ได้รับพัสดุกล่องย่อมๆ จากฮ่องกง เมื่อวันที่ 31 ม.ค. แต่มันก็ดึกแล้ว เลยฝากไว้แค่นี้

ถ่ายรูปเสร็จแต่งอีกนิด ๆ หน่อย กว่าจะเสร็จก็ดึกสงัดพอดี พออัพขึ้น เว็บล่ม T_T อดไปครับ

วันนี้ขอเอามาลงอีกรอบแล้วครับกับ

เริ่มด้วย Bumper ที่ให้ก็อยากได้…ราคาบนเว็บของ Google คือ $20 แต่นี่ยังไม่รวมภาษีและค่าจัดส่งนะครับอย่าลืม


Package ไม่ได้ดูหรูหราสักเท่าไหร่ เป็นแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ ข้างในจะมี bumper
และก็ใบแสดงเกี่ยวกับการรับประกัน ซึ่งคงไม่ต้องสนใจ เพราะส่งกลับจากบ้านเราไปเคลม
คงไม่คุ้มกันแล้ว อ่อของแท้จะมีตรา Original LG สามมิติด้านหลังนะครับ


ตัว bumper เป็นแบบสองชิ้นซ้อนกันนะครับ ชิ้นนอกเป็นพลาสติกชุบสีเทาคล้าย ๆ กับ
ด้านข้างของตัว Nexus 4 ชิ้นยางสีดำด้านใน ที่เป็นยางแข็ง ไม่นิมเลย แต่ฟืด
ถ้าให้บรรยายความรู้สึก มันจะคล้าย ๆ กับยางลบหมึก ที่ใช้กันตอนเด็ก ๆ น่ะครับ
(ไม่รู้ใครเกิดทันใช้บ้าง เด็กสมัยนี่ยังใช้อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้) และ ปุ่มต่าง ๆ
จะเป็นพลาสติกแข็งชุมโครเมียม แบบมีโครงอ่อนด้านใน กดแล้วจะเด้ง ๆ


ปุ่มทำได้ดีมาก พอใส่แล้วกดง่าย ง่ายซะจนบางครั้ง มือก็พาลไปกดเองซะบ่อย ๆ ต่างกับ
เวลาเราใส่พวก case แบบ back snap หลังแข็.ที่เค้าจะเจาะเว้นไว้ ซึ่งกดไปโดนปุ่มได้ยาก


รูไมค์ต่าง ๆ รูหูฟัง และรูชาร์ต เจาะพอดีตำแหน่งเป๊ะมาก ด้านหลังส่วนยางจะเป็นลาย ๆ
ขรุขระจับแล้วไม่ลื่นหลุดมือยาก อย่างที่เห็น


ด้านหน้า เป็นยางเรียบ ความรู้สึกเหมือนยางลบหมึกก้อนแข็ง ๆ นั้นแหละครับ


หลังจากประกบร่างกันแล้ว ก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ
การประกบร่างทำได้ง่ายมาก แค่กดเบาจากด้านหน้าเข้าไปที่ละมุม ๆ ก็เป็นอันเสร็จ


จะเห็นว่า ขอบบางด้านหน้า จะนูนขึ้นมาไม่เยอะมาก
ปกป้องหน้าจอเวลาวางคว่ำหน้าได้ดีเลย แต่ระวังนิดนะครับ ตัวยากมันฟืด
แต่ไม่หนืดเหมือนพวกสิริโคลน วางบนพื้นเอียงๆ ก็ไถลไปตามพื้นได้เหมือนกัน


มาดูรอบตัวกัน หลังจากประกอบร่างแล้ว ปุ่มจะเด้งออกมาได้ระดับพอดีเลย


ปุ่มทั้ง power และ volume rocker กดง่าย แบบว่าง่ายเกินจนไม่ตั้งใจไปกดโดนบ่อยๆเลย


สภาพตูดครับ ถ้าเป็นสายชาร์ทที่แถมมานี่ไม่ค่อยเป็นปัญหาเสียบง่าย แต่ถ้าเป็นของ 3rd อื่น ๆ แล้วต้ว plug มันหัวโต ๆ (นึกถึงหัวชาร์ท BB ก็ได้ครับ) มันจะเสียบยาก ฟิตแน่นเกินไประวัง ตัว bumper จะหักเอา มีเคสนึงที่ XDA ว่า ไอ้ส่วนล่าง ๆ ของชิ้น bumper พลาสติกนี่ ร้าวกันเลยทีเดียว


มาดูข้างหลังกันบ้าง บางเฉียบนูนขึ้นมานิดเดียวเท่านั้นเอง ผมว่าบางกว่าด้านหน้าอีกนะ


ประสบการณ์หลังจากใช้มาได้ สองวันแล้วคือ

– หลังจากประกบร่าง docking กันครั้งแรกแล้วรู้สึกได้เลยว่า เครื่องมันใหญ่ขึ้น (กว้างขึ้น) ไม่ค่อยกระชับมือเหมือนตอนใช้ พวก back snap case เพราะตัว bumper มันประกอบกัน 2 ชึ้น ความหนาของมันก็ข้าง ๆ 2mm นิดๆ ได้หลายเป็นว่า เครื่องจะกว้างขึ้นเกือบ ๆ 5mm จากเดิม ต้องปรับความรู้สึกกันสักพักเลย

