ในที่สุด LG G4 เครื่องใหม่แกะกล่องก็เดินทางมาถึง droidsans เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการจะได้มานั้นยากลำบาก แถมยังเลือดซิบๆ อีกด้วย (ขอไม่เล่าละกัน มันสะเทือนใจเจ้าของเครื่อง) แล้วจะมาพิรี้พิไรอยู่ทำไม พี่ก็แกะกล่อง LG G4 เลยสิครับ!

ปล. เครื่อง LG G4 นี้เป็นเครื่องเกาหลี ในกล่องจึงอาจจะมีกิมจิ เอ๊ยไม่ใช่! มีอุปกรณ์ที่แถมมาภายในแตกต่างจากรุ่นที่กำลังจะวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงปลายเดือนนะครับ

แกะเอาเครื่องออกมาวางตอนแรก ถ้าถ่ายแต่รูปมาแบบนี้ไม่บอกก็คงไม่รู้ว่ามันคือ LG G4 เพราะดีไซน์ด้านหน้าตัวเครื่องมันพิมพ์เดียวกับ G Flex 2 เลยจริงๆ ทั้งขอบเงินรอบๆ แถมดูจากมุมนี้ยังเหมือนจอจะเว้านิดๆ (ซึ่งจริงๆ จอของ G4 มันก็เว้านิดๆ ครับ แต่ไม่เว้ามากขนาด Flex 2)

แกะดูอุปกรณ์ภายในกล่องกันก่อน ซึ่งปกติแล้วเครื่องเกาหลีของ LG เค้าจะแถมแบต 2 ก้อนให้อยู่แล้วมาแต่ไหนแต่ไร และเป็นประเทศเดียวที่แถมแบตก้อนที่ 2 พร้อมแท่นชาร์จ ส่วนรุ่นที่ขายทั่วโลกนั้นแน่นอน แบตก้อนเดียวครับ รู้แล้วจะได้ไม่ต้องไปโวยว่าทำไมของไทยได้แบตก้อนเดียว (ยกเว้นคนที่จองในงาน TME 300 คนแรกที่จะได้แบตเพิ่มเป็นของแถม)

แบตเตอรี่ของ LG G4 มีความจุ 3,000 มิลลิแอมป์ และก็มีกล่องใส่แบตสำรองให้พกพาด้วย มีแบต 2 ก้อนเอาจริงๆ มันสะดวกกว่ากระสือ power bank เยอะมาก แกะเปลี่ยนได้ทันที

หม้อแปลงของ LG G4 นั้นเป็นแบบจ่ายไฟ 5V 1.8A ซึ่งก็สามารถชาร์จได้แบบปกติ แต่จริงๆ ตัวชิพ Snapdragon 808 ก็รองรับ Quick Charge 2.0 ด้วย ถ้ามีหม้อแปลงที่สนับสนุน Qualcomm quick charge ก็จะชาร์จได้ไวขึ้น

ส่วนนี่เป็นตลับแป้ง etude เอ๊ย! กล่องชาร์จแบตสำรองต่างหาก เปิดออกมาดูดี มีฝาผิดให้พร้อม เอาแบตวางแล้วก็เสียบสาย micro USB ชาร์จได้เลย ด้านนอกมีไฟแสดงสถานะว่าชาร์จเต็มหรือยัง (อันนี้คนที่จองเครื่องก็ได้แถมด้วย)

หูฟัง in-ear LG Quadbeat 3 เรียกว่าเดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว รุ่นนี้ดูเหมือนมีการปรับดีไซน์ตรงส่วนของหูฟังนิดหน่อย อันนี้ไม่แน่ใจว่าจะแถมมาในกล่องไทยหรือเปล่า (แต่คงแถมแหละ) เพราะเป็นอุปกรณ์อีกอย่างที่จะแถมมาในกล่องเฉพาะบางประเทศเท่านั้น

มาถึงตัวเครื่องกันบ้าง ด้านล่างนั้นเป็นช่องหูฟัง 3.5 มม. และช่อง micro USB ส่วนตัวเครื่องดีไซน์ด้านหลังเครื่องก็จะนูนโค้งมากกว่าตอน G3 นิดหน่อย คือทำให้โค้งเข้ากับฝ่ามือนั่นแหละ

กล้องหน้าของ LG G4 นั้นขยับขึ้นมาเป็น 5MP 8MP พรวดเดียวเลย นับเป็นรุ่นแรกของ LG ที่มีการปรับมาใช้กล้องหน้าที่ความละเอียดมากกว่า 2MP จะเรียกว่าเป็นค่ายสุดท้ายเลยก้ว่าได้ เพราะเจ้าอื่นเค้าเปลี่ยนมาใช้ในหลายๆ รุ่นกันแล้ว.. อ้อ เหลือ Apple นี่หว่า 😀

ฝาหลังของ LG G4 จริงๆ นั้นมี 2 แบบคือแบบที่เป็นฝาอะครีลิค แล้วก็ฝาหนังแท้ ซึ่งพอลองสัมผัสแล้วก็เป็นหนังแท้จริงๆ คือมันนุ่ม มันใช่ มันหยุ่นๆ มือ อร๊าง~

กล้องหลัง 16MP ของ LG G4 นั้นมาพร้อมกันสั่นที่เทพกว่าเดิมเพราะรอบนี้ใส่มา 3 แกน นอกจานั้นยังรองรับการถ่ายภาพ RAW format ฟากนึงคือหลอดไฟ LED ส่วนอีกด้านเป็น Laser focus แบบใหม่ ส่วน IR Blaster หรือรีโมทอินฟราเรท นั้นจะอยู่ที่ด้านบนตัวเครื่องแบบเดียวกับ G3  

นอกจากฝาหลังหนังแท้แล้ว ลายเย็บบนหนังก็เป็นของแท้ และแน่นอนว่าเป็นหนังแท้แล้ว การจะเกิดลอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ นั้นก็ไม่ได้ยากเลย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ เพราะเค้าก็มีฝาอะครีลิคให้เลือกซื้อ แต่ความรู้สึกเวลาจับมันต่างกันจริงๆ

แกะฝาหลังดูไส้ในนิดหน่อย ส่วนนี้จะต่างกับรุ่นที่วางจำหน่ายในเมืองไทยแน่นอนเพราะมันเป็นซิมเดียว แต่รุ่นขายไทยมันเป็น dual sim นะครับ ส่วนฝาหลังนั้นจะเห็นว่ามีแผงวงจรเล็กๆ อยู่ นั่นคือแผง NFC

ช่อง micro SIM และ micro SD จะวางซ้อนกันอยู่เป็นแบบ 2 ชั้น ส่วนของไทยต้องรอดูอีกทีว่าจะเป็นแบบไหน

ซูมดูฝาหลังนิดหน่อย ภายในยังคงเป็นพลาสติกครับ แต่ก็เอาหนังมาแปะไว้ด้านนอก บอกตรงๆ ว่าผมกลัวว่าใช้ไปนานๆ มันจะหลุดแยกออกจากกันไหมหว่า

ขอได้รับความขอบคุณจาก ท่าน @HD_Mania ที่สละเลือดเพื่อพวกเราในครั้งนี้ด้วยครับ เห็นว่าสอยมารอบนี้เจ็บหนักสุดๆตอนนี้ผมขอเอาไปเครื่องไปชาร์จแบตก่อนนะครับ