Replies from darklords
[size=20][color=#0000ff]Phase 5 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปรับแต่ง Note 2[/color][/size]
ในส่วนนี้จะขออธิบายเฉพาะรายละเอียดที่จำเป็นต้องใช้นะมีคนอธิบายไว้หลายคนแล้วใน Internet
[size=14][color=#0000ff]01. การกดปุ่ม / ปุ่มสำหรับกด[/color][/size]
– กดปุ่มปรับเสียงขึ้น (Volume Up) คือเลื่อนขึ้น
– กดปุ่มปรับเสียงลง (Volume Down) คือเลื่อนลง
– กดปุ่ม Home
– กดปุ่ม Power คือ ตกลง
[size=14][color=#0000ff]02. Download Mode[/color][/size]
Download Mode คือ โหมดพิเศษสำหรับ Up Rom อัพรอม เคอร์เนล หรือ Modem ใหม่
[size=13][color=#0000ff]วิธีการเข้า Download Mode[/color][/size]
– ปิดเครื่อง หรือถอดแบตก็ได้แล้วเสียบแบตใหม่
– กดปุ่ม Volume Down + กดปุ่ม Home + แล้วกดปุ่ม Power
– ก็จะได้รายละเอียดตามรูป
– ต่อจากนั้นให้กดปุ่ม Volue Up (ปุ่มเพิ่มเสียง)ก็จะเข้าสู่ Download Mode ก็จะได้รายละเอียดตามรูป
[size=14][color=#0000ff]03. Recovery Mode แท้ของ Rom Samsung[/color][/size]
Recovery Mode แท้ของ Rom Sansung คือการบูตเข้าโหมดพิเศษเพื่อรายละเอียดต่อไปนี้
[size=13][color=#0000ff]คำสั่งใน Recovery Mode [/color][/size]
– Update Patch ไฟล์.zip
– Path Install zip file
– wipe data,factory reset
– wipe cache partition
[size=13][color=#0000ff]– วิธีการเข้า Recovery Mode[/color][/size]
– ปิดเครื่อง หรือถอดแบตก็ได้ แล้วเสียบแบตใหม่
– กดปุ่ม Volue Up+ กดปุ่ม Home + แล้วกดปุ่ม Power
– พอเห็น Logo Sansung GALAXY NOTE II GT-N7100 ก็ให้ปล่อยมือ
– จากนั้นก็จะเข้าสู่ Recovery
[size=14][color=#0000ff]04. CWM Recovery Mode[/color][/size]
CWM Recovery Mode คือ Recovery Mode ที่จะคล้ายกับ Recovery Mode ของแท้จากศูนย์ Samsung CWM พัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมโดย clockworkmod เพื่อให้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องมานั่งพิมพ์คำสั่ง (Command line)
[size=13][color=#0000ff]– วิธีการเข้า CWM Recovery Mode[/color][/size]
– ปิดเครื่อง หรือถอดแบตก็ได้ แล้วเสียบแบตใหม่
– กดปุ่ม Volue Up+ กดปุ่ม Home + แล้วกดปุ่ม Power
– พอเห็น Logo Sansung GALAXY NOTE II GT-N7100 ก็ให้ปล่อยมือ
– จากนั้นก็จะเข้าสู่ Recovery ตามรูป
[size=13][color=#0000ff]– คำสั่งใน CWM Recovery Mode V.6.0.2.8[/color][/size]
ลงแค่คำสั่งหลัก ๆ แล้วกัน เดี๋ยวมันจะยาวเกิน
01. Reboot System Now
02. Install Zip
03. Wipe Data/Factory Reset
04. Wipe Cache Partition
05. Backup and Restory
06. Mounts and Storage
07. Advanced
08. PhilZ Setting
09. Power Off
[size=14][color=#0000ff]05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode[/color][/size]
01. ปิดเครื่อง แล้วเข้า CWM Recovery Mode
02. กดเลือก Wipe Cache Partition ตามรูป
03. กดเลือก Yes – Wipe Cache
04. กดเลือก Wipe Data/Factory Reset แล้วกดปุ่ม Power / ตกลง
05. กดเลือก Yes, — delete all user data
06. หลังจากนั้นกดเลือก Advanced
07. กดเลือก Wipe Dalvik Cache แล้วกดปุ่ม Power / ตกลง
08. กดเลือก Yes – Wipe Dalvik Cache แล้วกดปุ่ม Power / ตกลง
[size=14][color=#0000ff]06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง App BusyBox Free แล้วเปิด App ขึ้นมา
02. กด Grant
03. รอสักพัก
04. กดเครื่องหมาย กากบาท
05. กด Install แล้วออกจาก App
[size=14][color=#0000ff]07. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sammobile Firmware[/color][/size]
– Download Link : Sammobile Firmware
– สมัครสมาชิก่อนถึงจะโหลดได้
– Note 2 N7100 ของแท้ สามารถใช้ Andorid Firmware ข้ามโซนของประเทศไหนก็ได้
– Rom ศูนย์ Samsung มีสามารถโหลดภาษาไทยได้ทุก Rom
[size=14][color=#0000ff]08. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sampro[/color][/size]
– Rom ศูนย์ Samsung เว็ปสำรองในกรณีที่ Sammobile เข้าไมได้
– Download Link : Sampro
– Rom ศูนย์ Samsung มีสามารถโหลดภาษาไทยได้ทุก Rom
[size=14][color=#0000ff]09. Rom ศูนย์ Samsung Website : Samsung-Updates[/color][/size]
– Download Link : Samsung-Updates
[size=14][color=#0000ff]10. Rom Modify : Omega Rom[/color][/size]
– Download Link : Omega Rom
– Rom Modify มีสามารถโหลดภาษาไทยได้ทุก Rom
[size=14][color=#0000ff]11. Rom Modify : Phoenix Rom[/color][/size]
– Download Link : PhoeniX ROM
– Rom Modify มีสามารถโหลดภาษาไทยได้ทุก Rom
[size=14][color=#0000ff]12. วิธีการเข้า Safe Mode ของ Note 2[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ปิดเครื่อง
02. เปิดเครื่อง พอเห็น Logo คำว่า Samsung Galaxy Note II GT-N7100
03. ให้กดปุ่ม Volume Up กับกดปุ่ม Volume Down ค้างไว้จนเครื่องจะ Boot เสร็จ
04. เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาจะเห็นคำว่า Safe Mode อยู่ด้านซ้ายล่าง
05. Safe Mode อยู่ด้านซ้ายล่าง
06. เข้า Safe Mode สามารถใช้งานทุกอย่างได้ปกติ
07. ยกเว้น Application ที่ทำการติดตั้ง จะไม่สามารถใช้งานได้
08. วิธีการออกจาก Safe Mode ให้ Restart เครื่อง 1 รอบ ก็จะออกจาก Safe Mode
[size=13][color=#0000ff]ประโยชน์ของ Safe Mode[/color][/size][–รอ Update–]
01. ประโยชน์แรก ที่เจอ คือประหยัดพลังงานสุด ๆ รวมกับใช้ Saving Power Mode รายละเอียดตามรูป
02. ทดสอบ Wireless Lan ต่อ เท่ียบได้กับต่อ 3G ตลอดเวลา, สามารถโทรเข้าโทรออกเล่นเน็ตได้
03 แต่ถ้าเข้า Safe Mode แล้วจะไม่สามารถใช้ Application ตัวอื่น ๆ ได้ นอกจาก Application ที่ต้องมากลับเครื่องครับ
04. เปิด Note 2 ไปทั้งหมด 8 ชั่วโมงใช้แบตไป 8 %
05. เพราะฉะนั้นก็จะสามารถใช้ได้ทั้งหมด 100 ชั่วโมง หารด้วย 24 ชั่วโมง (จำนวน 1 วัน) = ก็จะสามารถได้ 4.16 วัน
06. Safe mode เป็นการเปิดระบบฏิบัติ โดยจะไม่เปิด 3rd Party application (App ที่เรา Install ลงเพิ่ม)
07. เป็นระบบปฏิบัติการที่มีไว้เพื่อความเสถียรทีสุด ในการเข้าไปใช้งาน
08. เอาไว้แก้ปัญหากับ App ที่ทำให้เครื่องรวน ค้าง หรือ force close
10. ถ้าอยู่ใน Safe Mode Application อื่น ๆ จะไม่สามารถเปิดได้ แต่ Uninstall ได้
[size=14][color=#0000ff]13. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิดเครื่องแล้วเข้า CWM Recovery mode :
02. วิธีการ เข้า CwM Recovery Mode Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
03. กดเลือก Install Zip
04. กดเลือก Choose zip from External sd cards
05. แล้วให้กดเลือกไฟล์ .zip ที่ต้องการจะ Flash ที่ต้องการจะติดตั้ง
06. ขึ้นอยู่กับไฟล์ .zip ที่ต้องการจะ Flash ในส่วนี้เป็นย่อเข้่ามารวมกันเพื่อทำให้กระทู้ไม่หนัก
07. ให้ไปดูต่อในส่วนที่จะ Flash ไฟล์ .zip
[size=14][color=#0000ff]14. วิธีการติดตั้ง ES File Explorer File Manager[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้งและโหลด App ES File Explorer File Manager จาก Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
02. เปิด App ES File Explorer File Manager ขึ้นมา
03. เมื่อเปิด App ขึ้นมาจะเจอรายละเอียดตามนี้
04. กดที่ปุ่มด้านล่างซ้ายมือของ Note 2 แล้วกดเลือก Settings
05. ให้เลื่อหาคำว่า Root Settings
06.จะพบหน้าจอตามนี้ให้กดเช็คถูกที่คำว่า Roo Explorer
07. ให้ตอบ Grant
08. กดเช็คถูกให้หมดตามรูป
09. เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้งและตั้งค่าของ ES File Explorer File Manager
[size=14][color=#0000ff]15. Rom Note 2 N7100 ROOT ODEX/DE-ODEX Rom[/color][/size]
– เป็น Rom Note 2 ที่ทาง XDA-Developer ทำการ Root ให้เรียบร้อย
– พร้อมทำ Rom เป็น Odex (คือ Rom ศูนย์เหมือนเดิม)
– พร้อมทำแปลงเป็น De-Odex (คือ Rom Modify สำหรับการนำมาทำดัดแปลงต่ออีก)
– Download Link : SAMSUNG Galaxy Note 2 N7100 ROOT ODEX/DEODEX Rom
(#jump99)
แนะนำให้ส่งศูนย์ นั่นแหล่ะครับ แต่บอกศูนย์ว่า ไม่ต้องล้างเครื่องหรือล้างข้อมูล
มันมีวิธีทำอยู่ เดี๋ยวช่างที่ศูนย์เขาทำให้เองครับ
ขอบคุณครับ ที่แชร์ประสบการณ์ ลองทำดูครับ Link ของคุณ iicake ดูครับ
เพราะว่า อันที่ผมโหลดมานะ โหลดมาจาก CyanogenMod เลย เคยโหลดมาหลายทีแล้ว
แต่ลงทุกรอบก็ไม่เคยผ่ายเครื่องค้างตลอด ไม่เคยผ่าน ทั้ง ๆ เลือกโหลดรหัส N7100
แล้วก็เงิบ ๆๆ เซ็งครับ เพราะเห็นมีหลายคนบอกว่า เขาทำสวย ก็เลยอยากลองลงดูนะ
ถามเกี่ยวกับ CyanogenMod10.1 ครับ ตอนลงแล้วลงได้ผ่านปกติเลยไหมครับ ผมเคยลองทุกรอบกับ De-odex Rom / Rom Modify แล้วมันค้างตลอด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร มีใครลงแล้ว ผ่านได้มั่ง
ทุกครั้งที่ผมลง ไม่เคยผ่านเลย เป็นอะไรของมันก็ไม่รู้ ลงผ่าน CWM Recovery mode นะ
[size=20][color=#0000ff]Phase 21 การปรับแต่ง Deodexed Rom ตอนที่ 4[/color][/size]
[–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]รอ Update[/color][/size]
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 2 การใช้งานเบื้องต้น 2[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การ Backup SMS, MMS[/color][/size]
– ซื้อ App ได้จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อ : อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 19. App : SMS Backup & Restore /Full เวอร์ชั่น ราคา 61.43 บาท
– ทุกอย่างสามารถหาได้จาก Google
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ตัวอย่างรูป SMS ต้องการสำรอง
02. ติดตั้งและเปิด App SMS Backup & Restore Pro
03. กด OK
04. กด Backup
05. กดเลือกExternal Storage card (เลือกเก็บไว้ใน SD Card)
06. ตั้งชื่อทั้งต้องการจะ Backup แล้วกด OK
07. กด Close
08. กด OK
[size=14][color=#0000ff]02. การ Restore SMS, MMS[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App SMS Backup & Restore แล้วกด Restore
02. กดเลือกวันและเวลา SMS ที่ทำการ Backup กด OK
03. กด Yes
04. กด Close
05. กลับมาดูที่ SMS ก็จะเห็นว่า SMS ได้ Restore กลับมาแล้ว
