งั้นก็แน่นอนแล้วล่ะครับ
มี สีน้ำตาล-ดำ กับ สีขาว ขาย
แต่ตามศูนย์ Operator มีแต่สีขาว

ผมอัพผ่านมือถือไม่ผ่านเลยซักครั้ง (ลองมา 3 ครั้งไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง) ไม่รู้ว่าปริมาณแบตเตอรี่เกี่ยวมั้ยนะครับ เพราะแบตผมเหลือต่ำกว่า 50% แน่ๆ ล่ะ

ก็เลยเปลี่ยนมาอัพเดทผ่าน Kies แทน ซึ่งมันแจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่ต่ำเกินไป (มันไม่ได้บอกว่า % ถึงจะอัพเดทได้) ผมก็เลยต้องชาร์จแบตให้เกิน 75% ขึ้นไป จึงจะอัพเดทได้

เมื่ออัพเดทเสร็จ สิ่งแรกที่ผมรู้สึกได้ก็คือ ความกระตุกมันยังคงอยู่ (ทดสอบจากการปัดหน้า Home และหน้า App Drawer เร็วๆ)

สุดท้าย ผมก็ตัดสินใจที่จะ Factory Reset (คืนค่าข้อมูลจากโรงงาน) เพราะผมคิดว่าในเมื่อระบบมันมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ การที่ app ต่างๆ จาก 4.0.3 ยังอยู่ทั้งหมด มันอาจจะทำงานขัดกับระบบอยู่ก็ได้ (เหมือนกับเปลี่ยน Windows จาก Vista มาเป็น 7 อ่ะ) ก็จัดการแบ็กอัพรายชื่อในโทรศัพทเข้าซิม, เซฟเกมและอื่นๆ ผ่าน Helium ซะ แล้วจัดการเข้า การตั้งค่า > แบ็กอัพและตั้งค่าใหม่ > ตั้งค่าข้อมูลจากโรงงาน เพื่อ Reset ระบบเป็นค่าโรงงาน …ผลคือ เครื่องลื่นมากครับ ใช้ได้ไม่มีปัญหาใดๆ ด้วย ซึ่งก็ต้องลองต่อไปเรื่อยว่า จะมีปัญหาอะไรจุกจิกหรือไม่กันล่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ไม่รู้นะว่าถ้าลงแอพ จนเกือบจะเต็ม Memory (1.7GB) หรือลงแอพเดิมกลับมาทั้งหมด มันจะกระตุกเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งคงต้องลองกันต่อไป

ป.ล.1 ไม่รู้ว่าพวก Mod ต่างๆ จาก UOT Kitchen (เช่นไอคอนแบตมี %) ที่จะ Flash ผ่าน ClockWorkMod Recovery Touch ยังใช้ได้อยู่เหมือนเดิมหรือไม่นะ ใครลองแล้วช่วยคอนเฟิร์มทีนะครับ

ป.ล.2 Root JellyBean 4.1.2 ใช้ Root ตัวไหนหรือครับ? ใช่ Phil แห่ง XDA (http://forum.xda-developers.com/showthread.php?p=28178105) หรือเปล่า? แล้วมีไฟล์ Unroot ด้วยไหมครับ? และวิธีรูทใช้ CWM Recovery Touch (http://www.clockworkmod.com/rommanager) ได้หรือไม่?

ช่องทางแรกที่ง่ายที่สุดคืออัพผ่าน WiFi ครับ แต่ก่อนอัพแนะนำให้ชาร์จแบตฯ 90% ขึ้นไปครับ หรือเสียบสายชาร์จไว้เลยก็ได้ (แต่ขั้นต่ำ 75% ขึ้นไป) ถ้าเปิด WiFi แล้วไม่มีการแจ้งเตือนการอัพเดท ให้ไปที่ การตั้งค่า > เกี่ยวกับอุปกรณ์ > อัพเดทซอฟท์แวร์ > อัพเดท

