เราใช้บน Tab จะกลัวอะไรกับการ online ครับ
คือถ้าใช้ Business Calendar เราใช้แบบโหมด offline ก็ได้นะครับ ก็คือไม่สั่ง sync มันกับ GG calendar
แล้วก็ใช้มันในเครื่องอย่างเดียวไปเรื่อยๆ แต่พอ online เมื่อไหร่ อยากจะ sync เพื่อเป็นการ backup ข้อมูลของเราซักทีมันก็ทำได้ทุกเมื่อ
เวลาเราต้องการ edit หรือ ปรับแต่งด้าน format / content ที่ยุ่งยากซับซ้อน เราก็ไปใช้ desktop PC ทำ แล้วก็ sync เข้ามาใน Tab จากนั้นเราก็ปิด sync มันก็กลายเป็น offline แล้วครับ

เรื่องปัญหาการ search นี่ผมไม่แน่ใจเพราะไม่เคยใช้เลย แปลกนะที่ภาษาไทยมันไม่มาเหมือนภาษาอังกฤษ ใครรู้มั่งว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

เออ จริงครับ จอผมเป็นฟิล์มใส ซึ่งมันจะไม่ลื่นเท่าฟิล์มแบบด้าน
มันอาจดีขึ้นสำหรับเครื่องที่ติดฟิล์มด้านมั้งครับ
(ไม่มีให้ลองซะด้วยดิ ตอนนี้)
เดี๋ยวรอเพื่อนๆ มาบอก

เออ แล้วฟิล์มกันรอยเป็นแบบด้าน หรือแบบใสครับ
ของผมเป็นแบบใส มันฝืดหน่อย พอดีผมไม่มีโอกาสทดสอบกับแบบด้าน
อยากฟังจากผู้ที่ลองแล้วว่ามันต่างกันเยอะมั้ย

หรือ ไปที่ Setting -> About phone แล้วดูที่ Model number

คุณป๋องนี่ขยันจริงๆ ต้องขอบคุณกันอีกแล้วครับท่าน

Memories The diary เท่าที่ไปอ่านที่เค้าเขียนรีวิวไว้ ผมว่ามันไม่ใช่ calendar นะครับ
มันเป็นการจดโน้ต เพื่อบันทึกเรื่องราว หรือข้อความ และภาพ ไว้เป็นชิ้นๆ แต่ไม่ใช่ตารางนัดหมายแบบ organizer อย่างที่ calendar มันทำ

อีกประการมันไม่ได้ sync กับ cloud (เท่าที่เห็นนะครับ) นั่นคือมัน backup ด้วยการเก็บใน SD card ไม่ใช่อยู่บน internet โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ sync กับ google product ที่เราใช้ๆ กันอยู่

สรุปคือ Business Calendar ตอนนี้ยังเป็นตัวดีที่สุดที่ผมพบในกระบวน app ใช้งานเป็น calendar ทั้งหลาย

หากมีใครพบอะไรดีๆ อีกแนะนำด้วยครับ

ก็ผมหมายถึงราคาในงาน TME น่ะครับ
ซื้อจาก JayMart ในงานขาย 13,600 แถม Bluetooth + 4Gb SD

แปลกแต่จริง
ถ้าคุณไปซื้อที่ datc ก็จะได้รุ่น 900MHz (คือ P1000) ทั้งๆที่ DTAC พัฒนา 3G ความถี่ 850 MHz
แล้วดูดิ โทรศัพท์ smartphone ทั้งหลายที่ DTAC เอามาขายหน้าร้านก็ไม่ใช่ 850 ซะส่วนใหญ่
ทำมั้ย ทำไม

ถ้าจะเอา P1000T ต้อง JayMart ครับ หรืออาจมีที่ร้านอื่นๆด้วยแต่ผมไม่ทราบ
เคยซื้อที่ jaymart แห่งเดียว และมีของตลอด

ที่ผมสั่งมาถึงกี๊นี้เอง (เย็นวันที่ 16) นับว่าค่อนข้างเร็ว

ขอรีวิวหน่อยนะครับ

ของมาในซองพลาสติกเล็ก น่ารัก ใส่มาในซองจดหมาย ไม่ได้มีอะไรกันกระแทก ซึ่งก็โอเค

แกะออกจากถุงพลาสติกเล็ก สัมผัสตัวปากกา ก็รู้สึกว่างานเรียบร้อยดี
เนียนมือ ไม่มีเหลี่ยมมุมหรือจุดคมกระด้างอะไร
ตรงปลายเป็นเหมือนยางนุ่มๆ สีดำ

