‘เศรษฐพงค์’ ตั้งทีมความปลอดภัยไซเบอร์ ตามนโยบาย ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และรองประธาน กสทช.
ประธานกทค.ชี้ต้องจัดตั้งคณะทำงานวางแผนและดำเนินการในการป้องกันการจารกรรมอีเมลส่วนบุคคล เพื่อวางแนวทางป้องกันการจารกรรมอีเมลส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ‘พล.อ.ประวิตร’ ที่ให้กระทรวงดีอี และกสทช.จัดการปัญหานี้
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และรองประธาน กสทช. กล่าวเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559ถึงการวางแนวทางป้องกันการจารกรรมอีเมลส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญ ว่า ทาง กสทช.จะทำหน้าที่ในการประสานเพื่อเสนอแนะมาตรการและการให้คำแนะนำตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และ กสทช.ดูแลในเรื่องนี้
ทั้งนี้ในการหาแนวทางป้องกันการจารกรรมอีเมลส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญ จะต้องจัดตั้งคณะทำงานวางแผนและดำเนินการในการป้องกันการจารกรรมอีเมลส่วนบุคคล โดยการดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการร่วมมือกับหลายภาคส่วน เพราะแต่ละบุคคลจะมีการใช้บริการอีเมลที่แตกต่างกัน บางคนใช้อีเมลของหน่วยงาน บางคนใช้อีเมลจากผู้ให้บริการเอกชน บางคนใช้อีเมลจากผู้ให้บริการขนาดใหญ่ระดับโลก รวมทั้งหลายคนอาจมีหลายอีเมล และมีการใช้งานมานานแล้ว การบังคับให้เปลี่ยนมาใช้อีเมลที่อยู่ภายใต้การควบคุมเบ็ดเสร็จ อาจก่อให้เกิดปัญหาความยุ่งยากในการใช้งานแก่ผู้ใช้ได้
นอกจากนี้แนวทางการดำเนินการควรมีทั้งการวางระบบเพื่อตรวจสอบป้องกันในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย และควรมีแนวทางการสร้างความตระหนักรู้และสิ่งที่ต้องระวังให้แก่ผู้ใช้ เมื่อจะต้องใช้งานอีเมลส่วนบุคคล รวมทั้งในแนวทางระยะต่อไปอาจต้องมีการตรวจสอบ และให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้งานในเรื่องความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของอีเมลเซิร์ฟเวอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยคณะทำงานฯนี้ จะได้มีการทำรายชื่ออีเมลเซิร์ฟเวอร์ที่มีระบบป้องกันความปลอดภัย รวมทั้งมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการโจรกรรมในการติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล ในกรณีอีเมลส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญที่ใช้งานอยู่บนอีเมลเซิร์ฟเวอร์ที่มีระบบป้องกันที่มีความเสี่ยงจะเกิดการจารกรรมได้ ทางคณะทำงานฯควรมีการวางแผนในการดำเนินการเปลี่ยนถ่ายไปยังอีเมลอื่นที่มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยการควบคุมผลกระทบต่อผู้ใช้บริการให้น้อยที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติต่อไป
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000112071