สวัสดีครับชาวพี่ๆ น้องๆ ชาว Droidsans ทุกคนนะครับ

วันก่อนตอนที่ Samsung ได้มา Training เจ้า Galaxy SII ที่บริษัท ใน Presentation มีระบบระบบหนึ่งซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่ระบบใหม่ แต่ผมให้ความสนใจเจ้าระบบตัวนี้มาก เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มันยังใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและเพิ่งจะมาใช้ได้เต็มประสิทธิภาพกับเจ้า Galaxy SII เครื่องนี่เป็นเครื่องแรก นั่นก็คือ Lost Phone Management หรือ Samsung DIVE นั่นเอง

Samsung DIVE ก็คือระบบติดตามตัวเครื่องที่หายนั่นหล่ะครับ แต่ประสิทธิภาพของเจ้าตัวนี้มันไม่หมดแค่นั้น เพราะซัมซุงเค้าชูโรงว่าของเค้าเนี่ยสามารถทำได้ 3 Concept ดังนี้
– Track and Ring
– Lock and Wipe Out
– Show Call Logs

แค่ Concept หนุ่มๆ ก็เริ่มร้อนๆ หนาวๆ กันแล้วใช่มั๊ยครับ ซึ่งวันนี้ผมจะมารีวิวความสามารถของเจ้า Samsung Dive ตัวนี้ให้ดูกันครับว่ามันเทพเหมือนที่พี่ซัมซุงเค้าโม้เอาไว้หรือป่าว 😛

อย่างแรกเลยก่อนที่เราจะใช้งานเจ้า Samsung Dive ได้เราจะต้องมี Samsung Account ซะก่อน ให้เราเข้าไปที่ www.samsungdive.com แล้วจะมีลูกษรอันเบ้อเริ่มอยู่กลางจอว่า Log In จิ้มมันลงไปเลยครับ 😉 (สำหรับใครไม่สะดวกเปิดคอมหรือเปิดตอนนั้นไม่ได้ก็สามารถสร้าง Account ผ่านมือถือได้นะครับ ดูกันในหัวข้อถัดไปนะครับ)

จากนั้นจะเปลี่ยนมาอีกหน้าซึ่งถ้าใครมี Samsung Account อยู่แล้วก็สามารถ Login ได้เลยครับ ส่วนใครที่ยังไม่มีก็กดที่ Create a samsung account ได้เลย :=D

ในการสมัครก็ง่ายๆ เหมือนการสมัคร account ตามเว็บทั่วไปครับ กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนแล้วกัน ส่วนที่อยู่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ สมัครเสร็จแล้วอย่าลืมเข้าไปยืนยัน Confirm ในอีเมล์ที่ใช้สมัครด้วยนะครับ 🙂

ต่อมาหลังจากเรามี Samsung Account เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาตั้งค่า Samsung Account ให้กับน้อง SII ของเราครับ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ (ขอบคุณเครดิตภาพจาก SamsungDIVE ครับ :aprove: )
เข้าไปที่ Setting > Account and Sync > Add Account > Samsung Account ซึ่งมาถึงตรงจุดนี้แล้วเรามี Account อยู่แล้วก็สามารถ Login ได้เลยครับ ไม่ต้องทำการสมัครใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะข้ามขั้นตอนในการสมัครในภาพไปได้เลยครับ (หรือใครยังไม่ได้สมัครจากขั้นตอนก่อนหน้าก็สมัครตอนนี้ได้เลยครับ)

หลังจากเราทำการ Add account เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราต้องมาทำการเปิด Remote Functions กันก่อนครับโดยเข้าไปที่ Setting > Location and Security > หัวข้อ Find my mobile ครับ ให้จัดการติ๊กถูกหลัง Remote Functions เลยครับ ซึ่งโดยปกติหลัง Ad account มันจะติ๊กอยู่แล้วครับ :=D

จากในหัวข้อนี้จะเห็นว่ามันมี SIM Change Alert อยู่ด้วย ซึ่งถ้าเราเปิดใช้งานตัวนี้มันจะทำให้ตัวเครื่องเราทำการส่งข้อความออกไปยังหมายเลขปลายทางที่เราทำการกำหนดเอาไว้ และจะใช้ร่วมกับ Samsung DIVE ตอนที่ทำการสั่งล็อคเครื่องด้วยครับ เพราะฉะนั้นจะตั้งไว้ก็ไม่เสียหาย จิ้มโลด :aprove:

หลังจากจิ้มไปมันก็จะเรียกร้องหา Password ทันที ก็กรอกไปซะ

หลังจากเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้วต่อมาเราจะมาตั้งค่าการใช้งานกันโดยเข้าไปที่ Alert Message recipents ครับ ซึ่งมันจะเรียกร้องหา Password เหมือนกันก็กรอกให้มันไปครับ B-)

จากนั้นเมื่อเข้ามาได้แล้วก็กรอกเบอร์โทรศัพท์ปลายทางที่ต้องการให้รับข้อความได้เลยครับซึ่งสามารถเพิ่มหมายเลขที่ต้องการได้นะครับ แล้วก็จัดการเขียนข้อความที่ต้องการส่งไปซะ แล้วก็กด Done เป็นอันเรียบร้อยครับ :thumbup:

จัดการตัวเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับเข้ามาที่ www.samsungdive.com กันอีกครั้งครับเพื่อทดสอบการทำงานมันว่าเครื่องเราทำงานได้แล้วจริงหรือป่าว 😛

ซึ่งคราวนี้เมื่อ Login เข้ามาเรียบร้อยคราวนี้หน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้วครับ เราจะมาอยู่ที่ Track and Control ของ Samsung Dive เรียบร้อยแล้วครับ(สำหรับใครที่ขึ้นเป็นรูปหมุดก็ให้กดเข้าไปที่หมุดตัวนั้นเลยครับ มันจะมาหน้านี้เองหรือเข้าที่ Remote Control ดานบนก็ได้ครับ)

สำหรับคนที่เข้าครั้งแรกจะขึ้นเป็นรูปโทรศัพท์วางพิงกับโลกนะครับ แต่ของผมเคย Login เข้ามาแล้วมันเลยกลายเป็น Location ล่าสุดแทนครับ 😮

ข้อสำคัญของการใช้งานทั้งหมดอยู่ที่ การเชื่อมต่อ Internet ครับ ถ้าเครื่องเราไม่ได้เชื่อมต่อ Internet อยู่ Samsung DIVE จะทำงานไม่ได้เลยครับ ถ้าตอนเครื่องเราหายเราเปิด EDGE ไว้หรือคนเอาไปเล่นแล้วเปิด WiFi หรือ EDGE นั่นคือโอกาสของเราครับ ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากที่คนเอาไปจะต้องใช้งาน Internet อย่างแน่นอนหรือไม่งั้นเราก็เปิดทิ้งกันไว้เป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว เราก็จัดการเข้า Samsung DIVE แล้วสั่ง Find my mobile เลยครับ โปรแกรมจะทำการหาตำแหน่งของเครื่องเราให้เองครับ 😉

หลายคนอาจจะสงสัยนะครับว่าถ้าเราไม่เปิด GPS มันก็ไม่มีทางหาสถานที่หรือที่อยู่ของเราได้สิ พวก Internet ก็ว่าไปอย่าง ยังไงก็ต้องใช้แน่ๆ ไม่ WiFi ก็ EDGE หล่ะ แต่ GPS างคนไม่ใช้ด้วยซ้ำแล้วมันจะเปิดได้ยังไง ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ เพราะจากการทดสอบของตัวผมเองมันทำให้ผมถึงกับอึ้งในความสามารถของมันครับเพราะว่า “มันสามารถสั่งการทำงานของ GPS ให้เปิดใช้งานได้ด้วยตัวเอง” น่าทึ่งมั๊ยหล่ะครับ 🙂

ยังไม่หมดแค่นั้นครับ หลังจากมันสั่งเปิดการทำงานของ GPS เรียบร้อยแล้วมันก็จะทำการส่งข้อมูลเพื่อเข้าและออกเพื่อรับทราบสถานที่ ซึ่งถ้ามีการกระพริบของ GPS อยู่ตลอดก็อาจจะผิดสังเกตุได้ ดังนั้นตัวมันจึงทำการแจ้ง Notice ขึ้นมาครับ แต่มันแจ้งว่าอะไรลองไปดูในรูปครับ 😮


ครับผม มองไม่ผิดหรอกครับ มันหลอกผมเต็มเปาเลย มันขึ้นว่า Software Update ครับ โอ้วพระเจ้า!!! ลุงซัมเล่นหลอกกันถึงเพียงนี้เลยหรือ 😛