มีสายโยงกับเดือยขนาด 3.5 mm ออกแบบมาเพื่อให้เสียบไว้กับรูหูฟังได้
ห้อยไว้เก๋ๆ แต่ถ้าพกกระเป๋ากางเกง หรือหยิบเข้าหยิบออก เกรงว่ามันจะหลุดหล่นหาย
หรือไปดึงรั้งรูแจ๊คให้เสียหาย (มั้ย)

เอามาเขียนกับ tab ตอนจับไม่ค่อยถนัดเพราะสั้นเกินไป (สงสัยผมมือใหญ่ไป)
จับได้ด้วยสามนิ้ว แต่ไม่พาดมาถึงง่ามนิ้วหัวแม่มือ ทำให้ไม่ถนัด

แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับประสิทธิภาพการเขียน ที่ไม่ประทับใจเลย

คือมันไม่มีความ sensitive ในการตอบสองการสัมผัสจอแบบนิ้ว
เราเคยชินกับความไวต่อการสัมผัสระดับนี้แล้ว
พอมาใช้เจ้านี่มันติดมั่งไม่ติดมั่ง หงุดหงิดมาก
(ลองนึกถึงจอสัมผัสสมัยแรกๆ ที่เป็นแบบ resistive ต้องกดแรงๆ หน่อย)

จากรูปผมลากปากกานี้กวาดไปมาซ้าย-ขวา เรื่อยจากบนลงล่าง
จะเห็นว่าเส้นขาดตอนเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการกด ถ้ากดแรงๆ ก็จะติดตลอด
แต่ถ้าถูแบบเบาหน่อย มันก็จะขาดเป็นบางช่วง

สรุป++++

ผมไม่ประทับใจเลย เพราะมันฝืดและไม่มีความแน่นอน ซึ่งทำให้หงุดหงิดเวลาใช้งาน
โดยเฉพาะ swipe งี้ ไม่ได้เรื่องเลย (ผมตั้งใจจะเอามันมาใช้กับการ swipe keybd)

หมายเหตุจบท้าย
1- ผมกล้ามา review แบบ negative ในนี้เพราะเห็นว่าคุณ Big_pongo ไม่ได้ทำธุรกิจกับสินค้าตัวนี้ คือพี่แกอาสาทำงานรับใช้สังคมเพื่อนฝูง ไม่ได้เอากำไร ถ้าใครจะซื้อหรือไม่ซื้อ ก็ไม่ได้กระทบกระเทือนพี่เค้าประการใด

2- ผมไม่ใช้มันแน่นอน สำหรับเจ้าปากกาตัวนี้ ของผมสีดำอย่างที่เห็น

+++++ หากใครอยากได้ ผมขายต่อทันทีครับ 80 บาทนี่แหละ จะส่งให้ได้เลย ไม่ต้องรอ ไม่ต้องไปรบกวนพี่ป๋องแก

ติดต่อทางเมลได้เลยนะครับ 086626@gmail.com หรือ โทรมาคุยก็ได้ เร็วดี 08 6626 6062

เรื่องสีส้ม ต้องถามคุณ Natchy1234 เลย
ขานี้ love สีส้มมาก จะรู้ข้อมูลดีสุด

ผมเห็นด้วยกับการที่เราเลือกซื้อของที่ตรงกับความต้องการของเรา
ไม่ใช่ซื้อของที่ top หรือเกินความจำเป็น เอามาแล้วไม่ได้ใช้ความสามารถตรงนั้นโดยที่จ่ายเงินส่วนเกินไปเปล่าๆ

แม้ว่าจะมีเงินจ่าย ผมก็ไม่คิดว่าการจ่ายเงินไปโดยไม่จำเป็นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอยู่ดี

แชร์ความเห็นส่วนตัวครับ

ผมไม่ใช้เคส
ก็อยู่สุขสบายดีนะ สบายตัวโล่งๆ
ลองดูดิ อิสระเสรีเหนืออื่นใด

ขำๆ นะครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร มาแซวเล่นๆ

ผมใช้ Business Calendar มาตั้งแต่แรก และชอบมาก แต่ไม่ทราบว่ามันย้อนไปได้ไม่เกินหนึ่งปี
จะรอฟังเหมือนกันว่ามีอันไหนดีกว่านี้มั้ย

เออ google calendar มัน search ย้อนไปได้ไกลกว่าหนึ่งปีหรือเปล่า
ถ้ายังได้ก็พอค้นหาทาง google calendar ไปก่อนได้ พอแก้ขัด

