ก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ truemoney เข้าไปอยู่ในตัวเลือกการจ่ายเงินใน Apple ID แล้ว

เมื่อวานนี้ Truemoney ได้มีการจัดงานแถลงข่าวทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง ซึ่งก็มีการเปิดเผยความสำเร็จหลายๆอย่างที่น่าสนใจซึ่งจะขอสรุปเอาไว้ตอนท้าย แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการที่ truemoney กลายเป็นมาตรฐานการชำระเงินที่ทาง Apple ยอมรับให้เป็นอีกทางเลือกของการชำระเงิน จากที่ก่อนหน้าต้องใช้เพียงบัตรเดบิตและเครดิตเท่านั้น

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ e-wallet ใดจะไดัการยอมรับจาก Apple ในประเทศเราก็มีตัวเลือกอยู่ไม่น้อย แต่ truemoney ตอนนี้เป็นเพียงเจ้าเดียวที่ได้เข้าไปอยู่ในนั้น

ก่อนหน้านี้ต้องไปวุ่นวายหาบัตรเครดิต-เดบิตมาใส่เพื่อให้ใช้งาน Apple ID ได้ แต่ตอนนี้แค่ truemoney ก็เพียงพอแล้ว

ซึ่งสาเหตุที่ทาง Apple ได้ยอมนำเอา truemoney เข้าไปเป็นตัวเลือกการชำระเงินนั้น ทางผู้บริหารได้เปิดเผยว่า เป็นเพราะสเกลของ e-wallet ของ truemoney นั้นมีขนาดที่ใหญ่มากพอ และมีความน่าเชื่อถือ เหมาะสมที่จะนำเอามาเป็นมาตรฐานได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกค้าหลายรายก็ได้ใช้ WeCard หรือบัตรเครดิตเสมือน ของทาง truemoney นำไปผูกใช้งานอยู่แล้วส่วนนึงนั่นเอง

ปัจจุบันทาง truemoney คาดว่าจะมีลูกค้า ณ สิ้นปี 2017 ที่ราว 4 ล้านราย และเติบโตอีกเท่าตัวในปี 2018 เป็น 8 ล้านราย และคาดว่าภายในปี 2020 จะมีลูกค้าทั้งหมดรวมทั้งภูมิภาคถึง 100 ล้านราย

ประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอยู่ประมาณ 620 ล้านคน มีคนราว 70% ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี และมากกว่า 60% ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งคนเหล่านี้คือเป็นกลุ่มเป้าหมายของ truemoney ทั้งสิ้น

อ่านถึงตอนนี้แล้วอาจจะมีความสงสัยว่า truemoney มีในประเทศอื่นๆด้วยเหรอ??!? งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าตอนนี้ truemoney เค้ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

• ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วใน 6 ประเทศ คือ ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, เมียนมา และกัมพูชา จำนวนลูกค้ารวมทุกประเทศ 30 ล้านราย
• คนไทยใช้ truemoney เฉลี่ยต่อครั้งราว 200 บาท เดือนละประมาณ 7 ครั้ง
• ในกัมพูชา truemoney มีเครือข่ายที่ใหญ่กว่าธนาคาร เงินหมุนในระบบกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบได้มากกว่า 10% ของ GDP
• ตั้งเป้าหมายมีลูกค้ารวมในภูมิภาค 100 ล้านราย ภายในปี 2020 ซึ่งเล็งว่าอินโดนีเซีย จะเป็นประเทศที่ใช้งาน truemoney มากอีกแห่ง ด้วยความที่ประชากรมีมากกว่า 250 ล้านคนนั่นเอง

บริการที่ truemoney เตรียมเปิดทั้งหมด คือ การเบิกจ่ายโอนถอน การให้กู้เงิน การลงทุน และการซื้อประกัน เรียกว่าบริการชนธนาคารเลยก็ว่าได้

ขยายได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะมีเครือข่ายที่ใหญ่กระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ รวมถึง 50,000 Agents เลยทีเดียว บวกกับการลงทุนจากทาง Alibaba ยิ่งทำให้ truemoney เป็นเหมือนเสือติดปีก

ฝากไว้ท้ายข่าว

ก็อยากรู้เหมือนกันว่า truemoney จะไปได้ไกลขนาดไหน จะถึงกับกลายเป็น e-wallet หลักของประชากรในแถบ SEA ได้หรือไม่ เฉพาะในประเทศไทยในปัจจุบันเค้าก็นำเป็นที่หนึ่งของตลาดแบบทิ้งที่สองไปไกลอยู่พอสมควร ก็น่าจะเป็นเรื่องดีถ้า AirPay หรือ LinePay จะหันมาเอาจริงเอาจัง ฮึดสู้ truemoney แลกหมัดกันแบบเต็มๆ เพราะช่วงนั้นเราคงจะได้เห็นโปรโมชั่นแรงๆ เอาตังค์มาเทให้ผู้ใช้อย่างเราๆได้ซื้อของกันราคาสบายตัวกันมากทีเดียว 555