ว่าถูกต้องหรือไม
13. ให้หลังจากนั้นกดปุ่ม Start
14. รูประหว่าง Download Rom ศูนย์ Samsung ลงเครื่อง
15. ช่วงระหว่างนี้ห้ามทำสาย Micro USB หลุดหรือไฟดับ ถ้าสาย Micro USB หลุดหรือไฟดับให้ไปเริ่มต้นทำข้อ 1 ใหม่ทั้งหมดครับ
16. เสร็จแล้ว รอประมาณ 5 – 10 นาที ก็จะเห็นคำว่า PASS!
17. ให้รอจนเห็นรูปข้างล่างใน Note 2 ก็เป็นเสร็จสิ้นการ Flash Rom ศูนย์ จากโปรแกรม Odin ก็ถอดสาย Micro USB ได้เลย
18. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ สิทธิ์ Root เครื่องจะหายไปด้วย ถ้าจะ Root ให้ไปทำข้อที่ 21 – Root Rom สำหรับมือใหม่/พร้อม Reset ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน ต่อเลยครับ
19. จริง ๆ แล้วหัวข้อนี้ เป็นการ Flash Rom ศูนย์ด้วย App Odin Mobile Pro แต่ผม Test แล้ว App odin mobile pro ไม่ค่อยมีความเสถียร บางทีก็ใช้ได้ ใช้ไม่ได้ และมันไม่ผ่านการทดสอบ ถ้ามือใหม่เอาไปเล่นเดี๋ยวจะมีปัญหา ผมเลยไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้ครับ
20. ใครสนใจดูรายละเอียดได้จาก Youtube ครับ Link : Odin Mobile Pro เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดตามมาเกี่ยวกับ App Odin Mobile Pro ด้วยครับ ถ้าเป็นคนที่เล่น Rom Modify จนชำนาญแล้ว ถ้าเกิดปัญหาขึ้นสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ไม่ยากครับ
21. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ เสร็จ จะไม่สามารถใช้ 3G ได้จะต้อง ทำการ Add Access Point Names ให้ไปดูต่อในข้อ 22 – การตั้งค่าเพื่อให้ใช้ 3G ค่าย AIS/TrueMove H/Dtac
[size=14][color=#0000ff]02. การ Root Rom แบบสมบูรณ์สำหรับมือใหม่[/color][/size]
คำอธิบายเพิ่มเติมก่อนเตรียมตัวทำ
– Root แล้วข้อมูลไม่หาย
– Root แล้ว App ไม่หาย
– Root แล้ว SMS ไม่หาย
– หลัง Root Rom เสร็จให้ไปทำข้อ 03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกันต่อ
– สำหรับคนที่จะใช้ Rom Modify ไม่จำเป็นต้องทำ
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมเบื้องต้น[/color][/size]
– ต้องโหลดโปรแกรมกับ App มาให้ครบ 5 App อยู่ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
1.Samsung Kies
2. Odin3 v3.07
3. CWM6 Root Note2.tar
4. Recovery.tar
5. Triangle Away
[size=14][color=#0000ff]เริ่มต้นการ Root[/color][/size]
– วิธีการเข้า Download Mode อยู่ใน Phase 5 Link : 02. Download Mode (#jump052)
– วิธีการเข้า Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. ติดตั้งโปรแกรม Samsung Kies แล้ว Restart คอมพิวเตอร์ 1 รอบ
02. ปิดเครื่อง Note 2
03. แล้วเข้า Download Mode
04. เปิดโปรแกรม Odin ขึ้นมาจากในคอมพิวเตอร์ รายละเอียดตามรูป
05. ต่อสาย Micro USB กับ Note 2 เข้าคอมพิวเตอร์ ในช่องสีฟ้า ID:COM แต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนกัน ต้องเช็คด้วยว่ามันเป็นสีฟ้าหรือเปล่า ถ้าไม่เป็นสีฟ้า แสดงว่าสายไม่แน่ หรือไม่ก็ยังไม่ได้ลง Driver (Samsung Kies)
06. ให้ติ๊กถูกที่ ช่อง Auto Reboot และ F.Reeset Time แล้วกดที่ปุ่ม PDA ตามรูป
07. ให้เลือกไปหาไฟล์ที่เก็บไว้ชื่อ CWM6_Root_Note2.tar ที่โหลดมาจากข้างบน จากนั้นกด Open
08. จะได้รายละเอียดตามรูปครับ แล้วให้กดปุ่ม Start
09. รอจนในโปรแกรม Odin ขึ้นคำว่า Removed!! ถอดสายได้เลยครับ ไม่จำเป็นรอจนมีคำว่า Pass!
