เป็น USB Adapter ของ Energizer ที่ช่วยให้การชาร์ทแบตเตอรี่ของ samsung galaxy tab ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือ ผ่าน battery emergency charger(eneloop/Zagg sparq/etc.) ให้เร็วขึ้น
ผมลองชาร์ทผ่าน Zagg sparq ใช้เวลา 40 นาที ชาร์ทเข้าไปแค่ 3%
แล้วลองเสียบผ่าน Energizer PC09 ใช้เวลา 10 นาที ชาร์ทเข้าไป 4%
เวลาเสียบตัวนี้แล้ว สัญลักษณ์ที่แบต จะมีรูปสายฟ้า เหมือนตอนเราใช้ปลั๊กของมันชาร์ท
ผมได้เจ้านี่มาจากบูธ energizer ใน it-city ที่เซ็นทรัลบางนา ในราคา 490 บาท เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว
เลยอยากมาแบ่งปันบอกเล่ากับเพื่อนๆชาว Tab ครับ
ปล.รูปไม่ขึ้นครับ
น่าสนใจมาก อย่างนี้ต้องลองไปหาซื้อมาลองใช้
ให้แก้ไขข้อความเดิม ใส่ code
[img]http://…. .jpg[/img]
รูปจะขึ้นนะครับ
ขอบคุณครับคุณป๋อง
ยินดีอยู่แล้วครับ … คนบ้านเดียวกัน อิอิ
ว่าแต่ สวยดีจัง ถ้าไม่ไกลจากกัน … ว่าอยากเจอ อยากเห็นตัวจริง
แบตจะไปเร็วป่าวครับถ้าใช้บ่อยๆ
ก็คงใช้เฉพาะ กรณีที่เราต้องรีบชาร์ทให้เต็มไวไว โดยชาร์ทผ่าน PC หรือ emergency batter charger ครับ
ชาร์จเร็วกว่า ไม่ได้แปลว่าดีกว่านะครับ สำคัญคือต้องรู้ว่าทำไมมันถึงเร็วขึ้น
เพราะตัวมันไม่ได้มี power ส่วนตัวอะไร แล้วมันไปทำอะไร
มันอาจเร็วขึ้น แต่ให้ผลร้ายต่ออายุการใช้งานของแบตก็ได้นะครับ
ชาร์ทเร็วก็ดีกว่าสิครับ ในกรณีที่เราต้องรีบออกจากบ้านแล้ว แบตไม่เต็มทำไงครับ ออกเลย ใช้ tab ได้ไม่นานแบตหมด
แต่ดูหัวข้อดีๆครับ ผมว่าใช้ชาร์ทกะ PC หรือ emergency battery charger
ชาร์ทเร็ว ก็คงไม่เกิน 2A. พอๆกับปลั๊กชาร์ทของตัวมันหรอกครับ ไม่งั้นชาร์ทกันทุกวัน ไม่มีผลร้ายต่ออายุการใช้งานของแบตเหรอครับ
ที่บอกว่าชาร์จเร็วดีกว่าในกรณีต้องรีบออกจากบ้าน… ฯลฯ ….
นั่นคือมองในแง่การใช้งานในวันนั้นอย่างเดียว … ถูกครับ มันดีกว่าในการใช้งานวันนั้น
แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับความเสียหายของแบต ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการ force ให้มันชาร์จเร็วนะครับ
มันคนละแง่กัน… ซึ่งผมตั้งข้อสงสัยในประเด็นของผลกระทบที่จะเกิดจากแบตในระยะยาว
ว่ามันจะมากน้อยหรือไม่ประการใด
ปกติ Tab จะฃาร์จจาก PC หรือ Notebook ไม่ได้ แต่ถ้าใส่เจ้านี่ไปแล้วทำให้ชาร์จได้ก็ดีมากเลย
เพราะถ้าหมดหนทาง จำเป็นขึ้นมา ก็ต้องเอาไว้ก่อน (ไว้เผื่อฉุำกเฉิน) ถึงแม้จะเกิดผลไม่ค่อยดีต่อแบตในระยะยาวก็ต้องยอม … นานๆ ครั้งคงไม่เท่าไหร่
ถ้าพูดถึงการชาร์จจาก PC ผมมีสายชาร์จอันนึง ที่มากับชุด TV out ที่สั่งมาถูกๆ โดยการชี้เป้าของคุณ Big_pongo น่ะ มันทำได้เลยเหมือนกัน … สงสัยจะมีอะไรเหมือนเจ้าตัว adapter นี้อยู่
แต่จะสรุปว่ามันไม่มีผลต่ออายุใช้งานของแบตคงบอกทันทีไม่ได้
ตามหลักแล้ว แบตจะมีอัตราการชาร์จที่เหมาะสม เร็วไปไม่ดีแน่นอน
น่าคิดเหมือนกันว่ามันจะทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ตามความเร็วของชาร์ตหรือเปล่า ผมถือคติว่าจะซื้ออะไรก็เอาให้มันดีๆไปเลย(มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ว่ะ)
ตัวนี้ไว้สำหรับกรณีที่เราต้องรีบชาร์ทให้เสร็จไวไวนะครับ สำหรับการชาร์ทผ่าน PC หรือ emergency battery charger ครับ ไม่ได้เอามาชาร์ททุกครั้งที่เราชาร์ทนิครับ
