พอดีติดใจอยู่นิดหน่อยเลยอยากสอบถามหลายๆท่านดูครับ ว่าปกตินี่แบ่ง patition กันตรงใหน ระหว่าง แบ่งใน recovery mode กับแบ่งในโปรแกรม Paragon อันไหนที่ว่ารองรับข้อมูลได้ดีสุด หรือว่าเหมือนกันอันไหนก็ได้ และอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าแบ่งใน recovery mode มันจะเป็น Ext3 ใช่ไหมครับ แต่ใน Paragon เราสามารถเลือกว่าจะเอา Ext3 หรือ Ext4 แล้วสรูป Ext3 กับ Ext4 ควรใช้อันไหน หรือขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้รอมไหน รบกวนผู้รู้ตอบให้กระจ่างที่ครับ
ขอถามเรื่องการแบ่ง Patition ระหว่าง แบ่งใน recovery กับแบ่งในโปรแกรม Paragon อย่างใหนดีกว่ากันครับ
ผมคิดว่าแล้วแต่ความสะดวกครับ แบ่งใน Recovery จะไม่สารารถกำหนดขนาดของ partition เองได้ แต่ใช้โปรแกรมแบ่ง เรากำหนดขนาดได้เอง ส่วนตัวแล้วผมจะแบ่งโดยใช้โปรแกรม Paragon มากกว่าครับ เพราะผมกำหนดขนาดเองได้ครับ ในส่วนของแบ่งโดย Recovery จะมีให้เลือก 128/256/512/1024 แต่ผมแบ่งEX3=305mb ^_^
ในฐานะที่ผมใช้งาน Linux มานานพอสมควร ขออธิบายตามที่ผมรู้ดังนี้ครับ
ext2 = ระบบไฟล์ของ Linux ที่ถูกใช้งานแพร่หลายที่สุด และถือว่า stable ที่สุด เพราะมีมาตั้งแต่สมัย kernel เวอร์ชันแรกๆ
ext3 = ext2 + journaling เป็นการปรับปรุง ext2 ให้สนับสนุนการทำ journaling ซึ่งก็อย่างที่คุณไอ๊ค์อธิบายไป การมี journaling หมายความว่าสถานะของระบบไฟล์จะ clean เสมอถึงแม้ว่าระบบจะ crash ไป เมื่อบูตขึ้นมาใหม่ระบบก็แค่ทำการ replay journal log โดยไม่จำเป็นต้องทำการ check filesystem ทั้งหมด ซึ่งจะเสียเวลาเยอะกว่ามาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วย overhead ที่เพิ่มขึ้นตอนเขียนข้อมูล ext2 และ ext3 ใช้ disk layout แบบเดียวกัน ดังนั้นการ convert กลับไปมาจึงทำได้ง่ายมาก
ext4 = ระบบไฟล์แบบ journaling ที่พัฒนาต่อจาก ext3 โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ของระบบไฟล์สมัยใหม่เข้าไปเช่นเรื่อง extents, persistent pre-allocation, delayed allocation, สนับสนุนไฟล์ขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น ปัจจุบันนี้ถือเป็นระบบไฟล์ที่ Linux distributions รุ่นล่าสุดส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นมาตรฐาน
jfs = ระบบไฟล์แบบ journaling ที่พัฒนาโดยบริษัท IBM มีใช้งานอยู่บน OS ที่พัฒนาโดย IBM เกือบทุกรุ่น โดยรุ่นที่อยู่บน Linux นั้นถูกพอร์ตมาจาก OS/2 ครับ
xfs = ระบบไฟล์แบบ journaling ที่พัฒนาโดยบริษัท Silicon Graphics (SGI)
ทีนี้จะเลือกใช้อันไหนดี… สำหรับการใช้งานในน้อง S ผมพอจะสรุปได้ว่า
ext2: น่าจะเร็วที่สุดและ stable ที่สุด แต่เนื่องจากไม่มี journaling ทำให้อาจมีปัญหาเวลาที่ระบบ crash ถ้าจะใช้งาน ต้องเลือก rom ที่มีการ check filesystem ทุกครั้งที่บูต จึงบูตช้า อาจมีปัญหาไฟล์ corrupt
ext3: ความเร็วในการอ่านไม่น่าต่างกับ ext2 แต่ตอนเขียนจะช้ากว่า เพราะต้องเขียน journal log ด้วย อาจมีผลทำให้กินแบตมากขึ้น (หรือเปล่า? คงต้องใช้ดูครับ) แต่น่าจะบูตเร็วกว่า ext2 และไฟล์น่าจะ corrupt ได้ยากกว่า
jfs,xfs,ext4: ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ (extents, pre-allocation, delayed allocation, etc) ความเร็วน่าจะใกล้เคียงกับ ext2 บาง workload อาจเร็วกว่า แต่บาง workload ก็อาจช้ากว่า แต่มี journaling ดังนั้น อาจมีผลทำให้กินแบตมากขึ้น (หรือเปล่า? ต้องลองใช้ดู) บูตได้เร็วกว่า ext2 และไฟล์น่าจะ corrupt ได้ยากกว่า
ท้ายที่สุดแล้วคงต้องลองใช้งานแต่ละแบบดูกันครับ ส่วนตัวตอนนี้ผมใช้ speedmod c2+jfs อยู่ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ยังไม่เจอปัญหาเรื่องไฟล์ corrupt อาจจะไม่เร็วที่สุดแต่ก็เป็นที่น่าพอใจ 🙂
credit:pdamobiz.com
ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับแต่อ่านแล้วมึนๆ ถ้าA88 ควรนี่ใช้อันไหนครับ