10. แต่ถ้าใครจะรอจนเสร็จก็ให้รอจนขึ้นคำว่า PASS! สีเขียวตามรูปครับ
11. ให้สังเกตุดูเวลาเปิดเครื่องหลังจากเข้า Note 2 แล้วจะมี Icon SuperSu มา ก็แสดงว่าการ Root เสร็จสมบูรณ์
12 ให้ปิดเครื่องแล้วเข้า Recovery Mode จะได้รายละเอียดตามรูปครับ
[size=14][color=#0000ff]03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01 ต้องโหลดโปรแกรมกับ App มาให้ครบ อยู่ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064) โหลดในข้อ
02. ให้โหลดตามข้อ 2 ถึง ข้อ 6
03. หัวข้อย่อยที่ 01. โหลดโปรแกรม Odin3 v3.07
04. หัวข้อย่อยที่ 03. Samsung Recovery.tar
05. หัวข้อย่อยที่ 07. SAMSUNG Kies และติดตั้ง
06. หัวข้อย่อยที่ 18. Triangle Away ราคา 79.33บาท (ทุกอย่างสามารถสามารถหาได้จาก Google)
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิดโปรแกรม Triangle away แล้วกด Grant
02. กด Continue
03. กด Download (ถ้าไม่ขึ้นให้ Download ก็ให้ข้ามไปเลย)
04. รอจน Download เสร็จ
05. กด OK
06. กด OK
07. เลื่อนหา และกดที่คำว่า Reset flash Counter
08. กด Continue แล้วเครื่องจะ Reboot
09. เมื่อเจอหน้าจอตารูปให้กดปุ่ม Volume Up (ปุ่มเพิ่มเสียง) จะเป็นการ Reset ค่า Counter
10. แล้วเครื่องจะ Reboot อีกรอบ รอจนเครื่อง Reboot เสร็จแล้วให้ ปิดเครื่องเข้า Download Mode
11. เข้า Download Mode กด Volume Up (ปุ่มเพิ่มเสียง)
12. จะเข้าสู่หน้า Downloading ตามรูป
13. เปิดโปรแกรม Odin3 v3.07
– โหลด Recovery.tar ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ ข้อ 03. Samsung Recovery.tar มาใช้ในการแก้ Recovery Mode
– ติ๊กถูกที่ช่อง Auto Reboot
– ติ๊กถูกที่ช่อง F.Reset Time
– จากนั้นกดที่ปุ่ม PDA
14. ให้กดไปเลือกหาไฟล์ Recovery.tar
15. จากนั้นกดที่ปุ่ม Start แล้วเครื่อง
16. จากนั้นเครื่องจะ Reboot จนเข้าเครื่องให้เสร็จ
17. เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาให้ไปที่ ไป Setting, กดเลือก About device, กดเลือก Status
– กดเลือกมาหาที่ Devic status จะเห็นคำว่า Scanning…
18. ห้ามทำการ Factory Data reset จากในเครื่องไม่งั้นเครื่องจะ Boot วนเรื่อย ๆ
19.ให้ปิดเครื่องแล้วเข้า Recovery Mode ตามรูป
– ให้กดสั่งให้ทำงาน Wipe cache partition
– ให้กดสั่งให้ทำงาน Wipe data/factory Reset
– แล้วกด reboot system now
20. เสร็จแล้วใน Download Mode วิธีเข้าตาม Link : 02. Download Mode (#jump052)
ค่าที่อยู่ใน Download จะต้องเป็นตามนี้ครับ
Customer Binary Download : เป็น No
CURRENT BINARY : เป็น Official
SYSTEM STATUS : เป็น Official
21. รอจนเครื่อง Boot เร็วตั้งค่าต่าง ๆ ของเครื่องจนเสร็จ
[size=14][color=#0000ff]04. วิธีทำ Full Unroot / ยกเลิกสิทธิการ Root[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App SuperSu
02. ไปที่ Settings แล้วกด Full unroot
06. กด Continue แล้วสิทธิ์ Root ก็จะหายไปหมด
[size=14][color=#0000ff]05. การ Flash Omega Rom Modify[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลด Rom Omega ได้ใน Phase 5 Link : 09. Rom Modify : Omega Rom (#jump062)
02. Full wipe ดูรายละเอียดใน Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
03. วิธีเข้า Recovery mode Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