รอระบบเช็กการอัพเดทซักครู่ หากมีการบอกว่ามีการอัพเดท ก็ให้กดเลยครับ แล้วรอดาวน์โหลดไฟล์ประมาณ 380MB จนเสร็จ แล้วรีบูท ระบบจะทำการอัพเดทระบบ ซึ่งหากอัพเดทเสร็จ สิ่งแรกที่จะเห็นหลังเริ่มบูทเครื่องก็คือ อักษรชื่อรุ่นที่คุ้นเคย ต่อต่อมาจะเป็นจากเดิมที่เป็นโลโก้ตัว S ก็จะเปลี่ยนเป็นโลโก้ Samsung เหมือนกับ Galaxy S III, Note II ครับ ซึ่งเมื่อบูทเสร็จก็จะมีการเซ็ทค่าระบบเหมือนตอนที่เราตั้งค่าการใช้งานเครื่องครั้งแรกนั่นแหละครับ

ถ้า WiFi ไม่ผ่าน ก็ให้ลองทำผ่าน Kies ผ่าน PC ครับ ซึ่งตอนที่ติดตั้งโปรแกรมเสร็จ ให้เปิดโปรแกรมพร้อมกับต่อสาย USB เครื่อง S II (ให้เห็น Storage ทั้ง Phone และ Card เลยนะครับ) สังเกตว่า ที่ Kies จะมีการแจ้งเตือนอัพเดท ก็ให้ทำการอัพเดทเลยครับ (แนะนำให้แบตฯ มีไม่ต่ำกว่า 75% ขึ้นไป) ปล่อยระบบดำเนินการเองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสร็จเลยครับ ซึ่งเมื่อเสร็จ เครื่อง S II จะมีการรีบูท แล้วมีการอัพเดทระบบเหมือนกับอัพเดทผ่าน WiFi ครับ และแน่นอนว่าเมื่อเสร็จก็ลุ้นดูโลโก้ Samsung ตอนบูทเครื่องได้เลย

แต่หากวิธีก็ยังไม่ได้อีก อาจจะต้องทำผ่าน Odin ครับ

และหลังจากที่อัพเสร็จ แนะนำให้ Factory Reset ด้วยครับ โดยหากมีไฟล์งานหรือไฟล์เซฟเกมอะไร ให้ Backup ผ่านแอพ Helium (สร้างโดย ClockWorkMod) ก่อนนะครับ แล้วจึง Factory Reset ซึ่งแอพ Helium จะใช้งานได้จะต้องมีการเชื่อมต่อกับ PC ก่อนด้วย โดยให้โหลดโปรแกรมจากเว็บ ClockWorkMod มาติดตั้งก่อน แล้วเปิดโปรแกรมพร้อมกับเปิดแอพ ให้ระบบรู้จักกันก่อน จึงจะใช้งานแอพได้ครับ (เมื่อระบบรู้จักกันแล้วถอดสาย USB ได้เลยครับ) หลังจากที่ Factory Reset แล้ว จะเป็นผลความลื่นไหลของระบบครับ

ผมใช้ S2 อยู่นะ แต่การ์ดที่ใช้ SanDisk Mobile Ultra 32GB class 10 ตอนที่ซื้อเมื่อปีที่แล้วราคา ฿1,290 จากร้าน BananaIT
ขอน้องใช้ Note II ซื้อ SanDisk Mobile Ultra 64GB class 10 จำไม่ได้ละว่าซื้อที่ราคา ฿1,990 หรือ ฿1,890 นะ ส่วน Kingston ราคาที่สอบถามตอนที่ซื้อ SanDisk นี้ ก็ ฿1,790

เช็คราคาจากร้าน J.I.B. ล่าสุด (มีแค่า 32GB class 10)
SanDisk Mobile Ultra 32GB class 10 ราคา ฿990
Kingston 32GB class 10 ราคา ฿770

GT-I9100 (AIS) Firmware อยู่ที่ Android v4.0.4 มานานแล้วครับ ส่วน GT-I9100T จะอยู่ที่ Android v4.0.3 ซึ่งตอนที่ผมรู้ว่า I9100 ถึงได้ 4.0.4 แต่ I9100T กลับได้ 4.0.3 ผมก็แอบน้อยใจอยู่ว่าทำไมไม่จัดการอัพ FW ทั้ง 2 รุ่นให้มีเวอร์ชั่นเดียวกัน