[size=14][color=#0000ff]03. การ Backup Contact (รายชื่อ)[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ไปที่ Contact ตามรูป
02. จะได้รายละเอียดตามรูป
03. กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วเลือก Import/Export
04. กดเลือก Export to SD Card
05. กด OK
06. รายชื่อ (Contact) จะส่งออกไปเก็บไว้ใน Micro SD Card
[size=14][color=#0000ff]04. การ Restore Contact (รายชื่อ)[/color][/size]
01. ไปที่ไฟล์ที่ Backup แล้วชื่อ 00001.vcf หรือไฟล์ที่ Backup ไว้
02. กดเลือก Contact แล้ว กดเลือก always
03.กด OK
04. กดเลือก phone
05. รูประหว่างรอ Restore
06. ก็จะได้ Contact กลับคืนมาทั้งหมด
[size=14][color=#0000ff]05. การถอด Micro SD Card และ External Memory อื่น ๆ แบบปลอดภัย[/color][/size]
– ใช้สำหรับป้องกันการเสียหาย หรือพังของอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อ
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ไปที่ Settings กดเลือก Storage
2. กด Unmount SD Card
3. กด OK
4. Micro SD Card ก็จะหายไปตามรูปข้างล่าง
5. ถ้า สไลด์ หน้าจอลงมาจะเป็นรายละเอียดตามรูป ก็สามารถถอด Micro SD card ได้แบบปลอดภัยแล้ว
6. ในกรณีที่ต่อกับ External Harddisk, Thumb drive, Reader Card
– ให้กด USB mass storage connected
7. รอจนมีคำว่า mass storage removed safely แล้วกดถอดออกได้เลย
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 3 การใช้งานเบื้องต้น 3[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การติดตั้ง App จาก Google Play Store[/color][/size]
– วิธีการติดตั้ง App จาก Google Play Store นั้นมีหลายวิธี
– เช่น สั่งติดตั้งจากเว็ป Google Play Store, ค้นหาแล้วทำการติดตั้ง และเลื่อนหาแล้วติดตั้ง
– ในส่วนนี้ จะเป็นการติดตั้งแบบธรรมดาแล้ว กดติดตั้ง
– จะต้องทำการสมัคร Google Account ก่อนถึงจะทำการ Download ได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Play Store ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดขึ้นมาจะพอรายละเอียดตามรูป
03. กดเลื่อนไปทางขวา ที่หัวข้อคำว่า TOP FREE
– ในส่วนนี้ จะเป็นตัวอย่างการติดตั้ง Instagram ให้กดเลือก Instagram เพื่อทำการติดตั้ง
04. กด Install
05. กด Accept & download
06. กด KEEP SHOPPING และ Allow automatic updating
07. เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้วจะปรากฎตัวอย่างตามรูป
[size=14][color=#0000ff]02. การติดตั้ง App จาก Samsung Apps Store[/color][/size]
– จะต้องทำการสมัคร Samsung Account ก่อนถึงจะทำการ Download ได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด Samsung Apps Store ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอรายละเอียดตามรูป ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเกม Super Mario Quiz
– กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง ในที่นี้กดเลือก Super Mario Quiz
03. กดเลือก Get
04. กดเลือก Accept and download
05. เมื่อเสร็จแล้วจะปรากฎรายละเอียดตามรูป
[size=14][color=#0000ff]03. การติดตั้ง App จากไฟล์ .APK[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลดไฟล์สำหรับติดตั้ง App .APK มาแล้ว Copy ลง Micro SD Card
02. กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง
03. ในการติดตั้งครั้งแรก จะขึ้นรายละเอียดตามรูป ให้กด Settings
– จะโดย Block การติดตั้งของครั้งแรก
04. กดเช็คถูกที่ Unknow sources
05. กด OK
06. กลับไปที่ App ไฟล์ .APK แล้วกดเลือกติดตั้งอีกครั้ง แล้วกด Install
07. หลังจากนั้น Open หรือกด Done ก็ได้ เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้ง App ที่เป็นไฟล์ .APK
[size=14][color=#0000ff]04. การ Uninstall (ยกเลิกการติดตั้ง) Application[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ไปที่ Setting กด Application Manager
02. กดเลือก App ที่ต้องการลบ
03. กด Clear Cach, กด Clear data และ กด Uninstall
04. กด OK
05. กด OK
06. เป็นอันเสร็จสิ้นการ Uninstall App
[size=14][color=#0000ff]05. การสมัครใช้งาน Application Line[/color][/size]
– ในส่วนของ App จะอธิบายเพียงวิธีการหลัก ๆ เพราะรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง App LINE เปิดเข้า LINE
02.จะพบหน้าต่างลงทะเบียน
03.ระบบจะเลือกประเทศเป็นประเทศไทยให้แบบอัตโนมัติ
– ให้ใส่เบอร์โทรของผู้ใช้ แล้วกด Next
04.จากนั้น ยืนยันโดยแตะที่ปุ่ม Agree with Terms and Verify
05. กด OK
06. จากนั้นรอให้ทาง LINE ส่งหมายเลขเพื่อยันยัน อีกครั้งทาง SMS โดยปกติจะเป็นหมายเลข 4 หลัก
07. ในส่วนนี้ตอนนี้ระบบจะทำการตรวจสอบอัตโนมัติ รอจนกระทั่งเสร็จ
08. จะพอตามรูปก็จะสามารถใช้งานได้เลย
[size=14][color=#0000ff]06. การลงทะเบียน Line[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. กดที่ More หรือที่กด Setting
02. กด Accounts
03. กดที่ Email Account Registration
– กรอกข้อมูล E-mail ,Password และรายละเอียดอื่น ๆ
– เพื่อใช้ในการสมัคร LINE สำหรับใช้งานบน PC และสำหรับใช้ในการสั่งซื้อสติ๊กเกอร์
– เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ในหน้า Account จะมีสถานะเปลี่ยนเป็น Done
04. ก็จะสามารถนำ e-mail กบั Passwordและ Login เข้าใช้งาน LINE ใน PC ได้
05. E-mail กับ Password จะนำไปใช้ต่อในหัวข้อ 04. การใช้งาน Line บน PC
[size=14][color=#0000ff]07. โหลดสติ๊กเกอร์ Line ที่เคยสั่งซื้อ[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Line ขึ้นมา แล้วกด Settings
02. กด Stickers
03. กด Purchase History
04. จะพบหน้าจอตามรูป ให้ทำการโหลดได้เลย
– ถึงจะขึ้นรูป 100 เหรียญทอง แต่ถ้าเคยสั่งซื้อแล้วสามารถโหลฟรีได้ตลอด
[size=14][color=#0000ff]08. การใช้งาน Line บน PC[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เข้าเว็ป Line ตาม Line ข้างล่าง
– Link : Line
02. ที่ Website ของ Line กดปุ่ม Download ด้านบนของ Line
03. Click ที่รูปแบบ Computers Click เลือก Windows ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
– Windows XP ถึง Windows 7 ให้เลือก Windows (ใช้ได้ทั้ง 32Bit และ 64Bit)
– Windows 8 ให้ เลือก Windows 8 (ใช้ได้ทั้ง 32Bit และ 64Bit)
04. ทำการติดตั้งโปรแกรม Line
05. จากนั้นให้เปิดโปรแกรม Line ขึ้นมาแล้วใส่ E-mail กับ Password ที่ทำการสมัครไว้ใน Line App บน Android แล้วกด Login
06. ก็จะขึ้นรายละเอียดพร้อมใช้งาน
[size=14][color=#0000ff]09. การใช้งาน Whats App[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง WhatApps แล้วเปิด App Whats App ขึ้นมา
02. กด Agree and continue
03. ใส่เบอร์ เช่น 085 ให้ใส่แค่ 85-XXX-XXX จากนั้นกด OK
– ไม่ต้องใส่เลข 0 เพราะว่า มี +66 เป็นรหัสประเทศไทยอยู่แล้ว
04. ทำการใส่ชื่อ ที่ต้องการให้โชว์ แล้วกด Next
05. กด Continue
– จะมีค่าบริการรายปี ปีละ 0.99 US$(ดอลล่า)
– หรือประมาณปีละ 30 บาท คูณจำนวนคนทั่วโลก มีกี่คนที่ใช้ก็ รวย ๆๆๆ
06. ก็จะปรากฎหน้าจอดังรูป ก็พร้อมใช้งานได้เลย
– ในอนาคตรูปอาจจะเปลี่ยน เพราะออกเวอร์ชั่นใหม่มา
[size=14][color=#0000ff]10. การใช้งาน Facebook[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ติดตั้ง App Facebook แล้วเปิด App Facebook ขึ้นมา
02. ใส่ E-mail หรือเลขโทรศัพท์ (แนะนำให้ใส่ E-mail) และใส่ Password จากนั้น Log In
03. กด Skip
04. กด Sync
05. เสร็จแล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป
(#jump99)
-*-
-*-
-*-
[size=20][color=#0000ff]Phase 7 การติดตั้ง Rom Official & Rom Modify[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. การ Flash Rom ศูนย์ด้วยโปรแกรม Odin[/color][/size]
– วิธีการเข้า Download Mode และ Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
– วิธีการ Full wipe ดูรายละเอียดใน Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
[size=13][color=#FF0000]เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ก่อนทำจะต้องสำรองข้อมูลทั้ง Contact, ข้อมูลรูปภาพ และอื่น ๆ ออกก่อนทำด้วย ไม่งั้นข้อมูลหายเกลี้ยง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Rom ศูนย์ แล้วให้เลือกทีบันทึกไว้ สามารถโหลดได้จาก Phase 5 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปรับแต่ง Note 2 (#jump5)
– หัวข้อย่อย 07. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sammobile Firmware หรือ
– หัวข้อย่อย 08. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sampro
02. เสร็จแล้ว คลิกขวาที่ไฟล์ (ต้องมีโปรแกรม Winrar หรือ 7zip) เลือก Extrac จะได้ไฟล์ XXXX.tar.md5
03. ปิดเครื่อง Note 2 แล้วเข้า Recovery mode
04. สำหรับคนที่ใช้ Rom ศูนย์และยังไม่ได้ Root อยู่แล้วให้กดเลือก wipe cache partition กับ wipe factory reset ครับ
05. สำหรับคนที่ Root อยู่แล้ว
– กดเลือก wipe cache partition และ
– กด wipe factory reset และ
– กดปุ่มเข้า Advance กด Wipe Dalvik Cache
06. กดปุ่มขวามือด้างล่างของ Note 2 แล้วเลือก Reboot System now
07. แล้วให้ปิดเครื่อง Note 2 แล้วเข้า Download Mode
08. ติดตั้งโปรแกรม Samsung Kies ที่คอมพิวเตอร์ แล้ว Restart คอมพิวเตอร์ 1 รอบ
09. ต่อสาย Micro USB กับ Note 2 เข้าคอมพิวเตอร์
10. เปิดโปรแกรม Odin ให้ติ๊กถูกที่ ช่อง Auto Reboot และ F.Reeset Time แล้วกดที่ปุ่ม PDA ตามรูป
11. ในช่องสีฟ้า ID:COM แต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนกัน ต้องเช็คด้วยว่ามันเป็นสีฟ้าหรือเปล่า ถ้าไม่เป็นสีฟ้า แสดงว่าสายไม่แน่ หรือไม่ก็ยังไม่ได้ลง Driver (Samsung Kies)
12. แล้วเลือกไปหาที่เก็บไฟล์ XXXX.tar.md5 รายละเอียดตามรูป แล้วกดปุ่ม Open รอสักประมาณ 1-2 นาที ช่วงระหว่างนี้โปรแกรม Odin จะทำการเช็คไฟล์ XXXX.tar.md5 ว่าถูกต้องหรือไม
13. ให้หลังจากนั้นกดปุ่ม Start
14. รูประหว่าง Download Rom ศูนย์ Samsung ลงเครื่อง
15. ช่วงระหว่างนี้ห้ามทำสาย Micro USB หลุดหรือไฟดับ ถ้าสาย Micro USB หลุดหรือไฟดับให้ไปเริ่มต้นทำข้อ 1 ใหม่ทั้งหมดครับ
16. เสร็จแล้ว รอประมาณ 5 – 10 นาที ก็จะเห็นคำว่า PASS!