ดูหัวกระทู้ด้วยสิครับ
ถ้าจากการเดาแล้วมันเป็นวงจรเพิ่มกระแส ทำให้ชาร์จไวขึ้น แต่ความเสียงก็มีเช่น batt ร้อน จนอาจจะทำให้ระเบิด เพราะคนผลิดเขาคำนวณใว้แล้ว เขาไม่ทำให้กระแสมากเกินความเสี่ยงที่ทำให้แบตพังหรอก
555+ K.dolphinx อย่างอนไปเลยครับ
ผมว่า ดีแล้วแหละ ที่แวะมาโพสต์บอกเพื่อนๆ สมาชิก อย่างที่เราเข้าใจ บอร์ดมันก็คือ แหล่งของความคิดสาธารณะ มุมมอง มีต่าง มีเหมือน มีค้าน มีหนุน… ไม่อยากให้งอน
ผมกลับมองว่า เป็นสิ่งที่ดี ดีสำหรับเพื่อนๆ ทั้งที่เป็นและไม่เป็นสมาชิก จะได้เจอของใหม่ๆ
ส่วนการนำไปใช้ ประโยชน์ที่ได้ ผลข้างเคียง ทางผมเองก็ตอบไม่ได้ ก็คงต้องหวังพึ่งผู้รู้จริงๆ หรือเมพๆ ด้านนี้โดยตรง ว่าแต่… ไม่รู้ว่าจะหา spec. เต็มๆ ของอุปกรณ์ตัวนี้ได้ไหมหนอ … มีชื่อรุ่น มีอะไรพอสังเกตไหมครับ
ที่ผมเข้าใจก็คือ ว่า … อุปกรณ์มันก็มีหลากหลาย ตอบสนองผู้ใช้งานหลายคน หลายแบบ … แล้วแต่ความชอบ และความพึงพอใจ … ถ้ามันไม่มีผลข้างเคียงมาก ก็น่ายอมรับ แต่ถ้ามันมีผลข้างเคียง กับอุปกรณ์ (แบตฯ ในที่นี้) ก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน
ยังไงก็… ขอบคุณอีกครั้งที่แวะมาบอกกล่าวกันครับ … หวังว่า คงจะมีเมพๆ ด้านนี้ มาช่วยดู และแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ
ขอบคุณมากครับคุณป๋อง
เรื่อง spec. ผมกำลังหาข้อมูลอยู่
หายากเหมือนกัน
ชื่อรุ่น PC01
กระแสต่อต้านเยอะแฮะ
ปล.ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้าแวะมา
วิดีโอสาธิตการใช้งาน
Play video
ข้อมูลยังไม่มี เป็นแค่ accessories ในเวปของ energizerpowerpacks ครับ(ในเวปเป็นของ IPAD สีขาว)
http://www.energizerpowerpacks.com/us/products/accessories.html
ผมหาข้อมูลดู ได้ pdf มา แต่ก็ไม่เห็นจะมีรายละเอียดอะไร เท่าไรเลยครับ
http://tipfinder.xpalpower.com/PC09_EN.pdf
มี note ว่า หากใช้กับตัว XPAL ก็ชาร์ทได้แค่ตามความสามารถของ XPAL เท่านั้น
เช่น จ่ายได้สูงสุด 1A ก็ไม่สามารถชาร์ทได้มากกว่านั้น
ดังนั้นจึงชาร์ทได้ช้ากว่าตัว Charger ของ Samsung ที่จ่ายกระแสได้มากถึง 2A
ขอบคุณมากครับ
ผมก็ลืมไปที่ package ก็มีคู่มือ…
เท่าที่ดู แล้ว PC09 น่าจะเป็นตัวปรับแอมป์ให้สูงขึ้นน่ะครับ เพื่อให้ใช้ไฟจาก USB Port หรือ External Battery ที่มีแอมป์ต่ำได้เร็วขึ้น ดังนั้นไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อแบตฯของ Tab ครับ เพราะชาร์จเจอร์ของ Tab มี Output ที่ 2 แอมป์ ซึ่งสูงอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่า PC09 จะให้แอมป์เท่าไหร่ แต่ไม่น่าจะสูงกว่า 2 แอมป์แน่นอน
*** การใช้ไฟจากชาร์จเจอร์ที่มีแอมป์สูงกว่า Spec ที่ระบุไว้ จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น แต่ส่งผลให้ Cycle ถูกเร่งให้เร็วขึ้น ทำให้แบตฯเสื่อมเร็วขึ้น เช่น Charger ระบุว่ามี Output อยู่ที่ 500 mA แต่ผมใช้ ชาร์จเจอร์ 1A ทำการชาร์จ 1 ครั้ง แน่นอนชาร์จเร็วเกือบเท่าตัว แต่ส่งผลให้ Cycle เพิ่มเป็นสองเท่าตัวเช่นกัน เท่ากับคุณชาร์จ ไป 2 ครั้ง แต่ส่วนตัวผมก็ใช้ Charger ที่แอมป์สูง ชาร์จอุปกรณ์ (ส่วนใหญ่จะเป็นโทรศัพท์) ในกรณีเร่งรีบ แต่ก่อนนอนผมก็จะใช้ Charger ที่มีแอมป์ต่ำกว่า Spec นิดหน่อย ชาร์จแทน