สทค.ยื่นคำร้องประกอบพิจารณาปม 3 จี ต่อผู้ตรวจการฯ วอนยุติเรื่องไม่ต้องส่งศาลปกครอง อ้างส่งผลเสียหายต่อ ปชช.-ชาติ ด้านเลขาฯ เผยชงข้อมูล สทค. เข้าที่ประชุมผู้ตรวจการฯ พรุ่งนี้…
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.) พร้อมคณะ เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ กรณีการประมูลคลื่น 3 จี หลังจากมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ดำเนินการประมูลคลื่น 3 จี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการฮั้วประมูลกัน มีรายได้การประมูลต่ำ และส่งผลเสียหายต่อรัฐอย่างร้ายแรง รวมขอให้ส่งความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
โดยนายวิชัย กล่าวว่า สทค. และสมาชิกในฐานะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และอาจได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณา และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคำร้องดังกล่าวของผู้ตรวจการฯ ดังนั้นจึงเห็นว่า หากกระบวนการการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมในการประมูลคลื่น 3 จี ต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าเกินสมควร ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา และสอบสวนหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้การพิจารณาคำร้องดังกล่าวนั้นยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ เท่านั้น โดยเห็นว่าหากกระบวนการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองอาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้า และส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนได้
ด้านนายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า จะนำข้อมูลที่ได้รับวันนี้เสนอต่อผู้ตรวจการฯ เพื่อให้พิจารณาในที่ประชุมวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยข้อมูลของ สทค. ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง ถือเป็นประโยชน์ที่จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ ตลอดจนจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม ยืนยันว่างานของผู้ตรวจการฯ ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร เรามีหลักการในการพิจารณาโดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ในกระบวนการหากผู้ตรวจการฯ เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย ผู้ตรวจการฯ ก็สามารถยุติเรื่องดังกล่าวในชั้นการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องไปยังศาลปกครองได้ ส่วนเรื่องจะยุติที่กระบวนการของผู้ตรวจการฯ หรือไม่นั้น ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ตรวจการฯ ที่จะพิจารณา.
http://www.thairath.co.th/content/tech/303872