ได้แล้วครับ (ถามเองตอบเอง)

ต้องเลือกที่ update-binary จริงๆ ด้วย โดยเครื่อง S2 ของผม (Android 4.0.3) ต้องเลือกเป็น Type EMMC จึงจะ Flash ผ่าน ตอนนี้แบตเตอรี่เปลี่ยนเป็นตัวที่ต้องการได้แล้ว

ค้นหาเรื่องเปลี่ยน Battery เดิมให้มีการบอก % ค้นไปค้นมาก็มาเจอบกระทู้นี้… ถึงจะโพสต์ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ผมขอถามหน่อยครับ?

ปัจจุบันเว็บดังกล่าวที่บอกเอาไว้ข้างต้น ทำไมผมลองแล้วจึงไม่สามารถ Flash ได้อ่ะครับ? ในขั้นตอนอัพโหลด ต้องเลือก update-binary จาก Select flashable zip scripting (อยู่ส่วนซ้าย) เป็น Type อื่นด้วยหรือเปล่าครับ?

ผมใช้ ROM Kernel ทุกอย่างของศูนย์หมดเลย และ Flash ไฟล์ zip จาก CWM Recovery Touch 5.8.1.4 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ฝังเครื่อง ผลคือมันแจ้ง Error อ่ะครับ

ได้ลง LINE เอาไว้หรือเปล่าครับ? เพราะถ้าลง ผมอยากให้ลง Close แอพตัวนี้ดูแล้วจึงปิดหน้าจอครับ

เครื่อง S2 ผมก็ใช้ Android 4.0.3 อยู่ครับ ซึ่งตอนที่ซื้อมาก็เป็น Android เวอร์ชั่นนี้เลย ก็เลยเล่นกับมันจนคุ้นชินมือ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องสูบแบตอยู่บ้าง… ตอนอยู่ในโหมดแบตเตอรี่ เครื่อง S2 ผมก็ค่อยๆ ลดตามปกตินะครับ คือ เข้า Deep Sleep ตามปกติ (จะมีการรัน CPU 200, 500, 800, 1000, 1200 ขึ้นมาเล็กน้อยไม่กี่นาที)

แต่ผมมักจะมีปัญหาตอนชาร์จมากกว่า คือแม้ว่าจะปิดจอไปแล้ว แต่ CPU มันก็ยังรันอยู่ที่ 800 – 1200 MHz อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผมก็พอจะรู้ว่า App ไหนเป็นตัวปัญหา ก็เลยจัดการ End Process มันซะ (แต่มันก็จะรันขึ้นมาอีกอยู่ดี เนื่องจากมันมี Service รันเบื้องหลังด้วย) โดย App ที่ว่านี้ก็คือ Facebook และ LINE ครับ (แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่ LINE มากกว่า) หลังจากที่ผม End Process ถึงแม้มันจะรันขึ้นมาจาก Service ของมันเอง แต่จากเดิมที่มันรัน CPU รันในระดับสูงจนเกือบเต็ม 1200 MHz ก็ลดลงมาที่ 200 MHz แล้วล่ะครับ (เอ๊ะ… แล้วทำไมมันไม่ Deep Sleep ล่ะ? นั่นเพราะตอนที่ชาร์จ มันจะไม่เข้า Deep Sleep ครับ ซึ่งผมก้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร… ดังนั้นก็ต้องหาวิธีทำให้มันรัน CPU ต่ำที่สุดที่ระดับ 200 MHz ให้ได้ก็พอ แค่นี้ก็ชาร์จไฟเข้า และเครื่องไม่ร้อนแล้วล่ะครับ)

แอพแนะนำให้มีติดเครื่องไว้ เผื่อเอาไว้เช็คตอนที่เครื่องทำงานครับ
– CPU Spy เอาไว้เช็คการทำงานเบื้องหลังว่าในระหว่างที่ปิดจอเข้าสู่สถานะ Stand by มันเข้า Deep Sleep ตอนใช้งานแบต และรัน 200 MHz ตอนที่ชาร์จแบตหรือเปล่า