– ด้านหลังพอไม่มีอะไรมาปิดแล้ว ก็โชว์แผ่นหลังอันเซ็กซี่ของ nexus 4 ได้เต็มที่ เวลาวางก็วางคว่ำหน้าได้สบายๆอวดหลังวิ้ง ๆ ได้แล้ว

– แต่คราบมันจากนิ้ว ก็จะติดเต็มหลังเวลาใช้งานเช่นกัน ก็ต้องไปตามเช็ดกันบ่อยๆ

– ไม่กล้าทดสอบ drop test นะครับ ไม่ต้องถามถึงเลย ถ้าพลาดเมื่อไหร่ จะมาเล่าสู่กันฟังทีหลัง

สำหรับท่านที่ถามเรื่องราคามา ผมสั่งจากเว็บที่ dx-กล่อง ครับ ค่าตัวรวมส่งแบบลงทะเบียนแล้วไม่เกิด $30

Screen Protector – Rock
ที่ได้มาเป็นแบบ HD & AF (High Definition and Anti Scratch Ultra-thing Arc-shaped film) (แพคขาว)
กับ อีกรุ่นคือ AF & AG (Anti Fingerprint and Anti Glare) (แพคดำ)

ในแพ็คจะมีฟิมล์หนึ่งชิ้น ผ้าไมโครไฟเบอร์หนึ่งผืน ฟิมล์สำหรับติดกันรอยกล้อง คู่มือ และสติกเกอร์สำหรับช่วยติด
ตัวฟิมล์เอง ก็จะไม่เต็มจอครับ พอดีกับส่วนที่เป็นพื้นราบเท่านั้น ไม่ความคลุมส่วนโค้ง ด้านบน มีเว้าสำหรับกล้อง ลำโพง และ เซ็นเซอร์ไว้ให้

Screen Protector – Nillkin High Level Crystal
เป็นแบบฟิมล์แบบใส จาก Nillkin ซึ่งดู ๆ แล้วก็ไม่ค่อยต่างกับที่แถมมากับเคสของ Nillkin สักเท่าไหร่
อุปกรณ์มาตราฐาน มีครบ ไอ้สีฟ้า ๆ แผ่นใหญ่ ๆ คือพลาสติกสูญญากาศเอาไว้ดูฝุ่นออกจากหน้าจอครับ
ด้านบน เว้นรู้กลม ๆ สำหรับกล้องและเซนเซอร์ แต่ไม่เว้าลำโพง แปลว่าต้องติดต่ำให้พอดีกับขอบล่างของลำโพง

Screen Protector – Benks HSR for Nexus 4
เป็นยี่ห้อเดียวในตลาดตอนนี้ที่ให้กันรอยหลังมาด้วย (นอกจาก SGP ที่แพง x2 x3 กันเลยทีเดียว)
Benks HSR เป็นรุ่นท็อปสุด ๆ ของยี่ห้อนี่แล้ว ซึ่งเป็นฟิมล์แบบ HD+Anti-fingerprint+Anti-Glare


หลังจากใช้แล้วได้เลยว่า เป็นรุ่น Anti-fingerprint+Anti-Glare ที่ใสจริงๆ
ไม่มีเม็ดรุ้งให้เห็นเหมือนพวกฟิมล์ด้านเลย แต่มันก็คือฟิมล์แบบเป็ดครับ
แม้จะทำได้หมด แต่จุดขายคือความใส ทำให้การกันคราบมัน และการลดแสงสะท้อน
ทำได้ราว ๆ 50-60% ของพวกฟิมล์ด้านเท่านั้น แต่ก็ไม่เยิ้มเหมือนพวกใสเพียวๆ

แต่ฟิมล์ด้านหลังที่ให้มา เป็นแค่แบบใสธรรมดา ๆ ใช้ ๆ ไปนี่เยิ้มกันเลยทีเดียว แต่ต้องขอชมว่า
ฟิมพ์หลัง ทำขนาดมาได้พอดีกับ bumper เลยทีเดียว

บทสรุป
– หลังจากสั่ง bumper ไปแล้วราว ๆ 2 อาทิตย์ถึงจะได้รับ ระหว่างนั้น google ก็เอา bumper ขึ้นมาขายบนเว็บใหม่อีกครั้ง ทำให้ ณ วันที่ได้รับของ ราคาถูกกว่าวันที่สั่งไปถึง $2 เลย T_T
– bumper ใส่แล้วเทห์จริงไรจริง sexy มากๆ เครื่องไม่หนาขึ้นจนหน้าเกลียด แต่กว้างขึ้นแบบจับแล้วตกใจเหมือนกัน
– screen protector สั่งมาหลายแบบ แต่เลือกใช้ตอนนี้คือ benks ก่อนเพราะมันฟิมล์หลังให้มาด้วย
– ส่วนของ nillkin กับ rock 2 แบบยังไม่ได้ใช้ เลยไม่รู้ว่าคุณสมบัติของฟิมล์จะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าสนใจลองหลังไมค์มาคุยกันครับ อยากหาเครื่องลองติดดูเหมือนกันจะได้รู้ว่าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ มันดีไม่ดียังไง ผมคิดราคาทุนเลย นัดเจอกัน ลองติด จะได้ถ่ายรูปมารีวิวกันครับ

ปอลิง ขอสงวนลิขสิทธิ์ทุกรูปนะครับ ห้ามนำรูปไปใช้เฉพาะตัวไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะอ้างถึง ขอให้อ้างอิง link มาที่กระทู้นี่ทั้งกระทู้แทนครับ