04. ถ้าเข้า Recovery Mode แล้วยังมีรายละเอียดตามรูป จะต้องไปทำตามข้อ
– Phase 8 Link : 04. การ Update CMW เวอร์ชั่นใหม่ด้วยโปรแกรม Odin (#jump084)
หัวข้อย่อม -03.2 การ Update เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin
05. หลังจากที่ทำข้อรายละเอียดในข้อ 04. แล้วค่อยทำต่อในรายละเอียดในส่วนของวิธีทำ
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Omega Rom มา ไฟล์ที่โหลดมาจะเป็นไฟล์ชื่อ XXX.zip ประมาณนั่น
02. Copy ไฟล์ Omega Rom ลงใน Micro SD Card
03. ปิดเครื่องแล้ว เข้า CWM Recovery Mode
04. ให้ทำการ Full wpide ก่อน 1 ครั้ง
05. กดเลือก Install Zip
06. กด Choose zip from External sdcard
07. กดเลือก Omega Rom ชื่อไฟล์ XXX_Omega_V.XXX.zip
08. กดเลือก Yes – Install XXX_Omega_V.XXX.zip
09. รอระหว่างการติดตั้ง Omega Rom
10. กด Next
11. กดเลือก Full Wipe แล้วกด กด Next
12. จะเลือก Backup EFS หรืไม่ Backup ก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ แล้วกด Next
13. กดเลือก Application ที่ต้องการจะติดตั้ง แล้วกด Next
14. กด Next
15. รอประมาณ 3-10 นาทีขึ้นอยู่กับควาามเร็วของ Micro SD Card
16. เมื่อติดตั้งเสร็จให้กด Next
17. กด Reboot
18.รูประหว่างเปิดเครื่องครั้งแรก
19. เมื่อ Reboot เครื่องจนเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอดังต่อไปนี้
20. ให้ตั้งค่ารายละเอียดต่าง ๆ ให้เสร็จ
21. เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอดังต่อไปนี้
[size=14][color=#0000ff]06. การ Flash Phoenix Rom Modify[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลด Phoenix Rom ได้ใน Phase 5 Link : 10. Rom Modify : Phoenix Rom (#jump063)
02. Full wipe ดูดังนี้ Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
03. วิธีเข้า Recovery mode รายละเอียดอยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
04. ถ้าเข้า Recovery Mode แล้วยังมีรายละเอียดตามรูป จะต้องไปทำตามข้อู
– Phase 8 Link : 04. การ Update CMW เวอร์ชั่นใหม่ด้วยโปรแกรม Odin (#jump084)
หัวข้อย่อม -03.2 การ Update เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin
05. หลังจากที่ทำข้อรายละเอียดในข้อ 04. แล้วค่อยทำต่อในรายละเอียดในส่วนของวิธีทำ
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Phoenix Rom มา ไฟล์ที่โหลดมาจะเป็นไฟล์ชื่อ XXX.zip ประมาณนั่น
02. Copy ไฟล์ Phoenix ลงใน Micro SD Card
03. ปิดเครื่องแล้ว เข้า CWM Recovery Mode
04. ให้ทำการ Full wpide ก่อน 1 ครั้ง
05. กดเลือก Install Zip
06.กด Choose zip from External sdcard
07. กดเลือก Omega Rom ชื่อไฟล์ XXX_Phoenix_V.XXX.zip
08. กดเลือก Yes – Install XXX_Phoenix.XXX.zip
09. กดเลือก Next
10. กดเลือก agree with these Terms of use แล้วกดเลือก Next
11. กดเลือก Full Wipe แล้วกดเลือก Next
12. จะ Backup EFS หรือไม่ Backup EFS ก็ได้ แล้วกดเลือก Next
13. เลือก Kernel แล้วเลือก Modem Installation แล้วกดเลือก Next
– ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ เวอร์ชั่นล่าสุดคือ XXDMB2
– ถ้ามีเวอร์ชั่นใหม่ มาก็ให้เลือกเวอร์ชั่นใหม่
14.กดเลือก Tweaks & Mods ที่ต้องการติดตั้ง แล้วกดเลือก Next
– ในข้อที่ 15 ถ้ากดเลือก Simplistic Framework ข้อที่ 14 ต้องไม่เลือก Install Stock Phone
