ไปเจอรีวิว galaxy Note II ของคุณ joker-master มาจาก Pantip ละเอียดและน่าสนใจมาก
เลยนำมาฝากคนที่คอยเจ้าNote2อยู่จ้า 😀

Spec Samsung Galaxy Note II

รองรับ 3G ทุกเครือข่าย HSDPA, 21 Mbps

ขนาดตัวเครื่อง 151.1 x 80.5 x 9.4 มม. น้ำหนัก 180 กรัม

หน้าจอ Super AMOLED 720 x 1280 pixels ขนาด 5.5 นิ้ว (267 ppi)
กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 2

CPU Exynos 4412 Quad-core 1.6 GHz Cortex-A9, GPU Mali-400MP

RAM 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB (เหลือให้ใช้ 10.36GB) เพิ่มหน่วย
ความจำภายนอกได้ 64GB

มาพร้อม Android 4.1 (Jelly Bean)

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, DLNA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot,
Bluetooth 4.0, NFC, Micro USB 2.0 รองรับการเชื่อมต่อแบบ MHL

กล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ 1080P 30fps กล้องหน้า 1.9MP บัน
ทึกวีดีโอ HD 720P

แบตเตอรี่ความจุ 3030 mAh

สำหรับรูปร่างของ Samsung Galaxy Note II เมื่อเทียบกับ Note รุ่นแรกจะ
มีลักษณะตัวเครื่องแคบลง และสูงขึ้นนิดหน่อย ขนาดและน้ำหนักก็ไล่เลี่ย
กันเลย สำหรับวัสดุของ Samsung Galaxy Note II จะเหมือนๆ Samsung
Galaxy SIII เลยครับจะเป็นโพลีคาร์บอเนตและเครือบผิวแบบ Hyperglaze
เงาวับเช่นเคย จะมี 2 สีให้เลือกคือสีเทาและสีขาว (ผมว่าสีเทาสวยมากเลย
ครับ จะมีลายๆแบบโลหะด้วยเวลาอยู่กลางแจ้ง หรือที่สว่างๆจะเห็นเป็นสีเงิน
อมเทาดูดีมากครับ สวยกว่าสีขาวเยอะ อิอิ) ส่วนในอนาคตต่อไปจะมีสีใหม่ๆ
ออกมาให้เลือกเยอะๆแบบใน Galaxy SIII หรือเปล่าอันนี้ทาง Samsung ยัง
ไม่บอกมา แต่ผมว่ามีแหงมๆครับ^__^

สำหรับเรื่องวัสดุโพลีคาร์บอเนตเครือบผิว Hyperglaze ผมเห็นหลายๆคนไม่
ชอบกัน แต่ส่วนตัวผมว่ามันสวยดีออกนะฮะ ไม่ได้ดูแย่อะไรเลย แนะนำว่า
ต้องได้ลองจับตัวจริงกันดูก่อนครับ (แต่ผมว่า Galaxy SIII มันออกแบบสวย
กว่า Galaxy Note II นะส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบขอบตัวเครื่องที่ชุบโครเมี่ยม
หนาๆแบบ Galaxy Note ตัวเดิมเลยครับ ผมอยากให้ออกแบบให้เหมือนกับ
Galaxy SIII ไปเลยมากกว่า)

ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy Note II จะเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนตทั้งตัว
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1280 pixels
เป็นหน้าจอแบบใหม่ที่อัด Sub Pixels เพิ่มลงไป ทำให้หน้าจอดูเนียนตามาก
ขึ้นกว่าเดิม (แหม….น่าจะเอามาใช้กับจอ Galaxy SIII อ่ะ)

แต่ว่าจากการเอามาวางเปรียบเทียบกันดู ผมว่าจอของ SIII ดูสว่างและดูคม
มากกว่า Note II นะครับส่วนความสดนั้นพอๆกัน แต่จอของ Note II ดูเนียน
ตากว่าจอ SIII จริงๆครับ (ขนาดจอที่ต่างกันก็มีผลด้วยนะครับ)

ด้านบนข้างซ้ายของลำโพงสนทนาจะมี Notification Light ซ่อนอยู่เหมือน
ใน SIII ส่วนข้างขวาจะเป็น Sensor และกล้องหน้าความละเอียด 1.9MP
บันทึกวีดีโอ HD 720P