– Battery Mix เอาไว้เช็คประวัติการแบต/ชาร์จผ่านกราฟครับ ไม่ว่าจะชาร์จเวลาไหน เต็มเวลาไหน และใช้แบตเวลาไหน มันบอกหมดครับ (ไม่แน่ใจว่ามันเก็บข้อมูลย้อนหลังกี่วันนะครับ) รวมถึงมันสามารถเช็คได้ด้วยว่า แอพอะไรรันเวลาไหน รันหนักขนาดไหน รันไปกี่ % ของระบบทั้งหมด และรันเวลาไหนบ้างอีกด้วยครับ (ผมเคยมีตอนที่ชาร์จแล้ว กราฟชาร์จลดแทนที่จะเพิ่มอยู่ด้วย นั่นก็คือช่วงที่ CPU รันทำงานหนักที่ 1000 – 1200 MHz จนเครื่องมันอุ่นๆ ร้อนๆ ตลอดเวลาแม้ปิดจอด้วยครับ ซึ่งผมก็หาวิธีไปลดมันโดยไปจัดการต้นเหตุของปัญหา อย่างการปิด App เจ้าปัญหาอย่าง LINE จนทำให้มันกลับมาปกติและชาร์จเข้าได้มาแล้วด้วยครับ)

– Micro CPU Monitor (Free) มันจะแสดงบาร์เล็กๆ เป็นเส้นยาวๆ ที่มุมขวาบนของจอ โดยความหนาของเส้นที่แสดงมีเพียง 1 pixel ต่อ CPU 1 Core ครับ ส่วนความยาวเราสามารถปรับให้สั้นสุดได้ 50 pixel ซึ่งแน่นอนว่า เราแทบไม่รู้สึกถึงความเกะกะของมันเท่าไหร่นัก แถมมันจะแสดงทุกหน้าตลอด ไม่ว่าเราจะรันแบบ Full Screen ก็ตาม มีประโยชน์เอาไว้เช็คสถานะของ CPU ว่าการทำงานในขณะนั้น รันหนักขนาดไหน ซึ่งถ้าเครื่องอุ่นๆ เราจะได้รู้สาเหตุว่า CPU มันรันระดับไหน แล้วใช้ App อย่าง Battery Mix เช็คว่า App อะไรรันเบื้องหลังกี่ % และรันในระดับไหนจากกราฟของแอพนั้นๆ

ซึ่งจาก 3 App นี้ ทำให้ผมพอหาสาเหตุได้ว่า LINE ตัวแสบนี่แหละ รันหนักเป็นอันดับ 2 (ส่วน gapps มันจะมาอันดับ 1 ก็ไม่แปลก เพราะมันคือ Serive Android ทั้งหมด และถ้าอยากรู้รายระเอียดมากกว่านั้น ก็ต้องหา BetterBattery มาช่วยดูด้วย) ถ้าเราปิด LINE ที่รันหนัก มันก็จะทำให้เครื่องกลับเข้าสู่สถานะปกติได้ครับ

ทุกอย่างนี้ผมต้องยกผลประโยชน์ให้ Go Launcher EX ด้วย เพราะที่หน้า App มันมีแท็บ Running ทำให้ผมเช็คได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งพา App อย่าง Task Manager เลย แถมยังสั่งปิด App ที่รันอยู่ได้จากตรงนี้ด้วย (พวก App ที่มี Service รันเบื้องหลังก็จะกลับมารันทีละตัวตามปกติ แต่ App ที่มี Cache ค้าง ถึงแม้จะกลับมารันเบื้องหลังปกติ แต่ก็ไม่รันหนักอะไรครับ เพราะถือเป็นการล้าง Cache ที่ค้างนั้นไปด้วยเลย ทำให้เครื่องกลับมาเป็นปกติ) เครื่อง S2 ผมจึงใช้งานได้อย่างปกติสุขท่ามกลาง Android 4.0.3 ROM ศูนย์ไทยมาจนถึงทุกวันนี้ครับ