จะชาร์จช้ามากกกก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็ปล่อยชาร์จข้ามคืนอยู่แล้ว จะช่วยถนอม เพิ่มอายุการใช้งานได้ เหมือนเป็นการเฉลี่ยๆกันไป
ช่วงแรกถูก แต่ช่วงหลัง *** ไม่ถูกนัก ที่ว่าผิดคิอ เราไม่ทราบว่าชาร์จด้วยกระแสเกินจากสเปกได้มากๆ มันเกินได้เป็น % อธิบายง่ายๆคือ ถ้าสเปกมันให้ชาร์จด้วยอแดปเตอร์ 2A เราก็ควรใช้แอปเตอร์ใกล้เคียง 2A คาดเคลื่อนนิดหน่อยไม่เป็นไร เช่น 2.1 หรือ 2.2 หรือจะน้อยกว่าคือ 1.9 หรือ 1.8 มาชาร์จก็ไม่เป็นไร ระยะเวลาการชาร์จเต็มก็จะอยู่ในเกจเท่าเดิม เช่น 3 ชม.เติม ก็จะไม่คาดเคลื่อนมากนัก
แต่ไม่ใช่ว่า สเปกใช้ 2A แล้ว 3 ชม.เติม แล้วใช้ อแดปเตอร์ 4A แล้วจะใช้เวลาชาร์จเต็มเหลือ ชม.ครึ่งนะครับ มันก็ยังใช้เวลาประมาณเท่าเดิมคือ 3 ชม.คาดเคลื่อนนิดหน่อยอยู่ดีนะครับ เพราะเสปกมันกำหนดให้นำไปใช้งานได้แค่นั้น แต่ผลที่คิอส่วนเกินมันเป็นลอสแล้วเราลอสนี้มันชอบแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนด้วยสิ แล้วเจ้าความเจ้านี้แหละที่เป็นตัวทำลายอายุแบต ซึ่งไม่เกี่ยวกับไซเซิลครับ
เสริมอีกนิด แต่ในกรณีชาร์จด้วยกระแสที่ต่ำกว่าสเปก ชาร์จได้แต่ใช้เวลาแปรปันตามกระแสที่ชาร์จเข้าไปคือ 2A 3 ชม. ถ้าชาร์จ 1A ก็ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. แล้วเจ้าพอร์ต usb ทั่วไปมันจ่ายกระแสได้เต็มที่ 0.5A เองครับ แต่มีวิธีเพิ่มกระแสง่ายๆก็คือเอา 2 พอร์ตมาต่อขนาดกัน (ขนาดเฉพาะขั้วไฟ +/- เท่านั้นนะครับ) จะสังเกตุจาดพวก cd writer ext. จะมีสาย y มาให้เป็นขั้ว usb 2 หัว เวลาเราใช้อ่านแผ่นธรรมดาเสียบขั้วเดียวได้ แต่ถ้าจะไรด์แผ่นจะต้องเสียบ 2 ขั้ว เพราะการเขียนแผ่นใช้กำลังไฟมากกว่าการอ่านธรรมดานั้นเองครับ
ในทางทฤษฏี แล้วการ ชาร์จ จะต้องไม่เกิน 1C ครับ และตัวที่เหมาะสมอยู่ที่ 0.5C ครับ
การชาร์จ toggle จะใช้ค่าประมาณ 0.1C ต่ำกว่านี้จะชาร์จไม่เข้า เพราะแพ้ค่า R ครับ
อย่างกรณีของ tab อยู่ที 4000mA แปลว่า 1C คือ 4A ค่าที่เหมาะสมคือ 0.5C =2A
ถ้าใช้ usb port จะได้ที่ 500mA คิดเป็น 0.25C แต่ในทางใช้งานจริงค่า 500mA จะเหลือมาเพียง 300mA เพราะเครื่องดึงไปใช้เลี้ยงระบบด้วย
ดังนั้นเมื่อเสียบ usb คอมแล้วจะเห็นว่า ชาร์จไม่เข้า เพราะ 300mA น้อยกว่า 0.1C ครับ
แต่จริงๆแล้ว กระแสมันไหลเข้านะครับ อย่างผม ชาร์จผ่าน usb ทุกวัน แต่จะได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่
ชั่วโมงละ 8%-10% ขึ้นอยู่กับว่าเปิด wifi ทิ้งไว้หรือไม่ครับ
++++++++++++++++++++
ส่วนที่บอกว่าใช้ 4A แล้วยังคงใช้เวลา 3 ชม เท่าเดิม อันนี้มันมีประเด็นความร้อนครับ
แต่ถ้าเอาตามค่าคำนวณแล้ว เวลาจะต้องหารสองครับ แต่เมื่อมีความร้อนมาก ค่า R จะมากขึ้น เวลาที่ใช้ไปจะนานขึ้น แต่ไม่เกี่ยวกับ lost ครับ
ผมขอเรียงลำดับแบบนี้ดีกว่า
ชาร์จด้วย 1C มันร้อนเพราะประจุแรง >> พอร้อน ความต้านทานสูง >> ค่า R สูง ชาร์จไม่เข้า >> ความร้อนสะสม >> แบตเสื่อม
คือผมกล่าวถึง Charger มือถือทั่วไปน่ะครับที่มันมี Volt = 5 +,- นิดหน่อย คิดว่าไม่น่าจะมีการแปลงแอมป์ได้สูงกว่า Spec อยู่แล้วครับ ^^ กล่าวไม่ละเอียดต้องขออภัย และขอบคุณที่ช่วยเสริมครับ
cycle ไม่ขึ้นกับ A ครับ
cycle นับจากจำนวนรอบที่ได้จัดเรียงประจุเคมี ในตัวแบตครับ
A มีผลต่อความเร็วในการประจุ
ลองอ่านนี่ดูนะครับ
