นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีการพิจารณาคำร้องกรณีขอให้ตรวจสอบการประมูลคลื่น 3 จีของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแยกแยะประเด็นตามคำร้องที่มีผู้ร้องมา รวมถึงความเห็นของสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยฯ แต่ยังไม่มีความเห็นว่าจะมีข้อสรุปออกมาในทิศทางใด เพราะมีเอกสารจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินจะไม่ยื้อหรือซื้อเวลาออกไป และจะมีคำวินิจฉัยอย่างแน่นอนในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเดินทางไปร่วมประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นมือเข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าว ในส่วนของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่เข้าร่วมประมูลไม่ได้มีความหนักใจต่อประเด็นที่กลุ่มต่างๆ ร้องเรียนไปแต่อย่างใด แต่เกรงว่าจะเป็นการยืมมือผู้ตรวจการแผ่นดินที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางมาก่อน จนส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรงตามมา
ทั้งนี้ หากตรวจสอบกระบวนการประมูลของ กสทช.ครั้งนี้ จะเห็นได้ว่ามีการดำเนินการเรื่องนี้กันมาเป็นปีในการยกร่างประกาศ เงื่อนไขการประมูล และจัดทำประชาพิจารณ์ โดยที่กลุ่มคนที่ออกมาร้องเรียนเหล่านี้ไม่เคยเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการประมูลแต่อย่างใด “คนกลุ่มนี้หวังจะยืมมือองค์กรอิสระดังกล่าวมาล้มประมูล 3 จีให้ได้ ซึ่งหากผู้ตรวจการแผ่นดินต้องตกหลุมพรางคนเหล่านี้ เชื่อแน่ว่าคงจะส่งผลถึงภาพพจน์องค์กรอิสระนี้อย่างแน่นอน”
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีมติให้สำนักงาน กสทช.ไปดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาอัตราค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 3 จี ประเภทเสียงเป็นการชั่วคราว พร้อมเชิญผู้ที่จะรับใบอนุญาตทั้ง 3 รายมาหารือถึงการกำหนดอัตราค่าบริการด้วย เพราะต้องระบุไว้ในการเงื่อนไขการออกใบอนุญาต ส่วนอัตราค่าบริการประเภทข้อมูล (ดาต้า) นั้น ขณะนี้ยังไม่มีกำหนด เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาแต่ยืนยันว่าค่าบริการ 3 จี ทั้งประเภทเสียงและข้อมูลจะถูกลงอย่างแน่นอน.
http://m.thairath.co.th/content/eco/304233