น้องเล็ก Galaxy S10e ที่หลายๆ คนถามหาว่าไม่เห็นมีการเปิดจองหรือวางขายสักที ล่าสุดตอนนี้สามารถหาซื้อกันได้แล้วนะครับ โดยมือถือเรือธงไซส์น่ารักตัวนี้เริ่มวางขายจริงในวันที่ 8 มีนาคมซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Galaxy S10 | S10+ เริ่มวางขายหน้าร้านนั่นเอง ใครที่สนใจอยากจะสอยมาใช้งานหรือกำลังลังเลก็มาดู แกะกล่องพรีวิว Galaxy S10e กับ droidsans กันได้เลย
ราคาเต็มของ Galaxy S10e นั้นอยู่ที่ 26,900 บาท ซึ่งเครื่องนี้แน่นอนว่าไม่ได้จ่ายเต็มครับ เลือกพ่วงโปรลูกค้าเก่ามาแทน ก็ได้มาในราคาถูกหน่อย หมื่นปลายๆ เท่านั้น โดยสีที่เห็นคือสีเขียว Prism Green เป็นสีเขียวที่หามุมดูให้เข้มยากมาก มันจะดูเขียวอ่อนๆ ไม่อ่อนถึงขั้นหยก แต่ก็แปลกตาดี
แกะกล่อง Galaxy S10e
อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่องของ S10e นอกจากตัวเครื่องแล้วก็มีสาย USB C, ตัวแปลง USB C เป็น USB A (หลักๆ เอาไว้ใช้ย้ายข้อมูลผ่าน Smart Switch), หูฟัง AKG, หม้อแปลง Adaptive Fast Charge และเคสที่ดีไซน์แปลกตา รูพรึ่บไปหมดเลยจ้า
หม้อแปลง Adaptive Fast Charge จ่ายไฟสูงสุด 15 วัตต์ (9V 1.67A) สำหรับการชาร์จแบตความจุ 3100 มิลลิแอมป์ของ S10e ก็ไม่น่าเกิน 90-100 นาที
ของแปลกคือเคสนี่แหละ วัสดุจากที่ลองจับๆ ดูก็เป็นโพลีคาบอเนตแข็งๆ แต่ก็ยืดหยุ่นได้ในบางจุด ส่วนขอบที่จะยึดกับตัวเครื่องนั้นแข็งเป็นพิเศษ
ลวดลายจากด้านหลังก็เป็นรูกลมๆ หลากหลายขนาด เรียงเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมแบบเพชรหรือ diamond
พอเอามาประกอบเข้ากันแล้วก็จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ แข็งแรงทนทานแน่นอน ผิวก็ด้านๆ ไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ แต่ที่กังวลคือเรื่องของฝุ่นที่อาจจะเข้าไปอยู่ตามรูต่างๆ นี่แหละ น่าจะต้องถอดเอามาเช็ดกันบ่อยๆ
สำรวจตัวเครื่อง Galaxy S10e
รุ่นนี้ก็แถมฟิล์มกันรอยมาบนหน้าจอเรียบร้อย ไม่ต้องไปลอกออกหรือรีบเปลี่ยนนะครับ เพราะจากที่ลองก็เช็ดคราบมันออกจากจอได้ไม่ยากเท่าไหร่ นอกเสียจากใครอยากจะไปติดฟิล์มกระจกหรือแบบอื่นๆ ก็ตามสไตล์ กล้องเซลฟี่รุ่นนี้สเปคเดียวกับ S10 ความละเอียด 10 MP (f 1.9), Dual Pixel AF, ถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K
ด้านหลังของ S10e นั้นเป็นกล้องคู่ (แตกต่างจากรุ่นพี่ทั้งสองที่เป็น 3 กล้อง Triple Camera) คือมีกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล ที่ปรับรูรับแสงได้ และกล้องมุมกว้าง Ultra wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล จากในภาพจะเห็นว่าส่วนของ LED Flash นั้นไม่มีตัวเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจหรือ Heart Rate Monitor มาด้วยนะครับ