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นตารางอย่างในรูปข้างบนมาแล้วใช่ไหมครับ มีบทความหนึ่ง
นำตารางข้างบนนี้ไปอ้างอิง(บทความที่ชื่อ “เทคนิคการชาร์จแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กให้คุ้มค่า”)
แต่กลับบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยอ้างว่ากราฟที่เห็นเป็นกราฟ การชาร์ตไฟที่ % แบตเตอรี่ต่างๆกัน
เช่น ที่ 1C ก็อ้างไปว่าเป็นการชาร์ตไฟที่แบตเตอรี่เหลือไฟอยู่ 65-70% ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือน
และผิดชนิดที่ว่าเป็นคนละเรื่องกันเลย
ต้นฉบับที่แท้จริงของตารางข้างบนมาจากเว็บ http://www.batteryuniversity.com/parttwo-34.htm ครับ
ซึ่งในเว็บ และบนหัวตารางก็ระบุไว้อย่างชัดเจนมันคือตาราง charge/discharge rate
ซึ่งคำว่า charge rate ไม่ได้หมายความว่าใช้แบตไปหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้วค่อยชาร์ตไฟกลับคืนเป็น 100%
แต่ charge rate หมายถึงอัตราของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ชาร์ตแบตเตอรี่ในช่วงเวลา เช่น
ถ้าเรามีแบตเตอรี่ขนาด 10 Ah(ampere-hour) แต่เราชาร์ตไฟด้วยแท่นชาร์ตที่ปล่อยไฟชั่วโมงละ 2 แอมแปร์
ก็จะต้องใช้เวลาชาร์ตไฟเข้าไปในแบตเตอรี่ที่ว่างเปล่าจนไฟเต็มด้วยเวลา 5 ชั่วโมง
อัตราการชาร์ตระดับนี้เราเรียกว่าอัตรา C/5 หรือ 0.2C
ส่วนอัตรา 1C ก็คือ ถ้าชาร์ตแบตเตอรี่ขนาด 10Ah ก็ต้องใช้แท่นชาร์ตที่ปล่อยไฟชั่วโมงละ 10 แอมแปร์ก็จะชาร์ดไฟได้เสร็จใน 1 ชั่วโมง
เช่นเดียวกับอัตรา 2C ก็คือ ชาร์ตแบตเตอรี่ขนาด 10Ah ด้วยแท่นชาร์ตที่ปล่อยไฟชั่วโมงละ 20 แอมแปร์ก็จะชาร์ตไฟได้เสร็จใน 30 นาที
และคำว่า discharge rate ก็จะคล้ายๆกับ charge rate ครับแต่เป็นในทางกลับกันคือเป็นอัตราการใช้ไฟ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตารางข้างต้นแสดงถึงว่าถ้าเราชาร์ตไฟด้วยกระแสไฟสูงในเวลาสั้นหรือใช้ไฟจากแบตในปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น จะทำให้แบตเตอรี่แบบ lithium เสื่อมเร็วขึ้น (จำนวน cycle ลดลง)
ส่วนกรณีที่ยกมาอ้างว่า การชาร์ตไฟบ่อยๆหรือการใช้ไฟจากแบตเตอรี่เพียงเล็กน้อยแล้วรีบชาร์ตกลับให้เต็ม 100% เป็นการช่วยเพิ่มจำนวน cycle นั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย เพราะการเพิ่มลดของจำนวน cycle ไม่เกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานว่าใช้มากใช้น้อยแล้วค่อยชาร์ตไฟ แต่จำนวน cycle เกี่ยวข้องโดยตรงกับเครื่องชาร์ตว่าชาร์ตเร็วหรือช้า ถ้ายิ่งชาร์ตเร็วแบตฯก็จะเสี่ยมเร็ว ถ้าเครื่องชาร์ตค่อยๆชาร์ตแบตก็จะเสื่อมช้า
จำนวน Cycle คือตัวเลขที่บ่งบอกอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ว่าแบตฯจะเริ่มเสื่อมเมื่อผ่านการชาร์ตไปนานแค่ไหน ถ้าแปลตรงๆตัวคำว่า cycle ก็คือรอบ คำว่ารอบไม่ได้เท่ากับคำว่าครั้ง ดังนั้นการชาร์ต 1 ครั้งจึงไม่เท่ากับ 1 cycle ซะทีเดียว
จำนวน 1 Cycle จะวัดจากปริมาณการชาร์ตไฟที่รวมๆแล้ว เท่ากับปริมาณการชาร์ตไฟจากแบตเตอรี่ที่ไม่มีไฟ(0%) จนแบตเตอรี่มีไฟเต็ม(100%) 1 ครั้ง
เช่น ถ้าเราชาร์ตครั้งแรกจากแบตเตอรี่ 50%=>100% การชาร์ตครั้งนี้ก็จะนับเท่ากับ 0.5 cycle
หรือถ้าชาร์ตครั้งต่อมาอีก 80%=>100% เมื่อรวมกับครั้งแรกก็จะได้เท่ากับ 0.5+0.2 = 0.7 cycle