15. กดเลือก TouchWiz Mode ที่ต้องการ แล้วกดเลือก Next
– ถ้าในข้อ 14 กดเลือก Install Stock Phone ก็ไม่ต้องกดเลือก ที่มีคำว่า Simplistic Framework
16. กดเลือก Sound Mods ในที่นี้ผู้ริวิว กดเลือกให้เป็นตัวอย่าง
– Boots Sound เลือกเป็น Yes
– Choose Sound Mode เลือกเป็น Sony X Loud & Clearaudio+Sound Mode
– Choose Sound Boots เลือกเป็น Install ultra Volume Mode
– แล้วกดเลือก Next
17. ในส่วนนี้กดเลือกเป็น Dont Install แล้วกดเลือก Next
– ถ้าถนัดหรือคล่องแล้วค่อยเลือกเป็นอย่างอื่น ๆ
18. กดเลือก Asia แล้วกดเลือก Next
19. กดเลือก Notification MODS แล้วกดเลือก Next
– ในส่วนนี้ขอเลือกเป็นตัวอย่างคือ 0%
20. กดเลือก Transparent Mods แล้วกดเลือก Next
21. กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง แล้วกดเลือก Next
22. ที่หน้า Ready to install กดเลือก Next
23. รอประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับความเร็ว Micro SD Card กดเลือก Next
24. กด Finish
25. กด Yes สำหรับ Reboot เครื่อง
26. แล้วเครื่องจะ Reboot 1 รอ
– รอประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับความเร็ว Micro SD Card
[size=14][color=#FF0000]- Rom Modify ถ้าทำแล้วเครื่องค้างในขั้นตอนไหน
– ให้ไปเริ่มต้นใหม่ที่ขั้นตอนที่ 1 ของหัวข้อ Rom Modify นั่นใหม่เลย
– วิธีการ Flash Rom ส่วนใหญ่ จะเป็นในลักษณะของ Omega Rom
– ถ้าเห็น Rom ที่แตกต่างไปจากนี้ ให้ประยุกต์ดูวิธีการติดตั้งจาก Omega Rom[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]07. การ Rom ด้วย App Mobile Odin Pro บน Note 2[/color][/size]
– ทดสอบมาแล้วด้วยการ Flash Rom บน Note 2 จำนวน 10 รอบ ไม่มีค้าง
– ทดเป็น % ได้ 100 % ไม่มีการค้างของ App เวอร์ชั่นเก่า
[size=14][color=#FF0000]ต้องใช้ Mobile ODIN Pro V3.65 นี้ขึ้นไปเท่านั้น ห้ามใช้เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่า[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ห้ามใช้ Mobile ODIN Pro v3.57นี้เด็ดขาด เพราะ Flash Rom แล้วเครื่องค้าง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลดและติดตั้ง Mobile ODIN Pro จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่้อยที่ 16. Mobile ODIN Pro ราคา 159.07 บาท
02. โหลด Rom ศูนย์จาก Phase 5 Link
– 07. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sammobile Firmware (#jump060)
– 08. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sampro (#jump061)
– 09. Rom ศูนย์ Samsung Website : Samsung-Updates (#jump068)
03. ให้โหลดเวอร์ชั่นล่าสุด แล้วExtrac ไฟล์ .zip ออกมาให้เป็นไฟล์ .md5
04. Copy Rom ศูนย์ ไปไว้ใน Micro SD Card
05. การ Flash Rom ด้วย App Mobile ODIN เครื่องจะต้อง Root ถึงจะทำได้
06. การ Flash Rom ด้วย App Mobile ODIN จะทำการ Flash Rom พร้อม Root ให้ด้วย
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
02. เมื่อ App ขึ้นมาครั้งแรก จะมีการถามจาก Superuser ให้ตอบ Grant
03. จากนั้นจะมีการถามจาก Mobile Odin กด Download เพื่อทำการโหลดไฟล์เพิ่ม
04. รูประหว่างโหลดไฟล์
05. เมื่อโหลดเสร็จ ให้เลื่อนหาหัวข้อคำว่า Open File แล้วกดไปที่ Open file
06. แล้วเลือก External SD-Card