เสียงสนทนาของ Samsung Galaxy Note II ดังชัดเจนดีมากครับ

ปุ่ม Home จะเป็นแบบปุ่มกดและปุ่ม Menu และ Back จะเป็นแบบสัมผัส ใช้
ไฟสีขาวและสามารถตั้งให้ไฟติดตลอด หรือปิดก็ได้ครับ สำหรับปุ่ม Home
ใครกลัวว่ากดบ่อยๆจะเสีย เท่าที่ผมลองกดๆดูผมว่ามันดูแข็งแรงนะ ไม่น่าจะ
เสียง่ายๆครับ ดูแน่นหนามากกว่า SIII อีกนะครับ

ด้านหลังเงาวับซึ่งก็ต้องระวังคลาบมันจากนิ้วมือ และรอยขนแมวกันหน่อยละ
ครับ แต่ขนาดเครื่องที่ผมได้ยืมมาเป็นเครื่องที่เขาวางให้คนทดสอบในงาน
มาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีรอยอะไรเลยครับ จะติก็ตรงปัญหาเรื่องปุ่มบนผิววัสดุที่
มีคนเจอใน Galaxy SIII เจ้า Galaxy Note II ที่ผมยืมมาทดสอบก็ยังเจอเช่น
กันครับ ยังไงตอนซื้อก็ตรวจดูดีๆนะครับ (แต่ Galaxy SIII ที่ผมซื้อก็ไม่เป็น
นะครับแต่ว่า Flip Cover ของแท้ที่ซื้อมาเป็นครับ ซิก ซิก)

ด้านบนจะเป็นกล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และ
ไฟแฟลช LED ถัดมาเป็นโลโก้ Samsung จะเป็นลายพิมพ์ไม่ได้เป็นนูนสูง
แบบใน Galaxy SIII ด้านล่างจะเป็นลำโพงตัวเครื่อง และมุมซ้ายล่างจะเป็น
ช่องเสียบปากกา S Pen

กล้องจะเรียบไปกับพื้น เวลาวางควรหาอะไรมารองหรือวางบนพื้นผิวเรียบๆ
ระวังเลนส์เป็นรอยนะครับ

ช่องเสียบ S Pen ดูแน่นหนาดีครับไม่น่าจะหลวมง่ายๆ

S Pen มีการปรับปรุงขนาดให้ยาวและเส้นรอบวงใหญ่ขึ้น ทำให้จับเขียนได้
กระชับมือยิ่งกว่ารุ่นก่อน

ขอบตัวเครื่องชุบโครเมี่ยมหนาๆ เหมือนเจ้า Galaxy Note รุ่นก่อนเลย ด้าน
ขวามือจะเป็นปุ่ม Power และเปิด-ปิดหน้าจอ

ด้านซ้ายมือจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

ด้านบนจะมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. และช่องไมค์ตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างจะมีช่องใส่ S Pen และพอร์ท Micro USB 2.0 รองรับการเชื่อมต่อ
แบบ MHL และช่องไมค์สนทนา

โครงด้านในเครื่องก็เป็นสีเทาแหะ^^ แถมตัวนี้ Made in Korea ซะด้วยครับ
และใช้ Micro Sim

แบตเตอรี่ความจุ 3030 mAh ให้มามากกว่า Galaxy Note รุ่นก่อนครับ จาก
การใช้งานนับว่าอึดดีทีเดียว ผมเชื่อมต่อ WIFI ใช้งานถ่ายภาพเยอะมาก มี
โทรคุยยาวๆหลายสาย และเล่นเกมพอสมควรก็สามารถอยู่ได้จนดึก และ
พอลองใช้งานน้อยๆ รับสายนิดหน่อยพอถึงกลางดึกก็ลดไปเพียง 21% ครับ

สำหรับคะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy Note II จะได้ออกมาดังนี้
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 5868 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 13567 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark1 ทำไปได้ 58.3fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
คะแนนออกมาสูงกว่า Samsung Galaxy SIII นิดหน่อยนะครับ