เราสามารถเปิด google calendar ในรูปแบบเหมือน desktop PC ได้โดยใช้ browser เช่น Dolphin HD
เปิดโดย sign in เหมือนเราเปิดจาก PC แล้วใช้ฟีเจอร์ค้นหาของ google calendar ตรงๆ เลยได้มั้ยครับ
ถ้าได้ก็น่าจะแก้ปัญหาได้นะครับ
ทุลักทุเลหน่อย แต่นานๆ ทำทีคงพอไหว

อ้าว แล้วท่านเทพกิจโส ไปได้รูปนี้มายังไงล่ะครับ

เห็นมั้ย เห็นมั้ย ผมบอกแล้ว
จะใช้ internet device ทั้งที ถ้า online ไม่ได้ตลอดเวลา มันก็ขาดๆ แล้วก็จะหงุดหงิด
แต่เห็นมุ่งมั่นจะเอา wifi จั๊ง เลยไม่อยากขัดคอ

ผมน่ะส่วนตัวเลยนะ wifi only รับไม่ได้จริงๆ
ชีวิตเราอยู่ในเมืองไทย มันไม่ได้มี wifi ไปทั่วทุกแห่ง ระหว่างทางก็ไม่มี
ถ้าจะ online ตลอดมันก็ต้องรุ่น 3G

ถ้าจะให้ฟันธง คุณ iPeak ต้อง P1000T ครับ
ถ้าไปซื้อตามร้านต่างๆ ทั่วๆ ไป จะได้แต่รุ่น P1000

รุ่น T ซื้อได้ที่ร้าน jay mart MBK ชั้น 4 โซนโรงแรมปทุมวัน
แต่ผมไปคุยเมื่อวานเค้ามีทุกรุ่น แต่มันกลับมาขาย 14900 อีกแล้ว
ใครรู้ว่าที่ไหนขายถูกกว่านี้ ชี้เป้าด้วยครับ

Widget ตารางเวลาคือ Business Calendar ซึ่งเป็นตัวที่เหมือน google calendar ใน desktop ที่สุด
(ขอบอกว่า calendar ของที่มากับเครื่องกระจอกมาก)

ตัว C คือ Catch เป็น app ที่ให้เราบันทึกอะไรที่เราอยากจำ หรือจดไว้ก่อนทันทีทันใด
มันสามารถเก็บ text note ก็กดลงไปตรงที่เป็น ช่องขาวๆ
ถ้าอยากอัดเสียงเก็บเป็นโน้ต ก็กดตรงไมค์
ถ้าจะถ่ายรูปเก็บ ก็ตรงกล้อง
โน้ตที่สร้างขึ้นจะเก็บไว้เป็น catch note ซึ่งสามารถเรียกมาดูได้ โดยการกดที่ตัว C เปิด app
แล้วแต่ละโน้ต เราสามารถเพิ่มเติม object ต่างๆ คือ เสียง หรือรูป หรือ text ไว้ด้วยกันได้ภายหลังตลอด

ที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างคือ เราเปิด account กับเค้า แล้ว catch note ที่เราสร้างขึ้นจะ sync ขึ้น cloud ทันที ทำให้เราสามารถเปิดโน้ตเหล่านี้ที่ไหนด้วยเครื่องไหนก็ได้

ข้อจำกัดนิดนึง คือเวลาเราจะจดบันทึกอะไรรีบด่วน ส่วนมากการกดด้วย keyboard มันไม่ทันการ
ต้องเขียนด้วยลายมือเหมือนเศษกระดาษ ซึ่ง catch ทำไม่ได้
จึงต้องมีอีก app (อยู่ทางขวาสุด) คือ handrite
มันคือกระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ
อันนี้ไม่เหมือน whiteboard ที่เก็บ graphic ที่เราเขียนไปตรงๆ มันจะย่อให้กลายเป็นเหมือนข้อความ
ไล่ไปเรื่อยๆ เป็นบรรทัดเหมือนเราจดงานด้วยลายมือจริงๆ (ต้องไปลองเอง ที่อธิบายอาจไม่เห็นภาพ)

เมื่อเราจดด้วยลายมือแล้ว เราสามารถโอนกระดาษโน้ตลายมือเรา (ด้วยการ share) ไปเก็บเป็น catch note ได้ด้วย

สรุปคือกิจกรรมด้านซ้ายบนของจอของผมคือเรื่องงานเรื่องการโดยเฉพาะครับ