17. ให้รอจนเห็นรูปข้างล่างใน Note 2 ก็เป็นเสร็จสิ้นการ Flash Rom ศูนย์ จากโปรแกรม Odin ก็ถอดสาย Micro USB ได้เลย
18. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ สิทธิ์ Root เครื่องจะหายไปด้วย ถ้าจะ Root ให้ไปทำข้อที่ 21 – Root Rom สำหรับมือใหม่/พร้อม Reset ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน ต่อเลยครับ
19. จริง ๆ แล้วหัวข้อนี้ เป็นการ Flash Rom ศูนย์ด้วย App Odin Mobile Pro แต่ผม Test แล้ว App odin mobile pro ไม่ค่อยมีความเสถียร บางทีก็ใช้ได้ ใช้ไม่ได้ และมันไม่ผ่านการทดสอบ ถ้ามือใหม่เอาไปเล่นเดี๋ยวจะมีปัญหา ผมเลยไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้ครับ
20. ใครสนใจดูรายละเอียดได้จาก Youtube ครับ Link : Odin Mobile Pro เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดตามมาเกี่ยวกับ App Odin Mobile Pro ด้วยครับ ถ้าเป็นคนที่เล่น Rom Modify จนชำนาญแล้ว ถ้าเกิดปัญหาขึ้นสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ไม่ยากครับ
21. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ เสร็จ จะไม่สามารถใช้ 3G ได้จะต้อง ทำการ Add Access Point Names ให้ไปดูต่อในข้อ 22 – การตั้งค่าเพื่อให้ใช้ 3G ค่าย AIS/TrueMove H/Dtac
[size=14][color=#0000ff]02. การ Root Rom แบบสมบูรณ์สำหรับมือใหม่[/color][/size]
คำอธิบายเพิ่มเติมก่อนเตรียมตัวทำ
– Root แล้วข้อมูลไม่หาย
– Root แล้ว App ไม่หาย
– Root แล้ว SMS ไม่หาย
– หลัง Root Rom เสร็จให้ไปทำข้อ 03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกันต่อ
– สำหรับคนที่จะใช้ Rom Modify ไม่จำเป็นต้องทำ
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมเบื้องต้น[/color][/size]
– ต้องโหลดโปรแกรมกับ App มาให้ครบ 5 App อยู่ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
1.Samsung Kies
2. Odin3 v3.07
3. CWM6 Root Note2.tar
4. Recovery.tar
5. Triangle Away
[size=14][color=#0000ff]เริ่มต้นการ Root[/color][/size]
– วิธีการเข้า Download Mode อยู่ใน Phase 5 Link : 02. Download Mode (#jump052)
– วิธีการเข้า Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. ติดตั้งโปรแกรม Samsung Kies แล้ว Restart คอมพิวเตอร์ 1 รอบ
02. ปิดเครื่อง Note 2
03. แล้วเข้า Download Mode
04. เปิดโปรแกรม Odin ขึ้นมาจากในคอมพิวเตอร์ รายละเอียดตามรูป
05. ต่อสาย Micro USB กับ Note 2 เข้าคอมพิวเตอร์ ในช่องสีฟ้า ID:COM แต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนกัน ต้องเช็คด้วยว่ามันเป็นสีฟ้าหรือเปล่า ถ้าไม่เป็นสีฟ้า แสดงว่าสายไม่แน่ หรือไม่ก็ยังไม่ได้ลง Driver (Samsung Kies)
06. ให้ติ๊กถูกที่ ช่อง Auto Reboot และ F.Reeset Time แล้วกดที่ปุ่ม PDA ตามรูป
07. ให้เลือกไปหาไฟล์ที่เก็บไว้ชื่อ CWM6_Root_Note2.tar ที่โหลดมาจากข้างบน จากนั้นกด Open
08. จะได้รายละเอียดตามรูปครับ แล้วให้กดปุ่ม Start
09. รอจนในโปรแกรม Odin ขึ้นคำว่า Removed!! ถอดสายได้เลยครับ ไม่จำเป็นรอจนมีคำว่า Pass!
10. แต่ถ้าใครจะรอจนเสร็จก็ให้รอจนขึ้นคำว่า PASS! สีเขียวตามรูปครับ
11. ให้สังเกตุดูเวลาเปิดเครื่องหลังจากเข้า Note 2 แล้วจะมี Icon SuperSu มา ก็แสดงว่าการ Root เสร็จสมบูรณ์
12 ให้ปิดเครื่องแล้วเข้า Recovery Mode จะได้รายละเอียดตามรูปครับ
[size=14][color=#0000ff]03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01 ต้องโหลดโปรแกรมกับ App มาให้ครบ อยู่ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064) โหลดในข้อ
02. ให้โหลดตามข้อ 2 ถึง ข้อ 6
03. หัวข้อย่อยที่ 01. โหลดโปรแกรม Odin3 v3.07
04. หัวข้อย่อยที่ 03. Samsung Recovery.tar
05. หัวข้อย่อยที่ 07. SAMSUNG Kies และติดตั้ง
06. หัวข้อย่อยที่ 18. Triangle Away ราคา 79.33บาท (ทุกอย่างสามารถสามารถหาได้จาก Google)
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิดโปรแกรม Triangle away แล้วกด Grant
02. กด Continue
03. กด Download (ถ้าไม่ขึ้นให้ Download ก็ให้ข้ามไปเลย)
04. รอจน Download เสร็จ
05. กด OK
06. กด OK
07. เลื่อนหา และกดที่คำว่า Reset flash Counter
08. กด Continue แล้วเครื่องจะ Reboot
09. เมื่อเจอหน้าจอตารูปให้กดปุ่ม Volume Up (ปุ่มเพิ่มเสียง) จะเป็นการ Reset ค่า Counter
10. แล้วเครื่องจะ Reboot อีกรอบ รอจนเครื่อง Reboot เสร็จแล้วให้ ปิดเครื่องเข้า Download Mode
11. เข้า Download Mode กด Volume Up (ปุ่มเพิ่มเสียง)
12. จะเข้าสู่หน้า Downloading ตามรูป
13. เปิดโปรแกรม Odin3 v3.07
– โหลด Recovery.tar ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ ข้อ 03. Samsung Recovery.tar มาใช้ในการแก้ Recovery Mode
– ติ๊กถูกที่ช่อง Auto Reboot
– ติ๊กถูกที่ช่อง F.Reset Time
– จากนั้นกดที่ปุ่ม PDA
14. ให้กดไปเลือกหาไฟล์ Recovery.tar
15. จากนั้นกดที่ปุ่ม Start แล้วเครื่อง
16. จากนั้นเครื่องจะ Reboot จนเข้าเครื่องให้เสร็จ
17. เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาให้ไปที่ ไป Setting, กดเลือก About device, กดเลือก Status
– กดเลือกมาหาที่ Devic status จะเห็นคำว่า Scanning…
18. ห้ามทำการ Factory Data reset จากในเครื่องไม่งั้นเครื่องจะ Boot วนเรื่อย ๆ
19.ให้ปิดเครื่องแล้วเข้า Recovery Mode ตามรูป
– ให้กดสั่งให้ทำงาน Wipe cache partition
– ให้กดสั่งให้ทำงาน Wipe data/factory Reset
– แล้วกด reboot system now
20. เสร็จแล้วใน Download Mode วิธีเข้าตาม Link : 02. Download Mode (#jump052)
ค่าที่อยู่ใน Download จะต้องเป็นตามนี้ครับ
Customer Binary Download : เป็น No
CURRENT BINARY : เป็น Official
SYSTEM STATUS : เป็น Official
21. รอจนเครื่อง Boot เร็วตั้งค่าต่าง ๆ ของเครื่องจนเสร็จ
[size=14][color=#0000ff]04. วิธีทำ Full Unroot / ยกเลิกสิทธิการ Root[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App SuperSu
02. ไปที่ Settings แล้วกด Full unroot
06. กด Continue แล้วสิทธิ์ Root ก็จะหายไปหมด
[size=14][color=#0000ff]05. การ Flash Omega Rom Modify[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลด Rom Omega ได้ใน Phase 5 Link : 09. Rom Modify : Omega Rom (#jump062)
02. Full wipe ดูรายละเอียดใน Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
03. วิธีเข้า Recovery mode Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
04. ถ้าเข้า Recovery Mode แล้วยังมีรายละเอียดตามรูป จะต้องไปทำตามข้อ
– Phase 8 Link : 04. การ Update CMW เวอร์ชั่นใหม่ด้วยโปรแกรม Odin (#jump084)
หัวข้อย่อม -03.2 การ Update เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin
05. หลังจากที่ทำข้อรายละเอียดในข้อ 04. แล้วค่อยทำต่อในรายละเอียดในส่วนของวิธีทำ
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Omega Rom มา ไฟล์ที่โหลดมาจะเป็นไฟล์ชื่อ XXX.zip ประมาณนั่น
02. Copy ไฟล์ Omega Rom ลงใน Micro SD Card
03. ปิดเครื่องแล้ว เข้า CWM Recovery Mode
04. ให้ทำการ Full wpide ก่อน 1 ครั้ง
05. กดเลือก Install Zip
06. กด Choose zip from External sdcard
07. กดเลือก Omega Rom ชื่อไฟล์ XXX_Omega_V.XXX.zip
08. กดเลือก Yes – Install XXX_Omega_V.XXX.zip
09. รอระหว่างการติดตั้ง Omega Rom
10. กด Next
11. กดเลือก Full Wipe แล้วกด กด Next
12. จะเลือก Backup EFS หรืไม่ Backup ก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ แล้วกด Next
13. กดเลือก Application ที่ต้องการจะติดตั้ง แล้วกด Next
14. กด Next
15. รอประมาณ 3-10 นาทีขึ้นอยู่กับควาามเร็วของ Micro SD Card
16. เมื่อติดตั้งเสร็จให้กด Next
17. กด Reboot
18.รูประหว่างเปิดเครื่องครั้งแรก
19. เมื่อ Reboot เครื่องจนเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอดังต่อไปนี้
20. ให้ตั้งค่ารายละเอียดต่าง ๆ ให้เสร็จ
21. เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอดังต่อไปนี้
[size=14][color=#0000ff]06. การ Flash Phoenix Rom Modify[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลด Phoenix Rom ได้ใน Phase 5 Link : 10. Rom Modify : Phoenix Rom (#jump063)
02. Full wipe ดูดังนี้ Phase 5 Link : 05. การ Full Wipe ใน CWM Recovery Mode (#jump058)
03. วิธีเข้า Recovery mode รายละเอียดอยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
04. ถ้าเข้า Recovery Mode แล้วยังมีรายละเอียดตามรูป จะต้องไปทำตามข้อู
– Phase 8 Link : 04. การ Update CMW เวอร์ชั่นใหม่ด้วยโปรแกรม Odin (#jump084)
หัวข้อย่อม -03.2 การ Update เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin
05. หลังจากที่ทำข้อรายละเอียดในข้อ 04. แล้วค่อยทำต่อในรายละเอียดในส่วนของวิธีทำ
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลด Phoenix Rom มา ไฟล์ที่โหลดมาจะเป็นไฟล์ชื่อ XXX.zip ประมาณนั่น
02. Copy ไฟล์ Phoenix ลงใน Micro SD Card
03. ปิดเครื่องแล้ว เข้า CWM Recovery Mode
04. ให้ทำการ Full wpide ก่อน 1 ครั้ง
05. กดเลือก Install Zip
06.กด Choose zip from External sdcard
07. กดเลือก Omega Rom ชื่อไฟล์ XXX_Phoenix_V.XXX.zip
08. กดเลือก Yes – Install XXX_Phoenix.XXX.zip
09. กดเลือก Next
10. กดเลือก agree with these Terms of use แล้วกดเลือก Next
11. กดเลือก Full Wipe แล้วกดเลือก Next
12. จะ Backup EFS หรือไม่ Backup EFS ก็ได้ แล้วกดเลือก Next
13. เลือก Kernel แล้วเลือก Modem Installation แล้วกดเลือก Next
– ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ เวอร์ชั่นล่าสุดคือ XXDMB2
– ถ้ามีเวอร์ชั่นใหม่ มาก็ให้เลือกเวอร์ชั่นใหม่
14.กดเลือก Tweaks & Mods ที่ต้องการติดตั้ง แล้วกดเลือก Next
– ในข้อที่ 15 ถ้ากดเลือก Simplistic Framework ข้อที่ 14 ต้องไม่เลือก Install Stock Phone
15. กดเลือก TouchWiz Mode ที่ต้องการ แล้วกดเลือก Next
– ถ้าในข้อ 14 กดเลือก Install Stock Phone ก็ไม่ต้องกดเลือก ที่มีคำว่า Simplistic Framework
16. กดเลือก Sound Mods ในที่นี้ผู้ริวิว กดเลือกให้เป็นตัวอย่าง
– Boots Sound เลือกเป็น Yes
– Choose Sound Mode เลือกเป็น Sony X Loud & Clearaudio+Sound Mode
– Choose Sound Boots เลือกเป็น Install ultra Volume Mode
– แล้วกดเลือก Next
17. ในส่วนนี้กดเลือกเป็น Dont Install แล้วกดเลือก Next
– ถ้าถนัดหรือคล่องแล้วค่อยเลือกเป็นอย่างอื่น ๆ
18. กดเลือก Asia แล้วกดเลือก Next
19. กดเลือก Notification MODS แล้วกดเลือก Next
– ในส่วนนี้ขอเลือกเป็นตัวอย่างคือ 0%
20. กดเลือก Transparent Mods แล้วกดเลือก Next