สำหรับ Samsung Galaxy Note II จะมาพร้อม Android 4.1 (Jelly Bean)
และครอบทับด้วย TouchWiz UX ทำให้หน้าตาการใช้งานก็จะคล้ายๆ SIII
นะครับ จะต่างก็ตรงรายละเอียดเช่นเวลาเปิดดูเมนู จะเห็นคำสั่งตั้งค่าหน้าจอ
มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมว่าสะดวกขึ้นนะ ส่วนความลื่นไหลส่วนตัวผมว่าก็ไม่ได้
ต่างจาก SIII เท่าไหร่รู้สึกว่าพอๆกัน แต่หลายๆคนบอกว่ามันลื่นขึ้นมากครับ

แถบ Notification จะแตกต่างจากเดิมจะมีเวลาและวันที่อยู่ด้านซ้ายบน ด้าน
ขวาจะเป็นลัดเข้าตั้งค่า ถัดลงมาเป็นคำสั่งลัดต่างๆ และแถบปรับความสว่าง
หน้าจอ และการแจ้งเตือนได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่น E-Mail ก็จะ
มีแสดงเนื้อหาให้เห็นก่อนเปิดเข้าไปอ่านเป็นต้น

และจากเดิมที่มี Smart Stay ซึ่งหน้าจอจะไม่ปิดหากว่าเรายังจ้องหน้าจออยู่
ตอนนี้ได้เพิ่ม Smart Rotation เข้ามาด้วยโดยหากเราไม่ขยับหัวแม้จะเอียง
เครื่องหน้าจอก็จะไม่หมุน……….ซึ่งผมลองแล้วมันได้บ้างไม่ได้บ้างครับ

ก็เหมือนตอน Smart Stay นะฮะที่บริเวณที่ใช้งานต้องมีแสงสว่างเพียงพอ
ซึ่งเจ้า Smart Rotation ก็เหมือนกัน ผมว่าถ้าไม่ต้องการให้หน้าจอหมุนก็
แค่ลากแถบ Notification แล้วเลือกปิด Screen Rotation ซะก็สิ้นเรื่องนะ
ครับผมว่าง่ายกว่าเยอะเลย อิอิ (แต่แหมอุตส่าใส่มา มันก็เท่ดีละนะครับ)

เมื่อเราชักปากกา S Pen ออกมาหรือเราเสียบหูฟังจะมีลูกเล่นหน้าจอที่เรียก
ว่า Page Buddy แสดงออกมาครับ นั่นคือมันจะแนะนำ App ที่เข้ากับการใช้
งาน S Pen หรือที่ต้องการหูฟังขึ้นมาให้เราเลือกใช้งาน

และทุกครั้งที่เราชักปากกา S Pen ออกมาจะมี Pop Up Note เด้งขึ้นมาให้
เราจดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าใดๆก็ตาม มันเหมาะมากๆเวลาที่เรา
โทรศัพท์อยู่แล้วต้องการจดเบอร์ติดต่อต่างๆนะครับ

นอกจากโหมดการใช้งานแบบปกติแล้ว ยังมีโหมดใช้งานสำหรับคนที่ไม่คุ้น
เคยกับมือถือ Smart Phone ให้เลือกใช้อีกด้วยโดยไปปรับ Home Screen
Mode จะมีให้เลือกระหว่าง Basic Mode และ Easy Mode

ซึ่งจริงๆมันก็คือ Widget อย่างนึงครับแม้ว่าเราจะปรับเป็น Basic Mode ก็ยัง
สามารถเพิ่มมาใส่ที่หน้าจอได้เองอยู่ดี

Quick Glance เป็นลูกเล่นที่ทำออกมาเพื่อให้สามารถดูการแจ้งเตือน โดยที่
ไม่ต้องเปิดหน้าจอ วิธีก็คือเอามือไปบังที่ Sensor ด้านบนหน้าจอ แล้วมันก็
จะแสดงข้อมูลแบบที่เห็นในภาพ มันจะแสดงให้เห็นแค่วูบเดียวครับจะดูอีก
ก็เอามือไปบัง Sensor อีกรอบ………..จริงๆมันก็เท่ดีนะครับแต่ต้องใช้ความ
เคยชินนิดหน่อย เพราะแรกๆเห็นหลายๆคนลองอยู่นานเลย และผมว่าจริงๆ
แล้วมันก็มี Notification Light นะครับแถมผมว่าถ้าอยากดูรายละเอียด มัน
ก็ต้องเปิดหน้าจออยู่ดีอ่ะ แถมเร็วกว่าด้วย เอาเป็นว่าเพื่อความเท่ล้วนๆ อิอิ