หลังจากรู้วิธีการทำงานของมันแล้วเราลองมาดูครับว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร 🙂

นอกจากแบบแผนที่แล้วยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบดาวเทียมได้ด้วยนะครับ 😉

เราสามารถย่อขยายแผนที่จากระดับถนนไปจนถึงประเทศหรือทวีปได้อีกด้วยนะครับ 🙂


ต่อมาในส่วนของ Mobile Tracking เราก็ทำการกดที่ Start Tracking ครับ แล้วโปรแกรมจะทำการเก็บข้อมูลสถานที่ของเครื่องของเราทุกๆ 15 นาทีเป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง!!!! โอ้โห เล่นเก็บกันแบบนี้ไปเข้าอ่างไหนเราก็ตามได้สบายเลยจิ 😛 (ในส่วนนี้ยังไม่ได้ลองขยับไปไหนเลยยังไม่สรุปผลนะครับ พรุ่งนี้จะลองเทสแล้วมาอัพเดทให้อีกครั้งครับ)

ต่อมาเป็นคุณสมบัติที่คิดว่าเจ๋งเป๋งและสุดยอดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Lock ครับ ในการ Lock เราสามารถกรอกข้อความที่จะแสดงเมื่อเครื่องล็อคแล้วให้คนที่เก็บได้อ่านได้ครับ สามารถเขียนได้ไม่เกิน 100 ตัวอักษรครับ (**ภาษาไทยใช้ได้นะครับ ขอบคุณคุณ deawit40 ที่ช่วยทดสอบครับ) และยังสามารถทำการ Lock การโทรได้ด้วยโดยให้โทรได้เฉพาะเบอร์ที่เรากำหนดเท่านั้น ซึ่งส่วนมากก็คงตั้งเป็นเบอร์สำรองไว้สำหรับโทรมาบอกว่า เจอแล้ว ซึ่งก็คงยาก ยกเว้นคนเราจะมีน้ำใจจริงๆ นะครับ นอกจากนั้นเบอร์นี้ยังเป็นเบอร์ที่ช่วยส่งข้อความบอกเวลามีคนเปลี่ยนซิมอีกด้วยครับ สะดวกดีใช่มั๊ยหล่ะ

หลังจากตั้งค่าข้อความและเบอร์แล้วต่อมาก็มาถึงรหัสปลดล็อค 4 ตัวครับ ใช้รหัสไหนปลดล็อคก็กดไปเลย แล้วอย่าลืมใส่ Password ของ Samsung Account ทุกครั้งด้วยนะครับ ไม่งั้นก็จะไม่สามารถ Lock เครื่องได้นะเออ 😛

หลังจากกรอกเสร็จแล้วก็ทำการกดที่ Lock ได้เลยครับ โปรแกรมจะทำการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ในเฟสแรก ซึ่งตอนนั้นโทรศัพท์เราจะขึ้นเป็นการ Update Software อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ครับ เมื่อทำการเชื่อมต่อได้แล้วก็จะถึงเฟสการล็อคครับผม เท่านี้เครื่องเราก็ปลอดภัยไปได้เปราะนึงแล้วครับ :thumbup:


เราลองมาดูที่ตัวเครื่องกันครับว่าเวลาเครื่องโดนล็อคหน้าตาจะเป็นยังไง ตอนที่ล็อคยังสามารถใช้ Screen Capture ได้ปกตินะครับ แต่จะไม่มีข้อความแจ้งเท่านั้นเองว่ากำลังจับหน้าจออยู่ ตัวเครื่องจะโดนล็อคพร้อมแสดงข้อความที่เรากรอกขึ้นมาครับ และมีให้โทรฉุกเฉินตามเบอร์ที่เรากำหนดไว้และปลดล็อคด้วย PIN ครับ ถ้าไม่รู้ก็หมดสิทธิ์ที่จะปลดล็อคเครื่องครับ 🙂


ถัดจากคุณสมบัติ Lock ที่เจ๋งๆ แล้ว เราลองมาดูความสามารถ Ring กันบ้างครับ อันนี้ไม่มีอะไรมากครับคือสั่งให้โทรศัพท์สั่นและส่งเสียงออกมากวนคนเอาเครื่องไปเล่นๆ ครับ ถึงเค้าจะกด Stop ไปแล้ว เราก็สั่งใหม่ได้ตลอดเวลาครับ แต่ก่อนจะสั่งต้องใส่ Password ของ Samsung Account ทุกครั้งนะครับ เท่านี้เราก็กวนประสาทคนขโมยได้อย่างสาสมใจแล้วครับ 😉

