—————– ขายแล้วคับ ขอบคุณคับ —————–

•3G Quadband (850/900/1900/2100) ความเร็วสูงสุด 21Mbps แต่สุดท้ายน่าจะแยกคลื่นเหมือน S2/Note
•หน้าจอ 4.8 นิ้ว HD Super AMOLED 1280×720 (Pentile) ~306ppi (retina display)
•Corning Gorilla Glass 2 – ทนกว่าเดิม บางกว่าเดิม
•CPU Cortex-A9 Exynos 4412 Quadcore 1.4GHz
•GPU Mali-400MP
•Ram 1GB
•Android 4.0.4
•กล้องหลัง 8 MP + LED Flash กล้องหน้า 1.9 MP
•WLAN : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, DLNA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot
•Bluetooth 4.0 ประหยัดแบตโฮกๆ
•NFC, Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
•FM radio with RDS
•GPS with A-GPS and GLONASS
•เชื่อมต่อ USB 2.0 ต่อภาพออกจอได้ด้วยสาย MHL และเสียบ thumbdrive ได้เช่นเดิม (ผ่านสายต่อ)
•ขนาดและน้ำหนัก 136.6 x 70.6 x 8.6 mm 133 g
•ความจุ 16/32/64 GB รองรับ SD card สูงสุด 64GB (เมืองไทยน่าจะเอาเข้ามาแต่ 16GB เช่นเดิม)
•แบต Li-ION 2100mAh
•มีให้เลือก 2 สี ขาวและน้ำเงิน

มาดูจุดเด่นที่น่าสนใจของเจ้า S3 ที่โทรศัพท์ตัวอื่นไม่มีกันดีกว่า
ฟีเจอร์ด้านล่างเหล่านี้เป็นจุดชูของคอนเซปท์ที่พยายามบอกว่า Galaxy S3 เข้าใจคนใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย

•Smart stay – มือถือมันมองเห็นเรา หากตาของเรายังจ้องที่จอ S3 อยู่ มันจะไม่พักหน้าจอ (เออ น่าทำมานานละ)
•Direct call – เมื่อเราต้องการโทรออก เพียงเข้าไปที่รายชื่อคนๆนั้นแล้วยกโทรศัพท์แนบหน้าเรา เจ้า S3 ก็จะรู้ทันทีและทำการโทรออกอัตโนมัติ ไม่ต้องมากดโทรออกกันให้วุ่น
•Smart alert – เมื่อเราตั้งโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ และกลับมาหยิบมันจากโต๊ะ หลายๆครั้งมีแจ้งเตือนอะไรมา เราก็อาจจะไม่ทันมอง แต่เจ้า S3 มันจะรู้ว่าเราตั้งทิ้งเอาไว้ และจะงอแง(สั่น)ให้สนใจการแจ้งเตือนที่เราพลาดไปนั้น
•Social tag – Galaxy S3 มันจะสามารถจดจำใบหน้าของเพื่อนเราได้เมื่อเราบอกมันว่าใครคือใคร และหลังจากนั้นเมื่อเราถ่ายรูปมันจะจดจำให้เองอัตโนมัติ และเมื่อเราแตะที่ภาพก็จะมีสถานะของเพื่อนคนนั้นในสังคมออนไลน์ขึ้นมาอัพเดททันที
•S Voice – เห็น iPhone มี Siri พูดด้วยได้? S3 ก็ไม่ต่างกัน แต่ทำอะไรได้เพิ่มเติม โดยในงานเห็นว่ารองรับภาษาได้มากถึง 8 ภาษา และสั่ง run โปรแกรมได้หลากหลายด้วย

http://pic.free.in.th/id/c656e0d487f9bff46dc11f22a8d0665d

http://pic.free.in.th/id/aa99468723dad0dc03a89450847df814