ด้านล่างมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. , USB C, ไมโครโฟนและลำโพง
ฝั่งขวาของหน้าจอนั้นมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือซึ่งแค่แตะก็สแกนแล้ว แต่ถ้ากดลงไปก็จะทำงานเหมือนกับปุ่มพาวเวอร์ใช้ เปิด/ปิด เครื่อง หรือหน้าจอได้
ทางด้านซ้ายเป็นปุ่มปรับเสียงและ Bixby นะครับ ไม่ใช่ปุ่มพาวเวอร์ ระวังลั่นกดผิดกันบ่อยๆ (อยากเปิดจอต้องไปกดที่ปุ่มสแกนนิ้วแทนนะ)
ด้านบนของเครื่องคือไมค์ตัดเสียงรบกวน และก็ช่องถาดซิม
Galaxy S10e ใช้ถาดซิมแบบไฮบริด เลือกใช้งานเป็น 2 ซิมหรือ 1 ซิม + 1 micro SD ก็ได้ ส่วนตัวผมหน่วยความจำ 128 นี่ถ้าไม่ถ่ายวิดีโอเยอะจริงๆ ยังไงก็ไม่น่าเต็มง่ายๆ
เปรียบเทียบขนาด Galaxy S10e และ Galaxy S10+
หากเทียบขนาด Galaxy S10e กับ S10 จะรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าขยับมาเทียบกับ S10+ นี่จะเหมือนพ่อกับลูกเลยทีเดียว
ด้วยความที่หน้าจอของ Galaxy S10e นั้นไม่โค้งข้าง (ไม่ใช่จอ dual edge) เวลาจับถือใช้งานก็ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก แถมขนาดก็เหมาะมือมากๆ คือยังมีคนที่ชอบมือถือที่ขนาดพอดีมืออยู่ แต่บางคนก็ชอบเลือกที่ขนาดจอใหญ่ๆ
ความหนานั้นยังพอๆ กัน แต่ขนาดในด้านอื่นๆ นั้นเล็กลงแบบเห็นได้ชัดเจน คือใส่กระเป๋าได้สบายๆ
ความรู้สึกแรกสัมผัส
ได้จับกี่ครั้ง ก็ยังชอบในขนาดของ Galaxy S10e มาโดนตลอด มันคือมือถือที่เหมาะกับการพกพาจริงจัง
ส่วนตัวชอบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างมากๆ แต่ที่ไม่ชอบคือตำแหน่งที่สูงของมันนี่แหละ (บ่นเหมือนตอน S10+ เลย แต่ปุ่มมันก็สูงจริงๆ) ตอนจะบันทึกลายนิ้วมือนั้นให้แตะนะครับ ไม่ใช่กดลงไป ไม่งั้นจะกลายเป็นกดปิดเครื่องแทน ต้องแตะยก แตะยก ไปเรื่อยๆ ให้มันจำได้
กล้องหน้าบนจอ Infiniy – O อยู่ที่มุมขวาบน แม้จะเป็นกล้องเดี่ยวก็ยังมี Live Focus หน้าชัดหลังเบลอมาให้
ส่วนกล้องหลังคู่ลองไล่ๆ เช็คฟีเจอร์ดู ก็มีเหมือนกับ S10 | S10+ ทั้งหมด คือไม่ลดหย่อนไปกว่ากัน แม้จะเป็นน้องเล็ก
เนื่องจากมีเวลาเล่นไม่นานเท่าไหร่ ก็เลยขอเน้นไปที่การทดสอบประสิทธิภาพเร็วๆ ก่อน นั่นก็คือ Antutu
ผลคะแนนก็ออกมาไม่ต่างจากพวกรุ่นพี่คือทะลุสามแสน ทำไป 327,675 สบายๆ
ถ้าจะสรุปความแตกต่างของ Galaxy S10e กับรุ่นพี่ๆ ก็ต้องบอกว่าสเปคไม่ได้เป็นรองในด้านไหนเป็นพิเศษ จะมีข้อแตกต่างเป็นเรื่องขนาดจอและตัวเครื่องซึ่งเล็กกว่า และแผงจอยังเป็น Super AMOLED ไม่ใช่ Dynamic AMOLED ส่วนจอแม้จะเป็น Dynamic AMOLED เหมือนกัน แต่คุณภาพในเรื่องการแสดงผลและ contrast ratio ยังไม่สู้ S10 | S10+