07. ให้เลือกไปที่เก็บไฟล์ Rom แล้วทำการกดเลือก Rom ศูนย์
08. แล้วจะได้รายละเอียดตามรูปขึ้นมาแล้วกด OK
09. แล้วจะได้รายละเอียดตามรูป
10.แล้วจะได้รายละเอียดตามรูป และเครื่องจะเช็คถูกให้เองอัตโนมัติ
– Enable EverRoot
– Injet Superuser (SuperSu)
– Inject Mobile ODIN
11. ให้เลื่อนลงมาหาหัวข้อคำว่า Wipe แล้วติ๊กถูก (ถ้าไม่ต้องการลบข้อมูลก็ไม่ต้องติ๊กถูก)
– Wipe data and cache
– Wipe Dalvik cache
– แล้วกดที่คำว่า Flash firmware
12. จากนั้นให้กด Continue
13.กด Continue อีกรอบ
14. แล้วให้กด Check
[size=14][color=#FF0000]ห้ามกด Skip โดนขาด[/color][/size]
15. จากนั้น App Mobile Odin จะทำการเช็ค MD5 จนเสร็จ แล้วเครื่องจะ Reboot เอง
16. หลังจากที่ Reboot เครื่องจะทำการ Flash Rom ให้เองอัตโนมัติ
– รอจนเสร็จแล้ว
17. เมื่อ Reboot เสร็จ ไปเช็คที่ About Device ที่ Status จะเป็น Normal
18. ถ้าจะเข้าไปเช็คใน Download Mode ค่า Count จะไม่มีการ Reset ค่า
– วิธีการเข้า Download Mode อยู่ใน Phase 5 Link : 02. Download Mode (#jump052)
19. ถ้าต้องการ Reset Count ให้ไปดูวิธีใน Phase 7 Link : 03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน (#jump072)
20. ในกรณีที่ Flash Rom แล้วเครื่องค้างในขั้นตอนการ Flash จะต้องไปแก้ไขด้วย วิธีการ Flash Rom ด้วยโปรแกรม Odin ใน PC
21. วิธีการ Flash Rom ด้วยโปรแกรม Odin อยู่ใน Phase 7 Link : 01. การ Flash Rom ศูนย์ด้วยโปรแกรม Odin (#jump070)
(#jump99)
-*-
-*-
-*-
[size=20][color=#0000ff]Phase 3 การใช้งานเบื้องต้น 3[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การติดตั้ง App จาก Google Play Store[/color][/size]
– วิธีการติดตั้ง App จาก Google Play Store นั้นมีหลายวิธี
– เช่น สั่งติดตั้งจากเว็ป Google Play Store, ค้นหาแล้วทำการติดตั้ง และเลื่อนหาแล้วติดตั้ง
– ในส่วนนี้ จะเป็นการติดตั้งแบบธรรมดาแล้ว กดติดตั้ง
– จะต้องทำการสมัคร Google Account ก่อนถึงจะทำการ Download ได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Play Store ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดขึ้นมาจะพอรายละเอียดตามรูป
03. กดเลื่อนไปทางขวา ที่หัวข้อคำว่า TOP FREE
– ในส่วนนี้ จะเป็นตัวอย่างการติดตั้ง Instagram ให้กดเลือก Instagram เพื่อทำการติดตั้ง
04. กด Install
05. กด Accept & download
06. กด KEEP SHOPPING และ Allow automatic updating
07. เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้วจะปรากฎตัวอย่างตามรูป
[size=14][color=#0000ff]02. การติดตั้ง App จาก Samsung Apps Store[/color][/size]
– จะต้องทำการสมัคร Samsung Account ก่อนถึงจะทำการ Download ได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด Samsung Apps Store ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอรายละเอียดตามรูป ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเกม Super Mario Quiz
– กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง ในที่นี้กดเลือก Super Mario Quiz
03. กดเลือก Get
04. กดเลือก Accept and download
05. เมื่อเสร็จแล้วจะปรากฎรายละเอียดตามรูป
[size=14][color=#0000ff]03. การติดตั้ง App จากไฟล์ .APK[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลดไฟล์สำหรับติดตั้ง App .APK มาแล้ว Copy ลง Micro SD Card
02. กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง
03. ในการติดตั้งครั้งแรก จะขึ้นรายละเอียดตามรูป ให้กด Settings
– จะโดย Block การติดตั้งของครั้งแรก
04. กดเช็คถูกที่ Unknow sources
05. กด OK
06. กลับไปที่ App ไฟล์ .APK แล้วกดเลือกติดตั้งอีกครั้ง แล้วกด Install
07. หลังจากนั้น Open หรือกด Done ก็ได้ เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้ง App ที่เป็นไฟล์ .APK
[size=14][color=#0000ff]04. การ Uninstall (ยกเลิกการติดตั้ง) Application[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ไปที่ Setting กด Application Manager
02. กดเลือก App ที่ต้องการลบ
03. กด Clear Cach, กด Clear data และ กด Uninstall
04. กด OK
05. กด OK
06. เป็นอันเสร็จสิ้นการ Uninstall App
[size=14][color=#0000ff]05. การสมัครใช้งาน Application Line[/color][/size]
– ในส่วนของ App จะอธิบายเพียงวิธีการหลัก ๆ เพราะรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง App LINE เปิดเข้า LINE
02.จะพบหน้าต่างลงทะเบียน
03.ระบบจะเลือกประเทศเป็นประเทศไทยให้แบบอัตโนมัติ
– ให้ใส่เบอร์โทรของผู้ใช้ แล้วกด Next
04.จากนั้น ยืนยันโดยแตะที่ปุ่ม Agree with Terms and Verify
05. กด OK
06. จากนั้นรอให้ทาง LINE ส่งหมายเลขเพื่อยันยัน อีกครั้งทาง SMS โดยปกติจะเป็นหมายเลข 4 หลัก
07. ในส่วนนี้ตอนนี้ระบบจะทำการตรวจสอบอัตโนมัติ รอจนกระทั่งเสร็จ
08. จะพอตามรูปก็จะสามารถใช้งานได้เลย
[size=14][color=#0000ff]06. การลงทะเบียน Line[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. กดที่ More หรือที่กด Setting
02. กด Accounts
03. กดที่ Email Account Registration
– กรอกข้อมูล E-mail ,Password และรายละเอียดอื่น ๆ
– เพื่อใช้ในการสมัคร LINE สำหรับใช้งานบน PC และสำหรับใช้ในการสั่งซื้อสติ๊กเกอร์
– เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ในหน้า Account จะมีสถานะเปลี่ยนเป็น Done
04. ก็จะสามารถนำ e-mail กบั Passwordและ Login เข้าใช้งาน LINE ใน PC ได้
05. E-mail กับ Password จะนำไปใช้ต่อในหัวข้อ 04. การใช้งาน Line บน PC
[size=14][color=#0000ff]07. โหลดสติ๊กเกอร์ Line ที่เคยสั่งซื้อ[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Line ขึ้นมา แล้วกด Settings
02. กด Stickers
03. กด Purchase History
04. จะพบหน้าจอตามรูป ให้ทำการโหลดได้เลย
– ถึงจะขึ้นรูป 100 เหรียญทอง แต่ถ้าเคยสั่งซื้อแล้วสามารถโหลฟรีได้ตลอด
[size=14][color=#0000ff]08. การใช้งาน Line บน PC[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เข้าเว็ป Line ตาม Line ข้างล่าง
– Link : Line
02. ที่ Website ของ Line กดปุ่ม Download ด้านบนของ Line
03. Click ที่รูปแบบ Computers Click เลือก Windows ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
– Windows XP ถึง Windows 7 ให้เลือก Windows (ใช้ได้ทั้ง 32Bit และ 64Bit)
– Windows 8 ให้ เลือก Windows 8 (ใช้ได้ทั้ง 32Bit และ 64Bit)
04. ทำการติดตั้งโปรแกรม Line
05. จากนั้นให้เปิดโปรแกรม Line ขึ้นมาแล้วใส่ E-mail กับ Password ที่ทำการสมัครไว้ใน Line App บน Android แล้วกด Login
06. ก็จะขึ้นรายละเอียดพร้อมใช้งาน
[size=14][color=#0000ff]09. การใช้งาน Whats App[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง WhatApps แล้วเปิด App Whats App ขึ้นมา