ในหน้า App Drawer ก็จะคล้ายๆเดิมแต่จะแบ่งตาราง App เป็น 5×5 แถว

เนื่องจากมีหน้าจอขนาดใหญ่มาก ก็เลยมีคำสั่งใช้งานมือเดียวมาด้วย โดย
จะสามารถตั้งค่าการโทร, คีย์บอร์ด, เครื่องคิดเลขและรูปแบบการปลดล็อก
ให้สามารถทำได้ด้วยมือเดียวง่ายยิ่งขึ้น

คีย์บอร์ดไทยได้รับการแปลงโฉมใหม่น่าใช้มากๆครับ ตัวหนังสือไม่รวมกัน
แล้ว กลายเป็นแบบ 5 แถวและมีตัวเลขอยู่ด้านบนด้วยสะดวกมากครับ และ
ยังสามารถเขียนตัวอักษรด้วยลายมือ เพื่อแปลงเป็นตัวพิมพ์ได้อีกด้วยและ
รองรับภาษาไทยครับ

Gallery ใน Samsung Galaxy Note II ทำมาสวยมากครับ ดูน่าตื่นตาตื่นใจ
กว่าเดิมเยอะเลย แต่ก็มีข้อติฮะบางจังหวะพอเปิดเข้าไปมันจะมีอาการหน่วง
นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นทุกครั้งนะครับ

ตอนนี้เราสามารถสร้าง Folder ขึ้นมาในหน้า Gallery ได้แล้วนะครับ และ
ลูกเล่น Easy Clip เพียงเรากดปุ่มบนปากกา S Pen ค้างใว้เราก็จะสามารถ
ตัดภาพหน้าจอ โดยไม่ต้องจับภาพหน้าจอก่อนอีกแล้ว

Airview เมื่อเราจ่อ S Pen ไปใกล้ๆ Folder, วีดีโอ, E-Mail และ S Planner
รวมทั้งคำสั่งใช้งานต่างๆใน S Note ก็จะพรีวิวรูปภาพหรือข้อมูลให้เราได้เห็น
นอกจากนี้เวลาเราเล่นวีดีโอ ถ้าเอาไปจ่อตรงแถบช่วงเวลา มันจะจะพรีวิววีดี
โอช่วงนั้นๆให้เราได้เห็นครับ ตอนแรกผมคิดว่าไม่จำเป็น แต่ที่ไหนได้ผมว่า
สะดวกนะเนี่ย

Add Image Note เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจดีครับ สำหรับเวลาเราถ่ายภาพหรือ
เจอภาพที่อยากเขียนรายละเอียดสำคัญๆกำกับใว้ คำสั่งนี้จะช่วยให้เราเขียน
ข้อความเอาใว้ที่ด้านหลังภาพได้ เก๋มากนะครับเนี่ย

สำหรับ S Note ได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ความสามารถที่เคยใส่ใว้ในเจ้า
Galaxy Note 10.1 ก็มีมาให้ด้วย แถมยังมีความสามารถใหม่ที่น่าสนใจมาก

โดย S Pen รุ่นใหม่มีการพัฒนาให้ใช้ร่วมกับโปรแกรม S Note ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถบันทึกสีเก็บใว้แล้วเวลาจะใช้ เราเลือก
เปลี่ยนสีของปากกาได้โดยกดปุ่มบน S Pen โดยเอาไปจ่อใกล้ๆหน้าจอเพื่อ
เลือกสี เมื่อเลือกจนสุดแล้วจะเป็นยางลบ และเมื่อกดค้างจะลัดเข้าไปสู่คำ
สั่ง Idea Sketch

Color Picker คนที่ทำโปรแกรมตกแต่งภาพเป็นก็คงคุ้นเคยดี มันก็คือการ
ดูดสีจากภาพมาใช้ครับ และสามารถบันทึกเก็บใว้ใช้ได้อีกด้วย

ในภาพเป็นอดีตสัตว์เลี้ยงของน้องชายผมครับ มันเป็นตุ๊กแกต่างประเทศ ผม
ว่ามันน่ารักและสวยงามมากเลย ตอนนี้มันไปดีแล้วละครับ=__=