หลายคนคงเคยได้ยินว่าต้องชาร์ตแบตเตอรี่ครั้งแรกเท่านั้นเท่านี้ชั่วโมงแล้วจึงจะเริ่มใช้งานได้ หรือว่าต้องหมั่นชาร์ตบ่อยๆ หรือไม่ก็ใช้ให้ไฟหมดก่อนแล้วค่อยชาร์ต ซึ่งข้อความทั้งหมดนี้ก็มีข้อจริงและเท็จปนๆกัน อันที่จริงแล้วสำหรับแบตเตอรี่แบบ lithium (ย้ำว่าแบบ lithium เท่านั้น) จะชาร์ตอย่างไรก็ได้ไม่มีผลต่ออายุการใช้งานครับ
ข้อมูลตรงนี้เป็นที่ยืนยันจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ(ทั้งที่อ้างอิงไว้ข้างล่าง และที่อื่นๆ) มีใจความตรงกันว่า การชาร์ตมาชาร์ตน้อย ชาร์ตนาน ชาร์ตถี่ ชาร์ตบ่อย มีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่น้อยมาก ส่วนข้อความข้างต้นที่ยกมานั้นเป็นคำแนะนำสำหรับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆที่ไม่ใช่ lithium ครับ
การที่แบตเตอรี่แบบ lithium จะเสื่อมจากการใช้งานนั้นมีอยู่ด้วยกัน 4 เงื่อนไข คือ
1. เมื่อใช้งานจนถึงจำนวน Cycle ที่แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมเองตามปกติ
2. เมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่จะเสื่อมมันก็จะเรี่มเสื่อมเอง โดยเวลาที่ว่าเป็นเวลาที่นับตั้งแต่การผลิต ไม่ใช่เวลาในการใช้งาน
3. การชาร์ตไฟของตัวชาร์ต (ดังที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1)
4. อุณหภูมิของแบตเตอรี่ ถ้าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงก็จะส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติได้
ที่มา (http://www.thaiandroidphone.com/thread-5782-1-1.html)
อ้างอิง (http://batteryuniversity.com/learn/article/how_to_prolong_lithium_based_batteries)
เครดิต: คุณ nopice
ขอบคุณครับ เป็นบทความที่ดีมากครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ
ที่ผมเขียนไปข้างบน ก็สอดคล้องกับบทความนี้นะครับ
แต่ผมได้ระบุไว้ว่า “ในทางทฤษฏี เราจะไม่ชาร์จเกิน 1C” นี่เป็นจุดอ้างอิงครับว่า
ถ้าต่ำกว่า 1C จะไม่มีผลต่อแบตเสื่อม อย่างมีนัยะ ครับ
ที่นี้ต้องแยกระหว่าง แบตเสื่อม กับ cycle หมด ด้วย
+ cycle หมดเป็น 1 key parameter ที่ทำให้แบตเสื่อม
+ ความร้อน เป็นอีก 1 key
ถ้าเราใช้ปกติ เราควรจะได้ 1000 cycle ครับ
แต่ถ้าเราใช้ผิดเงื่อนไข แบตเสื่อมก่อนกำหนด เราจะได้ cycle ไม่ครบ
แต่ไม่ได้แปลว่า เรากิน cycle เป็น 2 เท่าครับ
หมายเหตุ เราต้องแยกระหว่างแบต NiCd, NiMh+, Li-Ion, Li-Poly ด้วยนะครับ
เพราะ การประจุเคมีแต่ละประเภท ไม่เหมือนกัน
++++++++++++++++++++
อ้างถึง บทความข้างบท ได้กล่าวถึงค่าที่มากกว่า 2C ซึ่ง ผมได้กล่าวไว้แล้วตอนหนึ่งดังนี้ครับ
“ส่วนที่บอกว่าใช้ 4A แล้วยังคงใช้เวลา 3 ชม เท่าเดิม อันนี้มันมีประเด็นความร้อนครับ
แต่ถ้าเอาตามค่าคำนวณแล้ว เวลาจะต้องหารสองครับ แต่เมื่อมีความร้อนมาก ค่า R จะมากขึ้น เวลาที่ใช้ไปจะนานขึ้น แต่ไม่เกี่ยวกับ lost ครับ
ผมขอเรียงลำดับแบบนี้ดีกว่า
ชาร์จด้วย 1C มันร้อนเพราะประจุแรง >> พอร้อน ความต้านทานสูง >> ค่า R สูง ชาร์จไม่เข้า >> ความร้อนสะสม >> แบตเสื่อม”
++++++++++++++++++++
ดังนั้น ประเด็นหลักๆ คือเรื่องความร้อน มากกว่าเรื่องกระแส ครับ
ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง cycle ผมแปลง่ายๆ ตัวอย่างคือ