21. กดเลือก App ที่ต้องการติดตั้ง แล้วกดเลือก Next
22. ที่หน้า Ready to install กดเลือก Next
23. รอประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับความเร็ว Micro SD Card กดเลือก Next
24. กด Finish
25. กด Yes สำหรับ Reboot เครื่อง
26. แล้วเครื่องจะ Reboot 1 รอ
– รอประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับความเร็ว Micro SD Card
[size=14][color=#FF0000]- Rom Modify ถ้าทำแล้วเครื่องค้างในขั้นตอนไหน
– ให้ไปเริ่มต้นใหม่ที่ขั้นตอนที่ 1 ของหัวข้อ Rom Modify นั่นใหม่เลย
– วิธีการ Flash Rom ส่วนใหญ่ จะเป็นในลักษณะของ Omega Rom
– ถ้าเห็น Rom ที่แตกต่างไปจากนี้ ให้ประยุกต์ดูวิธีการติดตั้งจาก Omega Rom[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]07. การ Rom ด้วย App Mobile Odin Pro บน Note 2[/color][/size]
– ทดสอบมาแล้วด้วยการ Flash Rom บน Note 2 จำนวน 10 รอบ ไม่มีค้าง
– ทดเป็น % ได้ 100 % ไม่มีการค้างของ App เวอร์ชั่นเก่า
[size=14][color=#FF0000]ต้องใช้ Mobile ODIN Pro V3.65 นี้ขึ้นไปเท่านั้น ห้ามใช้เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่า[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ห้ามใช้ Mobile ODIN Pro v3.57นี้เด็ดขาด เพราะ Flash Rom แล้วเครื่องค้าง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลดและติดตั้ง Mobile ODIN Pro จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่้อยที่ 16. Mobile ODIN Pro ราคา 159.07 บาท
02. โหลด Rom ศูนย์จาก Phase 5 Link
– 07. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sammobile Firmware (#jump060)
– 08. Rom ศูนย์ Samsung Website : Sampro (#jump061)
– 09. Rom ศูนย์ Samsung Website : Samsung-Updates (#jump068)
03. ให้โหลดเวอร์ชั่นล่าสุด แล้วExtrac ไฟล์ .zip ออกมาให้เป็นไฟล์ .md5
04. Copy Rom ศูนย์ ไปไว้ใน Micro SD Card
05. การ Flash Rom ด้วย App Mobile ODIN เครื่องจะต้อง Root ถึงจะทำได้
06. การ Flash Rom ด้วย App Mobile ODIN จะทำการ Flash Rom พร้อม Root ให้ด้วย
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
02. เมื่อ App ขึ้นมาครั้งแรก จะมีการถามจาก Superuser ให้ตอบ Grant
03. จากนั้นจะมีการถามจาก Mobile Odin กด Download เพื่อทำการโหลดไฟล์เพิ่ม
04. รูประหว่างโหลดไฟล์
05. เมื่อโหลดเสร็จ ให้เลื่อนหาหัวข้อคำว่า Open File แล้วกดไปที่ Open file
06. แล้วเลือก External SD-Card
07. ให้เลือกไปที่เก็บไฟล์ Rom แล้วทำการกดเลือก Rom ศูนย์
08. แล้วจะได้รายละเอียดตามรูปขึ้นมาแล้วกด OK
09. แล้วจะได้รายละเอียดตามรูป
10.แล้วจะได้รายละเอียดตามรูป และเครื่องจะเช็คถูกให้เองอัตโนมัติ
– Enable EverRoot
– Injet Superuser (SuperSu)
– Inject Mobile ODIN
11. ให้เลื่อนลงมาหาหัวข้อคำว่า Wipe แล้วติ๊กถูก (ถ้าไม่ต้องการลบข้อมูลก็ไม่ต้องติ๊กถูก)
– Wipe data and cache
– Wipe Dalvik cache
– แล้วกดที่คำว่า Flash firmware
12. จากนั้นให้กด Continue
13.กด Continue อีกรอบ
14. แล้วให้กด Check
[size=14][color=#FF0000]ห้ามกด Skip โดนขาด[/color][/size]
15. จากนั้น App Mobile Odin จะทำการเช็ค MD5 จนเสร็จ แล้วเครื่องจะ Reboot เอง
16. หลังจากที่ Reboot เครื่องจะทำการ Flash Rom ให้เองอัตโนมัติ
– รอจนเสร็จแล้ว
17. เมื่อ Reboot เสร็จ ไปเช็คที่ About Device ที่ Status จะเป็น Normal
18. ถ้าจะเข้าไปเช็คใน Download Mode ค่า Count จะไม่มีการ Reset ค่า
– วิธีการเข้า Download Mode อยู่ใน Phase 5 Link : 02. Download Mode (#jump052)
19. ถ้าต้องการ Reset Count ให้ไปดูวิธีใน Phase 7 Link : 03. Reset Count / Set ค่าให้กลับไปอยู่ในประกัน (#jump072)
20. ในกรณีที่ Flash Rom แล้วเครื่องค้างในขั้นตอนการ Flash จะต้องไปแก้ไขด้วย วิธีการ Flash Rom ด้วยโปรแกรม Odin ใน PC
21. วิธีการ Flash Rom ด้วยโปรแกรม Odin อยู่ใน Phase 7 Link : 01. การ Flash Rom ศูนย์ด้วยโปรแกรม Odin (#jump070)
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 8 การ Update Patch / Mod/ file .zip[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. วิธีทำปุ่ม Call Record เสียงโทรเข้า – ออก[/color][/size]
– วิธีนี้ใช้ได้ และผ่านการทดสอบทั้ง Rom Modify, Rom ศูนย์แท้
– ไม่มีกระทบใด ๆ ทั้งสิ้นกับระบบ Android
– เครื่องที่สามารถทำได้ต้องผ่านการ Root แล้วเท่านั้น
[size=13][color=#0000ff]รูปก่อนทำ[/color][/size]
– รูปกำลังโทรออก
– รูปที่กำลังคุยกัน ถึงจะการกดปุ่ม Record ได้
[size=13][color=#0000ff]- การเข้า Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : – วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
– Call Record โหลดได้จากได้ใน : Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อที่ 06. Call Record Button[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. Copy ไฟล์ชื่อ SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip ไปไว้ที่ Micro SD Card
02. ปิดเครื่อง แล้วเข้า CWM Recovery Mode หลังจากเข้า Recovery Mode แล้ว
03. กดปุ่มเลือกเป็น Install zip
03. กดปุ่มเลือก Choose zip from External SDCard
04. กดเลือกไปหาที่ Copy ไป SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip ที่อยู่ใน Micro SD Card
05. จากนั้นกดปุ่มเลือก SecPhone_CallAutoRecord_XXDLL4_deOdex.zip
06. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง
07. ลองตรวจสอบโทรออกดูครับรายละเอียดจะเป็นตามรูปข้างบน
08. ก็ไปการเสร็จสิ้นการทำปุ่มอัดเสียง
09 เวลาบันทึกเสียงไฟล์จะไปเก็บไว้ ที่ตามนี้ \GT-N7100\Phone\Sounds
10. ไฟล์ที่ได้จากการบันทึกเสียงจะเป็นไฟล์ชื่อ XXXXXX.amr ไม่ใช่ไฟล์ .MP3
[size=14][color=#0000ff]02. การแปลงไฟล์จากปุ่ม Call Recordเป็น MP3[/color][/size]
– เป็นการแปลงไฟล์ในคอมพิวเตอร์
– ไม่ได้แปลงในมือถือ
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. วิธีการแปลงไฟล์จาก XXXXXX.amr เป็นไฟล์ .MP3, .WAV
02. ต้องแปลงไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมชื่อ Format Factory เป็นฟรีแวร์มาช่วย
Download Link : ดูใน Phase 6 Link : 02. รวมโปรแกรมฟรีแวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Android (#jump065)
03. ให้ Copy ไฟล์ที่อัดเสียงไปเก็บไว้ในคอม ฯ ที่ใดก็ได้
04. หลังจากนั้นให้ติดตั้งโปรแกรม (ซึ่งไม่ขออธิบายเกี่ยวกับการติดตั้งโปรแกรมบนคอม ฯ)
05. เพราะคนที่เล่น Android ได้ขนาดนี้ต้องติดตั้งโปรแกรมเป็นอยู่แล้ว
06. ข้อที่ 15 ถึงข้อ 26 ในส่วนนี้ ภาพจะใหญ่หน่อยนะ เพราะทำภาพเล็กแล้ว มองไม่เห็น
07. สามารถเลือกเมนูภาษาได้ตามรูป ในที่นี้ผู้ริวิวเลือกเป็นภาษาไทยแล้วกัน
08. หลังจากโหลดโปรแกรมเสร็จ ติดตั้งจะได้หน้าตาตามรูป จากนั้นคลิก>>> ทั้งหมดไปยัง MP3
09. คลิก การตั้งค่าขาออก
10. ปรับแต่งคุณภาพเสียงเอาตามความเหมาะสม เสร็จแล้ว คลิก ตกลง
11. คลิก เพิ่มแฟ้ม
12. ให้คลิกไปที่เลือกเก็บไฟล์ ในที่นี้ ชื่อ ไฟล์ตามรูปครับ >>> แล้ว คลิก Open
13. คลิก เรียกดู เพื่อเลือกที่เก็บ
14.ในที่่ขอเก็บไว้ที่ Desktop (ใครสะดวกเก็บที่ไหนก็ตามแต่สะดวกครับ) แล้ว คลิก OK
15. คลิก ตกลง
16. จะกลับสู่หน้านี้
16. คลิก เริ่ม ให้รอสักครู่ จนขึ้นคำว่า เสร็จสมบูรณ์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
17. เสร็จแล้วมาดูไฟล์ที่แปลงจาก .arm มาเป็นไฟล์ MP3 แล้วก็เปลี่ยนชื่อไฟล์ได้ตามเหมาะ เป็นอันจบครับ
[size=14][color=#0000ff]03. การ Update เวอร์ชั่นใน CWM Recovery Mode[/color][/size]
– ให้โหลด CWM เวอร์ชั่นใหม่ ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อย 04. PhilZ Touch 4.35 Recovery CWM 6.0.2.8
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. Copy ไฟล์ CWM ที่เป็น Philz Touch 4.XX N7100.zip ไปไว้ใน Micro SD Card
02. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
03. กดเลือกไปหาไฟล์ ที่เป็น Philz Touch 4.XX N7100.zip ที่ต้องการจะ Update
04. กดเลือก Yes
05. เสร็จแล้วจะได้รายละเอียดตามรูป
06. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง
07. ปิดเครื่อง แล้ว CWM Recovery Mode อีกรอบ
08. ก็จะพบว่า CWM มีการ Update เวอร์ชั่่นเรียบร้อยแล้ว
[size=14][color=#0000ff]04. การ Update CWM เวอร์ชั่นด้วยโปรแกรม Odin[/color][/size]
– ให้โหลดไฟล์ Update ในPhase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 05. PhilZ Touch 4.35 Recovery CWM 6.0.2.8
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ปิดเครื่อง Note2 แล้วเข้า Download Mode
02. เปิดโปรแกรม Odin แล้วกดปุ่ม PDA
03. กดไปเลือกหาไฟล์ Philz Touch 4.XX N7100.tar แล้วกด Open
04. จะกลับมาที่หน้าจอ Odin แล้วกดปุ่ม Start
05. พอขึ้นคำว่า Removed!! ก็ให้ถอดสาย Micro USB แล้วเครื่องจะ Reboot เอง
06. จากนั้นให้ปิดเครื่องแล้วเข้า CWM Recovery Mode จะปรากฎหน้าจอตามรูป
[size=14][color=#0000ff]05. การ Update/Patch Theme[/color][/size]
– สามารถเปลี่ยน Theme กลับเหมือนเดิมได้ แต่ต้องโหลด Theme ต้นฉบับมาเก็บไว้
– ใช้ได้ทั้ง Rom Modify และ Rom ศูนย์
– เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้ Rom ศูนย์ แต่อยากได้หน้าตาของ Theme แบบใหม่ แต่ไม่อยากใช้ Rom Modify
[size=14][color=#FF0000]ห้ามนำ Theme ที่ระบุว่าเป็น Deodex กับ with simplistic มาใช้กับ Rom ศูนย์ เพราะอาจจะทำให้เครื่องค้าง[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]Theme สำหรับใช้ Patch / Mode / update[/color][/size]
01. รูป Rom ศูนย์ก่อน Path / Update Them
01. AOSP Jelly Bean theme V8
Link : AOSP Jelly Bean theme V8
02. CRASH 4.4 SCAMUS DESING
Link : CRASH 4.4 SCAMUS DESING
03. Kalagas Grayscale Theme v4.0
Link : Kalagas Grayscale Theme v4.0
04. Kalagas Mixed Theme v4.0
Link : Kalagas Mixed Theme v4.0
05. Galaxy Note II Themes อื่น ๆ มีให้เลือโหลดได้เยอะตาม Link นี้
Link : Galaxy Note II Themes and Apps
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
– อธิบายแบบง่าย ๆ คือ วิธีการทำเหมือนกับ Flash Rom Modify เลย
– วิธีเข้า CWM Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. โหลดไฟล์ Theme .zip มาเก็บไว้ใน PC
02. Copy ไฟล์ Theme ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
04. แล้วให้กดเลือก Theme ที่ต้องการจะติดตั้ง
05. หลังจากติดตั้ง Theme เสร็จให้ Reboot Note 2 หนึ่งครั้ง ก็เป็นเสร็จสิ้น