หน้าตาน้อง SIIตอนมีเสียงดังครับ เสียงที่ดังออกมาจะเป็นเสียง Default นะครับ ยังไม่ทราบว่าต้องเปลี่ยนตรงไหนเหมือนกัน แต่แค่เสียงธรรมดาก็กวนใจได้มากพอแล้วครับ 😛

ต่อไปถือเป็น 1 ในหลายๆ หายนะที่ Samsung DIVE จะพามาให้คุณผู้ชายเจ้าชู้ทั้งหลายได้ มันคือความสามารถ Call Logs ครับ จากชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นการเรียกดูบันทึกการสนทนา แต่ดูได้ละเอียดแค่ไหนมาดูกันครับ เพียงแค่เรากดที่ปุ่ม Retrieve แล้วก็รอเท่านั้นครับ :aprove:

มาดูที่เครื่องเรากันบ้าง ตอนนี้ Notice จะเปลี่ยนไปแล้วครับ จะกลายเป็น Syncing แทน เป็นลูกกลมๆ เขียวๆ ก็ไม่ได้ผิดสังเกตุอะไรสำหรับคนไม่รู้เรื่องนะครับ เพราะเค้าก็คงไม่รู้จริงๆ ว่ามันทำอะไรอยู่ 😛


เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลเสร็จแล้ว และแล้วก็จะมาถึงหายนะแล้วครับ มาดูกันครับว่า Call Logs ที่แจ้งออกมานั้นหน้าตาเป็นยังไง……

…..อย่างที่เห็นครับ มันแสดงออกมาทั้งหมดเลยทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้าโทรออกหรือไม่ได้รับสาย(ขออนุญาติปิดนะครับ) รวมถึงวันที่และเวลาที่โทร และที่หนักหนาสาหัสสุดเลยคือ มันแสดงเวลาในการคุยด้วยครับ……. 😥

หายนะมาแล้วท่านชายทั้งหลาย ถ้าแฟนท่านควบคุมโทรศัพท์นี้ได้เมื่อไหร่ ความลับที่ท่านคุยกับกิ๊กทุกคนเป็นเวลาต่างๆ และระบะเวลาคุยจะอยู่ในมือแฟนท่านอย่างง่ายดาย เตรียมคำแก้ตัวกันให้ดีนะครับ ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน 😡

มาถึงคุณสมบัติสุดท้ายแล้วครับ นั่นคือ Wipe Out ต้องบอกว่าเป็นคุณสมบัติที่แสบทรวงที่สุดในบรรดาทั้งหมดเลยครับ เจ้า Call logs เห็นไปยังแก้ตัวได้ แต่อันนี้แก้ตัวไม่ได้แล้วนะครับ หันกับหลังไม่ได้ด้วย

ก่อนที่จะทำการ Wipe Out ระบบจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานและลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้เรายอมรับซะ หลังจากนั้นใส่ Password ของ Samsung Account แล้วก็จัดการลงทัณฑ์มันผู้นั้นได้เลยครับ!!!! 😡

อันนี้ผมไม่ได้ลองนะครับ และไม่อยากลองด้วย ใครลองแล้วได้ผลยังไงมาแจ้งผมด้วยนะครับ 5555 :=D

ก็จบลงเพียงเท่านี้นะครับสำหรับการ Review ระบบรักษาความปลอดภัยและข้อมูลตัวเครื่อง Samsung DIVE ตัวนี้ ถือว่าเป็นระบบที่ Samsung บรรจงสร้างให้ผู้รับได้ประโยชน์สูงสุดจริงๆ ถึงแม้ว่าต้องแลกกับการที่ Samsung อาจจะได้ที่อยู่ของเราไปก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลเราผมว่ามันก็ไม่เลวนะครับ 😉

ออ ลืมบอกไปอีกอย่าง ท่านชายหทั้งหลายระวังไว้ให้ดีนะครับ เพราะมันเป็นได้ทั้งยามและระเบิดในตัวเดียวเลยครับ เกิดบู้มขึ้นมาล่ะก็ตัวใครตัวมันนะครับ ผมไม่รับผิดชอบน้าาาา 😛