ข้อดี
อย่างที่ทราบกันอยู่ว่ามันสามารถสลับการใช้ ROM ได้ทำให้เรามี ROM 2 ชุดใช้ในเวลาเดียวกันง่ายต่อการใช้งานไม่ต้อง Flash บ่อยๆ เมื่อเบื่อ ROM ใดก็กด System Changer เพื่อทำการเปลี่ยน ROM ได้เลย และเทคนิคของท่านอาจารย์ kw101d แก้เอา ROM ตัวหนึ่งไว้เป็นตัวกู้เครื่องเวลาเกิดอาการ semi brick ซึ่งเทคนิคนี้ผมก็ยังมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าในเมื่อมัน Semi Brick แล้วมันจะ Boot ROM ตัวที่จะเอามาแก้ไขได้อย่างไรเรื่องนี้ผมยังไม่ได้ปรึกษากับท่านอาจารย์และยังไม่ได้ทดลองทำ เอาเป็นว่ามองในข้อดีก่อนก็แล้วกันนะครับ
ข้อเสีย (อันนี้เป็นความคิดของผมเอง)
อย่างที่รู้ว่าเราจะต้องลง ROM 2 ชุดในเครื่องเดียวกัน ถ้าคนปรับแต่ง ROM ทั้ง 2 ตัวเป็นคนเดียวกันกลุ่มเดียวกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่ใครล่ะครับจะใช้ ROM 2 ตัวที่มาจากแหล่งเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็คนละแหล่งที่มา คนละค่าย เช่นของผมตอนนี้จะอยู่ที่
[ICS] DjangoManouche X 1.3 – 30a/b – Kovalski Kernel 010 + KingOfBirds 0.4
กับ
[Android 4.2.1] SIII look and feel NEW BOOTLOADER V1.3
ปัญหาที่เจอคือการสร้างพื้นฐาน ROM ที่ไม่เหมือนกัน เช่นการ เรียกชื่อ SD Card หรือการวาง Application บน SD Card ที่ต่างกัน ทำให้เมื่อใช้ ROM แต่ละตัวการลง App การเก็บข้อมูล จะมีทั้งที่อยู่บน External SD Card และ Internal SD Card สิ่งที่เจอคือเมื่อใช้ ROM หนึ่งจะมีการ Update data ของ Application เมื่อทำการ update ไปแล้วเมื่อสลับมาอีก ROM หนึ่งทาง Play Store ก็จะพบว่ามีการ update ROM ตัวนั้นอีก จึงได้ทำการตรวจสอบฐานข้อมูลในเครื่องผลที่ได้คือ ทั้งใน external SD Card และ Internal SD Card มีข้อมูลของ App ทั้งสองที่แต่ใช้งานกันในคนละ ROM
สรุปก็คือ ผมพบว่าการใช้ Dual Boot ทำให้เปลื้องเนื้อที่ในการใช้งานมากขึ้นเป็นสองเท่า แต่เชื่อว่าหลายๆท่านคงรับได้เมื่อเทียบกับข้อดีที่สามารถสลับการใช้ ROM ได้
จบการรายงาน
..
ขออธิบายที่ผมพูดถึงว่า เอา dual boot มาแก้ semi brick ในความหมายผมคือ ชุด dual boot มันแค่ 10กว่า MB เวลาเครื่องเราเจ๊ง แบบไปไหนไม่ได้เลย ไม่ว่าจะมีกี่รอมนะครับ เอาก็ทำ nvflash ด้วยตัว dual boot นี้มันก็จะได้เครื่องเปล่าๆ พร้อมลง CWM รอไว้แล้ว จากนั้น ผมก็ boot เข้า recovery ไปลง V30b ได้เลยหรือเรียกตัว backup มาได้เลย ไม่ต้องถอยไปถึง V20S แล้วไล่กลับมา V30B ครับ หรือถ้าไม่อยากเป็น dual boot ก็ต้องหาตัวที่คล้าย dual boot มาเก็บ ตอนนี้ยังไม่เห็น เห็นแต่ AIO แต่มันเทอะทพะ แล้วต้องลงหลาย step เช่น nvflash สร้าง partition แบบ ICS ก่อนแล้วลง CWM จึงจะไปต่อ filsh zip file สรุปแบบผมว่า มันเล็กดีรสโตครับ
ส่วนเรื่องข้อเสียที่ท่านแนนว่า ก็ไม่ทราบอะไรมากนัก ขอกลับไปอ่านเพิ่มอีกนิดก่อน
เรื่อง dual boot เข้าใจแล้วครับ
ส่วนเรื่องข้อเสีย ผมกล่าวของผมเองเป็นความรู้สึกนะครับ
ผมลองอ่านแบบคร่าวๆแล้วครับ ไม่ได้ลงลึกนัก พอจะเข้าใจว่า ที่ท่านแนนว่ามามีส่วนถูก ขอสรุปแบบรวบลัดว่า rom แบบ dual เขาแบ่ง system ออกเป็น 2 ส่วนแยกกันเด็ดขาดโดย ตำแหน่งทางกายภาพเลยคือกำหนด location เอาไว้ว่าจะเริ่มจากจุดไหนเป็นต้นไป ดังนั้นถึงไม่ flash รอมตัวที่ 2 พื้นที่ก็ไม่ได้คืนมาเพราะกันออกไปแล้ว
ตาม spec O2X มีขนาด rom 8GB ก็จะแบ่งเอามาใช้งานเป็นส่วนๆเช่นเป็นส่วนของ data ที่เอาไว้ลง app เพิ่ม ส่วนของ swap ส่วนของ recovery ส่วนของ boot เป็นต้น เมื่อรวมๆกันแล้วที่เหลือก็จะเอาไปกำหนดให้เป็น internal memory ต่อไป ซึ่งปกติจะได้พื้นที่ที่เหลือไปประมาร 5GB แต่พอมีการกำหนด เป็น 2รอม สิ่งที่จะถูกกันออกเพิ่มก็คือมีการ กัน data เพิ่มแต่ไม่ได้แยกกันเด็ดขาดแบบที่กันให้กับ system แล้วใน data ก็จะแบ่งให้กับ rom 1 และ 2 ปนกันอยู่โดยที่ rom 1 จะอ้างวแบบไม่มีตัวเลขกำกับ เช่น /data/app จะเป็นของ rom 1 /data/app 2 จะเป็นของ rom 2 ซึ่ง folder app และ app 2 ต่างก็เอาภายใต้ folder /data เดียวกัน นั้นคือเขาถึงห้าม wipe data ถ้าจะลงรอมอีกตัวไม่งั้น ส่วนของรอมแรกจะหายไปด้วย
สรุป internal มันจะเล็กลง เพราะพื้นที่มันถูกกันไปเป็น system กับ data มากขึ้น ส่วน app ที่ลงแล้วถ้ามันต้องใช้พื้นที่ของ internal sd จะเบิ้ลพื้นที่อะไรหรือไม่ อันนี้ผมไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่น่า ถ้ามันเบิ้ลจริงมันจะต้องมี folder ที่ชื่อต่างกันแต่มองแล้วเป็นเรื่องเดียวกันเกิดขึ้น เหมือนที่มันเกิดใน ส่วนของ rom โดยเฉพาะส่วนของ /data นะครับ
เอาถ้ายาวกว่านี้ ก็จะไม่ใช่คร่าวๆ ขอจบเลยแล้วกัน
แจ่ม !!!