วันจันทร์ ที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 06.00 น.
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)นั้นก่อตั้งมาด้วยพันธกิจที่หลากหลาย ไม่เพียงเฉพาะการควบคุมการประกอบกิจการของผู้ให้บริการ…การจัดสรรคลื่นความถี่ หรือการออกไลเซ่นส์(ใบอนุญาต) เท่านั้น…แต่ยังมีพันธกิจที่ต้องดูแลและพัฒนาสังคมด้วย ในหลายๆ มิติ
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. บอกว่า ล่าสุด กสทช.ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ผุดโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ผ่าน SMS หมายเลข 191 โดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุร้ายให้แก่ประชาชน…
“เนื่องจากปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและทวีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และยังไม่สามารถควบคุมปริมาณการเกิดอาชญากรรมได้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ กสทช.จึงจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือ หรือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
โดยปัจจุบันได้รับความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลข่าวสารน้อยมาก เนื่องจากช่องทางการติดต่อสื่อสารยังมีไม่เพียงพอทำให้ขาดข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายการจดจำตำหนิรูปพรรณของบุคคลต้องสงสัย หรือยานพาหนะ เพื่อเป็นการชี้ช่องทางนำไปสู่เบาะแสของการจับกุมในที่สุด
อีกทั้ง มีเป้าหมายสำคัญในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงร่วมมือกันดำเนินการจัดทำโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ผ่าน SMS หมายเลข 191 โดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการรับแจ้งเหตุ ให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับพฤติกรรมการสื่อสารของประชาชนในปัจจุบัน โดยผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารของผู้ประกอบการธุรกิจเครือข่ายระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 บริษัทในประเทศไทย คือ 1. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส 2.บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค 3.บริษัท ทรูมูฟ จำกัด 4.บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT 5.บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT
โดยเมื่อประชาชนประสบเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งเหตุ พร้อมระบุสถานที่เกิดให้ชัดเจน แล้วส่ง SMS ไปที่หมายเลข 191 ทันที เมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังฐานข้อมูล SMS 191
“โครงการ SMS แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ผ่านทางหมายเลย 191 จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ด้านบริการแจ้งเหตุด่วน
เหตุร้าย เพื่อช่วยลดปัญหาจากการเข้าไม่ถึงของประชาชนผู้แจ้งเหตุด่วน ปัญหาที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้บริการจากเดิมที่มีเพียงการให้ประชาชนโทร.เข้ามาเพื่อแจ้งเหตุเพียงอย่างเดียว ทำให้ประชาชนได้ประสบปัญหาคู่สายที่รอนานและโทร.ติดยาก รวมถึงปัญหาที่มีประชาชนแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องขยายช่องทางการให้บริการแก่ประชาชนอีกหนึ่งช่องทาง คือการให้ประชาชนแจ้งเหตุด่วนผ่านทาง SMS มายังหมายเลย 191 เพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆ และยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลา”
ดังนั้นกสทช.ได้ประสานงานกับผู้ประกอบการที่ให้บริการอยู่ขณะนี้ เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาชนแจ้งเหตุด่วนผ่านทาง SMS มายังหมายเลย 191 โดยเป็นบริการฟรี ซึ่งได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ณ ขณะนี้ได้เริ่มการใช้บริการแล้ว ฉะนั้น ประชาชนสามารถแจ้งแหตุด่วนเหตุร้ายผ่านทาง SMS มายังหมายเลข 191 โดยจะมีศูนย์ประมวลข้อมูลทำการประมวลข้อมูลและแจ้งข้อมูลมายังพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งผู้แจ้งเหตุจะได้รับข้อความตอบกลับจากศูนย์ประมวลข้อมูลจากเหตุที่แจ้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่าเหตุด่วนที่ประชาชนแจ้งเข้ามานั้น ทางศูนย์ได้รับทราบถึงเหตุด่วนนั้นแล้ว”
ปัจจุบันประชาชนมีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ณ วันนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วกว่า 75 ล้านเลขหมาย โครงการดังกล่าวจึงมีความเหมาะสมในการบริการประชาชน กสทช. จึงได้มอบทุนสนับสนุนโครงการจำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับระบบที่จะใช้รองรับการให้บริการประชาชน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2556 ที่ผ่านมา
เลขาธิการ กสทช. กล่าวอีกว่า โครงการนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มการแจ้งเบาะแสรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะใช้เป็นฐานข้อมูลในการป้องกันและปราบปรามเหตุร้าย โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาวิเคราะห์ตรวจสอบก่อน ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะทำอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา หลังจากเปิดดำเนินการไปแล้ว 3-4 เดือน จะมีการปรับระบบให้คล่องที่สุด โดยเฉพาะการรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเหตุให้เป็นความลับมากที่สุด ส่วนเรื่องการร้องเรียนก็ให้แจ้งผ่านสายด่วน 1599 ในกรณีที่มีการแจ้งข้อมูลเป็นเท็จจะมีการดำเนินการลงโทษตามกฎหมายกับผู้แจ้งทันที
“การดำเนินโครงการดังกล่าวก็เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักถึงหน้าที่ของพลเมืองดี มีความสนใจต่อปัญหาอาชญากรรมและเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมเฝ้าระวัง ดูแลแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและสังคมส่วนรวมตลอดจนมีการนำเสนอแนวคิดการทำงาน ในลักษณะร่วมแรงร่วมใจแก้ไขปัญหา อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างทักษะในการสังเกต จดจำ ตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะและสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือพื้นที่เสี่ยง แหล่งมั่วสุมต่างๆ แล้วแจ้งเบาะแสเหตุด่วนเหตุร้ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่าน SMS 191 เพื่อให้ปัญหาภัยอาชญากรรมและภัยสังคมลดน้อยลง ประชาชนจะได้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น” เลขาธิการ กสทช.กล่าวสุรปปิดท้าย
http://www.naewna.com/business/40144