ก่อนหน้านี้ใครๆๆ…ก็อยากเป็น 11 อรหันต์…แห่ง กสทซ.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)…แต่มาถึงวันนี้ชักไม่แน่ใจแล้วหล่ะว่าใครๆอยากจะมานั่งในตำแหน่งนี้…เพราะงานเข้าตลอด…
จะทำอะไรก็ดูจะไม่ถูกใจใครๆไฟเสียหมด…อย่างเรื่องประมูล 3 จี…ทำกันเหนื่อยเกือบตาย มีคนได้ใช้ประโยชน์จากคลื่นโทรคมนาคม…แต่ก็ไม่ว่าโดนกระหน่ำ…มาถึงเรื่อง”ซิมดับ”…ก็โดนอีก…จะให้ยึดคลื่น 1800 คลื่นมาทันทีหลังหมดสัญญา…ประชาชน 17 ล้านรายก็เดือดร้อน…ครั้นออกมาตรการเยียวยา…เพื่อให้คน 17 ล้านได้ฝช้โทรศัพย์ต่อไป…ก็โดนโจมตีว่า”เอื้อเอกชน”…เวรกรรมไหมหล่ะครับพี่น้องแบบนี้…เข้าตำราอะไรยังไงก็โดน…
ล่าสุดโดนอีกแล้ว…เรื่อง จากการที่ตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจได้ยื่นหนังสือประท้วงการทำงาน…ของ กสทช. โดยระบุว่า..กสทช.ออกกฎกติกา และระเบียบต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรมต่อรัฐวิสาหกิจ…เช่น ประกาศการใช้โครงข่ายรวมกัน (Infra sharing).. ร่างเยียวยา 1800 MHz)…ที่ทำให้ CAT และ TOT ลำบาก…รวมไปถึงกรณีการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล…ที่อาจทำให้อสมท.เสียเปรียบ…
ที่ผ่านมา2 วันนี้มีแต่ข่าวที่ออกผ่านสื่อในด้านโจมตี กสทช.เป็นหลัก…มาถึงตรงนี้…ก็ขอเปิดโอกาสทาง กสทช.ได้ชี้แจงบ้าง…พันเอก ดร.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานการกรรมกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ในฐานะหนึ่งในกรรมการ กสทช.อยากจะยืนยันกับสังคมว่า…
“กสทช.ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยเห็นใจสหภาพที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านของกฎหมาย จึงเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะต้องช่วยกันให้การเปลี่ยนผ่านของกม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ลดผลกระทบและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
กสทช.ในบทบาทของผู้กำกับดูและตระหนักถึงประโยชน์ของรัฐและการคุ้มครองสิทธิของคู่สัมปทานตามรัฐธรรมนูญ การดำเนินการต่างๆ เช่นเรื่อง Infra sharing ก็นเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายทั้ง CAT เอง เพราะในอนาคตทุกค่ายสามารถมีโครงข่ายของตนเองและ CAT ก็สามารถขอใช้ได้เป็นการลดค่าใช้จ่าย ต้นทุนถูกลง ค่าบริการก็ย่อมถูกลง
ส่วนเรื่องการโอนย้ายก่อนสัมปทานสิ้นสุดมีการเคลื่อนไหวให้กสทช.เข้าไปผลักดันเร่งให้โอนย้ายคราวละมากๆ กสทช.เองก็ไม่ได้เห็นตาม โดยทำอยู่ในกรอบไม่ให้กระทบต่อสิทธิของคู่สัญญาสัมปทานและประโยชน์ของรัฐฯลฯ
หลายเรื่องที่กสทช.ดำเนินการเพราะต้องดำเนินการตาม กม. ซึ่งขอยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องตามกม.ทุกประการ แต่ถ้าเป็นประเด็นที่บทบัญญัติของกกม.มีข้อขัดข้องก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการที่จะต้ดงมีการแก้ไขปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้หน้าที่ในฐานะกก.กสทช.ต้องเป็นกลาง และต้องคำนึงถึงประโยชน์ 3 ฝ่าย คือประชาชน รัฐ และผู้ประกอบการ ที่สำคัญคือประโยชน์สูงสุดของประชาชนต่องมราเนอันดับแรก”…
ผู้เขียนคงไม่สามารถชี้นำอะไรได้…ผมเคารพในสติปัญญา และการตัดสินใจของผู้อ่านทุกท่านแต่ด้วยเนื้อที่ที่จำกัด จึงไม่สมารถแจงแจงในรายละเอียดใดๆได้มากกว่านี้…หลังจากนี้ก็แล้วแต่ว่าผู้อ่านจะตัดใจยังไงตามข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับตรงนี้และจากที่ได้รับฟังได้อ่านจากสื่ออื่นๆมาก่อนหน้านี้ครับผม…
เศรษฐศาสตร์วันหยุด
พงษ์พันธุ์
http://www.naewna.com/business/columnist/8172
เรื่องประมูลสามจีไม่โดนด่าได้ไงครับประมูลสามเจ้า ให้สามคลื่น แถมราคาสองเจ้าไม่ขยับเลยอีกเจ้าขยับนิดเดียว ไม่ฮั้วก็เหมือนฮั้วละ
เรื่องซิมดับก็ว่ากันไปผมไม่ใช่นักกฏหมาย แต่นักกฏหมายหลายคนความเห็นตรงกันหลายคนทั้งๆที่เรื่องก่อนๆไม่ค่อยตรงกัน แต่เรื่องนี้ตรงกัน
เรื่องสหภาพผมว่าเกิดจากตัวเองเสียผลประโยชน์เพราะตัวเองปรับตัวไม่ได้ สมัยก่อนกินแต่ค่าสัมประทานกันจนชินพอไม่มีก็ไม่มีรายได้ ผมว่ายุบไปก็ดีเปลืองภาษีเรา แต่กสทชก็พลาดเรื่อง สัดส่วนรายการข่าวลดเหลือ50เปอร์เซนต์ อันนี้ผมก็เห็นด้วยว่าเอื้อเอกชน
ส่วนกสทชถามหน่อยครับเรื่องส่วนลด15เปอร์เซนต์ ผมฟังจนเบื่อก่อนสามจีก็เรื่องนึงหลัง สามจีก็เรื่องนึง แถมเอกชนไม่ฟังบอกว่าลดแล้ว ผมดูยังไงก็ไม่ลด
อีกเรื่องกสทชชอบใช้เงินจ้างสื่อมาสัมภาษณ์ตัวเอง ข้อนี้ไม่ได้ใส่ความ มีข้อมูลเผยมาแล้วมา คิดว่ามันควรไหม อย่างคุณมาร์ชนี่รายการแบไต๋นี่ใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ ผมไม่เชื่อว่าฟรีหรอก เพราะงั้นกสทชอย่ามาพูดว่าทำอย่างดีแล้ว ผมว่ายังเอื้อประโยชน์แก่เอกชนอยู่เลย