ใน Samsung Galaxy Note II สามารถเขียนข้อความต่างลงบน S Planner
ได้แล้ว คราวนี้ก็ใช้งานแบบที่พวกอากงอาม่าชอบเขียนนัดหมายต่างๆเอาใว้
บนปฏิทินกันได้เลย อิอิ

Idea Sketch มันทำมาเพื่อคนที่ไม่ถนัดวาดรูปครับ ซึ่งสามารถเลือกได้จาก
เมนูย่อยของ S Note หรือกดปุ่ม S Pen ค้างใว้และเขียนชื่อสิ่งที่เราต้องการ
จะวาด จากนั้นก็จะมีภาพวาดสำเร็จรูปให้เราเลือกใช้เพียบเลยครับ

สำหรับ Idea Sketch ไม่ได้พิเศษแค่มีภาพสำเร็จรูปเอาใว้ให้ใช้แค่นั้นแต่เรา
ยังสามารถวาดภาพของตัวเองเก็บใว้ใช้ภายหลังได้อีกด้วย แถมยังสามารถ
เอามาวาดต่อเติมได้อีกด้วยนะครับ ผมว่าน่าสนุกมากเลย

S Note Recording สามารถบันทึกการวาดภาพ หรือกิจกรรมต่างๆที่ทำบน
S Note ให้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ มีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการนำเสนอ
ผลงาน หรือใช้ในการเรียนการสอนได้สบายเลย ผมก็เลยลองวาดรูปให้ดูกัน
ซักภาพนะฮะ ผมว่าวาดเสร็จแล้วเอามาเปิดดูนี่สุดเพลินเลยครับ^__^

สำหรับ S Note Recording ผมว่ามันเจ๋งมากครับ จะติก็ตรงถ้าจะดูเป็นภาพ
เคลื่อนไหว ต้องเล่นบน S Note เท่านั้นมันแปลงออกมาเป็นวีดีโอไม่ได้ครับ
ผมอยากให้แก้จุดนี้มากๆเลย ถ้าสามารถ Export เป็นวีดีโอได้จะเยี่ยมมากๆ

Quick Command เป็นการเลือกใช้งานโดยการป้อนคำสั่งผ่าน S Pen โดย
จะมีสำเร็จรูปมาให้แล้วเช่นการค้นหา Internet, เปิดดู E-Mail, เปิดใช้แผนที่
และเลือกโทรออก และเปิดดูข้อความ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสัญลักษณ์
ขึ้นมาเองเพื่อเปิดใช้งาน App หรือฟังก์ชั่นต่างๆในเครื่องได้ ผมว่ามันก็เจ๋งดี
นะครับ เป้นลูกเล่นที่เหมาะกับการใช้คู่กับ S Pen มากๆถ้าใช้ได้คล่อง

และเพื่อป้องการปากกา S Pen หายก็มี S Pen Keeper ให้เราเลือกใช้ โดย
จะมีเสียงและป๊อบอัพเด้งขึ้นมาแจ้งเตือน ถ้าเรื่องเคลื่อนที่เกินประมาณ 10
ก้าวโดยไม่มี S Pen เสียบอยู่ที่เครื่อง (อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ก็อยู่ที่การ
ขยับของแต่ละคน)

ในเครื่องจะแถม App Paper Artist ซึ่งเป็นโปรแกรมแต่งภาพที่น่าสนใจนะ
ครับ เพราะภาพที่บันทึกออกมา จะมีขนาดความละเอียดที่เอาไปทำงานสิ่ง
พิมพ์ต่อได้เลย แถมลูกเล่นต่างๆยังดูสวยงามดีด้วย

สำหรับ Browser ผมว่าสุดยอดครับทำงานรวดเร็วมากๆ ไม่มีสะดุดหรือความ
หน่วงให้เห็นเลย แม้จะเปิดพร้อมๆกันตั้งหลายหน้าก็ยังทำงานได้ดีมาก

เครื่องเล่นเพลงจะเหมือนๆกับใน Samsung Galaxy S III นะครับสามารถ
ปรับ EQ ทั้งแบบสำเร็จรูปและปรับด้วยตัวเองก็ได้ ส่วนชิพเสียงจะเป็นเจ้า
Wolfson Micro WM1811 สุดเทพเหมือนกันหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ครับลอง
สอบถามในงานแล้ว เจ้าหน้าที่ของทาง Samsung ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่
เท่าที่ฟังดูคุณภาพเสียงผ่านหูฟังของ Samsung Galaxy Note II ก็ถือว่าดี
ทีเดียวนะครับ และเสียงผ่านลำโพงก็ดังดีไม่แตก