[size=14][color=#0000ff]06. การเปลี่ยน Theme MultiWindow Control Bar[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ให้โหลดไฟล์ Update ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
02. หัวข้อย่อยที่ MultiWindowTheme.zip : ในส่วนนี้จะเป็น Theme แบบพื้นหลังใส
03. หัวข้อย่อยที่MultiWindowThemeRevert.zip : ในส่วนนี้จะเป็น Theme ต้นฉบับ
04. โหลดไฟล์ Theme MultiWindow Control ที่เป็นไฟล์ .zip มาเก็บไว้ใน PC
05. แล้วให้ Copy ไฟล์ Theme MultiWindow Control ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
– อธิบายแบบง่าย ๆ คือ วิธีการทำเหมือนกับ Flash Rom Modify เลย
– วิธีเข้า CWM Recovery Mode อยู่ใน Phase 5 Link : วิธีการเข้า CWM Recovery Mode (#jump056)
01. เปิดเครื่องแล้วเข้า CWM Recovery mode
02. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
03. แล้วให้กดเลือก MultiWindow Theme ที่ต้องการจะติดตั้ง
– ถ้าต้องการเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนต้นฉบับ ก็ให้ Flash MultiWindow Theme Revert
– ถ้าต้องการเปลี่ยนแบบพื้นหลังใส ก็ให้ Flash MultiWindow Theme
04. จากนั้นให้ Reboot Note 2 ก็เป็นอันสิ้น
05. ตัวอย่าง MultiWindow Theme แบบพื้นใส
06. ตัวอย่าง MultiWindow Theme Revert ต้นฉบับ
[size=14][color=#0000ff]07. การ Flash Kernel : Adam, Perseus และอื่น ๆ[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]ประโยชน์ของ Kernel[/color][/size]
01. Kernel คือแกนกลางหลักของระบบปฏิบัติการ ทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรของระบบ และติดต่อกับ Hardware ต่างๆ
02. เป็นการ Flash Kernel เพื่อความสามารถพิเศษlให้กับ Rom
03. อื่น ๆ [-รอ Update–]
[size=13][color=#0000ff]เตรีมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ให้โหลด Kernel ที่เป็นไฟล์ .zip หรือ Link : Phase 6 : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 72. Adam Kernel V2.2.1
– หัวข้อย่อยที่ 73. Perseus Kernel (Alpha v.34.2)
02. Kernel อื่น ๆ มีอีกเยอะ แต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างเฉพาะของ Adam Kernel V2.2.1
03. ติดตั้ง App BusyBox ก่อน เพราะไม่งั้น Boeffla Sound จะทำงานไม่ได้
04. วิธีการลง App BusyBox อยู่ใน Phase 5 Link : 06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free (#jump059)
05. ถ้าลง Perseus Kernel จะทำให้ App Steaks จะไม่สามารถทำงานได้
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. โหลดไฟล์ Adam Kernel.zip มาเก็บไว้ใน PC
02. Copy ไฟล์Adam Kernel ที่เป็นไฟล์ .zip ไปไว้ใน Micro SD Card
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในส่วนนี้
04. กดเลือก Kernal เพื่อทำการ Flash Kernel
05. เสร็จแล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
06. จะมี Icon 2 App ปรากฎมาในเครื่อง คือ
– STweaks และ
– Boeffla Sound Control
07. ถ้าเป็น Kernel อื่น ๆ อาจจะไม่มี icon นี้
08. ถ้า Flash kernel ที่ไม่มี Kernel ของศูนย์ Samsung แล้วไป Reset ให้กลับไปอยู่ในค่าประกัน ก็จะเป็น Modify อยู่
09. ต้องใช้ Rom ศูนย์ Samsung, Kernel ศูนย์ Samsung และ Recovery ศูนย์ Samsung ถึงจะ Reset ค่าได้แบบสมบูรณ์แบบ
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 9 การตั้งค่า 3G และ Wireless Lan[/color][/size]
– สำหรับคนที่ลง Rom ศูนย์แล้ว ไม่สามารถใช้งาน Internet /3G ได้
– จะต้องมำการ Add APN ถึงจะใช้งาน Internet ได้
[size=14][color=#0000ff]01. ตรวจสอบค่าเบื้องต้น[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เมื่อ Flash Rom ศูนย์ แล้วใช่้งาน 3G ไม่ได้ สำหรับคนที่สมัคร Package 3G
– จะต้องทำการ Add APN ถึงจะได้งาน 3G ได้
– รายละเอียดตามรูป
02. ไปที่ Slide หน้าจอด้านบนลงจะเห็นรายละเอียดตามรูป ให้กดเลือก Mobile Data
03. ถึงจะกดเปิด Mobile Data แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งาน Internet 3G ได้ ต้องไปตั้งค่า APN ต่อถึงจะงาน Internet ได้
[size=14][color=#0000ff]02. การเพิ่ม Add Access Point Names[/color][/size]
ตัวอย่างการ ADD ของ True Move H ค่ายอื่น ๆ ก็ทำเหมือนกัน
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ไปที่ Setting กดปุ่มเลือก More Setting
2. ที่หน้า Wireless and network กดเลือก Mobile networks
3. ติ๊กถูกที่ Mobile data แล้วกดเลือก Network operators
4. จากนั้น Note 2 จะทำการ ค้นหาเครือข่ายผู้ให้บริการ
5. ให้กดเลือกเครือข่ายที่สมัคร 3G
6. ให้กลับมาที่หน้า Mobile networks
7. จะพบรายลเอียดตามรูป
8. กดปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก New APNรายละเอียดตามรูป
9. แล้วให้ใส่ รายละเอียดของแต่ละค่ายมือถือ
10. พอ Add เสร็จให้กลับมาที่หน้า APNS แล้วกดติ๊กถูกที่ วงกลม
11. กลับมาที่หน้าแรกของ Note 2 พบว่า มีสัญญาณ 3G พร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว
– แล้วให้ทดสอบเข้าใช้งาน Internet ดูครับ
12. ทดสอบเข้า Internet จะใช้งานได้ตามปกติ
เดี๋ยวมาใส่รายละเอียดต่ออีกที
[size=14][color=#0000ff]003. การตั้งค่า MMS [/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. วิธีทำการ Add เหมือนกัน APN
02. รายละเอียดของแต่ละค่ายตามรูป
[size=14][color=#0000ff]04. เบอร์โทรผู้ให้บริการมือถือในกรณีที่ตั้งค่า 3G ไม่ผ่าน[/color][/size]
– เบอร์โทรติดต่อ Call Center แต่ละค่าย ตั้งค่า 3G แล้วยังใช้ Internet ไม่ได้
– หรือคนที่ใช้ Package แบบ EDGE ต้องติดต่อกับทาง Call Center ของแต่ละค่าย
[size=14][color=#0000ff]05. การแก้ไขปัญหา Roaming ของ 3G ค่ายต่าง ๆ[/color][/size]
– ขอยกตัวอย่างของ True Move H เพราะผมใช้งาน ย่อมมีสิทิธิ์ วิจารณ์ และเสียค่าใช้จ่ายให้กับค่ายมือถือด้วย
– วิธีการแก้ไขง่ายมาก ๆ คือการ Register ค่ายมือถือใหม่ เป็นอันจบ
– แต่ถ้าทำแล้วยังไม่สามารถใช้งานก็แสดงว่า พื้นที่บริเวรนั้่นไม่มีสัญญาณ 3G
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เดิมเคยใช้ 3G ได้ในพื้นที่เดิม แต่เดินทางไปอีกอำเภอหนึ่ง ทำให้ขึั้น Roaming ตลอด ๆ เวลาทั้ง ๆ อำเภอนี้เคยใช้งานได้ตลอด รายละเอียดตามรูป (Copy รูป Samsung Grand มา หาของ Note 2 ไม่ทัน)
02. ไปที่ Setting กดปุ่มเลือก More Setting
03. ที่หน้า Wireless and network กดเลือก Mobile networks
04. ติ๊กถูกที่ Mobile data แล้วกดเลือก Network operators
05. จากนั้น Note 2 จะทำการ ค้นหาเครือข่ายผู้ให้บริการ
06. กด Register ค่ายมือถือผู้ให้บริการ อีกรอบ
07. ทดสอบใช้งาน 3G ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติ
08. ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับปัญหา Roaming ของผู้ริวิว
– เพราะเจอปัญหากับตัวเองตอนไปเที่ยวที่จังหวัดนครพนม
– วันแรกผ่านอำเภอนั้น ๆ ใช้งานได้ตปก
– วันที่ 3 ใช้งาน 3G ไม่ได้ ก็เลยทดสอบหาวิธ๊ใช้งานดู ปรากฎว่าได้จริง ๆ
– ปัญหาจึงน่าจะเกิดจากเสาสัญญาณ 3G ที่ค่ายที่ใช้งานอยู่ไม่ได้ตั้งเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติ
– ผู้ริวิวรู้ได้ไง ? (เพราะผมทำงานเป็นไอทีอยู่คร๊าบ ๆ)
[size=14][color=#0000ff]06. การใช้งานกับ Wireless LAN (ADSL Router/Internet ที่บ้าน/ที่ทำงาน)[/color][/size]
– คำอธิบายง่าย ๆ เกี่ยว Wireless Lan เป็นการส่งสัญญาณ Internet แบบไร้สาย ในระยะประมาณ 20 – 50 เมตร
– คำอธิบายง่าย ๆ เกี่ยว Wifi เป็นการส่งสัญญาณ Internet แบบไร้สาย ต่อ 1 เสาสัญญาณในระยะไกล 10 กิโลเมตร
– ยังมีหลายคนเข้าในผิดว่า Wireless Lan เป็นอันเดียวกัน Wi-fi
– กรณีใช้ Wi-fi ต้องติดต่อ Call Center ของแต่ละค่าย
[size=13][color=#0000ff][/color]วิธีทำ[/size]
01. ไปที่ Settings กดเลือก Wi-Fi และ เลื่อน เปิดการทำงาน Wi-Fi
[size=13][color=#0000ff]วิธีต่อแบบที่ 1[/color][/size]
02. กดเลือก Wireless ที่ต้องการมีอยู่ที่บ้าน หรือที่ทำงาน
03. ใส่ Password ช่อง Password แล้วกด Conect
04. ให้ทดสอบกดใช้งาน Internet ถ้าใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ให้ทำการ Add ใหม่
[size=13][color=#0000ff]วิธีต่อแบบที่ 2[/color][/size]
– วิธีเหมาะสำหรับต่อกับที่ทำงาน ส่วนใหญ่จะเป็น เซ็ตค่า Wireless แบบซ่อน
– ถ้าต่อไม่ถูก แนะนำให้ปรึกษาทางต่อกับคนที่ Set Wireless LAN หรือคนที่ทำงานเป็นไอทีของบริษัท/ที่ทำงาน Set ให้
05. ในหน้าของ Wi-Fi ให้กด Add Wi-Fi network
06. ใส่ SSID, Security และ Password แล้วกด Save
07. ให้ทดสอบกดใช้งาน Internet ถ้าใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ให้ทำการ Add ใหม่
[size=13][color=#0000ff][/color]ถ้าไม่รู้ User Name, Password และ Security ที่ต่อ Wireless ต้องทำไง ?[/size]
01. ถ้าเป็น True Move, TOT, 3BB จะมี Call Center สำหรับ Support ลูกค้าให้โทรไปติดต่อ
02. ให้ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet รีโมท เข้ามาเปลี่ยนค่าอุปกรณ์ที่ใช้ต่อ Internet เพื่อเปิดการทำงานการใช้งาน Wireless พร้อมทั้งตั้งค่า Password และค่าอื่น ๆ ให้
03. ให้จดค่าต่าง ๆ ที่ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet ไว้สำหรับทำการต่อ Wireless ใน Note 2
** อย่าถามวิธี Config ADSL Router สำหรับต่อ Internet กับ Note 2 ถึงผมจะทำได้ แต่ผมจะไม่บอก แนะนำให้โทรติดต่อกับ ทางค่ายผู้ให้บริการ Internet ครับ
(#jump99)
[size=20][color=#0000ff]Phase 11 การปรับแต่ง Rom ศูนย์ Samsung ตอนที่ 1[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]01. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom Modify เป็น Logo ศูนย์[/color][/size]
– โหลด Root Explorer ได้จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 33. Root Explorer (File Manager) Free / Full เวอร์ชั่น ราคา 115.82 บาท
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ติดตั้ง App ชื่อ Root Explorer (File Manager) เปิดโปรแกรมขึ้นมา
2. เพื่อลดขั้นตอนการอธิบายการริวิว Upload file Logo ของ Rom จากศูนย์ Samsung เลยจะง่ายกว่า
– 2.1 โหลดไฟล์ชื่อ bootanimation จาก Link Download : bootanimation
– 2.2โหลดไฟล์ชื่อ samsunganiจาก Link Download : samsungani
3. โหลดเสร็จให้ Copy ไฟล์ ชื่อ bootanimation กับ samsungani ไปไว้ใน Micro SD Card ที่ไหนก็ได้
4. เปิด App Root Explorer (File Manager) จะได้ตามรูป
5. ให้ไปแล้วไปที่ System กดเลือกไปที่ Media
6. จะเห็นไฟล์ชื่อ bootanimation.zip
7. ให้กดที่ปุ่ม Mount R/Wให้มันเปลี่ยนเป็นMount R/O
8. ให้ลบมันทิ้งซะ โดยกดค้างไว้ที่ไฟล์ bootanimation.zip แล้วเลือก Delete