เรามีกระดาษขาว อยู่แ่ผ่นนึง บอกว่า สามารถทนการลบด้วยยางลบ ได้ 1000ครั้ง
เราเรียกว่า มี cycle 1000 รอบ ถ้าเรา เขียนไปแค่ครึ่งหน้า แล้วลบออก ก็จะใช้ไปแค่ 0.5 รอบ
แต่ถ้ามีเรื่องน้ำหยดมาเกี่ยวข้อง กระดาษขาดก่อนกำหนด เรานับได้ไม่ครบ 1000ครั้ง ครับ
เปรียบได้กับความร้อนของแบต ครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
1. เรื่องลึกลับ! ของ Lithium-ion Battery
http://www.thaicharger.com/index.php/topic,259.0.html
2.ความรู้ ลึกๆ กับแบตเตอรี่ลิเธียม ภาค 1
http://www.thaicharger.com/index.php/topic,14.0.html
3.ความรู้ ลึกๆ กับแบตเตอรี่ลิเธียม ภาค 2 (วงจรป้องกัน ของแบตเตอรี่ลิเธียม)
http://www.thaicharger.com/index.php/topic,17.0.html
ขอบคุณครับ สำหรับบทความที่ให้ความรู้
ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ผมใช้คำว่า ผมใช้ ชาร์จเจอร์ 1A ทำการชาร์จ 1 ครั้ง แน่นอนชาร์จเร็วเกือบเท่าตัว แต่ส่งผลให้ Cycle เพิ่มเป็นสองเท่าตัวเช่นกัน เท่ากับคุณชาร์จ ไป 2 ครั้ง เพราะผมต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่วิศวะกรไฟฟ้า แต่พูดตามความเข้าใจ
ที่คุณบอกว่า การที่แบตเสื่อมก่อนกำหนด เราจะได้ cycle ไม่ครบ แต่ไม่ได้แปลว่า เรากิน cycle เป็น 2 เท่านั้น
แต่ผลก็คือเราศูนย์เสีย cycle ไปอยู่ดีผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ?
ที่ผมยกมานั้นเพราะเห็นตอนแรกคุณว่ามันไม่เกี่ยวกับแอมป์ เลยยกตารางกราฟเปรียบเทียบมา
ตามบทความที่ผมยกมาก็บอกชัดอยู่แล้วว่าแอมป์ไม่ใช่สาเหตุของการเสื่อมของแบตฯทั้งหมด แต่จะว่าไม่เกี่ยวเลยก็คงไม่ใช่ แต่ที่ผมกล่าวคือการนำชาร์จเจอร์ที่แอมป์สูงว่ามาชาร์จให้ผลคือ ชาร์จได้ไวขึ้น แต่ก็ทำให้แบตฯเสื่อมเร็วขึ้นเช่นกัน ถ้าผิดไปจากนี้รบกวนช่วยแย้งให้เห็นข้อเท็จจริงด้วยครับ ผมจะได้ทำความเข้าใจใหม่ ขอบคุณครับ
ส่วนบทความนี้ ที่คุณยกมา
http://www.thaicharger.com/index.php/topic,14.0.html
ซึ่ง Admin ของบอร์ดนั้นยกมาแสดง ซึ่งก็คัดลอกบทความของคุณ Nacl จาก บล๊อค
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nacl&month=07-2005&date=01&group=2&blog=1
มาอีกทีอ่านแล้วมันก็มีบางอย่างขัดแย้งกับบทความนี้
http://batteryuniversity.com/learn/article/how_to_prolong_lithium_based_batteries
ผมควรจะเชื่อใครดีครับ? >,,< ขอบคุณครับ
รบกวน quote ที่สงสัยให้หน่อยครับ เพราะผมอ่าน คร่าว ๆ(คือมันยาว เลยอ่านแค่จับประเด็น ขอโทษด้วยครับ) สรุปได้ดังนี้นะครับ
1. แบตจะเสื่อมลงเรื่อยๆ เมื่อ จำนวน cycle เพิ่มขึ้น
2. % การ discharge แปลผกผันกับ จำนวนรอบ
ในที่นี้ใช้ %การ discharge แปลได้ว่าใช้แบตหมดไปกี่ % แล้วชาร์จใหม่ จะเห็นว่าหากใช้แค่ 10% จะได้รอบมากถึง 4700 รอบ หมายความว่า แบตลดนิดหน่อยแล้วรีบชาร์จจะช่วยยืดอายุแบตให้นานขึ้น
3.อุณหภูมิกับความสามารถในการรักษาระดับไฟ
4.จำนวนรอบแปลผกผันกับความต่างศักย์
แปลว่าถ้าอัดค่า V มากๆ จะทำให้cycle ต่ำลง แต่ถ้าใช้ V ต่ำหน่อยจะได้ cycle สูง
++++++++++++++++++++
ผมอ่านไม่เจอเรื่อง A (กระแส) นะครับ รบกวนช่วย quote ให้อีกรอบนะครับ บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดจริงๆก็ได้ ขอบคุณมากๆครับ
แปลว่า ยิ่ง A เยอะ ยิ่งชาร์จเต็มเร็วเหรอครับ