วิทยุก็เหมือนๆ Galaxy S III ครับยังต้องใช้หูฟังเป็นเสาอากาศ ที่เจ๋งมากเช่น
เคยก็คือสามารถอัดรายการวิทยุเก็บเอาใว้ฟังได้ด้วย

เครื่องเล่นวีดีโอสามารถเล่น Full HD 1080P ได้ลื่นไหลดีมากลูกเล่นเหมือน
ใน Galaxy SIII มีโหมด Chapter Preview สำหรับชมช่วงเวลาของวีดีโอได้
เหมือนใน DVD และมีโหมดตัดต่ออีกด้วย ที่เพิ่มขึ้นมาคือสามารถใช้ S Pen
จ่อตรงแถบช่วงเวลา มันจะจะพรีวิววีดีโอช่วงนั้นๆให้เราได้เห็น และตรงด้าน
บนจะมีเครื่องหมายตรงกลางสำหรับจับภาพนิ่งของวีดีโอ

Popup Play ลูกเล่นย่อวีดีโอเป็นหน้าจอขนาดเล็ก โดยสามารถทำงานอย่าง
อื่นไปด้วย ยังมีมาให้เช่นเคยและมีการปรับปรุงเพิ่มเติม โดยถ้าเราแตะไป 1
ครั้งจะเป็นการหยุดและมีเครื่องหมายปิดขึ้นมา ถ้าต้องการให้ขยายเข้าโหมด
ปกติต้องแตะ 2 ครั้งครับ

ในส่วนของการเล่นเกมแน่นอนครับ Spec ขนาดนี้เล่นเกม 3D ไหลลื่นมากๆ
ครับ ไม่มีปัญหาแต่ผมก็เจอนะครับว่า ลองบางเกมแล้วมันโหลดไม่ขึ้น แต่ว่า
ส่วนมากก็จะเล่นได้หมดครับ^^

กล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ 1080P 30fps กล้องหน้า 1.9MP บัน
ทึกวีดีโอ HD 720P คุณภาพรูปถ่ายผมว่าพอๆกับ Galaxy SIII ส่วนลูกเล่นดู
จะแตกต่างนิดหน่อย ตัวนี้มี BSI Sensor ช่วยให้ถ่ายภาพสภาพแสงน้อยได้
ดีขึ้นมี Touch Focus และ Zero Shutter Lag และ Burst Shot ถ่ายภาพได้
ต่อเนื่อง 20 ภาพมี Best Photo ถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพและมันจะเลือกที่ดี
ที่สุดให้เรา มีจับใบหน้าหรือรอยยิ้มอัตโนมัติ มีโหมด Panorama และโหมด
HDR มีโหมด Beauty และโหมด Low Light ช่วยในการถ่ายสภาพแสงน้อย
นอกจากนี้ยังสามารถใส่ Effect ต่างๆเวลาถ่ายภาพได้อีกด้วย

และมีโหมดที่ทาง Samsung เน้นเป็นพิเศษอย่าง Best Faces ซึ่งก็คือทำให้
สามารถถ่ายภาพเพื่อน 5 ภาพจากนั้นก็นำใบหน้าที่คิดว่าดีที่สุดมาเลือกใส่
ลงไป เท่านี้ก็แก้ปัญหาคนที่ถ่ายภาพแล้วไม่พอใจจะได้เลือกได้ตามใจชอบ
ครับ (ว่าไปลูกเล่นนี้ก็มีใน Oppo ทำมาก่อนแล้ว และมี App แนวนี้ทำออก
มานานแล้วนะครับ)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Note II ไปชมเพิ่มเติมได้ที่นี่
นะครับ^^

ข้อดีของ Samsung Galaxy Note II

1. ตัวเครื่องดูสวยงามมีการปรับปรุงรูปทรงให้จับถนัดยิ่งกว่าเดิม ออกแบบ
มาได้ดีเหลือขอบจอน้อย วัสดุและการประกอบคุณภาพดี (สีเทาสวยมาก)