9. ถ้าอยากเห็นความต่าง ให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ จะไม่มี Logo ตอน Boot เครื่อง จะมีแต่คำว่า ANDROID สีเขียวกระพริบ รอจนมันโหลดเสร็จ
– ข้อนี้ ข้ามไปเลยก็ได้ ถ้าคนที่ใจร้อนด่วนได้ ไม่จำเป็นต้องทำ
10. เปิด App Root Explorer (File Manager) ให้ไปแล้วไปที่ Storage กดเลือกไปที่ extSdCard
11. ไปที่หาในโฟลเดอร์ที่ Copy ไฟล์ ชื่อ bootanimation กับ samsungani ที่ Save ไว้ตอนแรก
12. กดปุ่มซ้ายด้านล่าง เลือก Multi-Select แล้วไปติ๊กเลือกเอา 2 ไฟล์ และให้กดปุ่ม Copy
13. กดปุ่มเลือก .. Parent folder จนเห็นคำว่า System กดเลือกไปที่ bin
14. กด Mount R/W ให้มันเปลี่ยนเป็น Mount R/O กดเลือกกดปุ่ม Paste
15. ติ๊กถูกที่ Do this for all existing items แล้วกด Replace
16. กด Mount R/O ให้กลับไปเป็น Mount R/W
17. Reboot เครื่อง 1 รอบแล้ว Logo หุ่นกระป๋องเดินได้ ก็จะกลับมาเป็นของ Samsung Galaxy Note 2 ของแท้ครับ เป็นอันจบ
[size=14][color=#0000ff]02. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom ศูนย์[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมตัวก่อนทำ[/color][/size]
1. โหลดไฟล์ XXX.zip ที่เป็น Boot Animation เก็บไว้
2.Copy ไฟล์ Boot Animation ที่เป็นไฟล์ XXX.zip
3. ตัวอย่างไฟล์ Boot Animation
4. โหลด ROM Toolbox Pro ได้จกา Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
5. หัวข้อย่อยที่ 20. ROM Toolbox Pro Free/ Full เวอร์ชั่น ราคา 149.06 บาท
6. – โหลด Root Explorer ได้จกา Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
7. หัวข้อย่อยที่ 33. Root Explorer (File Manager) Free/ Full เวอร์ชั่น ราคา 115.82 บาท
[size=13][color=#0000ff]โหลดได้จากที่ Boot Animation ทีไหน ?[/color][/size]
1. โหลดได้จาก App Rom Toolbox Pro
– ไฟล์ที่โหลดมาได้จะเก็บอยู่ในอยู่ Note 2 โฟลเดอร์ romtoolbox/boot_animations/
2.โหลดได้จาก XDA-Developers แต่ต้องไปเปิดหาจาก กระทู้ที่ Post ของแต่ละกระทู้
Link : Galaxy Note II Themes and Apps
3. หลังจากโหลดไฟล์ Boot Animation ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น bootanimation.zip
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
1. ติดตั้ง App ชื่อ Root Explorer (File Manager) เปิดโปรแกรมขึ้นมา
2. Download ไฟล์ ต่อไปนี้ (เอามาจาก Omega Rom)
– โหลดไฟล์ bootanimation จาก Link นี้ : Bootanimation
– โหลดไฟล์ชื่อSamsungani จาก Link นี้ : Samsungani
3. โหลดเสร็จให้ Copy ไฟล์ ไปไว้ใน Micro SD Card ที่ไหนก็ได้ 2 ไฟล์ดังต่อไปนี้
– bootanimation
– samsungani
4. Copy ไฟล์ bootanimation.zip ไปไว้ใน Note 2
5. เปิด App Root Explorer (File Manager) จะได้ตามรูป
6. หลังจากเปิด App Root Explorer แล้วกดเลือกไปที่ storage
7. กดเลือก extSDcard
8. กดค้างไว้ที่ไฟล์ที่ Bootanimation.zip
9. แล้วจะมีคำสั่ง ให้เลือก Copy ไฟล์
10. กดปุ่ม ทางด้านขวามือของ NOte 2 แล้วออกมาที่โฟลเดอร์ /system/media
– จากนั้นให้กด Mount R/W ก็จะเปลี่ยนเป็น Mount R/O
11. กด Paste
12. สำหรับ Rom Modify ถ้า Bootanimation.zip อยู่แล้ว
– ให้กด ติ๊กถูกตามรูปแล้วกด Replace ไปเลย
13. จากนั้นให้กด Mount R/O อีกครั้งก็จะเปลี่ยนเป็น Mount R/W
– ที่กดเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมก็เพื่อป้องกันมือไปกดผิดแล้วลบไฟล์ทิ้ง
14. จากนั้นให้ไป Copy ไฟล์ bootanimation กับ samsungani ทั้ง 2 ไฟล์มาวางทับใน โฟลเดอร์ /system/bin
– ต้องกด Mount R/W ให้เป็น Mount R/O ด้วย แล้วค่อยวางทับไปเลย
– ขอ งดใส่รูปเพราะ มีตัวอย่างในการ Copy ไฟล์ Boot Animation อยู่แล้ว กระทู้จะได้ไม่หนักเกิน
15. Reboot เครื่องก็จะได้ Boot Animation ที่ต้องการ เป็นอับจบ
[size=14][color=#0000ff]03. วิธีเปลี่ยน Logo Boot Animation ของ Rom Modify[/color][/size]
– โหลด ROM Toolbox ได้จาก Phase 6 20. ROM Toolbox แบบฟรี หรือเสียตังซื้อก็ได้
– ใช้ได้เฉพาะ Rom Modify ที่มี Boot Animation อยู่แล้ว
– ไม่สามารถใช้ได้กับ Rom ศูนย์
– ถ้าใช้ Rom ToolboxPro มาเปลี่ยน Boot Animation แล้วต้องทำจาก App นี้ตลอดไป
– ริวิวทดสอบทำหมดแล้ว เปลี่ยนกลับไม่ได้ นอกจากจะใช้ App Rom ToolboxPro
– ถ้าผู้ใช้อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปเลย ไม่ต้องไปกลัว เพราะเดี๋ยว Version 4.2 กับ Version 5.0 ก็มา พอทำการ Flash Rom ใหม่ เดี่ยวก็หายหมด
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App : Rom ToolboxPro
02. จากนั้นจะปรากฎหน้าจอดังนี้
03. กดเลื่อนทางมาด้านขวามือ ที่หัวข้อคำว่า Interface
04. ในที่นี้ขอริวิ ด้วย Android Logo ให้กดเลือก Android Logo
05. กด Install
06. จากนั้น Superuser จะถาม ให้กด Grant แล้ว Boot Animations จะทำการติดตั้ง
– เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
07. ถ้า Logo อันไหนที่โหลดเรียบร้อยจะเปลี่ยนรูปเป็นเครื่องหมายถูก
08. รูปหลังเปลี่ยน Logo
[size=14][color=#0000ff]04. วิธีเปลี่ยน Product code Rom Modify[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]- ก่อนทำสำรองข้อมูลด้วยไม่งั้นมันจะ Factory Reset หายเกลี้ยง[/color][/size]
– เป็นวิธีใช้ App โดยไม่ต้องจำการพิมพ์เลขสำหรับ Note 2
– Rom Modify ใช้วิธีกดปุ่มตามแป้นโทรไม่ได้
– จริง ๆ ในส่วนนี้มีมากับเครื่องอยู่แล้ว App ตัวนี้เพียงไปเรียกการเปลี่ยน Product Code ขึ้นมา
– โหลด App ได้ที่ Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 17. CSC Changer สำหรับเปลี่ยน Product Code
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. จะเป็นต้องติดตั้ง BusyBox สามารถดูได้จาก Link : 06. วิธีการติดตั้ง App BusyBox Free (#jump059)
06. ติดตั้ง App CSC Changer แล้วเปิด App ขึ้นมา
07. กด Grant
08. กด Change CSC
09. กด Continue
10. เลือก THL แล้วกด INSTALL กดค้างสัก 5-7 วินาที แล้ว Not 2 ก็จะ Reboot
11. ถึงจะเปลี่ยน Product Code เป็นไทย ก็ยังไม่ Support การ Up Firmware จาก Samsung Kies อยู่ดีครับ
– ตัวอย่างรูปที่ต่อกับ Samsung Kies ก่อนทำ App change CSC
– ตัวอย่างรูปSamsung Kies หลังทำ App change CSC
[size=13][color=#0000ff]05. วิธีเปลี่ยน Product code Rom ศูนย์[/color][/size]
[size=14][color=#FF0000]ขั้นตอนนี้ต้องสำรองข้อมูลก่อน ไม่งั้นข้อมูลหายหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด Phone
02. กด *#272* แล้วกดหมายเลข IMIE
03. หมายเลข IMIE หาได้จากไหน
– ไปที่ Settings
– กดเลือก About device
– กดเลือก Status
ก็จะเห็นหมายเลข IMIE
04. กด *#272*35XX27XX41XX9XX3#
05. ก็จะแสดงหน้าจอตามนี้ ให้กดเลือก
– กดเลือก THL ให้ขึ้นเป็นสีเขียวตามรูป
– แล้วกดที่ปุ่ม Install ค้างไว้สัก 5 วินาที
– แล้วเครื่องจะการล้างข้อมูลทุกอย่างทั้งหมดและ Factory พร้อมเปลี่ยน Product Code
– จะกลับมาสู่หน้าการตั้งค่าใหม่เหมือนเปิดเครื่องใหม่เลย
[size=14][color=#0000ff]06. วิธีเปลี่ยน Build Number[/color][/size]
– Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ ถ้าไม่ Root ทำไม่ได้ครับ
– ติดตั้งและโหลด App ES File Explorer ใน Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– อยู่ในหัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App ที่ชื่อ ES File Explorer ขึ้นมา
02. กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 >>> กดปุ่ม Setting
03. กดปุ่มที่คำว่า Root Settings
04. ติ๊กถูกที่คำว่า Root Explorer
05. กดเลือก Yes
– ถ้ากดแล้ว Error ขอแสดงความเสียใจด้วยว่า Rom ท่านมีปัญหาครับ เพราะช่วงที่ทดสอบเจอ Error คือมันไม่ยอมให้ Grant ต้อง ลง Rom Modify หรือ Rom ศูนย์ใหม่ถึงจะทำได้ครับ
06. กดเลือก Grant
07. กดเลือกถูกตามนี้ให้หมดครับ
8. จากนั้นให้กลับไปที่หน้าแรกของ App
9. กดที่ปุ่ม Favorites ตามรูปเลยครับ >>> จากนั้นกดที่ ปุ่มรูปเครื่องโทรศัพท์
10. กดหาที่ system ตามรูป
11. จากนั้นให้หากับกด 1 ครั้งที่ Icon : build.prop
12. กดเลือก ES note Editor
13. จะได้รายละเอียดตามรูป ให้แก้ไขตามที่เราต้องการใน ในช่องที่มีคำว่า ro.build.display.id=N7100XXDMA6
14. แก้ไขรายละเอียดตามที่ต้องการ เสร็จแล้วให้กดปุ่มด้านล่างขวามือของ Note 2
15. ตอบ Yes แล้ว Reboot โทรศัพท์ 1 รอบ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงครับ
16. รูปก่อนที่จะเปลี่ยน Build Number
17. รูปหลังเปลี่ยน Build Number
[size=14][color=#0000ff]07. วิธีถนอมปุ่ม Home กับ ปุ่ม Power[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 4 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 11. CWM Manager 3.1.5 ฟรี App
– หัวข้อย่อยที่ 51. Smart Cover ราคา 41.51 บาท
– หัวข้อย่อยที่ 58. Screen Off and Lock / Full ราคา 37.61 บาท
– หัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
02. ติดตั้ง Application ทั้ง 4 App คือ CWM Manager, Smart Cover, Screen Off and Lock, S File Explorer File Manager
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Smart Cover ขึ้นมา
02. ไปที่ วงกลมสีดำ ตามรูปแล้ว
03. จะปรากฎหน้าจอตามรูป กด Activate
04. เมื่อกดแล้วจะเปลี่ยนจากวงกลมสีดำ เป็นสีเขียว
05. เปิด App Screen off ขึ้นมา
06. จะปรากฎหน้าจอตามรูปกด Activate
07. เปิด CWM Manager 3.15
08.ในที่นี้ เอาไว้ใช้ Recovery mode, Download mode, Reboot
– อาจจะมีประโยชน์มากกว่านี้ แต่ ไม่ค่อยได้ใช้
09. เปิด App ES File Explorer ขึ้นมา
10. จะปรากฎหน้าจอตามรูป
11. กดปุ่มที่มุมซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกด Settings
12.จะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้ทำการเลื่อนหา แล้วกดเลือก Root Settings
13. กด Root Explorer
14. จะมีคำเตือนขึ้นมา ให้กด Yes
15.กด Grant
16. กดเช็คถูกให้หมดรายละเอียดตามรูป
17. จากนั้นให้กลับไปหน้าแรกของ App ES File Explorer กดที่ Favorites
18. กดที่รูปโทรศัพท์
19. เลื่อกหาคำว่า sytem แล้วกดไปเข้าใน Folder System
20. หลังจากนั้นให้เลื่อนหาไฟล์ build.prop แล้วกดเลือกไฟล์ build.prop
21.จะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้กดเลือก ES Note Editor
22. ให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุดของบรรทัด แล้ว พิมพ์ข้อความในบรรทัดท้าย คือ qemu.hw.mainkeys=0
23.กดปุ่มด้างล่างขวาของ Note 2 แล้วกด Yes แล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
24. เมื่อรูป Reboot ก็จะปรากฎหน้าจอตามรูป