02. กด Agree and continue
03. ใส่เบอร์ เช่น 085 ให้ใส่แค่ 85-XXX-XXX จากนั้นกด OK
– ไม่ต้องใส่เลข 0 เพราะว่า มี +66 เป็นรหัสประเทศไทยอยู่แล้ว
04. ทำการใส่ชื่อ ที่ต้องการให้โชว์ แล้วกด Next
05. กด Continue
– จะมีค่าบริการรายปี ปีละ 0.99 US$(ดอลล่า)
– หรือประมาณปีละ 30 บาท คูณจำนวนคนทั่วโลก มีกี่คนที่ใช้ก็ รวย ๆๆๆ
06. ก็จะปรากฎหน้าจอดังรูป ก็พร้อมใช้งานได้เลย
– ในอนาคตรูปอาจจะเปลี่ยน เพราะออกเวอร์ชั่นใหม่มา
[size=14][color=#0000ff]10. การใช้งาน Facebook[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง App Facebook แล้วเปิด App Facebook ขึ้นมา
02. ใส่ E-mail หรือเลขโทรศัพท์ (แนะนำให้ใส่ E-mail) และใส่ Password จากนั้น Log In
03. กด Skip
04. กด Sync
05. เสร็จแล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 2 การใช้งานเบื้องต้น 2[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การ Backup SMS, MMS[/color][/size]
– ซื้อ App ได้จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อ : อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 19. App : SMS Backup & Restore /Full เวอร์ชั่น ราคา 61.43 บาท
– ทุกอย่างสามารถหาได้จาก Google
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ตัวอย่างรูป SMS ต้องการสำรอง
02. ติดตั้งและเปิด App SMS Backup & Restore Pro
03. กด OK
04. กด Backup
05. กดเลือกExternal Storage card (เลือกเก็บไว้ใน SD Card)
06. ตั้งชื่อทั้งต้องการจะ Backup แล้วกด OK
07. กด Close
08. กด OK
[size=14][color=#0000ff]02. การ Restore SMS, MMS[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App SMS Backup & Restore แล้วกด Restore
02. กดเลือกวันและเวลา SMS ที่ทำการ Backup กด OK
03. กด Yes
04. กด Close
05. กลับมาดูที่ SMS ก็จะเห็นว่า SMS ได้ Restore กลับมาแล้ว
[size=14][color=#0000ff]03. การ Backup Contact (รายชื่อ)[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ไปที่ Contact ตามรูป
02. จะได้รายละเอียดตามรูป
03. กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วเลือก Import/Export
04. กดเลือก Export to SD Card
05. กด OK
06. รายชื่อ (Contact) จะส่งออกไปเก็บไว้ใน Micro SD Card
[size=14][color=#0000ff]04. การ Restore Contact (รายชื่อ)[/color][/size]
01. ไปที่ไฟล์ที่ Backup แล้วชื่อ 00001.vcf หรือไฟล์ที่ Backup ไว้
02. กดเลือก Contact แล้ว กดเลือก always
03.กด OK
04. กดเลือก phone
05. รูประหว่างรอ Restore
06. ก็จะได้ Contact กลับคืนมาทั้งหมด
[size=14][color=#0000ff]05. การถอด Micro SD Card และ External Memory อื่น ๆ แบบปลอดภัย[/color][/size]
– ใช้สำหรับป้องกันการเสียหาย หรือพังของอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อ
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ไปที่ Settings กดเลือก Storage
2. กด Unmount SD Card
3. กด OK
4. Micro SD Card ก็จะหายไปตามรูปข้างล่าง
5. ถ้า สไลด์ หน้าจอลงมาจะเป็นรายละเอียดตามรูป ก็สามารถถอด Micro SD card ได้แบบปลอดภัยแล้ว
6. ในกรณีที่ต่อกับ External Harddisk, Thumb drive, Reader Card
– ให้กด USB mass storage connected
7. รอจนมีคำว่า mass storage removed safely แล้วกดถอดออกได้เลย
(#jump99)