เกือบถึงคราวซวยได้ปิดกิจการกันไปแล้ว สำหรับ ZTE บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่ก่อนหน้านี้ได้ละเมิดสัญญาซื้อขายกับทางอเมริกา ด้วยการแอบลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ซื้อจาก Qualcomm ให้กับประเทศอิหร่านและเกาหลีเหนืออีกทีนึง ทำให้อเมริกาสั่งแบน ZTE ห้ามซื้อขายสินค้าทุกชนิดจากอเมริกาเป็นเวลาถึง 7 ปี แต่ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะตกลงกันใหม่ได้แล้ว ด้วยค่าปรับมหาศาลที่ ZTE ต้องจ่ายให้อเมริกาเป็นจำนวนเงินถึง 900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29,000 ล้านบาท)

ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ขอทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ ว่าจะหาทางออกให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ ZTE จากประเทศจีนที่เกือบจะโดนโทษแบนห้ามทำการซื้อขายสินค้ากับอเมริกาทุกชนิดเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งหมายความว่า ZTE คงไม่แคล้วต้องปิดกิจการและมีพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องตกงานอีกเป็นพันๆ คน (ไม่ได้มีแค่พนักงานที่เป็นคนจีนซะด้วยนะเนื่องจาก ZTE ก็มีบริษัทอยู่ที่อเมริกา และ ZTE ยังเป็นแบรนด์มือถืออันดับ 4 ในอเมริกาอีกด้วย)

แต่หลังจากการหารือและตกลงกันใหม่ระหว่าง ZTE และ อเมริกา สุดท้ายแล้ว ZTE ก็รอดจากโทษแบนจนได้ แต่ต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาลถึง 900 ล้านดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 28,848,170,772 บาท (ประมาณสองหมื่นแปดพันกว่าล้านบาท) นอกจากนี้ประธานาธิบดีของจีนยังตกลงยกเลิกภาษีนำเข้าของสินค้าการเกษตรจากทางอเมริกาให้อีกด้วย

ก็ถือว่า ZTE รอดตัวจากการต้องปิดกิจการไปแล้ว ด้วยค่าปรับจำนวนมหาศาลเกือบสามหมื่นล้านบาท แต่ก็ยังดีกว่าต้องปิดกิจการขนาดยักษ์แล้วทำให้ลูกจ้างอีกเป็นพันคนต้องตกงานล่ะนะ…ส่วนพนักงานจำนวน 35 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบขายสินค้าให้อิหร่านและเกาหลีเหนือนั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลจาก ZTE ว่าจะได้รับโทษยังไงต่อไป

 

ที่มา : GSMarena, CNBC