เพื่อนสมาชิกหลายๆท่านคงได้ติดตามข่าวๆหนึ่งใน droidsans ที่ถือว่า Hot สุดๆ สู้กับอากาศร้อนเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ข่าวที่ว่าก็คือ Galaxy S5 รองรับ USB3.0 แต่ทำไมแถมสาย USB 2.0 มาให้?? ซึ่งข่าวนี้ได้รับความสนใจกันอย่างกว้างขวาง ลากยาวไปถึง กระทู้ใน Pantip ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แตกประเด็นไปถึงประเทศชนชั้น 2 ชนชั้น 3 กันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้วก็น่าจะ Happy Ending ไปแล้วนะครับ เพราะ Samsung Support รีบแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว (แต่ทั่วถึงหรือเปล่าดูกันอีกที) ทว่าจุดประสงค์ของบทความชิ้นนี้ไม่ได้จะมาสานต่อเรื่องราวที่กล่าวมาแต่อย่างใด แต่เราจะมาแตกประเด็นเรื่อง มาตรฐาน USB 3.0 กับ USB 2.0 นี่มันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? เราจะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจาก USB 3.0 ได้อย่างไร? ลองมาดูรายละเอียดกันครับ 

หลังจากที่มีข่าวลือออกมาว่า Galaxy Note 4 มาพร้อมหน้าจอยืดหยุ่นได้ แถมยังจะมีถึง 3 ด้าน! ตอนนี้ก็มาลือขยายความกันต่อว่า Samsung เริ่มสร้างโรงงานเพิ่มสำหรับผลิตหน้าจอยืดหยุ่นโดยเฉพาะเพื่อใช้กับ Galaxy S6 และ Note 5 แล้ว โดยโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มทำงานได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของปีนี้ ซึ่งถือว่ามีเวลาเหลือเฟือกว่าจะถึงรอบเปิดตัวของ Galaxy S6 และ Note 5 แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า Note 4 จะไม่ได้ใช้หน้าจอยืดหยุ่นนะครับ เพราะ Samsung มีโรงงานผลิตจอยืดหยุ่นอยู่แล้ว นี่เป็นการขยายกำลังผลิตแบบเต็มที่เพื่อรองรับกับ Galaxy ที่จะตามมาในอนาคตนั่นเอง 

Android Wear คือทิศทางใหม่ของ Android ในอนาคตที่กำลังจะเริ่มสตาร์ทเครื่องกันในช่วงปลายปีนี้แล้ว โดยมีผู้ผลิตหลายเจ้ากระโดดเข้าร่วมวงผลิตอุปกรณ์สำหรับ Android Wear ไม่น้อยเลยทีเดียวและ LG ก็เป็นหนึ่งในนั้น ล่าสุด LG ได้ปล่อยภาพและข้อมูลเพิ่มเติมของ LG G Watch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะหรือ smartwatch ที่ใช้ Android Wear เป็นระบบปฏิบัติการออกมาให้เราได้รู้กันเพิ่มเติมแล้ว

Hugo Barra อดีตผู้บริหารของ Google ที่ย้ายไปหาความท้าทายใหม่ที่เมืองจีนกับ Xiaomi ได้ประกาศทาง Google Plus ส่วนตัวว่า เว็บทางการของ Xiaomi ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Mi.com เรียบร้อย เพื่อให้สั้นและจำง่ายสามารถเข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น โดยชื่อนั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก MIUI จุดกำเนิดที่ทำให้ทุกคนรู้จัก Xiaomi มาจนทุกวันนี้ เข้าใจว่าหลังจากนี้ไป เราอาจจะได้ยินชื่อ Xiaomi น้อยลง และจะได้ยินชื่อ Mi นั่น Mi นี่กันมากขึ้น ตอนนี้ในเว็บไซต์ Mi.com เองก็ไม่มีการใช้คำว่า Xiaomi แล้ว ลองเข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ที่มา: +Hugo Barra

การทดสอบมือถือก่อนวางจำหน่ายจริงนั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้ผลิตต้องทำอยู่แล้วเพื่อให้แน่ใจว่า คุณภาพของมือถือรุ่นนั้นเป็นไปมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ Samsung Galaxy S5 ก็เช่นกัน มันต้องผ่านการทดสอบหลายๆอย่างก่อนที่จะได้วางจำหน่ายจริงทางเว็บไซต์ Business Insider ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมศูนย์ทดสอบภายในสำนักงานใหญ่ Samsung ที่เมือง Suwon ประเทศเกาหลีใต้ และก็ได้มาแชร์เรื่องราวให้เราได้รู้กันว่า Samsung ทดสอบเจ้า Galaxy S5 ในแง่ไหนบ้าง 