– ปุ่มสี่เหลี่ยมด้านซ้ายมือ ปุ่มอันแรก ใช้แทนการกดปุ่ม Home และสไลด์ App ทิ้งได้จากปุ่มนี้
– ปุ่ม รูปบ้าน ใช้กดแทนปุ่ม Home
– ปุ่ม U Turn ใช้แทนปุ่มด้านล่างขวามือ
26. เมื่อทำเสร็จแล้ว จะไม่สามารถใช้ปุ่มด้านซ้ายมือล่างได้
– วิธีแก้ไขคือ ไปลบข้องความ qemu.hw.mainkeys=0 ในไฟล์ build.prop
– แล้ว Reboot เครื่องก็จะกลับมาเป็นปกติ
27. อธิบายภาพรวมการใช้งาน App ทั้ง 3 App
– วิธีใช้งาน คือดึง Icon ทั้ง 3 App ออกมาด้านหน้าเครื่อง
– Screen Off เพียงแต่กดที่ App หลังตั้งค่า Active ก็จะทำการ Lock หน้าจอ
– Smart Cover ใช้สำหรับปิด-เปิดหน้าจอ ทั้ง แบบ Case ปิดหน้าและไม่เปิดหน้า
– CWM Manager 3.15 ใช้สำหรับ Recovery mode, Download mode, Reboot
– คำสั่งที่เขียนด้วย qemu.hw.mainkeys=0 ใน ES File Explorer จะได้ปุ่มมาแทนการใช้ปุ่มจากเครื่อง Note 2
28. เมื่อกดใช้งาน
– App Screen Off ก็จะทำการ Lock เครื่องทันที
– สำหรับคนที่มี Case แบบปิดเครื่อง เพียงแต่เปิด Case ก็จะด้านหน้าเครื่องออก App Smart Cover ก็จะเปิดหน้าจอทันที
– สำหรับคนที่ไม่มี Case แบบปิดด้านหน้าเครื่อง เพียงแต่ให้เอามือมาบังที่กล้องด้านหน้าแล้ว เอามือออก App Smart Cover ก็จะเปิดหน้าจอทันที
29. เวลาใช้งานหรือเล่นเกมบน Note 2 จะต้องปิดการทำงานของ Smar Cover ไม่ฉะนั้น ถ้ามือไปโดนกล้องด้านหน้า เครื่องจะ Lock ทันที
30. จะได้ใช้ปุ่ม Home เพียงปุ่มเดียวคือ ปิดเครื่อง เท่านั้น
31. เป็นอันสิ้นสุดการวิธีถนอมปุ่ม Home กับ ปุ่ม Power
[size=14][color=#0000ff]08. Unlock MultiWindow Control ด้วย Xposed installer[/color][/size]
– วิธีนี้ จะสามารถใช้ได้ทัง Rom ศูนย์และ Rom Modify
– แต่ไม่สามารถควบคุม Add ที่อยู่ใน MultiWindows Bar ได้
– เพราะจะไปดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
[size=14][color=#FF0000]ห้ามติดตั้ง MultiWindows Control อันอื่น เพราะจะทำให้ MultiWindow Control ค้างบ่อยจนน่าลำคาญ[/color][/size]
[size=13][color=#FF0000]ข้อดี-ข้อเสีย[/color][/size]
01. ถ้าทำตามวิธี Xposed installer ทุกครั้งที่ Reboot เครื่อง Note 2 Multi Windows Control จะ Reset ทันที
02. ไม่สามารถกำหนด App เองได้ เพราะ Xposed installer จะดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
03. สามารถเกือบทุก App แบบ 100 %
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 3 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 59. Xposed installer v2.1.3
– หัวข้อย่อยที่ 60. xMultiWindow Mod v1.3
– หัวข้อย่อยที่ 61. Xposed Appsettings V.0.2
02. เมื่อโหลดมาครบทั้ง 3 App แล้วให้ Copy ไปไว้ใน Micro SD Card
03. ทำการติดตั้ง App ทั้ง 3 App คือ Xposed installer v2.1.3, xMultiWindow Mod v1.3 และ Xposed Appsettings V.0.2
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. รูปก่อนทำ
02. เปิด App Xposed installer v2.1.3 ขึ้นมา
03. เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วให้กดไปที่แถบ Modules แล้วให้กดเช็คถูกที่ xMulti Windows Mod[1.3]
04. จากนั้นให้ไปที่แถบ Framework แล้วกด Install/Update
05. กด Grant ถ้าไม่มีมการถามจาก Supersu ให้ข้ามไปเลย
06. กด OK
07. จากนั้นกด Reboot
08. หลังจากที่ Reboot มาแล้วให้ทดสอบเปิด MultiWindows Control ขึ้นมา ก็จะปรากฎตามรูป
– วิธีนี้ จะไม่สามารถควบคุม App ได้แต่จะเป็นการดึง App ทั้งหมดมาเลย
09. ตัวอย่างการใช้ App ในรูปแบบ MultiWindows Control
10. ถ้าต้องการยกเลิก xMulti Windows Mod[1.3]
11. ให้ไปที่ Modules แล้วกดเช็คถูก Xposed App settings[0.2]
12. แล้วกด Install/Update
13. กด Ok
14. จากนั้นให้กด Reboot หรือ Reboot เครื่อง
[size=13][color=#FF0000]15. ถ้าทำแล้วยังไม่มี Unlock MultiWindows ไม่ได้ให้ทำใหม่อีกรอบ ก็จะสามารถ Unoock ได้[/color][/size]
[size=14][color=#0000ff]09. Unlock MultiWindow Control ด้วย App Multi Windows Manager[/color][/size]
– วิธีนี้ จะสามารถใช้ได้ทั้งง Rom ศูนย์และ Rom Modify
– แต่ไม่สามารถควบคุม Add ที่อยู่ใน MultiWindows Bar ได้
– เพราะจะไปดึง App ทั้งหมดมาเลยทันที
[size=14][color=#FF0000]ห้ามติดตั้ง MultiWindows Control อันอื่น เพราะจะทำให้ MultiWindow Control ค้างบ่อยจนน่าลำคาญ[/color][/size]
[size=13][color=#FF0000]ข้อดี-ข้อเสีย[/color][/size]
01.ทุกครั้งที่ Reboot เครื่อง Note 2MultiWindow Control จะไม่ Reset
02. สามารถกำหนด App เองได้
03. สามารถใช้ได้เพียง App แบบ MultiWindow Manager เพียง 60-70 %
04. ถ้าใช้แบบฟรีเวอร์ชั่น ทุกครั้งที่ Add App ใหม่จะต้อง Reboot Note 2 ทุกครั้ง
05. ถ้าใช้แบบ Full เวอร์ชั่น ทุกครั้งที่ Add App ใหม่จะต้องไม่ต้อง Reboot Note 2
05. ต้องรอทางผู้เขียน App MultiWindow Manager ทำให้เสถียรมากกว่านี้
06. สามารถไปใช้วิธี Unlock ด้วย Xposed installer ได้
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. ต้องโหลด App มาให้ครบ 3 App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 71. Multi Window Manager : ฟรีเวอร์ชั่น / Full เวอร์ชั่น 36.61 Bath
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. รูป MultiWindow Control ก่อนทำ
02. เปิด App MultiWindow Manager ขึ้นมา
03. กดเลือก Grant
04. กดเลือก No Thanks
05. กดเลือก OK
06. กดเลือก Galaxy Note 2 แล้วกด Next
07. กดเลือก GT-N7100 แล้วกด Apply Patch
08. ถ้าเป็นฟรีเวอร์ชั่น จะต้องกดเลือก Restart Now เพื่อ Reboot เครื่อง
09. หลังจาก Reboot Note 2 ให้เปิด App MultiWindow Manager
– ให้กดเลือก App ด้านบน แล้ว App ด้านบนจะลงมาข้างล่างอัตโนมัติ
10. แล้วกดป่มด้านล่างขวามือของ Note 2 แล้วให้ตอบ Yes
11. ให้กดเลือก Yes
– ถ้าเป็นฟรีเวอร์ชั่น จะต้อง Restart เครื่อ
– ถ้าเป็น Full เวอร์ชั่่น App MultiWindow Manager จะทำการ Apply Patch ให้เอง
12. รูประหว่างการ Apply Patch
13. ตัวอย่างรูปที่ Add App เข้า
14. ทดสอบ MultiWindows Control กับ App MX Player Pro กับ Camera
15. ด้านซ้ายเป็น App MX Player ด้านขวาเป็นการใช้ Camera ถ่ายภาพจาก HD TV
16. เป็นอันเสร็จสิ้นการ Unlock ด้วย App MultiWindows Manager
[size=14][color=#0000ff]10. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย Directory Bind[/color][/size]
– ในส่วนนี้เป็นวิธีการย้าย Data ที่มีข้อมูล App ที่โหลดข้อมูลขนาดใหญ่มาเก็บไว้ภายใน Note 2
– ซึ่งถ้าใช้ App พวกประเภทเกมมาก ๆ อาจจะทำให้ Memory เต็มได้
– จริง ๆ ไม่ใช่การย้าย Application แต่ตั้งชื่อเพื่อให้สื่อความหมายได้เข้าใจง่าย
– แต่เป็นการย้ายโฟลเดอร์ข้อมูลของ App หรือเกม แล้วเปลี่ยน Patch ในการ Run App
– และเป็นการจำลองไฟล์ที่อยู่ใน SD Card ให้มาทำงานภายใน Memory ของ Note 2
– [size=13][color=#0000ff]การย้ายโฟลเดอร์ข้อมูล (ย้าย App) ประเภทนี้ไม่เหมาะกับคนที่ Update Rom บ่อยครั้ง หรือคนที่ลง Rom Modify บ่อย ๆ เพราะทุกครั้งลง Rom ใหม่จะต้องมา Set ค่าใหม่ทั้งหมด[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. โหลดและติดตั้ง App DirectoryBind 0.2.0k จาก Phase 6 Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 77. DirectoryBind 0.2.0k
02. โหลด App หรือเกมให้เสร็จ เพื่อจะทำการย้าย Data จาก Memory Note 2 ไป Micro SD Card
03. เกม และ App ที่ใช้ในการทดสอบ และใช้งานได้ตามปกติ
– Sygic 11.2.6
– Modern Combat 4
– N.O.V.A.2
– N.O.V.A.3
– Shadowngun 1.1.0
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. เปิด App Directory Bind ขึ้นมา
02. เมื่อเปิดครั้งแรกจะมี App SuperSu ขึ้นมาถามให้ตอบ Grant ตามรูป
03. แล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป
04. การตั้งค่าของ Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของเครื่อง Note 2 แล้วให้กดเลือก Preferences
05. ให้กดเช็คถูกตามรูป
– สำคัญที่สุด คือ กดเช็คถูก Alternate dbase mgmt เพื่อเปิดการใช้งานเพิ่มในส่วนนี้เพื่อให้ดาด้าเบสบันทึกจุดทำงานโปรแกรม
06. ที่หน้า Preferences
– ให้กดเลือก Default data patch ก่อนกับ
– ให้กดเลือก Default target patch
07. ที่ช่อง Default target patch ให้พิมพ์คำว่า /mnt/extSdCard/
– ให้ดูคำอธิบายเพิ่มเกี่ยว /mnt/ คืออะไรในข้อที่ 32 – ข้อที่ 36
08. ที่ช่อง Default data patch ให้พิมพ์คำว่า /mnt/sdcard/
– ให้ดูคำอธิบายเพิ่มเกี่ยว /mnt/ คืออะไรในข้อที่ 32 – ข้อที่ 36
09. ในการย้ายโฟลเดอร์ข้อมูล จะยกตัวอย่างชื่อ App Sygic มาในส่วนนี้
– ให้ติดตั้งเกมหรือ App ที่จะทำการย้ายข้อมูลให้เรียบร้อย
10. Application Sygic ที่ยกตัวอย่าง
– จะเก็บข้อมูลไว้ตามรูป /storage/sdcard0/Aura
11. กลับไปที่หน้าแรกของ App Directory Bind ให้กดที่คำว่า Root access OK ให้เปลี่ยนเป็น ON
12. แล้วให้ทำการหาดูรายละเอียดของโฟลเดอร์ของเกม หรือ App ว่าเก็บข้อมูลไว้ที่ไหนใน Memory ของ Note 2
– ในส่วนนี้ ให้ทำการสร้างโฟลเดอร์ที่เหมือนกับที่มีอยู่ในใน Memory ของ Note 2
– โดยการต่อ Note 2 เข้า PC แล้วสร้างโฟลเดอร์ที่เหมือนกันรอไว้ก่อน จะได้สะดวกไม่ต้องมาพิมพ์เองใน Note 2
– ให้ทำการสร้างโฟลเดอร์แค่ 1 ขั้น หรือ แค่ด้านนอกของโฟลเดอร์นั่น ก็พอ
ตัวอย่างเช่น
12.1 เกม Modern Combat 4 Zero Hour
– จะเก็บไฟล์ไว้ใน \Android\obb\com.gameloft.android.ANMP.GloftM4HM\
– ก็ไปสร้างโฟลเดอร์ไว้ใน Micro SD Card ทั้งหมด 3 โฟลเดอร์ ไว้ใน
– คือ สร้างโฟลเดอร์ Android แล้วต่อด้วยโฟลเดอร์ obb ต่อด้วยโฟลเดอร์ com.gameloft.android.ANMP.GloftM4HM
– ถ้าโฟลเดอร์ที่มีรายละเอียดภายในอีกไม่จำเป็นต้องสร้าง ให้สร้างแค่โฟลเดอร์เกมอันแรกก็พอ
13. ต่อในส่วนของ App Sygic ให้สร้างโฟลเดอร์ไว้รอ App Sygic
– รูปนี้คือโฟลเดอร์ของ App Sygic ชื่อ Aura ที่สร้างไว้ SD Card โดยสร้างจากใน PC
– รูปนี้ คือ โฟลเดอร์ App Sygic ชื่อ Aura ที่มีอยู่ Memory ของ Note 2
14.ที่หน้าแรกของ App Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้านล่างของเครื่อง Note 2 แล้วเลือก Add new entry
15.จะเข้าสู่หน้าจอตามรูป ที่หัวข้อ Enter mount (target) path.
– ให้กดเลือกที่คำว่า /mnt/sdcard/ โดยกดค้างไว้สัก 3 วินาที
16. กดเลือกโฟลเดอร์ชื่อ Aura
– ในส่วนนี้จะเป็นตัวอย่างของ App Sygic ชื่อโฟลเดอร์ Aura
– โฟลเดอร์ที่ App หรือเกมบันทึกข้อมูลไว้ จะชื่อไม่เหมือนกัน
– จะต้องทำการหาดูว่า App บันทึกไว้ที่ไหน
17. จากนั้นจะเข้าสู่โฟลเดอร์ของ App หรือเกม ในที่นี้คือโฟลเดอร์ชื่อ Aura แล้วให้กด Select
18.จะกลับสู่หน้าเดิม ที่หัวข้อ Enter source (data) patch.
