credit: facebook กทค.

กสทช.นัดถกอีกรอบ กำหนดวันหมดอายุบัตรพรีเพด

“สุทธิพล ทวีชัยการ” กรรมการ กสทช. แจงการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงิน หรือ พรีเพด กฎหมายให้ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาต กทค. เล็งถกอีกรอบวันที่ 5 ก.พ.นี้…

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมายในกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า กรณีการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงิน หรือ พรีเพด กฎหมายให้ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาต กทค. ให้กำหนดวันหมดอายุได้ แต่ต้องให้กำหนดเงื่อนไขในการคุ้มครองผู้บริโภคกำกับไว้ด้วย ที่ผ่านมามีการหารือกันมาโดยตลอด และเห็นตรงกันว่าบัตรเติมเงินสามารถมีวันหมดอายุได้ แต่ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้คือ เงื่อนไขที่จะใช้กำกับควรเป็นอย่างไร หารือกันมากว่า 1 ปี ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ถ้ายังเป็นเช่นนี้ผู้บริโภคก็จะเสียประโยชน์และถูกเอาเปรียบ เนื่องจากการบังคับตามกฎหมายไม่สอดคล้องกับทางปฏิบัติไม่สามารถกระทำได้ ปี 2556 จึงกำหนดให้เป็นปีคุ้มครองผู้บริโภคและตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เรื่องนี้ได้ ข้อยุติให้ได้

กรรมการ กสทช. กล่าวต่อว่า จากการค้นคว้าแนวปฏิบัติในประเทศต่างๆ และจากการประชุมหารือร่วมกับหลายฝ่ายมาโดยตลอดเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องนี้ จึงนำมาสู่เงื่อนไขมาตรฐานขั้นต่ำและเป็นเงื่อนไขที่สอดคล้องกับข้อกฎหมาย รวมทั้งเป็นเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายรับได้ เงื่อนไขที่ กทค.กำหนดเป็นเงื่อนไขที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์และขอความร่วมมือแกมบังคับ ทำให้ได้ข้อยุติ ส่วนผู้ประกอบการแม้จะเกิดผลกระทบและไม่ค่อยจะชอบนัก แต่ก็ถูกกดดันให้ต้องมีหน้าที่ต่อผู้บริโภค และเห็นว่าเงื่อนไขมีความยืดหยุ่นแล้วจึงต้องยอมรับ เงื่อนไขที่ กทค.นี้ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะเติมเงินเท่าไรก็ตามก็จะได้รับการประกันว่าบัตรจะใช้ได้อย่างน้อย 30 วัน และสะสมได้อย่างน้อย 365 วัน ซึ่งผู้ประกอบการบางรายอาจกำหนดจำนวนวันมากกว่านี้ก็ได้เพื่อแข่งกันให้ข้อเสนอที่ดีกว่า มาตรฐานที่ กทค. กำหนดเป็นเงื่อนไขนี้จึงเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม กทค. สัญจร ที่จังหวัดเชียงราย วันที่ 29 ม.ค. 2556 เวลา 11.00 น. บอร์ด กทค. โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และ ประธาน กทค. พร้อมด้วย นายสุทธิพล ทวีชัยการ ได้เข้าตรวจบัตรเติมเงิน ที่ศูนย์บริการลูกค้าของ ดีแทค ทรู และเอไอเอส ซึ่งนับเป็นการลงพื้นที่ตรวจครั้งที่สามแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดมีมาตรฐานเดียวกัน และจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของที่ประชุม กทค.ในวันที่ 5 ก.พ.ต่อไป

http://www.thairath.co.th/content/tech/323775