ขอบคุณ สำหรับ การแบ่งปันข้อมูลครับ
ปกติเรา syn กับคอมมันจะไม่ชาร์จเพราะไฟไม่พอแต่ตัวนี้มันจะเพิ่ม แอมให้เป็น 2a เพื่อให้ชาร์จผ่าน usb ของคอมได้
แต่คงไม่มีคนกะเปิดคอมเพื่อชาร์จแบตให้ tab เป็นประจำ
มันเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้เล่นเกมเยอะ แต่มีติดตัวไว้เกิดสักวันใช้เยอะก็เอาไปต่อกะคอมเพื่อชาร์จได้
เพื่อจะได้ไม่ตอ้งพกที่ชาร์จของมันเองไปไหนมาไหนด้วย หลักการก็เหมือนที่ชาร์จในรถยนต์
ผมก็มีแต่เป็นแบบปรับเป็นที่ชาร์จหรือเป็นแค่ตัวส่งดาต้า มีติดตัวไม่เสียหายค่ับ
แต่คนที่ใช้เยอะ zagg 2.0เป็นทางเลือกทีดีครับ เพราะที่สุดถึงจะใช้วิธีเอาตัวนี้ไปต่อกับตัวชาร์จมันทำให้ชาร์จเร็วขึ้นแต่ก็สู้พกไปชาร์จไปไม่ได้ครับ
อิอิ
อ่านมากหลายทีแต่ไม่มีเวลามาคุยต่อ
ขอสงสัยหน่อย คือแอมป์น่ะมันเพิ่มได้ด้วยเหรอ
เพราะอัตราการจ่ายไฟ มันก็คือความสมารถของแหล่งจ่ายไป
เจ้าตัวแจ๊คที่ไปเสียบ ไม่ว่ามันจะมีวงจรอย่างไร มันก็ไม่มีพลังงานเป็นของตัวเอง
มันจะไปเพิ่มพลังงานของแหล่งจ่ายไฟได้ไงกัน
ผมสงสัยตาม common sense นะครับ
แต่ถ้าวงจรที่อยู่ในสายต่อมาตรฐานมันทำอะไรกันไว้ ไม่ให้ชาร์จจากคอม
แล้วแจ๊คตัวนี้มันมีวงจรที่ต่างไป แล้วหลอกให้เครื่องยอมให้ชาร์จด้วยคอม ยังงี้อาจเป็นไปได้
ผมก็เจอจากสายที่มี TV out พร้อมชาร์จ อันยอดฮิตที่รุมกันฝากซื้อจากคุณ Big_pongo นี่แหละครับ
มันชาร์จจากคอมได้ฉลุยเลย สงสัยจะเหมือนกับชาร์จด้วยตัว USB adaptor ตัวจริงเลย
ทำได้ครับ ก็ลด volt ลงครับ จะได้ amp เพิ่มครับ
จากสูตร P=IV
watt = current * volt
แบต galaxy tab มีค่าความต่างศักย์ อยู่ที่ 3.7Vครับ ถ้าจะชาร์จให้ไฟเข้าต้องอัดด้วยความต่างศักย์ที่สูงกว่า 3.7v
ถ้าเทียบกับแก๊ส แรงดันของถังจ่ายต้องสูงกว่าถังรับ จึงทำให้แก๊สไหลเข้าสูงถังรับได้ครับ
usb จ่ายไฟ 5.0V
ให้กระแสที่ 0.5A
ได้ค่าwatt อยู่ที่ 2.5w
ดังนั้นถ้าแปลง ค่า v จาก 5.0 ให้เหลือ 4.0 เราจะได้ กระแสเพิ่มครับ
2.5= I * 4
I = 0.625A
ขอบคุณข้อมูลคุณ totonx มากนะครับละเอียดปึกมากๆครับ….
ขอบคุณครับ ได้ความกระจางเลย
เอารูปแบบที่ผมมีติดไว้มีสวิทปรับดได้
http://image.ohozaa.com/view/8s0i
http://image.ohozaa.com/view/8s0d
ซื้อจากที่ไหนหรือครับ อยากได้บ้าง >,,
ดูน่าใช้งาน หาได้จากไหนครับ
ผมว่าสมมุติฐานที่ว่ามันทำงานโดยการเพิ่มแอมป์ที่ผมกล่าวไว้น่าจะผิดครับ แต่น่าจะเป็นการเข้าหัวที่ต่างกัน (มั๊ง) + (เดามั่วอีกแล้ว)
เนื่องจากวันนี้ตั้งใจจะนั่งรถไฟไปต่างจังหวัดซึ่งจริงๆควรจะไปตั้งแต่เมื่อวานแต่ทำอะไรไม่ทันก็เลยต้องเลื่อนมาเป็นวันนี้ ก็เลยพอจะมีเวลา บวกกับความสงสัยว่าทำไมสาย TV ที่สั่งซื้อจาก ebay มันถึงชาร์จได้ จึงคิดในใจว่าน่าจะเป็นการเข้าหัวที่ไม่เหมือนกันก็น่าจะเป็นไปได้ วันนี้เลยไปเดินๆ ดูสาย USB บางร้านใจดีให้ลองหลายยี่ห้อตั้งแต่เส้นละร้อยเดียวไปยันบางเส้นก็แพงกว่าสายศูนย์เสียอีก >,,< ลองมาจนถอดใจก็ยังไม่ได้ จะกลับบ้านอยู่แล้ว พอดีเดินผ่านร้านขายอุปกรณ์จากจีนเลยเดินเข้าไปดู แต่ร้านนี้แปะสก๊อตเทปไว้หนาแน่น จึงต้องซื้อมาลองสามชุด ปรากฏว่า มีอันนึงใช้ได้ทดสอบจาก Port USB ของ Laptop สามารถชาร์จได้ Status ขึ้นชาร์จปกติ ลองถอดเอาสายมากับเครื่องใส่ได้ผลว่าสายมากับเครื่องใช้ไม่ได้ จากนั้นจึงลองหยิบ Power Bank ของ Yooboo ที่มีความจุ 4800mAh ให้ไฟที่ 5.3V 1000mA (Max) ผลที่ได้ก็คือชาร์จได้เช่นกัน ^^ แตสำหรับ Power Bank นั้นผมไม่แน่ใจว่าจะชาร์จได้แค่ไหน เนื่องจากตาม Spec คือให้กำลังไฟสูงสุด 1A แต่ลงลดลงเรื่อยๆตามความจุของแบตฯ เอาไว้คืนนี้คงได้ทดสอบบนรถไฟ ส่วน USB ที่ผมซื้อมาหน้าต่าเป็นเช่นนี้ สนนราคาสองร้อยกว่าบาท (ผมจำไม่ได้แล้วว่ากว่าเท่าไหร่ พอดีซื้อหลายตัว) มาพร้อมกับ Plug Charger ขนาด 2A 1 ตัว พร้อมสาย microusb to usb 1 เส้น เพื่อนๆที่สนใจผมว่าที่ร้านอมรน่าจะมีครับ ^^
ผมว่าเป็นที่การเข้าขั้วสายเหมือนกันครับ เพราะการลด Volt ไม่ได้ทำให้ amp เพิ่มครับ
มันเป็นการใช้สูตรที่ไม่ตรงเงื่อนไข แล้วจะมาคุยเรื่องนี้ยาวๆ อีกทีละกัน
ส่วนเรื่องสาย TVout ชาร์จได้มันก็สนับสนุนประเด็นขั้วสายอีกแรงนึง ว่ามันไม่ใช่ปัญหาของ Amp rating ของแหล่งจ่ายไฟ มันเป็นเรื่องของการยอมหรือไม่ยอมให้ชาร์จต่างหาก
จะบอกไงดี เอางี้ครับ
ประเด็นที่ 1
คือถ้าเป็นสายปกติ ที่เราใช้ๆ กัน มันจะ charge ผ่าน usb ได้ เพียงแค่กระแสมันต่ำมากจนเครื่อง tab มันฟ้องว่า ชาร์จไม่เข้า แต่ความจริงมันเข้านะครับ ผมใช้อยู่ทุกวัน เพียงแต่จะชาร์จนานมาก
ประเด็นที่ 2
ถ้าพูดถึงเจ้าตัว usb ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ผมไม่ทราบว่าการทำงานเป็นอย่างไร เพราะไม่เห็นวงจร แต่ถ้าเอาตาม สูตร มันทำให้กระแสเพิ่มได้ ด้วยการลดความต่างศักย์ ผมใช้อยู่ ตอนผม โมดิฟายไฟฉาย
ประเด็นที่ 3
ถ้ากล่าวถึงสายที่ เป็น TV out แล้วมันชาร์จ ได้ ความจริงมันมีวิธีอยู่แบบหนึ่งที่เรียกว่า “Dedicated Charging Port shorts” ลอง search ประโยคนี้อ่านดูนะครับ เป็นการตัด data transfer ออกไป ด้วยวิธีการ short circuit ซึ่งไฟที่เลี้ยงจะถูกรวมเข้าด้วยกัน ทำให้กระแสจ่ายเพิ่มขึ้นครับ ยังไงช่วยลองเอา tv out ไป sync data มันจะต้องทำงานไม่ได้ครับ
ส่วนตัวแล้วผมกลัวเรื่องการ short circuit ครับ เพราะสายปกติจะตั้งค่า resistant มาให้เพื่อป้องกัน device ความจริงอาจไม่เป็นอะไร แต่ผมกลัว(ส่วนตัวครับ)
ไปหาข้อมูลอ้างอิง มาเพิ่มครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/USB
ส่วนวงจร Dedicated อยู่อันนี้ครับ หน้า 13
http://www.usb.org/developers/devclass_docs/batt_charging_1_1.zip
อันนี้รูป เผื่อใครอยาก DIY
http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=845844
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การทำ Dedicated จะได้ A สูงถึง 1.5-1.8 เชียวนะครับ พอๆ กับ adapter เลย
อูยเพิ่งจะรู้เหมือนกัน อยู่ใน USB spec อีกต่างหาก น่าจะปลอดภัยครับ
ขอบคุณ คุณ parotz มากนะครับที่นำข้อมูลและสินค้ามาแนะนำเล่าสู้กันฟัง ^_^
ซ้ำ
ผลสรปจากการทดสอบครับ ผมชาร์จแบตจาก 45% ไปจนเต็มด้วย Power Bank โดยใช้สาย usb มี่ซื้อมา ผลที่ได้คือ ใช้เวลาร่วมๆ 2 ชั่วโมง น่าพอใจมากครับ
ระหว่างชาร์จนี่เชื่อมต่อกับหูฟัง bluetooth ตลอดเวลาด้วย
ส่วนเรื่องที่มันตัด data transfer ไปไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ได้เป็นอันตรายครับ เพราะ docking ของ samsung. เองก็ทำงานแบบนี้ครับ แต่ถ้าพก docking ไปไหนมาไหนด้วยคงลำบากน่าดูตอนนี้แฮปปี้มากๆไม่ต้องกังวลเรื่องแบตอีกแล้ว ^^