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลจาก ข่าว OnePlus One ของ @plaumkamon เพราะต้องบอกว่าค่ายนี้ปล่อยข้อมูลเต็มที่จนแอบแปลกใจว่า ความลับทางการค้าไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับบริษัท OnePlus จริงๆ โดยเราจะมาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของเจ้า OnePlus One ด้วยความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Sony Exmor IMX214 ที่ใช้เลนส์ถึง 6 ชิ้น และค่า f/2.0 ภาพที่เห็นนี้ถ่ายโดยช่างถ่ายรูปชื่อ Martin Mal ซึ่งเป็นผู้ชนะการแข่งขันถ่ายภาพที่จัดขึ้นโดย OnePlus เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

มีการยืนยันแล้วว่า HTC ได้ตัดสินใจว่าจ้าง Paul Golden อดีตผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Samsung US โดย Golden นั้นทำงานอยู่กับ Samsung ในช่วงระหว่างปี 2008-2012 และเป็นผู้สร้างแคมเพจ์นอันลือลั่น "Next Big Thing" ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยโฆษณาแซวคนที่ไปต่อแถวเพื่อรอซื้อสินค้าของ Apple โดยโฆษณานี้สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้คนอเมริการู้จัก Samsung Galaxy มากขึ้น และยังทำให้คู่แข่งอย่าง Apple ถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว

เว็บไซต์ ZOL จากประเทศจีนได้ทำการเปรียบเทียบหน้าจอของคุณปู่ Sony Xperia Z กับคุณหลาน Sony Xperia Z2 ที่มีอายุห่างกัน 1 ปีว่า Sony พัฒนาหน้าจอของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเรือธงของตัวเองไปขนาดไหน สำหรับ Xperia Z นั้นถือว่าเป็นมือถือเรือธงรุ่นแรกที่ Sony จัดเต็มจริงๆ ตั้งใจแข่งขันกับคู่แข่งเจ้าตลาดอย่าง Samsung และ HTC ในขณะนั้น พูดเหมือนนานจริงๆแล้วก็ช่วงต้นปี 2013 ที่ผ่านมานี่เอง ส่วน Xperia Z2 นั้นเป็นรุ่นหลาน (Xperia Z1 เป็นรุ่นพ่อ) เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่มีคนรอคอยมากที่สุดขณะนี้ ไม่แพ้ Samsung Galaxy S5 หรือ HTC One M8 เลย หากเปรียบเทียบหน้าจอของ Z และ Z2 นั้น...

บริษัท FishEye ซึ่งเป็นบริษัททางด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่าย ได้ตรวจพบช่องโหว่ในระบบ Permission ของ Android ที่เปิดช่องให้แอพที่ไม่ประสงค์ดีสามารถหลอกผู้ใช้ไปยัง website ที่จัดฉากไว้ แล้วทำการขโมยข้อมูลส่วนตัวไปได้ หรือที่เราเรียกกันว่า Phishing นั่นเอง (กรณีศึกษาเรื่อง Phishing ลองดูจากข่าวนี้ ได้ครับ) ซึ่ง Permission เจ้าปัญหาที่ตรวจพบนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิ์ของแอพจำพวก Launcher โดยมีอยู่ 2 permission คือ "com.android.launcher.permission.READ_SETTINGS" และ "com.android.launcher. permission.WRITE_SETTINGS" ที่แอพโจรสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิ์นี้ในการเปลี่ยน icon หรือแก้ค่า config ของ Android Launcher ได้ สำหรับเวอร์ชันของ Android ที่ได้รับผลกระทบคือ "ทั้งหมด"

หลังจาก Samsung เพิ่งวางจำหน่าย Samsung Galaxy S5 มือถือเรือธงที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในขณะนี้ไปไม่นาน ก็มีคนลองของแฮ็กระบบสแกนลายนิ้วมือตัวใหม่ของเจ้า S5 และก็สามารถทำสำเร็จได้แบบง่ายๆ ด้วยวิธีการสุดแสนจะคลาสสิก "ลายนิ้วมือปลอม"