หลังจากที่มีผู้โชคดี(และมีเงิน) ได้เข้าร่วมโครงการการทดลองใช้ Google Glass เมื่อเร็วๆนี้ ก็มีคำถามว่าแล้วคนทั่วไปอย่างพวกเราล่ะ เมื่อไหร่จะได้จับจองบ้าง โดยเอริค ชมิดท์ (Eric Schimidt) ผู้บริหารระดับสูงของ Google ได้กล่าวไว้ใน Radio 4 ว่าในอีกประมาณ 1 ปีนับจากนี้เท่านั้น และเขายังเชื่อว่า Google Glass จะยังสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่าปัจจุบันนี้อีกมากจากแอพมากมายที่จะออกมารองรับ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องมารยาททางสังคมก็เป็นเรื่องที่พึงทำความเข้าใจตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการที่จะมีคนๆนึงสวมใส่แว่นที่มีกล้อง และค้นหาข้อมูลได้ตลอดเวลา ยังถือเป็นเรื่องประหลาดและดูน่ากลัวอยู่พอควรเลยทีเดียว

Minuum Keyboard เป็นคีย์บอร์ดที่มีประสิทธิภาพใช้งานสูงแต่ไม่เปลื้องพื้นที่ในหน้าจอมือถือ โดยตัวอักษรจะมีแค่แถวเดียวพร้อมด้วยระบบสะกดอัติโนมัติที่แม่นยำกันพิมพ์ผิด และยังมีฟังก์ชั่นต่างหากสำหรับพิมพ์ใส่พลาสเวิร์ด โดยเข้าร่วมโครงการ Indiegogo เพื่อระดมทุนซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรกต้องการทุนเพียง $10,000 เท่านั้น แต่สุดท้ายสามารถทำยอดเงินบริจาคได้ถึง $87,369 (เพิ่มขึ้นเกือบ 900% จากเป้าหมายเดิม) มีจำนวนผู้สนับสนุนกว่า 9,500 ราย ซึ่งหมายความว่ามีคนเห็นชอบกับวิธีการพิมพ์แบบใหม่นี้ไม่น้อย และทั้ง 9,500 รายนี้จะเป็นเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลองใช้คีย์บอร์ด Minuum เวอร์ชั่น beta ในเดือนมิ.ย.นี้ โดย Whirlscape ได้เริ่มโครงการนี้ประมาณเดือนที่แล้วเท่านั้น

ซัมซุงและทีมนักวิจัยจากม.เท็กซัส ได้ทดสอบใช้หมวก EEG ซึ่งเป็นหมวกที่ปกติใช้ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของกระแสไฟฟ้าในสมองมาสั่งงานอุปกรณ์มือถือ แค่เพียงผู้ใช้เพ่งไปที่ไอคอนบนหน้าจอ ไอคอนจะทำงานตามคำสั่งได้ทันที ซึ่งจากการทดลองความแม่นยำของการทำงานอยู่ที่เพียง 80-95% เท่านั้น ถือว่าประสบการณ์ใช้งานยังแย่เอาเสียมากๆเลยทีเดียว และน่าจะยังไม่ได้เห็นอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานเช่นนี้ในเร็ววันแน่นอน ทางซัมซุงและมหาลัยยังคงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเพิ่มเติมอีกมากและปรับรูปลักษณ์ให้เวลาใช้งานจริงผู้ใช้จะดูไม่เป็นคนบ้าอย่างที่เห็นในรูป แต่ถ้ามองอีกด้านว่าการสั่งงานแบบนี้อาจถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้พิการเสียมากกว่านะ source MIT Technology Review via AndroidSpin

ลองนึกภาพที่เราไม่ต้องใช้เสียงหรือนิ้วมือในการควบคุมหรือสั่งการอุปกรณ์ เจ๋งใช่ไหมล่ะ? นี่แหละคือสิ่งที่ Google คิดไว้ เพราะได้มีการค้นพบโค้ดบางส่วนใน MyGlass แอพสำหรับใช้คู่กับ Google Glass บอกเป็นนัยให้เราได้ทราบถึงความเป็นไปได้ถึงฟีเจอร์นี้ ซึ่งถูกค้นพบโดย Redditor คนหนึ่งที่บังเอิญไปพบโค้ดที่ข้อมูลอ้างอิงเรื่อง "ภาษาตา" (eye gesture) นั่นเอง