ญี่ปุ่นสร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็วสูงถึง 1.02 เพตะบิตต่อวินาที หรือประมาณ 1,020,000,000 เมกะบิตต่อวินาที โดยใช้สายไฟเบอร์ขนาดเท่าเส้นผมเพียงเส้นเดียว และสามารถส่งข้อมูลได้ไกลถึง 1,808 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางระดับทวีป ความเร็วนี้เพียงพอที่จะดาวน์โหลดภาพยนตร์ทั้งคลังของ Netflix ได้มากถึง 30 รอบภายในเวลาเพียงวินาทีเดียว นวัตกรรมครั้งนี้เป็นผลงานร่วมกันระหว่างสถาบันวิจัย NICT ของญี่ปุ่น และบริษัท Sumitomo Electric Industries ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีไฟเบอร์แบบใหม่ ซึ่งยังคงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.125 มิลลิเมตรเท่ากับไฟเบอร์แบบดั้งเดิม แต่บรรจุไว้ด้วยโครงสร้างภายในแบบ 19 แกน

โครงสร้าง 19 แกนของสายไฟเบอร์นี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการส่งข้อมูลอย่างมหาศาล โดยแต่ละแกนทำหน้าที่เป็นช่องสัญญาณอิสระ ทำให้สามารถส่งข้อมูลพร้อมกันได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม ไม่ต้องขยายขนาดสายหรือเปลี่ยนระบบที่ใช้อยู่แล้ว ส่งข้อมูลได้พร้อมกันในปริมาณมหาศาลโดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเดิม นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังออกแบบให้ไฟเบอร์ใหม่นี้สามารถทำงานได้ทั้งในย่านคลื่น C และ L ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วโลก และลดการสูญเสียสัญญาณลงได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับแบบเดิม

การทดลองใช้เทคนิคการขยายสัญญาณแบบแยกคลื่น (dual-band amplification) และระบบการมอดูเลตแบบ 16QAM เพื่อเพิ่มปริมาณข้อมูลต่อพัลส์ รวมถึงระบบประมวลผลสัญญาณแบบ MIMO ที่สามารถแยกและจัดการกับสัญญาณที่ทับซ้อนกันระหว่างแกนได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลที่สูงถึง 1.86 เอกซะบิตต่อวินาทีต่อกิโลเมตร ซึ่งสูงกว่าสถิติก่อนหน้าถึง 14 เท่า แม้จะไม่ใช่สถิติที่เร็วที่สุดในโลก แต่สภิตินี้นับว่าเป็นสถิติที่ส่งข้อมูลความเร็วระดับนี้ได้ไกลที่สุดในโลก และเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในวงการไฟเบอร์ออปติก

ความสำเร็จนี้ถูกนำเสนอในงานประชุม OFC 2025 ที่สหรัฐอเมริกา และถือเป็นความหวังใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารในอนาคต ท่ามกลางแนวโน้มที่ปริมาณข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในปี 2030 โดยทีมพัฒนามีแผนที่จะต่อยอดการผลิตในระดับอุตสาหกรรม และใช้เทคโนโลยีนี้ในการวางสายเคเบิลใต้น้ำหรือระบบเครือข่ายระหว่างประเทศ ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งศูนย์ได้ภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว

ที่มา : techspot