อีกเรื่องก็คือจำนวนกล้องหลังกับ 3 กล้องเท่านั้น ซึ่งในการถ่ายภาพทั่วไปดูแล้วก็น่าจะไม่ต่างกันเยอะนอกเสียจากว่าจะมีการใช้โหมดต่างๆ เช่นการซูม ทำให้ Galaxy S10e นั้นถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ สำหรับใครที่ชอบใช้งานมือถือพกง่ายๆ ถือสบายๆ ในมือเดียวครับ
ช่วงนี้ ต้องพยายาม จับ Note 9 ในมือไว้ให้แน่น แล้วท่องกับตัวเองว่า รอดูNote 10 ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ….ทีมงาน Droidsans ป้ายยาเก่งมาก =_=
แต่ราคาก็ใช่ย่อย รอพ่วงโปรฝม่ก็ลดราคาลงกว่านี้ก่อน มือถือจอเล็กสเป็คเรือธงแทบไม่มีแล้วเดี๋ยวนี้ ไปลองจับมาแล้ว น่าจะโดนแน่นอน 😂😙
จอs10eเป็น dynamic amoled รึเปล่าครับ ไปที่shopมาเมื่อวานก็บอกแบบนี้ จะต่างแค่ความละเอียดที่เป็น fhd+ ไม่ใช่ qhd+
จอก็เป็น Dynamic AMOLED ด้วยหรือเปล่าครับ เมื่อวานไปshopมา พนักงานขายก็บอกว่าใช้เหมือนกัน ต่างกันแค่ความละเอียดที่เป็น fhd+ ไม่ใช่ qhd+ เหมือนอีกสองรุ่น
จอ S10e ก็เป็น Dynamic AMOLED เหมือน S10 นิครับ ต่างกันที่ความละเอีนดและใช้ Gorilla Glass 5 ไม่ใช่เหรอครับ หาจากเว็บ ตปท ก็เขียนแบบนี้กันหมด GSM ก็บอกแบบก็บอกแบบนี้นะครับ
ความละเอียด* ก็บอกแบบ*(พิมพ์ซ้ำ)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ผมจำได้ละว่าใช้ชื่อเรียก dynamic เหมือนกัน แต่คุณภาพจอไม่เท่ากันแน่ๆ ไม่ใช่แค่ความละเอียดครับ คือพวก contrast ratio จะไม่เท่ากันด้วย
ถ้าเป็นส่วนนี้ Samsung บอกเท่าดันทั้ง 3 รุ่นเลยนะครับ พอดีเห็นมีคนไปถามในพันทิพเรื่องนี้ด้วย ผมลองไล่อ่านเว็บนอกหลายเว็บเลย ด้วยความอยากให้จอมันได้แบบอีกสองตัวแต่ไม่โค้งอะครับ 😂
กัน* (แก้ที่พิมพ์ผิด)
อ่านสเปคตอนเปิดตัวทำไมเค้าบอกว่า S10e เป็น super AMOLED แบบเดิมล่ะ ผมจำได้
นั่นสิครับ
เปิดตัวกับขายจริงอาจจะเปลี่ยน spec มั้ง แต่เอามาเทียบกันทั้ง 3 ตัวแทบไม่ต่าง 10e คุ้มค่าเงินสุดถ้าใช้ส่วนลด Operator แบบไม่ต้องจ่ายล่วงหน้า
แก้ครับ 2000000:1 พิมพ์สลับครับ
อีกอันที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือค่า delta ของ s10e แย่กว่าของ s10 ครับ แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ contrast
อีกอันที่น่าจะต่างกันแค่มีความเป็นไปได้มากกว่าคือ delta-e เพราะผู้ผลิตคงไม่น่าทำpanel 8-bit กับ 10-bit แยกกัน ค่า delta eเท่าที่ดูในเว็บนอก 10e ไม่ค่อยเท่า s10 s10+
แบตใช้ได้นานกี่ชั่วโมงครับ อยากให้ทำรีวิวเทียบกัน s10e s10 s10+ เรื่องระยะเวลาใช้งานครับ