– ให้กดเลือกที่คำว่า /mnt/extSdCard/ โดยกดค้างไว้สัก 3 วินาที
19. ก็จะปรากฏหน้าจอตามรูป โดยส่วนนี้โฟลเดอร์ ถ้าทำการสร้างไว้เรียบร้อยแล้วจากใน PC
– ให้กดเลือกโฟลเดอร์ Aura
20. แล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป แล้วให้กดเลือก Select
21. จากนั้นจะกลับสู่หน้าจอเดิม ให้ติ๊กถูกที่คำว่า Transfer files from target to data
– แล้วกด Add
22 จากนั้น App Directory Bind จะทำการย้ายโฟลเดอร์ แล้วทำการจำลองไฟล์ และเปลี่ยน Patch สำหรับการ Run App ให้เองอัตโนมัติ
23. ตรวจสอบไฟล์ก่อนที่จะ Reboot และหลัง Reboot
– ให้ไปที่โฟลเดอร์ ของ App หรือเกม แล้วกดค้างไว้ แล้วเลือกคำสั่ง Details
– รูปด้านซ้าย คือรายละเอียดทำการย้ายโฟลเดอร์เสร็จ แต่ข้อมูลเป็น 0 และมีไฟล์เป็น 0
– รูปด้านขวา คือรายละเอียดหลังทำการ Reboot เครื่องเสร็จ. โดย App Directory Bind ทำการจำลองไฟล์มาใน Memory 2 ให้ โดยไม่กินพื้นที่
24. เมื่อเสร็จแล้วจะปรากฎหน้าจอตามรูป ให้ไปดูใน Micro SD Card ว่าไฟล์ได้ย้ายไปจริงหรือไม่
– แล้วให้ Reboot เครื่อง 1 รอบ
– หรือจะทำการย้ายโฟลเดอร์หมดก่อน ค่อย Reboot ก็ได้
25. เมื่อ Reboot เสร็จ รูปแผ่นดิส จะกลายเป็นสีเขียว ตามรูป
26. ให้ทำทดสอบเปิด App หรือเกม ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
27. ถ้าทำการย้ายโฟลเดอร์ (App) ทั้งหมดแล้ว Reboot เครื่อง 1 รอบ
– เมื่อ Reboot เสร็จแล้ว ทุกอย่างจะขึ้นรายละเอียด ดังรูปก็แสดงว่าพร้อมใช้ และเสร็จสิ้นแล้ว
[size=14][color=#FF0000]ต่อไปเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมจะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้ แต่ถ้าไม่อ่านแล้วจะมีอาการ งง ตามมาภายหลัง[/color][/size]
28. เมื่อทำการ Reboot Note 2 ทุกครั้งอาจจะมี MTP Application ขึ้นมาถาม ไม่ต้องไปใส่ใจ ให้กด OK ไปเลย
29. แล้วถ้าใช้งานอยู่แล้ว Directory Bind กด อาการ stopped ตามรูป ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ ก็จะสามารถทำงานได้ตามปกติ
– แต่ถ้าไม่สามารถใช้งานได้ก็ให้เปิด App Directory Bind ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทำงาน
– ถ้าไม่ทำงานก็ให้ทำการตรวจเช็ครายละเอียดให้ Reboot 1 รอบ
30. รายละเอียดหลังจาก App เสร็จ จากเดิมที่มีพื้นเหลือประมาณ 3-4 GB ตอนนี้เหลือพื้นที่ว่าง 9.43GB
31. การยกเลิกการใช้งานชั่วคราวของ Directory Bind หรือถ้าเครื่องเกิดอาการช้า ๆ
31.1 ที่หน้าแรกของ Directory Bind ให้กดที่ปุ่มซ้ายด้างล่างของ Note 2 แล้วกดเลือก Unbind all
31.2 ที่หน้าแรกของ Directory Bind ที่หัวข้อคำว่า Root access OK ให้กดเลือกให้เป็น Off
31.3 แล้วให้ทำการ Reboot 1 รอบแล้ว
– ค่อยเปิดการทำงานใหม่
– แล้ว Reboot อีก 1 รอบ
32. คำอธิบายเพิ่มเติมว่า /mnt/ มาได้ยังไง
– ที่หน้าแรก ให้กดปุ่มซ้ายด้านล่างของ Note 2 แล้วกดเลือกคำสั่ง add new entry
– ก็จะปรากฎหน้าจอตามรูป
33. ให้กดที่ปุ่ม Up เรื่อย ๆ จนเจอรายละเอียดตามรูป
– นี้คือ mnt และ Storage จะเอามา Add ใน new entry ได้เลย
34. ไปเข้าไปข้างใน /mnt/ ก็จะเป็นรายละเอียดตามรูป จะมี extSdCard กับ sdcard
– ถ้ากดเข้าไปข้างใน storage ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน
35. สามารถใช้ได้ทั้ง /mnt/exSdCard/ และ – /mnt/sdcard/
– ในการ Add Default data patch และการ Add Default target patch
36. หรือสามารถใช้ได้ทั้ง /storage/exSdCard/ และ /Storage/sdcard0/
– ในการ Add Default data patch และการ Add Default target patch
[size=14][color=#0000ff]11. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย App 2 SD Pro[/color][/size] [–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]12. วิธีย้าย App ไป Micro SD Card ด้วย Lucky Patcher[/color][/size] [–รอ Update–]
[size=14][color=#0000ff]13. วิธี Swap Internal Memory กับ Micro SD[/color][/size]
[size=13][color=#0000ff]เตรียมพร้อมก่อนทำ[/color][/size]
01. เครื่องจะต้อง Root แล้วเท่านั้นถึงจะทำได้
02. Copy ข้อมูลและสำรองข้อมูลทุกอย่างลง PC ก่อนให้หมด
03. แนะนำ : ให้ Format Micro SD Card ให้เป็นแบบ eXFat (จะทำหรือไม่ทำก็ได้ในข้อนี้)
04. วิธีการ Format SD Card ให้เป็น eXFat อยู่ใน Phase 4 Link : 04. การเรียกดูและ Format Micro SD Card ให้เป็นระบบ eXFAT (#jump1404)
05. ติดตั้ง App ชื่อ Script Manager-SManager
– ทำการโหลด App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 74. Script Manager-SManager(NoAds) ฟรีเวอร์ชั่น
06. ถ้า Memory เป็นประเภท ExFat ให้โหลด Mod ที่อยู่ Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 75.1 Mod for exfat Sd Card for custom kernel
– หัวข้อย่อยที่ 75.2. Mod for exfat Sd Card for stock kernel with init.d support
– แล้วให้ Copy ไฟล์ Mod ที่โหลดมาทั้ง 2 ไฟล์ไปไว้ใน Micro SD Card
[size=13][color=#0000ff]หรือ[/color][/size]
06. ถ้า Memory เป็นประเภท Fat32 ให้โหลด Mod ที่อยู่ Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 76.1 Mod for fat32 Sd Card for custom kernel
– หัวข้อย่อยที่ 76.2 Mod for fat32 Sd Card for stock kernel with init.d support
– แล้วให้ Copy ไฟล์ Mod ที่โหลดมาทั้ง 2 ไฟล์ไปไว้ใน Micro SD Card
07. ติดตั้ง App ชื่อ ES File Explorer File Manager
– ทำการโหลด App อยู่ใน Phase 6 : รายละเอียดตามนี้ Link : 01. Application ใช้ในการปรับแต่ง (#jump064)
– หัวข้อย่อยที่ 26. ES File Explorer File Manager
[size=14][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
รูป Storage Memory ก่อนทำ
01. หลังจากที่ Copy ไฟล์ Mod ไปไว้ใน Micro SD Card
02. ให้ใช้วิธีการ Flash .zip ไฟล์
03. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip ดูรายละเอียดจาก Link : 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip (#jump067)
– ให้ดูขั้นตอนในข้อที่ 1-6 ของ 12. วิธีการ Flash ไฟล์ .zip แล้วค่อยมาต่อในข้อที่ 04
04. หลังจากทำขั้นตอนการ Flash ไฟล์ มาแล้วให้มาต่อในส่วนนี้
05. ถ้าเป็น Micro SD Card เป็น eXFat ให้ Flash ไฟล์ ไฟล์ 2 ไฟล์นี้ด้วย
5.1 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_extfat.zip และ
– ไฟล์นี้คือ คำสั่งมี่เขียนมาเรียบร้อยแล้ว
5.2 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_stock_kernel_extfat.zip
– ส่วนไฟล์นี้คือ Kernel สำหรับ Flash Kernel หรือจะใช้ Flash Kernel Adam กับ Perseus ก็ได้
[size=14][color=#0000ff]หรือ[/color][/size]
05. ถ้าเป็น Micro SD Card เป็น eFat32 ให้ Flash ไฟล์ 2 ไฟล์นี้ด้วย
5.1 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_fat32.zip และ
– ไฟล์นี้คือ คำสั่งมี่เขียนมาเรียบร้อยแล้ว
5.2 ให้ Flash ไฟล์ extsd2internalsd_gnote2_stock_kernel_fat32.zip
– ส่วนไฟล์นี้คือ Kernel สำหรับ Flash Kernel หรือจะใช้ Flash Kernel Adam กับ Perseus ก็ได้
06. หลังจาก Flash ไฟล์ทั้ง 2 ไฟล์เสร็จ ให้ Reboot เครื่อง
07. ให้เปิด App ชื่อ Script Manager-SManager ขึ้นมา
08. กดเลือก Do not ask again และกด OK
09. จากนั้นจะเข้าสู่หน้านี้ ให้กดปุ่มลูกศรสีแดงตามรูป
10. จากนั้นจะเข้าสู่หน้านี้ ให้กดปุ่มลูกศร ที่ทำสีแดงตามรูปอีกครั้ง
11.เลื่อนหาคำว่า etc แล้วกดเลืกเพื่อเข้าไปในไฟล์เดอร์ etc
12. เลื่อนหาคำว่า init.d แล้วกดเลืกเพื่อเข้าไปในไฟล์เดอร์
13. จะเห็นไฟล์คำว่า 11extsd2internalsd กดเลือกไปที่ไฟล์นี้
14. จะปรากฎหน้าจอดังรูป แล้วให้กดที่คำว่า Su และ Boot แล้ว กด Save
15. จากนั้นให้ Reboot เครื่อง Note 2
16. หลังจาก Reboot แล้ว Superuser จะถาม ให้ตอบ Grant
17. ไปที่ Menu Settings แล้วไปที่ Storage ประมาณ 1-2 นาที แล้วระบบสลับ Memory ให้เอง
18. ยังไม่เสร็จในส่วนนี้ ต่อไปให้เปิด App SuperSU ขึ้นมาเพื่อตั้งค่า
19. เมื่อเปิด App ขึ้นมาจะปรากฎหน้าจอดังนี้รูป กดเลือก App SManager ads
20. ในช่อง Notifications ให้เปลี่ยนเป็น Enabled แล้วกด Save
– เพื่อไม่ให้มีการเตือนทุกครั้งที่ Reboot App Script Manager-SManager จะ Run คำสั่งได้เลยทันที
21. หลังจากนั้นให้ Copy ไฟล์ทุกอย่างที่อยู่ใน Memory ภายในของ Note 2 มาเก็บไว้ใน Micro SD Card ที่ได้ทำการ Swap/สลับ ทั้งหมดเลย
22.ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการ Swap Memory กับ Micro SD Card และให้ทดสอบเปิดใช้งานทั้ง เกมและทุกอย่าง ก็สามารถใช้งานได้ปกติ
23. เพิ่มเติม ส่วนตัวไปนี้ เป็นคำสั่งที่ทางคนเขียนใน XDA-Developers เป็นคนเขียนคำสั่งขึ้นมา
– รายละเอียดภายในไฟล์ 11extsd2internalsd
24. รูปที่ต่อ Micro USB จาก Note 2 เข้า PC
[size=14][color=#0000ff]14. วิธียกเลิก Swap Internal Memory กับ Micro SD[/color][/size]
– ส่วนนี้เป็นหัวข้อต่อเนื่องมาจากข้อ 12 วิธี Swap Internal Memory กับ Micro SD
[size=13][color=#0000ff]วิธีทำ[/color][/size]
01. ให้ดูรายละเอียดติดตั้ง วิธีการติดตั้ง ES File Explorer File Manager ในข้อ 2
02. Phase 5 Link : 14. วิธีการติดตั้ง ES File Explorer File Manager (#jump069)
03. เมื่อเปิด App ที่ชื่อ ES File Explorer File Manager ขึ้นมา ให้กดที่ Favorites ตามรูป
04. กดที่รูปโทรศัพท์
05. กดเลือก etc
06. กดเลือก init.d
07. กดค้างไว้ที่ไฟล์ 11extsd2internalsd
08. กดเลือกคำสั่ง Delete
09. ให้ตอบ OK
10. แล้วให้ Reboot 1 รอบ
11. ให้ Copy ไฟล์ทุกอย่างจาก Micro SD Card กลับไปไว้ใน Memory ของ Note 2 ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
12. รูปหลังยกเลิก การ Swap Memory
(#jump99)