2. หน้าจอขนาดใหญ่ Super AMOLED 720 x 1280 pixels ขนาด 5.5 นิ้ว
(267 ppi) กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 2 หน้าจอแบบใหม่มีเพิ่ม
Sub Pixels ดูเนียนตากว่าเดิม

3. CPU Exynos 4412 Quad-core 1.6 GHz Cortex-A9, GPU Mali-400MP
RAM 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB (เหลือให้ใช้ 10.36GB) สามารถเพิ่ม
หน่วยความจำภายนอกได้ 64GB มาพร้อม Android 4.1 (Jelly Bean)

4. กล้องความละเอียด 8MP บันทึกวีดีโอ 1080P 30fps กล้องหน้า 1.9MP
บันทึกวีดีโอ HD 720P คุณภาพดีและมาพร้อมลูกเล่นที่อัดมาเต็มที่

5. ลูกเล่นทุกอย่างที่มีใน Galaxy SIII จัดมาครบใน Galaxy Note II แถมยัง
ใส่มาให้มากกว่าเดิม

6. ปากกา S Pen ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นและ S Note ที่ใส่ลูกเล่นมาเพียบ

7. รองรับ 3G ทุกเครือข่าย

8. แบตเตอรี่ความจุ 3030 mAh ให้มาเยอะสมกับ Spec

ข้อด้อยของ Samsung Galaxy Note II

1. หน้าจอตรงบริเวณขอบๆจอด้านข้าง เขียนติดยากนิดหน่อย

2. วัสดุโพลีคาร์บอเนตเครือบผิว Hyperglaze ทั้งตัวทำให้ตัวเครื่องดูพลาส
ติคๆไปหน่อย น่าจะเลือกวัสดุโลหะเข้ามาประกอบบ้าง

3. ขนาดตัวเครื่องใหญ่และมีน้ำหนักมาก

4. การใช้งาน Gallery มีอาการหน่วงๆในบางครั้ง

5. ด้านหลังบริเวณกล้องแนบไปกับพื้น อาจจะทำให้เลนส์กล้องเป็นรอยได้

สำหรับ Samsung Galaxy Note II ผมว่ามันเป็นมือถือที่เยี่ยมมากครับ ลูก
เล่นที่ทาง Samsung ใส่มาผมว่ามันเยอะมากจนใช้กันแทบจะไม่ครบแน่ๆ
แถมเล่นเอา Galaxy SIII ที่ออกมาก่อนแพ้ยับเยินเลยครับ ถึงจะบอกว่ามัน
คนละแนวกันก็ตาม ซึ่งข้อดีเดียวของ SIII ที่จะเหนือกว่า Note II ก็ตรงงาน
ออกแบบสวยกว่า และขนาดบางเบากว่าเท่านั้นเอง

S Pen ออกแบบมาดีมากจับถนัดและความรู้สึกในการเขียนน่าพอใจ แต่ผม
ว่าการเขียนบน Note 10.1 มันสนุกกว่าครับด้วยขนาดที่แตกต่างกันด้วยและ
หน้าจอบริเวณขอบๆจอด้านข้างของ Note II มันเขียนติดยากชอบกลติดบ้าง
ไม่ติดบ้างนะครับ

ผมว่า Samsung Galaxy Note II มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือ Spec
สูงหรือคนที่ต้องการมือถือที่มีฟังก์ชั่นแพรวพราว รวมทั้งคนที่ต้องการมือถือ
ที่สามารถใช้ปากกาเขียนได้แบบคุณภาพสูง ทุกอย่างที่ว่ามามันรวมอยู่ใน
มือถือเครื่องนี้จริงๆครับ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะชอบเจ้า Galaxy Note II เพราะ
ด้วยขนาดที่ใหญ่มากแถมมีน้ำหนักเยอะ ก็อาจจะทำให้หลายๆคนมองหารุ่น
ที่บางเบากว่านี้ แต่ส่วนตัว Samsung Galaxy Note II มันยั่วใจจนผมแทบจะ
ขาย SIII ไปซื้อเลยละครับ เหอ เหอ (แต่จริงๆถ้าใครไม่สน S Pen ผมว่าก็
ใช้ SIII ต่อไปก็ยังแจ๋วอยู่นะ เพื่อนผมก็พึ่งซื้อ SIII ไม่รอ Note II เหมือน
กันเพราะขนาดนี่ละ)

ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12726774/T12726774.html
http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12726811/T12726811.html